มหกรรม 400 ของภาคตะวันออก Audax400สอยดาว ปีนี้รสชาติมาครบเครื่อง ทั้ง แดด ลม ฝน พายุ
จากการเริ่มปั่นมาจากปี2016ปีที่แล้วมาสนามนี้แต่ไม่จบ เพราะยางแตกไป7รอบก่อนเข้า อ่างฤไน ปั่นจนไม่มียางเหลือ ที่ปะหมดสุดท้ายก็ไปไม่รอด
ยอมจำนนต่อสนามนี้แค่เพียง 250โล งวดนี้จึงมาเพื่อล้างแค้นให้สำเร็จ และ เป็นสนาม400สุดท้าย เพื่อเป็น SR2017 ก่อนน่านี้ผ่าน200จอมบึงและอีกหลายสนาม,300เขาใหญ่,600นครปฐม มาแล้ว เก็บ400สอยดาวนี่ละถึงจะสะใจ
ภาพนี้คืองวดที่แล้วไปไม่รอดหมดยาง
เริ่มต้นการปั่น จุดเริ่มอยู่ที่ สุนทรภู่ เปลี่ยนจุดจากเดิม ที่เคยเริ่มที่ เรือรบประแสร์ ทำให้แผนที่มีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย แต่เพิ่มเติมคือต้องไปลุยกับพายุทะเล เพิ่มขึ้นในขากลับ
ก่อนเริ่มปั่น มีการวางแผนจัดทีมออกเป็น 3 กลุ่ม โดยผมไปกับกลุ่ม หอยวายุ ตามสัญญาที่ให้กันไว้หลังจากผ่าน 600 นครปฐมมาด้วยกัน สนาม400นี้ผมทำหน้าที่ บอกเส้นทางแต่ละจุดว่าจะเจอกับ เนิน หรือ ทางลง เพราะงวดที่แล้วยังจำทางได้ดีอยู่
Start ออกตัวตอนตี5 ในคืนวันเสาร์ นักปั่นค่อยๆพุ่งตัวออกไป สนามเปียกแฉะเพราะมีฝนตกมาเมื่อคืน ทำความเร็วไม่ได้มาก เส้นทางเป็นเนินซึมไปตลอดทาง ออกตัวก็ไต่กันไปยาวๆ
การปั่นแบบกลุ่มมีหัวหน้าทีม หอยวายุ คอยบัญชาและให้สัญญาณ ทำให้ปั่นเป็นระเบียบ เราไปกัน 11 คนเรียงเป็น 2แถว ค่อยๆสลับกันขึ้นมา เวลานี้รถยังไม่เยอะ ผู้คนยังไม่ตื่นทำให้ปลอดภัย แต่แอบง่วงๆนิดๆ เราปั่นมุ่งหน้าต่อไปเพื่อไปCP1 ที่วัดเขา5ยอด แต่เส้นทางกว่าจะถึง เขาห้ายอดมันต้องผ่าน หลายเขา ไหนจะเขาหินแท่น เขาชะเมา เขาชะอาง แต่ละเส้นทางที่จะไปถึง มันก็คือเส้นทางไต่ระดับไปเรื่อยๆ
ดูได้จากกราฟค่าความชันจะเห็นได้ว่ามันไต่กันไปเรื่อยๆนวดขาไปเรื่อยๆแอบตอดๆไปเรื่อยๆ แต่ด้วยการปั่นเป็นทีมมันก็ทำให้ผ่านตรงนี้ไปไม่ใช่เรื่องยาก ทีมเราทำความเร็วกันอยู่ที่ AV25 ความเร็วกำลังดี เส้นทาง2ข้างทางร่มรื่นมากๆอากาศดี ก็มันยังเช้ามืดนี่เนาะ มันเลยสบายๆ
ปั่นมาได้สักพักความหิวมาเยือนตรงจุดนี้เข้ามาได้ 50 โลแหละก่อนเข้าสู่เส้นเนินเขาน้อย จะมีเซเว่น และ โลตัส ให้นักปั่นได้เติมเสบียงกันได้อย่างเต็มที่ แนะนำ เติมก่อนเลยเพราะเลยตรงจุดนี้แล้วจะลำบาก เพราะร้านค้าชาวบ้านยังไม่เปิด และ จะเริ่มเนินรัวๆไปจนถึง CP1
CP1 วัดเขาห้ายอด ระยะทางกว่าจะถึงจุดนี้เล่นไป 79 โล ผ่านเส้นทางหุบเขาดันเนินมาหลายๆเนิน ซึ่งทำเอานักปั่นหลายๆท่านเริ่มมีอาการ ที่นี่มีลิงเยอะมากๆ คอยวิ่งเล่นวิ่งไล่ เราอย่างสนุกสนาน ลิงแถวนี้ไม่กลัวคน เพราะเป็น ลิงวัด ตรงจุดนี้มี บริการของกินเล็กน้อย และ น้ำดื่ม มีเนื้อย่างขายด้วย ลองแหละ อร่อยดี เพิ่มพลังได้เยอะ เพราะกว่าจะถึงมันนวดมานานพอควรโชคดีเส้นทางราบเรียบทำให้ปั่นไม่ลำบาก
