อัคควา เป็น 1 ในสมาชิกของกลุ่ม God's Right Seat (บัลลังก์ขวาแห่งพระเจ้า) และเขายังเป็นผู้สังกัดคุณสมบัติและตัวแทนของ "ทูตสวรรค์กาบริเอล (พลังแห่งพระเจ้า)" โดยอัคควานั้นมีชื่อจริงว่า "วิลเลี่ยม ออร์เวล" และเขายังเคยได้รับตำแหน่ง "กลุ่มอัศวิน" (แต่เจ้าตัวดันปฏิเสธ) อัคความีอาวุธประจำตัวดั้งเดิมคือ "กระบองยักษ์" ที่มีขนาดยาวกว่า 5 เมตร แต่เขาได้สูญเสียกระบองยักษ์ไปในศึกการต่อสู้กับ "คันซากิ คาโอริ" และ "กลุ่มนิกายอามาคุสะ" และตอนที่กลับมายังอังกฤษเพื่อหยุดยั้งการก่อรัฐประหารของ "เจ้าหญิงคาริสซ่า" เขาก็ได้รับอาวุธใหม่คือ "ดาบศักดิ์สิทธิ์อัสคาลอน"


โดยอัคควาได้ปรากฎตัวครั้งแรกในช่วงท้ายของอนิเมะ Index SS 2 และได้สู้กับโทวมะใน OT เล่ม 16 โดยเขาได้บอกโทวมะว่าตนเองนั้นคือ "นักบุญ" ซึ่งเขายังเป็นคนที่สามารถเอาชนะโทวมะในการต่อสู้ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย และยังเป็นคู่ต่อสู้ที่แม้แต่ "คันซากิ คาโอริ" ที่เป็นนักบุญเช่นเดียวกันก็ยังเทียบไม่ติด


โดยชื่อของอัคควานั้นเป็นคำศัพท์ของภาษาอิตาลีที่มีความหมายว่า "น้ำ" บุคลิกและรูปร่างที่เด่นชัดของอัคควาคือ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร รอบคอบ และสุภาพ เป็นคนที่ดูจะพูดจารู้เรื่องที่สุดแล้วในกลุ่ม อัคความีผมและดวงตาสีน้ำตาล มีใบหน้าที่ดูสุขุมรอบคอบ มีร่างกายที่เต็มเปี่ยมไปด้วยกล้ามเนื้อ ซึ่งแตกต่างจากสมาชิกคนอื่นของบัลลังก์ขวาแห่งพระเจ้าที่แต่ละคนในกลุ่มมีร่างกายที่ค่อนข้างผอมเมื่อเทียบกับเขา โดยนามอาคมของอัคควาแห่งเบื้องหลังนั้นคือ "Flere 210 (ผู้ที่เปลี่ยนแปลงเหตุผลของน้ำตา)"

อย่างที่เรารู้ว่าอัคควานั้นนอกจากจะเป็นสมาชิกของ "บัลลังก์ขวาแห่งพระเจ้า" ที่มีอยู่แค่ 4 คนแล้ว อัคควาเองก็ยังเป็น 1 ใน "นักบุญ" ที่มีอยู่ไม่ถึง 20 คนทั่วโลก ซึ่งถือเป็นเรื่องที่แปลกที่นักบุญจะมาเข้าร่วมในกลุ่มบัลลังก์ขวาแห่งพระเจ้า เราจึงจะพูดถึงรายละเอียดของ "นักบุญ" กับ "บัลลังก์ขวาแห่งพระเจ้า" ซะก่อน


