มาอีกครั้งกับการปั่นระยะ 600 พัทยา-ตราด งวดนี้สุดๆ อารมณ์แบบ เนิน แดด เนิน แดด เนิน ทั้ง 2 วัน ที่ปั่นกันเพื่อให้ได้มาซึ่ง SR2017 ของพวกเรา ในปี 2017 นี้ผมได้ SR2017 แล้วตั้งแต่กลางปี แต่ยังมีกลุ่มเพื่อนๆที่ยังไม่ได้และต้องผ่านระยะ 600 นี้ให้ได้เท่านั้นถึงจะมีโอกาสได้ SR หน้าที่ก็ต้องมาตกที่ผมโดยปริยาย ต้องพากูจบ 600 ให้ได้นะคำพูดที่แจ้งมาด้วยความหวัง เพื่อนผมปั่น 600 มาแล้ว 4 ครั้ง มันก็ DNF ทั้ง 4 ครั้ง ทั้ง 600พัทยาไปได้ 300 โล 600 ไทรโยค 200 โล 600 หาดใหญ่ 350 โล และ 600 นครปฐม 480 โล ดูความพยายามของเขา แต่ละครั้งมักมีดราม่า ทุกสนามทำให้ไม่จบ แต่งวดนี้ 600 พัทยา มันต้องจบไม่งั้นเลิกปั่นเถอะ 600 โลนะ มาดูความพยายามและการวางแผนให้จบให้ได้ในครั้งนี้
สนาม 600 ในครั้งนี้ได้สมญาณามว่า เส้นทางมังกร เพราะด้วยการวาดเส้นทางแล้วนั้น เหมือนดั่งมังกรมากๆ และ เมื่อปั่นมันคือ การไต่มังกร จิงๆ
งวดนี้ทีมเรามาหลายคนแต่การวางแผนเราแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มขาแรงไป 2 ท่าน ขาปกติอึดทึก 2 ท่าน และ กลุ่มผมที่เรียกว่าประคับประคอง 4 ท่าน เพื่อนผมที่ผ่านการปั่น 600 มาหลายครั้งช้ำมาหลายหน มีนามว่า ท่านชาย คนใส่หมวก สีขาว Mavic ชูนิ้วโป้งนั่นละ ตำนาน DNF 600 ของเราจะหยุดได้ไหม ตามแผนที่วางไว้ง่ายๆคือ ผมห้ามปั่นความเร็วเกิน 30 ต้องอยู่ในช่วง 23-27 กำลังดีที่สุด และ แวะพักเติมไปเรื่อยๆ จอดไม่เกิน 15 นาที ไอ้ตรงความเร็วนี่ละที่สร้างความลำบากใจให้ผมมากที่สุด เพราะต้องลากแบบคุม มันทำให้ผมรอบขาโอเว่อร์ตลอดระยะการลาก แต่เพื่อทีม มันต้องอดทน
เส้นทางการปั่นเริ่มต้นจาก ศาลาว่าการเมืองพัทยา นักปั่น 490 คนได้ที่มาร่วมปั่นในครั้งนี้ บางท่านผ่าน 600 มาแล้ว และ เพิ่งครั้งแรก ก็เยอะ เรามองว่าอากาศตามที่ ทางอุตุแจ้งมันควรจะฝนตก พายุเข้า แต่ แต่ แต่ มันพลิกโผ ครับ แดดแรงเต็มๆทั้ง 2 วันไร้ซึ่ง ฝน และ กลุ่มเมฒที่จะบังแดดไม่มี ท้องฟ้าโล่งๆ ทั้ง 2 วัน
นักปั่นทะยานออกไปในเส้นทาง สายชายหาด ผ่าน หาดพัทยา หาดจอมเทียน ลมสวนน้อยกว่าปีที่แล้วมากๆ แต่แดดไม่น่ารักตั้งแต่เริ่ม ในช่วงการปั่น เราปั่นกันความเร็วสบายๆในช่วงการโรริ่ง ไม่รีบไม่ร้อนคงความเร็ว 23-25 ปั่นจนออกไปทางถนนสุขุมวิทเส้นหลัก เพื่อที่เราจะวิ่งต่อไปยังเส้นที่จะไปทางสัตหีบ ในช่วงไปทางสัตหีบ เราเกาะความเร็วกันได้เสมอตัว 25-27 ตามความเร็วกำหนด วิ่งไปเรียงแถว ผมลาก เพื่อนตามอีก 3 คัน เป็นระเบียบ เราพยายามคุมพลังงานให้ใช้น้อยที่สุด แต่ผมก็จะหนักมากหน่อยแต่ก็ไหว พอเข้าถึงแยกเจ เราต้องเลี้ยวดันเนินยาวๆกัน เพื่อไปที่จุด Control แรกที่ ปตท ตรงจุดนี้เป็นเนินยาว ท่านชายก็ปั่นแบบอยู่ท้ายสุด เซฟแรงให้มากที่สุดใช้เกียร์เบา ค่อยๆไต่มาเรื่อยๆ จนมาถึงจุดแรกแบบพลังงานเหลือๆ ตามแผน