มุ่งหน้าสู่CP2 เซเว่น หนองคอก ระยะที่ 129
จากจุดที่ออกจากวัดห้ายอด เส้นทางยังคงสวยงามข้างทางเป็นไร่ยาง ให้ความร่มรื่นอย่างดี แต่ทำไมปั่นเหมือนยางแบนๆ เริ่มไต่กันแล้วจากจุดนี้ เนินเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ และ แสงแดดมันมาแล้ว ความร้อนเริ่มเข้ามาแทนที่ ความสบายในช่วงเช้า บวกกับเส้นทางที่ไต่มากขึ้น เพราะเข้าสู่ ถนนเขาใหญ่ ช่วงนี้เป็นช่วง เนินสลับลง ขึ้นๆลงๆ กันเพลิน ถ้าเพลินมากจะยิงมากก็หมดใวมาก พี่แป๊ะ เริ่มสั่งให้ลดความเร็วและเกาะกลุ่มคงความเร็วให้ดีดี
จุดนี้เราเจอสถานที่สวยๆเยอะวิวสองข้างทางยังสวยอยู่ ทำให้ปั่นได้เพลินๆ แต่ความร้อนมันมาเยอะขึ้นๆและ ทางเริ่มไม่ดีแหละ เริ่มมีเส้นทางแบบสาย กราเวล สายลูกลัง เพิ่มเข้ามา สะท้านมือกันไป และ ไหลน้อยดันเยอะ ขึ้นไปสุดแล้วไหงลงนิดขึ้นอีก
ช่วงนี้หาข้าวทานก่อนเพื่อไม่ให้เกิดอาการขาดพลังงาน กว่าจะถึงเซเว่นเล่นหมดพลังไปกันเยอะมากๆ พอถึงเซเว่นก็ตุนทันที เซเว่นแตกครับ ทุกคนรุมกันแหลกตุนกันให้พอเพราะมันกำลังเข้าอ่างฤไน เส้นทางที่จะตัดแรงนักปั่นก่อนถึงคลองหาดได้ดีทีเดียว เวลานี้บ่ายโมงแหละ
CP3 คลองหาด 196 โล
เส้นทางไปทางคลองหาด ยังคงดันต่อไปถ้าอ่านแผนที่มาดีดี จะเห็นว่าผ่านมาหลายเขาแล้วนะ จากนี้จะเจอแต่ความร้อนบนหุบเขา บวกเนินรัวๆไปเรื่อยๆเล่น นักปั่นเริ่มจะบอบช้ำ ตามทางจะเห็นนักปั่นเริ่มพักเป็นระยะๆ เพราะมันกำลังเข้าอ่างฤไน เส้นทางเป็นลักษณะ ขึ้นๆๆลงขึ้นๆๆๆๆลงขึ้นๆๆๆๆๆๆลง แต่ยังดีที่อากาศไม่ร้อนเพราะเมฆฝน มันมาแล้ว พี่แปะบอกเริ่มเดินทาง ฝนกำลังมา เมฆกลุ่มใหญ่มาแล้ว สีดำสวยเชียว เราวิ่งออกไปความเร็วดีเช่นเดิม ลมส่งทำให้ความเร็วไปได้สวย และ เริ่มยางแบน เพราะดันเนินอีกแล้ว
ตรงจุดนี้ผมจำได้ปีที่แล้วผมยางแตก 7รอบที่ตอนก่อนเข้าอ่างฤไน และ ปั่นคนเดียวคนสุดท้าย ในปีนั้นเข้าอ่างไปตอน5โมงเย็น และ เจอช้างแค่คนเดียว ที่ปั่นปีนั้น ปีนี้เข้ามาตอน บ่ายไม่มีช้าง มีแต่รูปช้างน่ารักๆให้ถ่ายเล่น จุดนี้มีบริการแตงโมให้เราได้พักได้สดชื่นก่อนจะลุยต่อไป หลังจากผ่านเนินมาเยอะจนหลุด อุธยานออกไป มันก็ยังไม่จบเพราะเราต้องเจอเนินข้างหน้าดันไปอีกเยอะ 2ข้างทางเจอนักปั่น หมดแรงนั่งพักกันเยอะมากๆ เริ่มจะท้อกันแล้ว เราได้แต่บอกให้ไปต่อ ตามๆกันมาก็เริ่มมีคนตามกลุ่มเรา แต่ก็หลุดออกไปเรื่อยๆเมื่อเจอเนินไม่หยุดหย่อน จนมาถึงคลองหาด เราดูเวลาแล้วOKเราพักได้กินได้ไม่เกินครึ่งชั่วโมง ตรงจุดนี้มีนักปั่นจำนวนมากเกิน50คัน ยอมแพ้กันแล้ว และ รอให้รถมาเก็บ น่าเสียดายมากๆแต่ดูจากอาการแล้ว หมดกันแล้วจิงๆ