นักบุญ (Saint) - คือมนุษย์ที่เกิดมาพร้อมกับร่างกายที่มีคุณสมบัติของ "พระบุตร (พระเยซู)" ทุกประการ โดยไม่เจาะจงแยกแยะว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย และนักบุญจะมี "Stigma (บาดแผลศักดิ์สิทธิ์)" ที่เป็นหลักฐานของความเป็นนักบุญติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด ทำให้นักบุญสามารถหยิบยืม "Telesma (พลังแห่งเทวดา)" มาไว้ในร่างกายและสามารถควบคุมมันได้ (คนธรรมดาก็สามารถยืม Telesma ได้เช่นกัน แต่ไม่อาจนำเข้าสู่ร่างกายโดยตรงเหมือนนักบุญได้ ต้องใช้อาวุธที่เรียกว่า "ซิมโบลิคเวพ่อน" เป็นสื่อกลาง) จึงนำมาซึ่งพลังที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของมนุษย์ เช่น มีพลังกายขั้นสุดยอด มีความเร็วมหาศาล แค่นักบุญวิ่งผ่านคนก็ทำให้ตายได้ทันที และพวกนักบุญก็สามารถมีชีวิตอยู่ในอวกาศได้ ถ้าจะให้เปรียบ ตัวนักบุญนั้นก็เหมือนอุกกาบาตขนาดใหญ่พุ่งชนโลก และที่สำคัญคือ ถึงยามปกติแม้จะไม่ได้ใช้เวทย์มนต์ใดๆ พวกนักบุญก็จะมี "ความโชคดี" ติดตัวเสมือนเป็นพรประจำตัวที่พระเจ้ามอบให้


บัลลังก์ขวาแห่งพระเจ้า (God's Right Seat) - คือมนุษย์ที่เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นตัวตนที่ใกล้เคียงกับ "ทูตสวรรค์" โดยการลบล้าง "Original Sin (บาปต้นกำเนิด)" ออกไป (ในเรื่องยังไม่มีวิธีที่สามารถลบล้างบาปต้นกำเนิดได้หมด เพียงแค่ทำให้เบาบางที่สุดเท่านั้น) ทำให้บัลลังก์ขวาแห่งพระเจ้าสามารถใช้เวทมนตร์ระดับทูตสวรรค์ที่อยู่นอกเหนือที่ขีดจำกัดของมนุษย์จะสามารถใช้ได้ แต่เนื่องจากการไม่มีบาปต้นกำเนิดซึ่งเกิดจากผลแห่งความรู้ในสวนอีเดน จึงทำให้บัลลังก์ขวาแห่งพระเจ้าขาดคุณสมบัติและไม่สามารถใช้เวทมนตร์ของมนุษย์ธรรมดาได้เช่นกัน สาเหตุที่กลุ่มชื่อว่าบัลลังก์ขวาก็เพราะว่า พวกเขาเชื่อว่าการที่ได้อยู่เบื้องขวาของพระเจ้านั้นเท่ากับว่าได้สิทธิ์ทัดเทียมกับพระเจ้า แต่พระเจ้านั้นไม่สามารถวิวัฒนาการไปมากกว่านี้ได้อีก แต่ผู้ที่อยู่เบื้องขวานั้นไม่ใช่พระเจ้า แต่มีศักดิ์เท่าเทียมกัน จึงสามารถวิวัฒนาการไปได้อีกขั้น ซึ่งก็คือ "ผู้อยู่เหนือพระเจ้า" นั่นเอง

Divine Mother's Mercy (ความกรุณาของพระแม่ศักดิ์สิทธิ์)
"ความกรุณาของพระแม่ศักดิ์สิทธิ์" หรือ "เซโบะ โนะ จิฮิ" ต้องขออธิบายก่อนว่า แม้นักบุญจะสามารถนำ Telesma มาใช้ได้ แต่การควบคุมพลังนั้นทำได้ยากที่สุด อีกทั้งที่สุดแล้ว ร่างของนักบุญก็ยังเป็นมนุษย์ไม่ใช่ทูตสวรรค์ ดังนั้นหากนักบุญใช้พลังมากเกินพิกัด ก็จะทำให้ร่างกายพังทลายจนถึงตายได้ ดังนั้นนักบุญจึงไม่อาจใช้พลังเต็ม 100% ได้ แต่ว่า "ในหมู่คนพิเศษมักจะมีคนที่พิเศษกว่าเสมอ" ในนักบุญจำนวนไม่ถึง 20 คนทั่วโลก ก็มีคนที่เป็นกรณีพิเศษอยู่ นั่นคือ "อัคควาแห่งเบื้องหลัง"


