สวัสดีครับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกๆคนครับ
ขอแนะนำตัวจากกระทู้นี้นะครับ
http://ppantip.com/topic/34004639
กระทู้ ริชซี่ เพื่อนซี้ ปั่น audax 400 สุรินทร์
http://ppantip.com/topic/35219515
กระทู้นี้เป็นเพียงแค่อยากเล่าเรื่องราวเท่านั้น มิไช่กระทู้โชว์เหนือ โฃว์พาว หรืออวดเก่งใดๆทั้งสิ้นนะครับ จากที่เคยไปปั่น audax 600 พัทยา-ตราด ( ฤดูกาล 2015 ) ตอนที่หัดปั่นจักรยานได้ 4 เดือน แล้วปั่นไปได้แค่ 185 กิโลเมตร หมดแรงบนเนินนางพญาไปต่อไม่ได้ หลังจากวันนั้นมันก็ยังคาใจผมมาตลอด
13 สิงหาคม 2559 วันแก้มือมาถึงแล้วหรืออาจเป็นการย้ำแค้นอีกครา ก่อนปั่น audax แทบทุกครั้งผมมักมีปัญหากับตัวเองตลอด ครั้งนี้ก็เช่นกันหยุดปั่นจากข้อเท้าพลิก 1 เดือน หลังจากค่อยยังชั่วแล้วก็มีธุระเยอะ ได้ซ้อมบ้างไม่ได้ซ้อมบ้าง การซ้อมของผมคือปั่นไปกลับทำงานและก่อนหน้าจะถึงวันปั่นประมาณ 2 อาทิตย์ผมรับงานบรรทุกจักรยานส่งนักปั่น นอนดึกตื่นเช้าติดกัน 2 วัน ต้องตื่นไปราชการแต่เช้าอีก 2 วัน และแล้วเพื่อนเก่าก็มาหา เริ่มจากร้อนในปากเป็นแผลใหญ่มาก น้องชายเป็นแผลและเริ่มจะมีอาการแปลกๆที่รูทวารหนักเป็นอันรู้กันว่า ริชซี่ มาแล้วนะก็อัดยาเหมือนเดิมครับ ครั้งนี้ตอนไปปั่นโชคดีที่ ริชซี่ ไม่ออกฤทธิ์ออกเดชมากแค่มีเลือดไหลตอนถ่าย
Audax 600 พัทยา คือระยะเทรินโปร ( ไม่ขอเอ่ยถึง 600 ไทรโยคนะครับ ) สำหรับ Audax 600 พัทยา ครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 3 ผมเคยไปปั่นในครั้งที่ 2 ครั้งนี้แตกต่างจากสองครั้งแรกคือ ระยะไต่ที่เพิ่มขึ้นและจัดไว้ตอนเริ่มต้นกับลงท้าย เริ่มจะสนุกแล้วซิ นักปั่นเยอะมาก 583 คน ทุกคนมีแผนการปั่นของตัวเอง บางคนมาเป็นกลุ่ม บางคนมาเดี่ยว บางคนมาเป็นคู่บัดดี้
ผมเลือกที่จะปั่นเดี่ยวแต่พอดีตกลงกับพี่คนนึงไว้ว่าจะปั่นเป็นบัดดี้กันปั่นด้วยกันไม่มีใครลากใคร แต่มีเหตุที่ต้องแยกทางกันระหว่างทางจากเช๊คพอยท์เนินนางพญาไปเช๊คพอยท์แหลมสิงห์ แผนของผมเป็นโจทย์ที่ยากมากผมซ้อมน้อยถึงน้อยมากแล้วผมจะทำยังไงให้ผมสามารถยืนระยะได้ถึง 600 กิโลเมตร ผมแพ้ทางเนินแล้วผมจะทำยังไงให้ผมสามารถเข้าเช๊คพอยท์ได้ทันเวลา