เซเว่นนี้แตกเช่นเคย555 คนรุมเพียบ เราพักและเตรียมน้ำต่อ เพื่อจะไปต่อ แสงแดดอุณหภูมิ มันเริ่มบั่นทอนพลังกายมากๆแต่เราต้องไปต่อ
Secret Check Point ด่านคลองตาดำ กิโลที่230
จากคลองหาด ไป หาด่านคลองตาดำ ตรงจุดต่อไปนี้ คนที่DNFไปแล้วอาจจะคิดถูกแล้วก็ได้ เพราะคนมาต่อต้องเจอมหกรรม เนินรัวๆๆๆๆๆมากมาย กว่าจะไปถึง ด่าน ทีมเริ่มจะถามผมเรื่อยๆว่าหมดเนินยัง ผมบอกแบบสุขุม ไอ้ที่เราลุยมานะยังน้อยกว่าที่เรากำลังจะเจอครับ ทีมเงียบ แหะๆ ก็มันจริง วิวสวยๆ2ข้างทางพอจะช่วยได้บ้างแต่ แรงปั่นมันเริ่มจะลด ความชันที่มากขึ้นเรื่อยๆเริ่มจะกินแรงเรามากขึ้น นวดมาจนถึงคลองหาด มันเริ่มมีอาการในทีม เริ่มมีการฮีทกันบ้างแล้ว อาการปวดเข่าบางท่านเริ่มมา ผมก็ปวดท้องเพราะยัดมากไปเริ่มปั่นไม่ออกมีอาการจุกเสียดแต่ก็ไม่บอกทีมยังปั่นต่อ ดีที่เอายามาด้วยเลยจัดไปเลยรอด พวกเราปั่นไปสักพักต้องพักและเติมใหม่แถวๆตลาดช่วงเย็นแถบนั้น คิดถูกที่พักให้หายใจหายคอ
เพราะต่อไปจะดันกันไม่เลิก เราผ่านอุโมงค์ต้นไม้น้อยใหญ่ ผมเลยจุดที่DNFมาแล้ว ทีมถามมันจะถึงด่านนั้นเมื่อไหร่ ผมบอกผ่าน4ด่านครับ เริ่มนับไปเรื่อยๆ ด่านนึงก็ไต่ไปเรื่อย ด่านสองก็ไต่เพิ่มไปอีก จนครบและนั่นคือด่านสุดท้ายบนยอดเนิน เห็นนักปั่นที่ยังรอดค่อยๆไถกันขึ้นไปแต่ทางก้หนืดเอาเรื่องบวกกับลมที่ต้านมา เราดันกันไปจนถึงด่าน
มีนักปั่นหลายท่านรวมกันอยู่และนั่งพักกันมานาน บนนี้ไม่มีอาหารมีแต่ ทหารและรถปฐมพยาบาล น้ำไม่มี มีแต่ความมืดที่เริ่มคลืบคลานเข้ามา ผมเริ่มดูเวลาและเป็นห่วงกลุ่มอื่ที่ตามหลังมาจะทันไหม ตอนนี้ทีมหอยวายุ ทุกคนยังมีใจสู้อยู่พร้อมลุยต่อเพื่อไปยังโป่งน้ำร้อน
CP โป่งน้ำร้อน กิโลที่ 288
จากจุดด่านเราไหลลงมาแต่ได้สักพัก ก็เริ่มเนินรัวๆและมีลมต้านเป็นระยะๆ ความมืดมันเริ่มเข้าปกคลุมแล้ว ความร้อนหายไปความเย็นเริ่มเข้ามาแทน แต่อากาศไม่ค่อยจะดี อากาศหายใจเบาบาง และ อับชื้น เพราะมีสภาพถนนเพิ่งฝนตกผ่านไป ไอร้อนที่พื้นคายออทำให้พื้นที่ชื้นขึ้น ตัวเริ่มเหนียวๆ เราไปกันเรื่อยๆ พลังงานเริ่มจะหมด มันคือภาวะขาด คาร์โบ เราจึงเริ่มหาร้านทาข้าว เจอร้านเข้าให้แล้ว ฝูงนักปั่นเข้าใส่ทันที สั่งข้าวเหมือนกัน มันคือ ข้าวไข่เจียวหมูสับ เราเริ่มจับจองพื้นที่ร้าน คนเมาก้มองเราแปลก ร้องเพลงกันสนุกสนาน เราไม่สนเราหิว