Control ปตท ท่านชายผมยังสบายดีอยู่ ดูแล้วหน้าตายังสดชื่นๆ เราเติมน้ำทานโยเกิตเพิ่มพลังงานกัน เพราะเส้นต่อไปเราจะต้องไปทางเขาไม้แก้ว มันจะต้องดันเนินกัน เป็นไปยางที่เราวางแผนไว้ ออกจาก ปตท ก็ต้อนรับด้วยเนินสูงอีกเช่นเคย ลงมาหน่อย ก็ ดันเนินต่อ ดันกันไปลงน้อย ดันเยอะ งวดนี้ผู้จัดเปลี่ยนทางพาไปดันมากกว่าปีที่แล้ว อากาศร้อนมากๆอุณหภูมิสูงมากขึ้น แต่ละคนเริ่มที่จะเอาผ้ามาปิดหน้า ปิดปาก เริ่มเห็นราดน้ำราดตัวกันแล้ว นี่ยังไม่เที่ยงเลยนะ
เริ่มเห็นนักปั่นหลายๆท่านเข้าเพิงไม้ เข้าร่มไม้ระหว่างทาง ตามทางมีน้ำมะพร้าวขาย มีสัปปะรดขาย ก็เห็นแวะกินกันอย่างเพลิดเพลิน เรายังคงปั่นไปเรื่อยๆ ความเร็วเริ่มตกลงมาเหลือ 23 ไม่สามารถสูงไปกว่านี้ได้ ช่วงเนินก็แค่ 18-20 พยายามเซฟแรงกันให้มากที่สุด เราปั่นกันเรื่อยๆไม่หยุดพัก เราจะไปหยุดอีกทีตามแผนที่วางไว้คือ ปตทเขาไม้แก้ว
CP 1 วัดหลวงปู่ทิม เรามุ่งออกจากเขาไม้แก้วเข้าสู่ถนนที่จะไปทาง นิคมพัฒนา เส้นทางนี้จะเป็นแบบ ไต่ลง ไต่ไต่ ลง ไต่ไต่ ลง แบบนี้ไปเรื่อยๆ และความร้อนของถนนก็มากขึ้นเรื่อยๆ จุดนี้โดนตากแดดกันเริ่มจะเกรียมๆ นักปั่นเริ่มปั่นกัน เป๋ไปเป๋ มาแต่มันต้องรีบไปให้ทัน CP1 วัดระหาลไร่
ทีมของเรายังคงเกาะกันตามแผนที่วางไว้ ตอนช่วงเข้าเขาไม้แก้วผมยิงออกมารอที่จะไปต่อที่ทางไป นิคม สายเนินพวกเพื่อนๆจะช้ามาก ไปเรื่อยๆ18-2ตามที่เราวางไว้เราจะมีจุดแวะพักที่เซเว่นก่อนและปั่นต่อไปหาข้าวทาน เพื่อจะได้มีแรงและป้องกันตะคริวก่อนจะไปที่วัดเพราะถ้าอาจช้าไปพลังหมด
หลังจากทานข้าวอิ่มใช้เวลาครึ่งชั่วโมง เราออกตัวไปต่อในตอนนั้นเราเห็น จักรยานแม่บ้านปั่นผ่านไป เอ๊ยเขามาทันเราแล้ว มองหน้ากันและรีบปั่นออกไปทันที จักรยานแม่บ้านมาแล้วแสดงว่าเราน่าจะกลุ่มเกือบจะท้ายแล้วละ เราออกไปอย่างที่คิด เนินอีกเพียบ ดีที่กินข้าวดักมาก่อนที่จะไป วัด เราถึงวัดใช้เวลาไม่นานประมาณ 15 นาทีเราก็เตรียมจะออกต่อ เพื่อไม่ให้เสียเวลาและอาหารที่ทานไปก็ย่อยดีแล้ว เพื่อมุ่งหน้าต่อไปทางเจ็ดยอดเนิน
CP 2 ปตท เส้นทางไปทางเจ็ดยอดเนิน มีความร้อนต้อนรับไม่หยุดไม่หย่อน แสงแดดแรงมากๆ เราภาวนาฝนตกเถอะ แต่ไม่มีวี่แวว มีแต่ท้องฟ้า สีฟ้าๆ 555 เราคงต้องเจอกับเนินต่อไป เส้นทางเจ็ดยอดเนินผมยังคงลากด้วยความเร็วคงที่ 25 ไปยาวๆ แต่ด้วยภาวะที่ร้อน เพื่อนๆเริ่มไม่ไหว เราต้องหยุดพักกัน และไปต่อ ความเร็วเริ่มไม่สูง ตกลงมาเหลือ23 ผมบอกเพื่อนๆเราช้านะ ปีที่แล้วเราเร็วกว่านี้เราช้าไปแล้ว 