07:00 ก็ได้เวลาปล่อยตัว ช่วงนี้ร่างกายยังสดและเป็นการปั่นแบบขึ้นๆลงๆ เริ่มโดนฝนระหว่างทางมาเช๊คพอยท์เนินนางพญา ( ช่วงนี้ข้ามไปนะครับ ร่างกายยังสดอยู่ครับ หนังชีวิตยังไม่ฉายครับ )
ถึงแหลมสิงห์ 22:31 เช๊คพอยท์ปิด 23:38 จากจุดนี้ไปตราดร่างกายเริ่มแสดงอาการเล็กน้อย รู้สึกว่าตัวเองปั่นได้ช้าลงเพราะโดนเนินนวดมาตลอดทาง ผมแพ้ทางกันครับเจอเนินปุ๊บง่อย-ทันทีครับ จะเนินซึมเนินสูง เนินสั้น เนินยาว เขาไม่ต้องพูดถึงครับ เข็นอย่างเดียว นาฬิกาก็ไม่มี โทรศัพท์ก็แพคกันฝนอยู่ในเป้ เป้ก็มีผ้ากันละอองฝนสะท้อนแสงครอบอยู่ พอ จบ ไม่ต้องดู ช่วงนี้ท้อหนักมาก ไม่รู้ว่าจะเข้าเช๊คพอยท์ทันมั้ย ตั้งใจว่าถ้าไปถึงตราดแบบร่างกายไม่ไหวหรือเวลาเหลือน้อยก็จะ DNF แล้วนั่งรถตู้กลับพัทยา ปั่นไปร้องเพลงไปคุยกับตัวเองไป คือแบบว่ากลัวผี 555+
ถึงตราดทันเวลา 01:54 เช๊คพอยท์ปิด 03:58 ไฟที่กำลังจะดับลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง เข้าห้องน้ำ กินข้าวต้ม กินน้ำมะพร้าว ไปต่อครับออกจากตราดมาได้ประมาณสิบกว่ากิโลเมตรตาจะปิดง่วงมากครับ เล็งศาลาข้างทางแจ่มๆแล้วก็ปิดไฟเข้านอน ตั้งโทรศัพท์ปลุกไว้ 15 นาที ตื่นมาก็ปั่นกลับแหลมสิงห์ต่อ
ถึงแหลมสิงห์ 06:51 เช๊คพอยท์ปิด 08:18 ออกจากแหลมสิงห์แวะกินข้าวระหว่างทางไปเช๊คพอย์สุนทรภู่ กินข้าวกระเพราะหมู + ไช่ดาว , กระทิงแดง , เป๊บทีน 4000 , น้ำสตอบอรี่ โด้ปมันเข้าไปเพราะเหมือนร่างกายจะแย่
ถึงอนุสาวรีย์สุนทรภู่ 11:45 เช๊คพอยท์ปิด 13:39 กินข้าวเที่ยงที่อนุสาวรีย์แล้วไปต่อเช๊คพอยท์วัดละหารไร่ หลังจากนี้ลมเยอะมากเข้าทั้งซ้าย ขวา หน้าและด้านข้าง แวะพักชายหาดมาตลอดทาง แวะนอนศาลาข้างทางไปอีก 10 นาทีเพราะจะหลับคารถและร่างกายเริ่มประท้วงแล้วครับ ผมเริ่มเบลอ เริ่มผะอืดผะอมจะอ้วก เหมือนจะเป็นลม
ถึงวัดละหารไร่ 17:04 เช๊คพอยท์ปิด 19:22 เย้+++อีกแค่ 60 กิโลเมตรเราก็เข้าเส้นชัยแล้ว ออกมาจากเชีคพอยท์ด้วยหัวใจพองโตแล้วมันก็เริ่มเล็กลงไปเรื่อยๆตามความชันของเนิน เนินแล้วเนินเล่า ของอร่อยต้องเก็บไว้กินตอนท้ายนี่เอง
ถึงเส้นชัย 20:30 จบภารกิจทรมานบันเทิง ได้เป็น SR 2016 ได้แก้มือจากครั้งที่แล้วสำเร็จ ได้พิสูจน์จิตใจตัวเอง ได้เรียนรู้การเอาตัวรอดในเวลาที่ร่างกายกับจิตใจเริ่มไม่สัมพันธ์กัน