บรรยากาศดูโรแมนติกใต้แสงเทียน ข้าวไข่เจียวอร่อยมากๆเวลานี้ โหลดกันให้เต็มที่ เพราะต่อจากนี้มันยังอีกไกลและเจอเนินอีกเยอะ จบจากการกิน ก็มาย่อย ด้วยพลังแห่งไข่เจียว จงสถิตย์ อยู่กับข้า เพราะไข่เจียวจิงๆทำให้มีแรงดันกันไปต่อจนมาถึงโป่งน้ำร้อน ระยะทางดูไม่ไกลแต่มันคือ กิโลแม้ว ขึ้นไม่เลิกยิ่งใกล้ยิ่งไต่ สองข้างทางทำถนน ไม่ค่อยสู้ดีนัก น้องในทีมน้องเก๋มีปัญหารถตีนผีคดจาการล้มแต่ก็แก้ไขได้ใวเพราะในทีมมีช่างไปด้วยเก่งมากๆ รถเริ่มวิ่งเยอะเบียดเรา ต้องระวังพลาดตกไหล่ทางได้ง่ายๆ เราจึงพยายามเรียงเดี่ยว แต่ก็เริ่มแตกออกไป ตามกำลังขาที่เหลืออยู่แต่ละคน คาดว่าปีหน้าเส้นนี้สวยงามแน่นอน จนมาถึงจุดพัก
จุดนนี้นักปั่นมาฝากของไว้ ได้อาบน้ำ ได้กินข้าวต้ม ได้นอน และ ได้ถอนตัว กันออกไป บางท่านยอมแพ้ที่ตรงนี้กันพอสมควร เพราะง่วงนอน เหนื่อยล้า จุดนี้เป็นจุดวัดใจที่สำคัญว่าไปต่อไหมอีก 100กว่าโล ทีมเราพักไม่นานประมาณเกือบ45นาที เราจึงไปกันต่อ เราออกจากจุดนี้ตอน 5ทุ่มครึ่ง ตามเวลาที่วางไว้ ซึ่งเรามองว่าเวลาน่าจะเหลือเฟือ แต่ดีที่ออกเวลานี้เพราะ ข้างหน้ามันมีเรื่องไม่คาดคิดอีกเพียบ
CP 5 เซเว่น ม.บูรพา ระยะ 354
เสียงทีมเริ่มถามเหมือนเดิมก่อนไป เราจะเจอเนินอีกไหม ผมตอบเจอครับสูงด้วย แต่อึดใจเดียว ก็จะไหลยาวๆลงไปถึง จันทบุรี ครับ ทุกคนวางแผนความเร็วไปเรื่อยๆ25พอ แต่ มันทางขึ้นอึดใจเดียวจิงๆ หลังจากนั้นมันลงเขายาวๆไงครับ ปล่อยไหลประคองกันเป็นหลายๆกิโล ลงมาก็ดันขึ้นไหลลงดันขึ้น สนุกสนานกันมากๆ ยิงกันหูดับตับไหม้ ใจผมรู้สึกเสียดายกับเพื่อนๆหลายคนที่ยอมไปก่อนหน้านี้ เพราะตรงนี้มันโบนัสสุดๆ แต่ แต่ มันมาแล้ว ในเวลาเที่ยงคืนฝนเม็ดแรกกระทบหน้า ความเย็นเปลี่ยน รับรู้ได้ มาแล้วฝน ห่าฝนตกกระหน่ำไม่หยุดหยั้ง เราเริ่มช้าลงมากๆทั้งตก ทั้งลมพายุ เรายังไปต่อ จนถึงที่หมายแบบ เละเทะ
สภาพเริ่มล้า หนาวและหิว เหนื่อย ชุ่มไปด้วยน้ำฝน แต่ไปต่อ
จุดควบคุม เนินนางพญา
ฝนยังคงเล่นเราอยู่เราเข้าเส้นทางหลักเส้นทางคุ้นเคย ถนนเฉลิมบูรพา เราปั่นกันได้ไม่เร็ว และ ประสบปัญหารถในทีม ยางแตก เราเริ่มช้าแต่เราไม่ทิ้งกัน จนพี่แปะสั่งให้แยกออก 2ชุดให้พี่ป้อมคุมชุดแรกไปก่อน เราออกตัวไปจนถึงเนินนางพญา ท่ามกลางฝนที่หนัก เนินก็ยากขึ้นเพราะล้อที่หนืดจากน้ำฝน และ น้ำขัง น้ำไหล มั่วไปหมด
สุนทรภู่ จุดสุดท้ายแห่งชัยชนะ
เริ่มเช้าฝนยังหนักและแรงไม่หยุด เนินที่ง่ายคุ้นเคยก็ยากไม่สิ้นสุด ทั้งเหนื่อยล้า ง่วงนอน แรงแทบหมด กัดฟันมองหน้าและลุยต่อ ผ่านประแสร์แอบคิดไม่ออกตรงนี้วะ แล้วไปต่อ โคตรเหนื่อย ฝนก็ไม่หยุด ไปๆปั่นๆ ไม่พัก จนสุดท้าย ก็ถึง กันทุกคน
จบสักที สีหน้าทุกคนดีใจมีความสุข เราทำได้ ยินดีกับทุกท่าน SR2017 ขอบคุณทีม Windy Snail ที่พาDTคนนึงมาจนสำเร็จ เป็นความทรมานบันเทิงแห่งมิตรภาพ