1:30 ชั่วโมงและยังคงช้าแบบนี้เราไปถึง เนินนางพญา ตอนมืดแน่นอน แต่ดูเกมแล้วไม่สามารถเพิ่มความเร็วได้แน่ๆ เราก็ยังไปกันเรื่อยๆ จนมาถึงจุดที่กลุ่มมีการแยกออกจากกัน เพราะด้วยสภาวะเนินที่เยอะ และความร้อน ทำให้กลุ่มเริ่มแตกออกไป ผมลากเพื่อนเล่ มาส่วนท่านชายอยู่หลังกับพี่แดง แต่ยังมองเห็นอยู่ไกลๆ จนเรามาถึง CP2 ตรงนี้นักปั่นเริ่มมีอาการเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด ทีมผมเริ่มจะเหนื่อยๆกันน่าดู ต้องนั่งพักนั่งเติมที่ตรงนี้ราวๆครึ่งชั่วโมง มองท้องฟ้ามองเวลา แดดก็ยังร้อนเหมือนเดิม
Control เนินนางพญา จากจุด ปตท ไปเนินนางพญาเราจะต้องปั่นไปทางเส้นทาง ถนนเฉลิมบูรพา เส้นนี้ดูถนนดีราบเรียบ สวยงามแต่ มันยังคงเป็นเนินซึมๆยาวๆไม่รู้จบ เราปั่นไปผมลากเพื่อนด้วยความเร็ว 25 ดูเหมือนเพื่อนๆจะตามได้ผ่านไปทางประแสร์ ผ่านไปตามทางพระอาทิตย์ก็ไม่ลดความแรง ยิ่งเย็นยิ่งแรงแบบเหมือนใครมาส่งสปอตไลค์ ยามเย็นเราไม่ได้เย็นเลย ก่อนจะเข้าเนินนางพญา ผมสั่งหยุดตอน 6โมงเย็น เพื่อทานข้าวก่อน เพราะหลังจากเนินนางพญา มันต้องไปแขมหนู ร่างกายต้องกินก่อน เรานั่งกินข้าวมองดู เพื่อนนักปั่นปั่นไปเรื่อยๆ บางกลุ่มก็แวะทานกับเรา อิ่มแหละ ไปได้ เราถึงเนินนางพญา ช่วงมืดผิดกับปีที่แล้วที่ยังตอนเย็นและมีพายุฝน ปีนี้ไม่มีมีแต่มืด 55 ช่วงดันเนินขึ้นมาเราได้ข้าวไปจึงมีแรงพอขึ้นกันสบายๆ
CP 3 เซเว่นแหลมสิงค์ หลุดออกจากเนินนางพญา ก็เจอความกับความมืดตามเส้นทางไปก็เป็นลักษณะ เนินซึม และมีไต่บางช่วง วิ่งมาพักยางรถท่านชายแตก แผลใช้ได้ดีที่น้ำยายางฮาฟทำงานเราเสียเวลาตรงนี้ไป20นาที ผมมองอาการเพื่อนเล่ และ พี่แดงที่มาด้วยดูจะเหน็ดเหนื่อยมากๆ โดยเฉพาะเพื่อนเล่
ส่วนพี่แดงมีอาการเจ็บเข่า และ ปวดก้น ส่วนท่านชายยังกำลังใจดี ผมเสนอให้แลกล้อกันรถผมเป็นยางงัด เพราะท่ายางฮาฟแตกอีกอาจไปไม่รอด แต่ท่านชายไม่ยอมแลก วัดดวงเอาถ้าแตกหมดก็พอ เราวิ่งออกไปเราเสียเวลามาก พอมาถึงแขมหนู ก็ค่อยๆไต่กันต่อไปแขมหนูตอนนี้มันไม่หนู มันไม่หมู มันหนัก
เรามาถึงเซเว่น มีกลุ่มนักปั่นมาพักที่นี่เยอะมากๆมองดูอิดโรยกันน่าดู และ สิ่งที่ไม่อยากเห็นคือ รถตู้ DNF มันมาแล้ว ถ้ารถคันนี้มาแสดงว่ามันช้าแล้วนั่นเอง เริ่มมีคนยอมแพ้ เราได้ยินเสียงคนไม่ไปต่อ ผมกับเพื่อนๆต้องหาอะไรทานให้มีพลังงานมากที่สุดเพราะจุดต่อไปคือ ถนนไปตราด ซึ่งมันจะไกล ผมมองเพื่อนอีกครั้ง คนออกอาการคือโอเล่ เริ่มจะทำอะไรงงๆช้าๆ ส่วนท่านชายยังใจดีอยู่ พี่แดงยังนิ่งๆ ผมเริ่มจะห่วงเพื่อนคนนึงแหละตอนนี้จะไหวไหม