ขอบคุณครับที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ สุดท้ายนี้ต้องขอบอกว่า ผมเป็นแค่คนที่เลิกสูบบุหรี่แล้วมาออกกำลังกายโดยการปั่นจักรยานไปทำงาน แล้วได้มารู้จัก audax พอลองได้ปั่นแล้วมันถูกจริตกันผมไม่ได้หวังผลเป็นเลิศทางด้านการปั่น แต่ล่ะคนอาจมีแผนการซ้อมแผนการปั่นในแบบของตนเอง ตัวผมเองก็เช่นกัน ผมไม่เคยสนใจฮาร์ทเรท ไม่เคยสนใจรอบขา
ผมเป็นคนปั่นจักรยานด้วยความรู้สึก รู้สึกว่ามันหนักไปผมก็เบาลง รู้สึกว่าเบาไปผมก็หนักขึ้น ผมไม่สามารถซ้อมเนินซ้อมเขาหนักๆหรือปั่นให้หนักเพื่อรับกับเนินกับเขาได้ เพราะเข่าผมไม่ดีเคยถามหมอแล้วครับหมอบอกถ้าอยากหายขาดต้องผ่าตัด ผมคงไม่ผ่าตัดหัวเข่าเพื่อมาปั่น audax ทางออกของปัญหาของผมก็คือ ซ้อมบ่อยๆถึงเวลาปั่นจริงก็ไปแบบเรื่อยๆ ผมขึ้นเนินช้ามากผมสามารถควงขาได้นะแต่...มันควงไม่ได้แล้วมันขึ้นแบบกะดึบๆขึ้นไปด้วยความเร็ว 8 กิโลเมตรสำหรับเนินชันๆ ผมเป็นคนไม่ค่อยใช้จานหน้าใบใหญ่เพราะผมกลัวผิดจังหวะแล้วเจ็บเข่า ปกติผมปั่นจานหน้าใบเล็กครับ มันเป็นสไตล์ 555+ ปั่น audax ไม่ว่าจะทางราบหรือทางเนินใครจะเร็ว ใครจะแซง ก็ตามสบายครับ ผมเฉยๆ ผมมีความสุขกับการปั่นแบบของผม
อีกอย่างที่อยากบอกสำหรับการปั่นครั้งนี้ว่า ผมท้อหนักมาก 600 ครั้งนี้ผมไม่ได้ซ้อม ผมแพ้เนิน แต่ผมต้องผ่าน โจทย์ที่ผมได้รับในครั้งนี้มันยากมาก คนที่ปั่น 200 300 400 มาแล้วทุกคนต้องอยากผ่าน 600 นอกจากการเอาชนะร่างกายและจิตใจตัวเองแล้วเขาเหล่านั้นมีความฝันอยากเป็น SR ( super randonneur ) ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น วิธีที่ทำให้ผมผ่านครั้งนี้มาได้คือ กำลังใจจากตัวเองครับ ทุกครั้งที่เหนื่อยทุกครั้งที่ท้อ ผมบอกกับตัวเองเสมอว่า ทำได้ ไปเรื่อยๆเหนื่อยก็พัก สูตรใครสูตรมัน ปั่นตามสไตล์ตัวเอง ปั่นตามรอบขาตัวเอง ปรับแผนให้สัมพันธ์กับสถานการณ์ หลายๆคนกลัวการปั่นคนเดียว ( ไม่รวมสุภาพสตรีนะครับ ) ปั่นคนเดียวเราก็ใช้ขาเราปั่น ปั่นกับกลุ่มเราก็ใช้ขาเราปั่น ปั่นไปเถอะครับปั่นคนเดียวก็ผ่านได้ครับ รอบนี้ไม่ได้หมกไม่ได้ดูดใครนะครับเพราะเนินทั้งนั้น เป็นกำลังใจให้กับทุกๆคนที่กำลังเข้ามาปั่น audax นะครับ ซ้อมเยอะๆครับ ซ้อมเยอะจะเหนื่อยน้อยถ้าซ้อมน้อยจะเหนื่อยเยอะครับ โชคดีมีความสุขกับการปั่นทุกคนครับ