Audax400สอยดาว แดด ลม เนิน ป่าเขา ทะเล ฝน พายุ กับ DTและ Windy Snail
มหกรรม 400 ของภาคตะวันออก Audax400สอยดาว ปีนี้รสชาติมาครบเครื่อง ทั้ง แดด ลม ฝน พายุ
จากการเริ่มปั่นมาจากปี2016ปีที่แล้วมาสนามนี้แต่ไม่จบ เพราะยางแตกไป7รอบก่อนเข้า อ่างฤไน ปั่นจนไม่มียางเหลือ ที่ปะหมดสุดท้ายก็ไปไม่รอด
ยอมจำนนต่อสนามนี้แค่เพียง 250โล งวดนี้จึงมาเพื่อล้างแค้นให้สำเร็จ และ เป็นสนาม400สุดท้าย เพื่อเป็น SR2017 ก่อนน่านี้ผ่าน200จอมบึงและอีกหลายสนาม,300เขาใหญ่,600นครปฐม มาแล้ว เก็บ400สอยดาวนี่ละถึงจะสะใจ
ภาพนี้คืองวดที่แล้วไปไม่รอดหมดยาง
เริ่มต้นการปั่น จุดเริ่มอยู่ที่ สุนทรภู่ เปลี่ยนจุดจากเดิม ที่เคยเริ่มที่ เรือรบประแสร์ ทำให้แผนที่มีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย แต่เพิ่มเติมคือต้องไปลุยกับพายุทะเล เพิ่มขึ้นในขากลับ
ก่อนเริ่มปั่น มีการวางแผนจัดทีมออกเป็น 3 กลุ่ม โดยผมไปกับกลุ่ม หอยวายุ ตามสัญญาที่ให้กันไว้หลังจากผ่าน 600 นครปฐมมาด้วยกัน สนาม400นี้ผมทำหน้าที่ บอกเส้นทางแต่ละจุดว่าจะเจอกับ เนิน หรือ ทางลง เพราะงวดที่แล้วยังจำทางได้ดีอยู่
Start ออกตัวตอนตี5 ในคืนวันเสาร์ นักปั่นค่อยๆพุ่งตัวออกไป สนามเปียกแฉะเพราะมีฝนตกมาเมื่อคืน ทำความเร็วไม่ได้มาก เส้นทางเป็นเนินซึมไปตลอดทาง ออกตัวก็ไต่กันไปยาวๆ
การปั่นแบบกลุ่มมีหัวหน้าทีม หอยวายุ คอยบัญชาและให้สัญญาณ ทำให้ปั่นเป็นระเบียบ เราไปกัน 11 คนเรียงเป็น 2แถว ค่อยๆสลับกันขึ้นมา เวลานี้รถยังไม่เยอะ ผู้คนยังไม่ตื่นทำให้ปลอดภัย แต่แอบง่วงๆนิดๆ เราปั่นมุ่งหน้าต่อไปเพื่อไปCP1 ที่วัดเขา5ยอด แต่เส้นทางกว่าจะถึง เขาห้ายอดมันต้องผ่าน หลายเขา ไหนจะเขาหินแท่น เขาชะเมา เขาชะอาง แต่ละเส้นทางที่จะไปถึง มันก็คือเส้นทางไต่ระดับไปเรื่อยๆ
ดูได้จากกราฟค่าความชันจะเห็นได้ว่ามันไต่กันไปเรื่อยๆนวดขาไปเรื่อยๆแอบตอดๆไปเรื่อยๆ แต่ด้วยการปั่นเป็นทีมมันก็ทำให้ผ่านตรงนี้ไปไม่ใช่เรื่องยาก ทีมเราทำความเร็วกันอยู่ที่ AV25 ความเร็วกำลังดี เส้นทาง2ข้างทางร่มรื่นมากๆอากาศดี ก็มันยังเช้ามืดนี่เนาะ มันเลยสบายๆ
ปั่นมาได้สักพักความหิวมาเยือนตรงจุดนี้เข้ามาได้ 50 โลแหละก่อนเข้าสู่เส้นเนินเขาน้อย จะมีเซเว่น และ โลตัส ให้นักปั่นได้เติมเสบียงกันได้อย่างเต็มที่ แนะนำ เติมก่อนเลยเพราะเลยตรงจุดนี้แล้วจะลำบาก เพราะร้านค้าชาวบ้านยังไม่เปิด และ จะเริ่มเนินรัวๆไปจนถึง CP1
CP1 วัดเขาห้ายอด ระยะทางกว่าจะถึงจุดนี้เล่นไป 79 โล ผ่านเส้นทางหุบเขาดันเนินมาหลายๆเนิน ซึ่งทำเอานักปั่นหลายๆท่านเริ่มมีอาการ ที่นี่มีลิงเยอะมากๆ คอยวิ่งเล่นวิ่งไล่ เราอย่างสนุกสนาน ลิงแถวนี้ไม่กลัวคน เพราะเป็น ลิงวัด ตรงจุดนี้มี บริการของกินเล็กน้อย และ น้ำดื่ม มีเนื้อย่างขายด้วย ลองแหละ อร่อยดี เพิ่มพลังได้เยอะ เพราะกว่าจะถึงมันนวดมานานพอควรโชคดีเส้นทางราบเรียบทำให้ปั่นไม่ลำบาก