CP4 ตราด จากจุดเซเว่นจะไปตราดระยะทางอีกไกลอีก 67โล เราออกตัวพร้อมกันแต่ เพื่อนเล่ออกช้าเพราะติดปัญหากับไมค์จักรยาน ท่านชายและพี่แดง มุ่งออกไปก่อนตามกลุ่มที่ออกๆไป ผมกับโอเล่ปั่นกันไป2คน หวังจะตามให้ทันแต่ ไม่ทัน เพื่อนเล่ผมมีอาการแปลกๆความเร็วตกลงอย่างมาก ผมลากได้ไม่เกิน25 เริ่มหลุดปั่นไปเรื่อยๆผมมองดูและถาม เป็นไงไหวไหม อาการฟ้องแล้ว ความง่วงเริ่มมาอย่างรวดเร็วเพื่อนผมคนนี้ผ่าน400สอยดาวมาหมาดๆ มาสนาม600นี้ เพื่อให้ได้SR แต่เริ่มไม่ไหวแล้ว เราแวะพักกันที่ ปตท แถวแยกพริ้ว ให้พักให้นอนสัก20นาที และออกมาต่อจนถึงแยกถนนใหญ่ แต่เพื่อนเล่ ประเมินตัวเองแล้วว่าไปต่อไม่ไหว ขอจบแค่นี้ DNF ไปหนึ่งท่าน เอ้าแหล้วผมอยู่ตรงนี้เผาเวลาไปประมาณ40นาที ดูเวลาซวยแหละเหลือระยะทางอีก 50โล ตอนนี้5ทุ่มกว่าแล้ว ทำไงละคนเดียวแล้วด้วยก้มจับดรอปแล้วยิงออกไปเลย ปั่นเดี่ยวๆไม่สนใครไม่ตามใครมุ่งไปตราดอย่างเดียวให้ใวที่สุด บนถนนไปตราดผมปั่นแซงไปเรื่อยๆ จนมาถึงถนนต้นไม้ใหญ่ มืดมากๆอ้างหว้างอยู่คนเดียว ชวนใจสยิวมองไปไม่มีใคร หลุดออกมาจอดหายใจแป๊ป และปั่นต่อจนถึง ปตท ก่อนเข้าท่าเรือเกาะช้างไปนั่งเติมโยเกิตแป๊ปนึง จุดนี้มีนักปั่นพอสมควร และออกไปจนใกล้จะถึงตราดเหลือราวๆ9โล เจอพี่แดงที่ปั่นอยู่คนเดียว สภาพปั่นไม่ปกติแล้ว แกปวดเข่ามากๆ ผมถามไปต่อไหม แกคงไปได้แค่ตราดแล้วพอ ผมลดความเร็วลากพี่แดงต่อไป จนถึงตราด
น่าเสียดายแทนพี่แดง แกปั่นAudaxปีนี้ครั้งแรก ผ่าน200จัน,300จอมบึง ถ้าผ่าน600นี้ได้ก็เหลือเพียง 400 เจ้าพระยาเท่านั้น จบไปคนที่ 2 DNF ตามกันไปแล้ว 2 คนและทางทีมอื่นๆก็ไปอีก 1 คนตอนนี้ DNF ไปแล้ว 3 คน ตรงจุดตราดผมมองเวลาเราเข้ามาถึงตอนตี2 เวลาพักเวลานอนไม่มีแล้ว ตามที่วางแผนต้องออกตอนตี 2ครึ่ง ถ้าออกเกินไปตี 3 มันต้องอัดกันอีกแล้ว ผมเดินซึมๆเริ่มง่วงมองหา ท่านชายรอดไหมหว่า ออกมาก่อนคงไม่แอบบงีบไหน
เอ็ยยังรอดโว๊ยกำลัง จัดรื้อข้าวของอยู่เลย เพิ่งจะมาถึงก่อนผมแป๊ปๆนี่เอง แจ๋วมากท่านชาย แต่จะนอนหรือจะไปต่อละ ท่านชายบอกเพียงไม่ไหววะ กูต้องนอนถ้าไม่ได้นอนไปต่อไม่ได้ ผมเข้าใจดีแต่ผมคงไม่นอนจะเปลี่ยนชุดแล้วออกเลยนะ ไงก็ตามมาละหากลุ่มมาด้วย เราตกลงกันไว้ถ้าไม่ออกตอนตี3 ผมจะไปต่อ เพราะปีที่แล้วผมออกตอนตี 2 ครึ่ง เพราะมาถึงตั้งแต่ 5ทุ่ม แต่ปีนี้ช้ามากๆไม่มีเวลามานอนแล้ว เราตกลงกันเสร็จก็ถึงเวลาต้องไปละ