super randonneur รุ่น 4
ID:5281
Audax 600 พัทยา กับ sr beginning
ขอแนะนำตัวจากกระทู้นี้นะครับ
http://ppantip.com/topic/34004639
กระทู้ ริชซี่ เพื่อนซี้ ปั่น audax 400 สุรินทร์
http://ppantip.com/topic/35219515
กระทู้นี้เป็นเพียงแค่อยากเล่าเรื่องราวเท่านั้น มิไช่กระทู้โชว์เหนือ โฃว์พาว หรืออวดเก่งใดๆทั้งสิ้นนะครับ จากที่เคยไปปั่น audax 600 พัทยา-ตราด ( ฤดูกาล 2015 ) ตอนที่หัดปั่นจักรยานได้ 4 เดือน แล้วปั่นไปได้แค่ 185 กิโลเมตร หมดแรงบนเนินนางพญาไปต่อไม่ได้ หลังจากวันนั้นมันก็ยังคาใจผมมาตลอด
13 สิงหาคม 2559 วันแก้มือมาถึงแล้วหรืออาจเป็นการย้ำแค้นอีกครา ก่อนปั่น audax แทบทุกครั้งผมมักมีปัญหากับตัวเองตลอด ครั้งนี้ก็เช่นกันหยุดปั่นจากข้อเท้าพลิก 1 เดือน หลังจากค่อยยังชั่วแล้วก็มีธุระเยอะ ได้ซ้อมบ้างไม่ได้ซ้อมบ้าง การซ้อมของผมคือปั่นไปกลับทำงานและก่อนหน้าจะถึงวันปั่นประมาณ 2 อาทิตย์ผมรับงานบรรทุกจักรยานส่งนักปั่น นอนดึกตื่นเช้าติดกัน 2 วัน ต้องตื่นไปราชการแต่เช้าอีก 2 วัน และแล้วเพื่อนเก่าก็มาหา เริ่มจากร้อนในปากเป็นแผลใหญ่มาก น้องชายเป็นแผลและเริ่มจะมีอาการแปลกๆที่รูทวารหนักเป็นอันรู้กันว่า ริชซี่ มาแล้วนะก็อัดยาเหมือนเดิมครับ ครั้งนี้ตอนไปปั่นโชคดีที่ ริชซี่ ไม่ออกฤทธิ์ออกเดชมากแค่มีเลือดไหลตอนถ่าย
Audax 600 พัทยา คือระยะเทรินโปร ( ไม่ขอเอ่ยถึง 600 ไทรโยคนะครับ ) สำหรับ Audax 600 พัทยา ครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 3 ผมเคยไปปั่นในครั้งที่ 2 ครั้งนี้แตกต่างจากสองครั้งแรกคือ ระยะไต่ที่เพิ่มขึ้นและจัดไว้ตอนเริ่มต้นกับลงท้าย เริ่มจะสนุกแล้วซิ นักปั่นเยอะมาก 583 คน ทุกคนมีแผนการปั่นของตัวเอง บางคนมาเป็นกลุ่ม บางคนมาเดี่ยว บางคนมาเป็นคู่บัดดี้
ผมเลือกที่จะปั่นเดี่ยวแต่พอดีตกลงกับพี่คนนึงไว้ว่าจะปั่นเป็นบัดดี้กันปั่นด้วยกันไม่มีใครลากใคร แต่มีเหตุที่ต้องแยกทางกันระหว่างทางจากเช๊คพอยท์เนินนางพญาไปเช๊คพอยท์แหลมสิงห์ แผนของผมเป็นโจทย์ที่ยากมากผมซ้อมน้อยถึงน้อยมากแล้วผมจะทำยังไงให้ผมสามารถยืนระยะได้ถึง 600 กิโลเมตร ผมแพ้ทางเนินแล้วผมจะทำยังไงให้ผมสามารถเข้าเช๊คพอยท์ได้ทันเวลา