มุ่งหน้าสู่CP2 เซเว่น หนองคอก ระยะที่ 129
จากจุดที่ออกจากวัดห้ายอด เส้นทางยังคงสวยงามข้างทางเป็นไร่ยาง ให้ความร่มรื่นอย่างดี แต่ทำไมปั่นเหมือนยางแบนๆ เริ่มไต่กันแล้วจากจุดนี้ เนินเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ และ แสงแดดมันมาแล้ว ความร้อนเริ่มเข้ามาแทนที่ ความสบายในช่วงเช้า บวกกับเส้นทางที่ไต่มากขึ้น เพราะเข้าสู่ ถนนเขาใหญ่ ช่วงนี้เป็นช่วง เนินสลับลง ขึ้นๆลงๆ กันเพลิน ถ้าเพลินมากจะยิงมากก็หมดใวมาก พี่แป๊ะ เริ่มสั่งให้ลดความเร็วและเกาะกลุ่มคงความเร็วให้ดีดี
จุดนี้เราเจอสถานที่สวยๆเยอะวิวสองข้างทางยังสวยอยู่ ทำให้ปั่นได้เพลินๆ แต่ความร้อนมันมาเยอะขึ้นๆและ ทางเริ่มไม่ดีแหละ เริ่มมีเส้นทางแบบสาย กราเวล สายลูกลัง เพิ่มเข้ามา สะท้านมือกันไป และ ไหลน้อยดันเยอะ ขึ้นไปสุดแล้วไหงลงนิดขึ้นอีก
ช่วงนี้หาข้าวทานก่อนเพื่อไม่ให้เกิดอาการขาดพลังงาน กว่าจะถึงเซเว่นเล่นหมดพลังไปกันเยอะมากๆ พอถึงเซเว่นก็ตุนทันที เซเว่นแตกครับ ทุกคนรุมกันแหลกตุนกันให้พอเพราะมันกำลังเข้าอ่างฤไน เส้นทางที่จะตัดแรงนักปั่นก่อนถึงคลองหาดได้ดีทีเดียว เวลานี้บ่ายโมงแหละ
CP3 คลองหาด 196 โล
เส้นทางไปทางคลองหาด ยังคงดันต่อไปถ้าอ่านแผนที่มาดีดี จะเห็นว่าผ่านมาหลายเขาแล้วนะ จากนี้จะเจอแต่ความร้อนบนหุบเขา บวกเนินรัวๆไปเรื่อยๆเล่น นักปั่นเริ่มจะบอบช้ำ ตามทางจะเห็นนักปั่นเริ่มพักเป็นระยะๆ เพราะมันกำลังเข้าอ่างฤไน เส้นทางเป็นลักษณะ ขึ้นๆๆลงขึ้นๆๆๆๆลงขึ้นๆๆๆๆๆๆลง แต่ยังดีที่อากาศไม่ร้อนเพราะเมฆฝน มันมาแล้ว พี่แปะบอกเริ่มเดินทาง ฝนกำลังมา เมฆกลุ่มใหญ่มาแล้ว สีดำสวยเชียว เราวิ่งออกไปความเร็วดีเช่นเดิม ลมส่งทำให้ความเร็วไปได้สวย และ เริ่มยางแบน เพราะดันเนินอีกแล้ว
ตรงจุดนี้ผมจำได้ปีที่แล้วผมยางแตก 7รอบที่ตอนก่อนเข้าอ่างฤไน และ ปั่นคนเดียวคนสุดท้าย ในปีนั้นเข้าอ่างไปตอน5โมงเย็น และ เจอช้างแค่คนเดียว ที่ปั่นปีนั้น ปีนี้เข้ามาตอน บ่ายไม่มีช้าง มีแต่รูปช้างน่ารักๆให้ถ่ายเล่น จุดนี้มีบริการแตงโมให้เราได้พักได้สดชื่นก่อนจะลุยต่อไป หลังจากผ่านเนินมาเยอะจนหลุด อุธยานออกไป มันก็ยังไม่จบเพราะเราต้องเจอเนินข้างหน้าดันไปอีกเยอะ 2ข้างทางเจอนักปั่น หมดแรงนั่งพักกันเยอะมากๆ เริ่มจะท้อกันแล้ว เราได้แต่บอกให้ไปต่อ ตามๆกันมาก็เริ่มมีคนตามกลุ่มเรา แต่ก็หลุดออกไปเรื่อยๆเมื่อเจอเนินไม่หยุดหย่อน จนมาถึงคลองหาด เราดูเวลาแล้วOKเราพักได้กินได้ไม่เกินครึ่งชั่วโมง ตรงจุดนี้มีนักปั่นจำนวนมากเกิน50คัน ยอมแพ้กันแล้ว และ รอให้รถมาเก็บ น่าเสียดายมากๆแต่ดูจากอาการแล้ว หมดกันแล้วจิงๆ