ผมอาบน้ำเปลี่ยนชุดและวกมาดูเพื่อน หลับไปแล้วแต่ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ เวลานี้เข้าสู่ตี3 ต้องออกไปแล้วละ ตอนนี้ผมเองก็ง่วงและปวดก้นมากๆ คงเพราะเราปั่นใช้รอบขามาก และ ปั่นลากเพื่อนๆต้องคุมความเร็วมันทำให้ปวดก้นเร็วกว่าเดิม ปกติต้องไปปวดราวๆ400โลขึ้นไปนี่ปวดตั้งแต่300 ไม่ดีแล้วละ ผมปั่นออกไปคนเดียวในตอนนั้นแทบไม่เห็นนักปั่น ปั่นสวนเลยน้อยมากๆ นานๆทีมาคัน สองคัน แสดงว่าน่าจะยอมกันเยอะแล้ว ไม่ก็มาถึงที่ตราดเกือบหมดแล้ว นั้นเอง จากตราดผมวางแผนไปพักที่ ปตท ขลุง และจะไม่จอดนอนเลย เพื่อไม่ให้เวลาช้าไปกว่านี้อีก ปีที่แล้วยังมีเพื่อนมาด้วยหลายคน ปีนี้ปั่นมาปั่นกลับคนเดียว
Audax 600 พัทยา Dragon Route ไปให้ถึง SR
สนาม 600 ในครั้งนี้ได้สมญาณามว่า เส้นทางมังกร เพราะด้วยการวาดเส้นทางแล้วนั้น เหมือนดั่งมังกรมากๆ และ เมื่อปั่นมันคือ การไต่มังกร จิงๆ
งวดนี้ทีมเรามาหลายคนแต่การวางแผนเราแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มขาแรงไป 2 ท่าน ขาปกติอึดทึก 2 ท่าน และ กลุ่มผมที่เรียกว่าประคับประคอง 4 ท่าน เพื่อนผมที่ผ่านการปั่น 600 มาหลายครั้งช้ำมาหลายหน มีนามว่า ท่านชาย คนใส่หมวก สีขาว Mavic ชูนิ้วโป้งนั่นละ ตำนาน DNF 600 ของเราจะหยุดได้ไหม ตามแผนที่วางไว้ง่ายๆคือ ผมห้ามปั่นความเร็วเกิน 30 ต้องอยู่ในช่วง 23-27 กำลังดีที่สุด และ แวะพักเติมไปเรื่อยๆ จอดไม่เกิน 15 นาที ไอ้ตรงความเร็วนี่ละที่สร้างความลำบากใจให้ผมมากที่สุด เพราะต้องลากแบบคุม มันทำให้ผมรอบขาโอเว่อร์ตลอดระยะการลาก แต่เพื่อทีม มันต้องอดทน
เส้นทางการปั่นเริ่มต้นจาก ศาลาว่าการเมืองพัทยา นักปั่น 490 คนได้ที่มาร่วมปั่นในครั้งนี้ บางท่านผ่าน 600 มาแล้ว และ เพิ่งครั้งแรก ก็เยอะ เรามองว่าอากาศตามที่ ทางอุตุแจ้งมันควรจะฝนตก พายุเข้า แต่ แต่ แต่ มันพลิกโผ ครับ แดดแรงเต็มๆทั้ง 2 วันไร้ซึ่ง ฝน และ กลุ่มเมฒที่จะบังแดดไม่มี ท้องฟ้าโล่งๆ ทั้ง 2 วัน
นักปั่นทะยานออกไปในเส้นทาง สายชายหาด ผ่าน หาดพัทยา หาดจอมเทียน ลมสวนน้อยกว่าปีที่แล้วมากๆ แต่แดดไม่น่ารักตั้งแต่เริ่ม ในช่วงการปั่น เราปั่นกันความเร็วสบายๆในช่วงการโรริ่ง ไม่รีบไม่ร้อนคงความเร็ว 23-25 ปั่นจนออกไปทางถนนสุขุมวิทเส้นหลัก เพื่อที่เราจะวิ่งต่อไปยังเส้นที่จะไปทางสัตหีบ ในช่วงไปทางสัตหีบ เราเกาะความเร็วกันได้เสมอตัว 25-27 ตามความเร็วกำหนด วิ่งไปเรียงแถว ผมลาก เพื่อนตามอีก 3 คัน เป็นระเบียบ เราพยายามคุมพลังงานให้ใช้น้อยที่สุด แต่ผมก็จะหนักมากหน่อยแต่ก็ไหว พอเข้าถึงแยกเจ เราต้องเลี้ยวดันเนินยาวๆกัน เพื่อไปที่จุด Control แรกที่ ปตท ตรงจุดนี้เป็นเนินยาว ท่านชายก็ปั่นแบบอยู่ท้ายสุด เซฟแรงให้มากที่สุดใช้เกียร์เบา ค่อยๆไต่มาเรื่อยๆ จนมาถึงจุดแรกแบบพลังงานเหลือๆ ตามแผน