07:00 ก็ได้เวลาปล่อยตัว ช่วงนี้ร่างกายยังสดและเป็นการปั่นแบบขึ้นๆลงๆ เริ่มโดนฝนระหว่างทางมาเช๊คพอยท์เนินนางพญา ( ช่วงนี้ข้ามไปนะครับ ร่างกายยังสดอยู่ครับ หนังชีวิตยังไม่ฉายครับ )
ถึงแหลมสิงห์ 22:31 เช๊คพอยท์ปิด 23:38 จากจุดนี้ไปตราดร่างกายเริ่มแสดงอาการเล็กน้อย รู้สึกว่าตัวเองปั่นได้ช้าลงเพราะโดนเนินนวดมาตลอดทาง ผมแพ้ทางกันครับเจอเนินปุ๊บง่อย-ทันทีครับ จะเนินซึมเนินสูง เนินสั้น เนินยาว เขาไม่ต้องพูดถึงครับ เข็นอย่างเดียว นาฬิกาก็ไม่มี โทรศัพท์ก็แพคกันฝนอยู่ในเป้ เป้ก็มีผ้ากันละอองฝนสะท้อนแสงครอบอยู่ พอ จบ ไม่ต้องดู ช่วงนี้ท้อหนักมาก ไม่รู้ว่าจะเข้าเช๊คพอยท์ทันมั้ย ตั้งใจว่าถ้าไปถึงตราดแบบร่างกายไม่ไหวหรือเวลาเหลือน้อยก็จะ DNF แล้วนั่งรถตู้กลับพัทยา ปั่นไปร้องเพลงไปคุยกับตัวเองไป คือแบบว่ากลัวผี 555+
ถึงตราดทันเวลา 01:54 เช๊คพอยท์ปิด 03:58 ไฟที่กำลังจะดับลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง เข้าห้องน้ำ กินข้าวต้ม กินน้ำมะพร้าว ไปต่อครับออกจากตราดมาได้ประมาณสิบกว่ากิโลเมตรตาจะปิดง่วงมากครับ เล็งศาลาข้างทางแจ่มๆแล้วก็ปิดไฟเข้านอน ตั้งโทรศัพท์ปลุกไว้ 15 นาที ตื่นมาก็ปั่นกลับแหลมสิงห์ต่อ
ถึงแหลมสิงห์ 06:51 เช๊คพอยท์ปิด 08:18 ออกจากแหลมสิงห์แวะกินข้าวระหว่างทางไปเช๊คพอย์สุนทรภู่ กินข้าวกระเพราะหมู + ไช่ดาว , กระทิงแดง , เป๊บทีน 4000 , น้ำสตอบอรี่ โด้ปมันเข้าไปเพราะเหมือนร่างกายจะแย่
ถึงอนุสาวรีย์สุนทรภู่ 11:45 เช๊คพอยท์ปิด 13:39 กินข้าวเที่ยงที่อนุสาวรีย์แล้วไปต่อเช๊คพอยท์วัดละหารไร่ หลังจากนี้ลมเยอะมากเข้าทั้งซ้าย ขวา หน้าและด้านข้าง แวะพักชายหาดมาตลอดทาง แวะนอนศาลาข้างทางไปอีก 10 นาทีเพราะจะหลับคารถและร่างกายเริ่มประท้วงแล้วครับ ผมเริ่มเบลอ เริ่มผะอืดผะอมจะอ้วก เหมือนจะเป็นลม
ถึงวัดละหารไร่ 17:04 เช๊คพอยท์ปิด 19:22 เย้+++อีกแค่ 60 กิโลเมตรเราก็เข้าเส้นชัยแล้ว ออกมาจากเชีคพอยท์ด้วยหัวใจพองโตแล้วมันก็เริ่มเล็กลงไปเรื่อยๆตามความชันของเนิน เนินแล้วเนินเล่า ของอร่อยต้องเก็บไว้กินตอนท้ายนี่เอง
ถึงเส้นชัย 20:30 จบภารกิจทรมานบันเทิง ได้เป็น SR 2016 ได้แก้มือจากครั้งที่แล้วสำเร็จ ได้พิสูจน์จิตใจตัวเอง ได้เรียนรู้การเอาตัวรอดในเวลาที่ร่างกายกับจิตใจเริ่มไม่สัมพันธ์กัน