เซเว่นนี้แตกเช่นเคย555 คนรุมเพียบ เราพักและเตรียมน้ำต่อ เพื่อจะไปต่อ แสงแดดอุณหภูมิ มันเริ่มบั่นทอนพลังกายมากๆแต่เราต้องไปต่อ
Secret Check Point ด่านคลองตาดำ กิโลที่230
จากคลองหาด ไป หาด่านคลองตาดำ ตรงจุดต่อไปนี้ คนที่DNFไปแล้วอาจจะคิดถูกแล้วก็ได้ เพราะคนมาต่อต้องเจอมหกรรม เนินรัวๆๆๆๆๆมากมาย กว่าจะไปถึง ด่าน ทีมเริ่มจะถามผมเรื่อยๆว่าหมดเนินยัง ผมบอกแบบสุขุม ไอ้ที่เราลุยมานะยังน้อยกว่าที่เรากำลังจะเจอครับ ทีมเงียบ แหะๆ ก็มันจริง วิวสวยๆ2ข้างทางพอจะช่วยได้บ้างแต่ แรงปั่นมันเริ่มจะลด ความชันที่มากขึ้นเรื่อยๆเริ่มจะกินแรงเรามากขึ้น นวดมาจนถึงคลองหาด มันเริ่มมีอาการในทีม เริ่มมีการฮีทกันบ้างแล้ว อาการปวดเข่าบางท่านเริ่มมา ผมก็ปวดท้องเพราะยัดมากไปเริ่มปั่นไม่ออกมีอาการจุกเสียดแต่ก็ไม่บอกทีมยังปั่นต่อ ดีที่เอายามาด้วยเลยจัดไปเลยรอด พวกเราปั่นไปสักพักต้องพักและเติมใหม่แถวๆตลาดช่วงเย็นแถบนั้น คิดถูกที่พักให้หายใจหายคอ
เพราะต่อไปจะดันกันไม่เลิก เราผ่านอุโมงค์ต้นไม้น้อยใหญ่ ผมเลยจุดที่DNFมาแล้ว ทีมถามมันจะถึงด่านนั้นเมื่อไหร่ ผมบอกผ่าน4ด่านครับ เริ่มนับไปเรื่อยๆ ด่านนึงก็ไต่ไปเรื่อย ด่านสองก็ไต่เพิ่มไปอีก จนครบและนั่นคือด่านสุดท้ายบนยอดเนิน เห็นนักปั่นที่ยังรอดค่อยๆไถกันขึ้นไปแต่ทางก้หนืดเอาเรื่องบวกกับลมที่ต้านมา เราดันกันไปจนถึงด่าน
มีนักปั่นหลายท่านรวมกันอยู่และนั่งพักกันมานาน บนนี้ไม่มีอาหารมีแต่ ทหารและรถปฐมพยาบาล น้ำไม่มี มีแต่ความมืดที่เริ่มคลืบคลานเข้ามา ผมเริ่มดูเวลาและเป็นห่วงกลุ่มอื่ที่ตามหลังมาจะทันไหม ตอนนี้ทีมหอยวายุ ทุกคนยังมีใจสู้อยู่พร้อมลุยต่อเพื่อไปยังโป่งน้ำร้อน
CP โป่งน้ำร้อน กิโลที่ 288
จากจุดด่านเราไหลลงมาแต่ได้สักพัก ก็เริ่มเนินรัวๆและมีลมต้านเป็นระยะๆ ความมืดมันเริ่มเข้าปกคลุมแล้ว ความร้อนหายไปความเย็นเริ่มเข้ามาแทน แต่อากาศไม่ค่อยจะดี อากาศหายใจเบาบาง และ อับชื้น เพราะมีสภาพถนนเพิ่งฝนตกผ่านไป ไอร้อนที่พื้นคายออทำให้พื้นที่ชื้นขึ้น ตัวเริ่มเหนียวๆ เราไปกันเรื่อยๆ พลังงานเริ่มจะหมด มันคือภาวะขาด คาร์โบ เราจึงเริ่มหาร้านทาข้าว เจอร้านเข้าให้แล้ว ฝูงนักปั่นเข้าใส่ทันที สั่งข้าวเหมือนกัน มันคือ ข้าวไข่เจียวหมูสับ เราเริ่มจับจองพื้นที่ร้าน คนเมาก้มองเราแปลก ร้องเพลงกันสนุกสนาน เราไม่สนเราหิว