Control ปตท ท่านชายผมยังสบายดีอยู่ ดูแล้วหน้าตายังสดชื่นๆ เราเติมน้ำทานโยเกิตเพิ่มพลังงานกัน เพราะเส้นต่อไปเราจะต้องไปทางเขาไม้แก้ว มันจะต้องดันเนินกัน เป็นไปยางที่เราวางแผนไว้ ออกจาก ปตท ก็ต้อนรับด้วยเนินสูงอีกเช่นเคย ลงมาหน่อย ก็ ดันเนินต่อ ดันกันไปลงน้อย ดันเยอะ งวดนี้ผู้จัดเปลี่ยนทางพาไปดันมากกว่าปีที่แล้ว อากาศร้อนมากๆอุณหภูมิสูงมากขึ้น แต่ละคนเริ่มที่จะเอาผ้ามาปิดหน้า ปิดปาก เริ่มเห็นราดน้ำราดตัวกันแล้ว นี่ยังไม่เที่ยงเลยนะ
เริ่มเห็นนักปั่นหลายๆท่านเข้าเพิงไม้ เข้าร่มไม้ระหว่างทาง ตามทางมีน้ำมะพร้าวขาย มีสัปปะรดขาย ก็เห็นแวะกินกันอย่างเพลิดเพลิน เรายังคงปั่นไปเรื่อยๆ ความเร็วเริ่มตกลงมาเหลือ 23 ไม่สามารถสูงไปกว่านี้ได้ ช่วงเนินก็แค่ 18-20 พยายามเซฟแรงกันให้มากที่สุด เราปั่นกันเรื่อยๆไม่หยุดพัก เราจะไปหยุดอีกทีตามแผนที่วางไว้คือ ปตทเขาไม้แก้ว
CP 1 วัดหลวงปู่ทิม เรามุ่งออกจากเขาไม้แก้วเข้าสู่ถนนที่จะไปทาง นิคมพัฒนา เส้นทางนี้จะเป็นแบบ ไต่ลง ไต่ไต่ ลง ไต่ไต่ ลง แบบนี้ไปเรื่อยๆ และความร้อนของถนนก็มากขึ้นเรื่อยๆ จุดนี้โดนตากแดดกันเริ่มจะเกรียมๆ นักปั่นเริ่มปั่นกัน เป๋ไปเป๋ มาแต่มันต้องรีบไปให้ทัน CP1 วัดระหาลไร่
ทีมของเรายังคงเกาะกันตามแผนที่วางไว้ ตอนช่วงเข้าเขาไม้แก้วผมยิงออกมารอที่จะไปต่อที่ทางไป นิคม สายเนินพวกเพื่อนๆจะช้ามาก ไปเรื่อยๆ18-2ตามที่เราวางไว้เราจะมีจุดแวะพักที่เซเว่นก่อนและปั่นต่อไปหาข้าวทาน เพื่อจะได้มีแรงและป้องกันตะคริวก่อนจะไปที่วัดเพราะถ้าอาจช้าไปพลังหมด
หลังจากทานข้าวอิ่มใช้เวลาครึ่งชั่วโมง เราออกตัวไปต่อในตอนนั้นเราเห็น จักรยานแม่บ้านปั่นผ่านไป เอ๊ยเขามาทันเราแล้ว มองหน้ากันและรีบปั่นออกไปทันที จักรยานแม่บ้านมาแล้วแสดงว่าเราน่าจะกลุ่มเกือบจะท้ายแล้วละ เราออกไปอย่างที่คิด เนินอีกเพียบ ดีที่กินข้าวดักมาก่อนที่จะไป วัด เราถึงวัดใช้เวลาไม่นานประมาณ 15 นาทีเราก็เตรียมจะออกต่อ เพื่อไม่ให้เสียเวลาและอาหารที่ทานไปก็ย่อยดีแล้ว เพื่อมุ่งหน้าต่อไปทางเจ็ดยอดเนิน
CP 2 ปตท เส้นทางไปทางเจ็ดยอดเนิน มีความร้อนต้อนรับไม่หยุดไม่หย่อน แสงแดดแรงมากๆ เราภาวนาฝนตกเถอะ แต่ไม่มีวี่แวว มีแต่ท้องฟ้า สีฟ้าๆ 555 เราคงต้องเจอกับเนินต่อไป เส้นทางเจ็ดยอดเนินผมยังคงลากด้วยความเร็วคงที่ 25 ไปยาวๆ แต่ด้วยภาวะที่ร้อน เพื่อนๆเริ่มไม่ไหว เราต้องหยุดพักกัน และไปต่อ ความเร็วเริ่มไม่สูง ตกลงมาเหลือ23 ผมบอกเพื่อนๆเราช้านะ ปีที่แล้วเราเร็วกว่านี้เราช้าไปแล้ว 1:30 ชั่วโมงและยังคงช้าแบบนี้เราไปถึง เนินนางพญา ตอนมืดแน่นอน แต่ดูเกมแล้วไม่สามารถเพิ่มความเร็วได้แน่ๆ เราก็ยังไปกันเรื่อยๆ จนมาถึงจุดที่กลุ่มมีการแยกออกจากกัน เพราะด้วยสภาวะเนินที่เยอะ และความร้อน ทำให้กลุ่มเริ่มแตกออกไป ผมลากเพื่อนเล่ มาส่วนท่านชายอยู่หลังกับพี่แดง แต่ยังมองเห็นอยู่ไกลๆ จนเรามาถึง CP2 ตรงนี้นักปั่นเริ่มมีอาการเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด ทีมผมเริ่มจะเหนื่อยๆกันน่าดู ต้องนั่งพักนั่งเติมที่ตรงนี้ราวๆครึ่งชั่วโมง มองท้องฟ้ามองเวลา แดดก็ยังร้อนเหมือนเดิม