ขอบคุณครับที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ สุดท้ายนี้ต้องขอบอกว่า ผมเป็นแค่คนที่เลิกสูบบุหรี่แล้วมาออกกำลังกายโดยการปั่นจักรยานไปทำงาน แล้วได้มารู้จัก audax พอลองได้ปั่นแล้วมันถูกจริตกันผมไม่ได้หวังผลเป็นเลิศทางด้านการปั่น แต่ล่ะคนอาจมีแผนการซ้อมแผนการปั่นในแบบของตนเอง ตัวผมเองก็เช่นกัน ผมไม่เคยสนใจฮาร์ทเรท ไม่เคยสนใจรอบขา
ผมเป็นคนปั่นจักรยานด้วยความรู้สึก รู้สึกว่ามันหนักไปผมก็เบาลง รู้สึกว่าเบาไปผมก็หนักขึ้น ผมไม่สามารถซ้อมเนินซ้อมเขาหนักๆหรือปั่นให้หนักเพื่อรับกับเนินกับเขาได้ เพราะเข่าผมไม่ดีเคยถามหมอแล้วครับหมอบอกถ้าอยากหายขาดต้องผ่าตัด ผมคงไม่ผ่าตัดหัวเข่าเพื่อมาปั่น audax ทางออกของปัญหาของผมก็คือ ซ้อมบ่อยๆถึงเวลาปั่นจริงก็ไปแบบเรื่อยๆ ผมขึ้นเนินช้ามากผมสามารถควงขาได้นะแต่...มันควงไม่ได้แล้วมันขึ้นแบบกะดึบๆขึ้นไปด้วยความเร็ว 8 กิโลเมตรสำหรับเนินชันๆ ผมเป็นคนไม่ค่อยใช้จานหน้าใบใหญ่เพราะผมกลัวผิดจังหวะแล้วเจ็บเข่า ปกติผมปั่นจานหน้าใบเล็กครับ มันเป็นสไตล์ 555+ ปั่น audax ไม่ว่าจะทางราบหรือทางเนินใครจะเร็ว ใครจะแซง ก็ตามสบายครับ ผมเฉยๆ ผมมีความสุขกับการปั่นแบบของผม
อีกอย่างที่อยากบอกสำหรับการปั่นครั้งนี้ว่า ผมท้อหนักมาก 600 ครั้งนี้ผมไม่ได้ซ้อม ผมแพ้เนิน แต่ผมต้องผ่าน โจทย์ที่ผมได้รับในครั้งนี้มันยากมาก คนที่ปั่น 200 300 400 มาแล้วทุกคนต้องอยากผ่าน 600 นอกจากการเอาชนะร่างกายและจิตใจตัวเองแล้วเขาเหล่านั้นมีความฝันอยากเป็น SR ( super randonneur ) ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น วิธีที่ทำให้ผมผ่านครั้งนี้มาได้คือ กำลังใจจากตัวเองครับ ทุกครั้งที่เหนื่อยทุกครั้งที่ท้อ ผมบอกกับตัวเองเสมอว่า ทำได้ ไปเรื่อยๆเหนื่อยก็พัก สูตรใครสูตรมัน ปั่นตามสไตล์ตัวเอง ปั่นตามรอบขาตัวเอง ปรับแผนให้สัมพันธ์กับสถานการณ์ หลายๆคนกลัวการปั่นคนเดียว ( ไม่รวมสุภาพสตรีนะครับ ) ปั่นคนเดียวเราก็ใช้ขาเราปั่น ปั่นกับกลุ่มเราก็ใช้ขาเราปั่น ปั่นไปเถอะครับปั่นคนเดียวก็ผ่านได้ครับ รอบนี้ไม่ได้หมกไม่ได้ดูดใครนะครับเพราะเนินทั้งนั้น เป็นกำลังใจให้กับทุกๆคนที่กำลังเข้ามาปั่น audax นะครับ ซ้อมเยอะๆครับ ซ้อมเยอะจะเหนื่อยน้อยถ้าซ้อมน้อยจะเหนื่อยเยอะครับ โชคดีมีความสุขกับการปั่นทุกคนครับ
super randonneur รุ่น 4
ID:5281