บรรยากาศดูโรแมนติกใต้แสงเทียน ข้าวไข่เจียวอร่อยมากๆเวลานี้ โหลดกันให้เต็มที่ เพราะต่อจากนี้มันยังอีกไกลและเจอเนินอีกเยอะ จบจากการกิน ก็มาย่อย ด้วยพลังแห่งไข่เจียว จงสถิตย์ อยู่กับข้า เพราะไข่เจียวจิงๆทำให้มีแรงดันกันไปต่อจนมาถึงโป่งน้ำร้อน ระยะทางดูไม่ไกลแต่มันคือ กิโลแม้ว ขึ้นไม่เลิกยิ่งใกล้ยิ่งไต่ สองข้างทางทำถนน ไม่ค่อยสู้ดีนัก น้องในทีมน้องเก๋มีปัญหารถตีนผีคดจาการล้มแต่ก็แก้ไขได้ใวเพราะในทีมมีช่างไปด้วยเก่งมากๆ รถเริ่มวิ่งเยอะเบียดเรา ต้องระวังพลาดตกไหล่ทางได้ง่ายๆ เราจึงพยายามเรียงเดี่ยว แต่ก็เริ่มแตกออกไป ตามกำลังขาที่เหลืออยู่แต่ละคน คาดว่าปีหน้าเส้นนี้สวยงามแน่นอน จนมาถึงจุดพัก
จุดนนี้นักปั่นมาฝากของไว้ ได้อาบน้ำ ได้กินข้าวต้ม ได้นอน และ ได้ถอนตัว กันออกไป บางท่านยอมแพ้ที่ตรงนี้กันพอสมควร เพราะง่วงนอน เหนื่อยล้า จุดนี้เป็นจุดวัดใจที่สำคัญว่าไปต่อไหมอีก 100กว่าโล ทีมเราพักไม่นานประมาณเกือบ45นาที เราจึงไปกันต่อ เราออกจากจุดนี้ตอน 5ทุ่มครึ่ง ตามเวลาที่วางไว้ ซึ่งเรามองว่าเวลาน่าจะเหลือเฟือ แต่ดีที่ออกเวลานี้เพราะ ข้างหน้ามันมีเรื่องไม่คาดคิดอีกเพียบ
CP 5 เซเว่น ม.บูรพา ระยะ 354
เสียงทีมเริ่มถามเหมือนเดิมก่อนไป เราจะเจอเนินอีกไหม ผมตอบเจอครับสูงด้วย แต่อึดใจเดียว ก็จะไหลยาวๆลงไปถึง จันทบุรี ครับ ทุกคนวางแผนความเร็วไปเรื่อยๆ25พอ แต่ มันทางขึ้นอึดใจเดียวจิงๆ หลังจากนั้นมันลงเขายาวๆไงครับ ปล่อยไหลประคองกันเป็นหลายๆกิโล ลงมาก็ดันขึ้นไหลลงดันขึ้น สนุกสนานกันมากๆ ยิงกันหูดับตับไหม้ ใจผมรู้สึกเสียดายกับเพื่อนๆหลายคนที่ยอมไปก่อนหน้านี้ เพราะตรงนี้มันโบนัสสุดๆ แต่ แต่ มันมาแล้ว ในเวลาเที่ยงคืนฝนเม็ดแรกกระทบหน้า ความเย็นเปลี่ยน รับรู้ได้ มาแล้วฝน ห่าฝนตกกระหน่ำไม่หยุดหยั้ง เราเริ่มช้าลงมากๆทั้งตก ทั้งลมพายุ เรายังไปต่อ จนถึงที่หมายแบบ เละเทะ
สภาพเริ่มล้า หนาวและหิว เหนื่อย ชุ่มไปด้วยน้ำฝน แต่ไปต่อ
จุดควบคุม เนินนางพญา
ฝนยังคงเล่นเราอยู่เราเข้าเส้นทางหลักเส้นทางคุ้นเคย ถนนเฉลิมบูรพา เราปั่นกันได้ไม่เร็ว และ ประสบปัญหารถในทีม ยางแตก เราเริ่มช้าแต่เราไม่ทิ้งกัน จนพี่แปะสั่งให้แยกออก 2ชุดให้พี่ป้อมคุมชุดแรกไปก่อน เราออกตัวไปจนถึงเนินนางพญา ท่ามกลางฝนที่หนัก เนินก็ยากขึ้นเพราะล้อที่หนืดจากน้ำฝน และ น้ำขัง น้ำไหล มั่วไปหมด
สุนทรภู่ จุดสุดท้ายแห่งชัยชนะ
เริ่มเช้าฝนยังหนักและแรงไม่หยุด เนินที่ง่ายคุ้นเคยก็ยากไม่สิ้นสุด ทั้งเหนื่อยล้า ง่วงนอน แรงแทบหมด กัดฟันมองหน้าและลุยต่อ ผ่านประแสร์แอบคิดไม่ออกตรงนี้วะ แล้วไปต่อ โคตรเหนื่อย ฝนก็ไม่หยุด ไปๆปั่นๆ ไม่พัก จนสุดท้าย ก็ถึง กันทุกคน
จบสักที สีหน้าทุกคนดีใจมีความสุข เราทำได้ ยินดีกับทุกท่าน SR2017 ขอบคุณทีม Windy Snail ที่พาDTคนนึงมาจนสำเร็จ เป็นความทรมานบันเทิงแห่งมิตรภาพ