Control เนินนางพญา จากจุด ปตท ไปเนินนางพญาเราจะต้องปั่นไปทางเส้นทาง ถนนเฉลิมบูรพา เส้นนี้ดูถนนดีราบเรียบ สวยงามแต่ มันยังคงเป็นเนินซึมๆยาวๆไม่รู้จบ เราปั่นไปผมลากเพื่อนด้วยความเร็ว 25 ดูเหมือนเพื่อนๆจะตามได้ผ่านไปทางประแสร์ ผ่านไปตามทางพระอาทิตย์ก็ไม่ลดความแรง ยิ่งเย็นยิ่งแรงแบบเหมือนใครมาส่งสปอตไลค์ ยามเย็นเราไม่ได้เย็นเลย ก่อนจะเข้าเนินนางพญา ผมสั่งหยุดตอน 6โมงเย็น เพื่อทานข้าวก่อน เพราะหลังจากเนินนางพญา มันต้องไปแขมหนู ร่างกายต้องกินก่อน เรานั่งกินข้าวมองดู เพื่อนนักปั่นปั่นไปเรื่อยๆ บางกลุ่มก็แวะทานกับเรา อิ่มแหละ ไปได้ เราถึงเนินนางพญา ช่วงมืดผิดกับปีที่แล้วที่ยังตอนเย็นและมีพายุฝน ปีนี้ไม่มีมีแต่มืด 55 ช่วงดันเนินขึ้นมาเราได้ข้าวไปจึงมีแรงพอขึ้นกันสบายๆ
CP 3 เซเว่นแหลมสิงค์ หลุดออกจากเนินนางพญา ก็เจอความกับความมืดตามเส้นทางไปก็เป็นลักษณะ เนินซึม และมีไต่บางช่วง วิ่งมาพักยางรถท่านชายแตก แผลใช้ได้ดีที่น้ำยายางฮาฟทำงานเราเสียเวลาตรงนี้ไป20นาที ผมมองอาการเพื่อนเล่ และ พี่แดงที่มาด้วยดูจะเหน็ดเหนื่อยมากๆ โดยเฉพาะเพื่อนเล่
ส่วนพี่แดงมีอาการเจ็บเข่า และ ปวดก้น ส่วนท่านชายยังกำลังใจดี ผมเสนอให้แลกล้อกันรถผมเป็นยางงัด เพราะท่ายางฮาฟแตกอีกอาจไปไม่รอด แต่ท่านชายไม่ยอมแลก วัดดวงเอาถ้าแตกหมดก็พอ เราวิ่งออกไปเราเสียเวลามาก พอมาถึงแขมหนู ก็ค่อยๆไต่กันต่อไปแขมหนูตอนนี้มันไม่หนู มันไม่หมู มันหนัก
เรามาถึงเซเว่น มีกลุ่มนักปั่นมาพักที่นี่เยอะมากๆมองดูอิดโรยกันน่าดู และ สิ่งที่ไม่อยากเห็นคือ รถตู้ DNF มันมาแล้ว ถ้ารถคันนี้มาแสดงว่ามันช้าแล้วนั่นเอง เริ่มมีคนยอมแพ้ เราได้ยินเสียงคนไม่ไปต่อ ผมกับเพื่อนๆต้องหาอะไรทานให้มีพลังงานมากที่สุดเพราะจุดต่อไปคือ ถนนไปตราด ซึ่งมันจะไกล ผมมองเพื่อนอีกครั้ง คนออกอาการคือโอเล่ เริ่มจะทำอะไรงงๆช้าๆ ส่วนท่านชายยังใจดีอยู่ พี่แดงยังนิ่งๆ ผมเริ่มจะห่วงเพื่อนคนนึงแหละตอนนี้จะไหวไหม
CP4 ตราด จากจุดเซเว่นจะไปตราดระยะทางอีกไกลอีก 67โล เราออกตัวพร้อมกันแต่ เพื่อนเล่ออกช้าเพราะติดปัญหากับไมค์จักรยาน ท่านชายและพี่แดง มุ่งออกไปก่อนตามกลุ่มที่ออกๆไป ผมกับโอเล่ปั่นกันไป2คน หวังจะตามให้ทันแต่ ไม่ทัน เพื่อนเล่ผมมีอาการแปลกๆความเร็วตกลงอย่างมาก ผมลากได้ไม่เกิน25 เริ่มหลุดปั่นไปเรื่อยๆผมมองดูและถาม เป็นไงไหวไหม อาการฟ้องแล้ว ความง่วงเริ่มมาอย่างรวดเร็วเพื่อนผมคนนี้ผ่าน400สอยดาวมาหมาดๆ มาสนาม600นี้ เพื่อให้ได้SR แต่เริ่มไม่ไหวแล้ว เราแวะพักกันที่ ปตท แถวแยกพริ้ว ให้พักให้นอนสัก20นาที และออกมาต่อจนถึงแยกถนนใหญ่ แต่เพื่อนเล่ ประเมินตัวเองแล้วว่าไปต่อไม่ไหว ขอจบแค่นี้ DNF ไปหนึ่งท่าน เอ้าแหล้วผมอยู่ตรงนี้เผาเวลาไปประมาณ40นาที ดูเวลาซวยแหละเหลือระยะทางอีก 50โล ตอนนี้5ทุ่มกว่าแล้ว ทำไงละคนเดียวแล้วด้วยก้มจับดรอปแล้วยิงออกไปเลย ปั่นเดี่ยวๆไม่สนใครไม่ตามใครมุ่งไปตราดอย่างเดียวให้ใวที่สุด บนถนนไปตราดผมปั่นแซงไปเรื่อยๆ จนมาถึงถนนต้นไม้ใหญ่ มืดมากๆอ้างหว้างอยู่คนเดียว ชวนใจสยิวมองไปไม่มีใคร หลุดออกมาจอดหายใจแป๊ป และปั่นต่อจนถึง ปตท ก่อนเข้าท่าเรือเกาะช้างไปนั่งเติมโยเกิตแป๊ปนึง จุดนี้มีนักปั่นพอสมควร และออกไปจนใกล้จะถึงตราดเหลือราวๆ9โล เจอพี่แดงที่ปั่นอยู่คนเดียว สภาพปั่นไม่ปกติแล้ว แกปวดเข่ามากๆ ผมถามไปต่อไหม แกคงไปได้แค่ตราดแล้วพอ ผมลดความเร็วลากพี่แดงต่อไป จนถึงตราด
น่าเสียดายแทนพี่แดง แกปั่นAudaxปีนี้ครั้งแรก ผ่าน200จัน,300จอมบึง ถ้าผ่าน600นี้ได้ก็เหลือเพียง 400 เจ้าพระยาเท่านั้น จบไปคนที่ 2 DNF ตามกันไปแล้ว 2 คนและทางทีมอื่นๆก็ไปอีก 1 คนตอนนี้ DNF ไปแล้ว 3 คน ตรงจุดตราดผมมองเวลาเราเข้ามาถึงตอนตี2 เวลาพักเวลานอนไม่มีแล้ว ตามที่วางแผนต้องออกตอนตี 2ครึ่ง ถ้าออกเกินไปตี 3 มันต้องอัดกันอีกแล้ว ผมเดินซึมๆเริ่มง่วงมองหา ท่านชายรอดไหมหว่า ออกมาก่อนคงไม่แอบบงีบไหน
เอ็ยยังรอดโว๊ยกำลัง จัดรื้อข้าวของอยู่เลย เพิ่งจะมาถึงก่อนผมแป๊ปๆนี่เอง แจ๋วมากท่านชาย แต่จะนอนหรือจะไปต่อละ ท่านชายบอกเพียงไม่ไหววะ กูต้องนอนถ้าไม่ได้นอนไปต่อไม่ได้ ผมเข้าใจดีแต่ผมคงไม่นอนจะเปลี่ยนชุดแล้วออกเลยนะ ไงก็ตามมาละหากลุ่มมาด้วย เราตกลงกันไว้ถ้าไม่ออกตอนตี3 ผมจะไปต่อ เพราะปีที่แล้วผมออกตอนตี 2 ครึ่ง เพราะมาถึงตั้งแต่ 5ทุ่ม แต่ปีนี้ช้ามากๆไม่มีเวลามานอนแล้ว เราตกลงกันเสร็จก็ถึงเวลาต้องไปละ
ผมอาบน้ำเปลี่ยนชุดและวกมาดูเพื่อน หลับไปแล้วแต่ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ เวลานี้เข้าสู่ตี3 ต้องออกไปแล้วละ ตอนนี้ผมเองก็ง่วงและปวดก้นมากๆ คงเพราะเราปั่นใช้รอบขามาก และ ปั่นลากเพื่อนๆต้องคุมความเร็วมันทำให้ปวดก้นเร็วกว่าเดิม ปกติต้องไปปวดราวๆ400โลขึ้นไปนี่ปวดตั้งแต่300 ไม่ดีแล้วละ ผมปั่นออกไปคนเดียวในตอนนั้นแทบไม่เห็นนักปั่น ปั่นสวนเลยน้อยมากๆ นานๆทีมาคัน สองคัน แสดงว่าน่าจะยอมกันเยอะแล้ว ไม่ก็มาถึงที่ตราดเกือบหมดแล้ว นั้นเอง จากตราดผมวางแผนไปพักที่ ปตท ขลุง และจะไม่จอดนอนเลย เพื่อไม่ให้เวลาช้าไปกว่านี้อีก ปีที่แล้วยังมีเพื่อนมาด้วยหลายคน ปีนี้ปั่นมาปั่นกลับคนเดียว