อัคควานั้นนับว่าเป็นกรณีพิเศษที่หาตัวได้ยากที่สุด เพราะเป็นนักบุญที่มีทั้งคุณสมบัติของ "พระบุตร (พระเยซู)" และ "พระแม่ศักดิ์สิทธิ์ (พระแม่มารี)" อยู่ในตัวคนเดียว ทำให้อัคควาถูกเรียกอีกอย่างว่า "นักบุญ 2 คุณสมบัติ" และด้วยคุณสมบัติดังกล่าว เมื่ออัคความาเป็นสมาชิกของบัลลังก์ขวาแห่งพระเจ้า จึงสามารถใช้เวทย์มนตร์แห่งทูตสววรค์ "Divine Mother's Mercy (ความกรุณาของพระแม่ศักดิ์สิทธิ์)" ซึ่งเป็นเวทย์มนตร์ที่มีความเกี่ยวข้องกับ "ทูตสวรรค์กาบริเอล" ที่ตัวอัคควาเป็นผู้สังกัดคุณสมบัติได้ (ตามตำนาน "กาบริเอล" คือทูตสวรรค์ที่มาแจ้งพระแม่มารีเรื่องการตั้งครรภ์พระเยซู) หรือก็คือ เวทย์นี้เป็นพิธีลับในการบูชาพระแม่มารีได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งผลที่ได้รับจากการบูชาพระแม่มารีคือ "การลดทอนบทลงโทษอันรุนแรง"


โดยที่ผลของเวทย์ Divine Mother's Mercy ก็คือ "การหลีกเลี่ยง-ขจัด-ยกเลิก เงื่อนไข, หลีกเลี่ยง-ขจัด-ยกเลิก ข้อผูกมัด และหลีกเลี่ยง-ขจัด-ยกเลิก ข้อจำกัดใดๆก็ตามออกไปทั้งหมด" ทำให้อัคควาสามารถใช้พลังของนักบุญได้เต็ม 100% โดยไม่มีข้อจำกัดทางร่างกายอีกต่อไป เพราะขจัดขีดจำกัดของนักบุญออกไปจนหมด อัคควาจึงมีความแข็งแกร่งกว่านักบุญคนอื่นๆอย่างมาก อีกทั้งเพราะผลของเวทย์ความกรุณาของพระแม่ศักดิ์สิทธิ์ยังทำให้สามารถใช้เวทย์ของมนุษย์ธรรมดาได้ โดยการ "หลีกเลี่ยง-ขจัด-ยกเลิก ข้อจำกัดในเรื่องบาปต้นกำเนิดของบัลลังก์ขวาแห่งพระเจ้า" ออกไปได้อีก


เหตุผลที่เวทย์นี้สามารถขจัดข้อผูกมัดต่างๆได้ เพราะตามตำนานกล่าวไว้ว่าผู้ศรัทธา "พระบุตร" จะได้รับการช่วยเหลือ และจะมอบบทลงโทษอันรุนแรงให้กับผู้ที่ไม่ศรัทธา แต่การบูชา "พระแม่มารี" จะช่วยลดทอนบทลงโทษ ดังนั้น "พระแม่มารี" จึงเป็นตัวตนอันหาได้ยากที่ได้เหยียบย่างเข้าไปสู่ "อาณาจักรของพระเจ้า" ทั้งๆที่พระแม่มารีเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา ผิดกับพระบุตรที่ถือกำเนิดในฐานะมนุษย์ พระบิดา และพระจิต ดังนั้นพระแม่มารีจึงเป็นมนุษย์ธรรมดาที่ "มีจิตใจเมตตาเปี่ยมล้น คอยยื่นคำร้องของมนุษย์ธรรมดาผู้ทรมานเพราะโทษทัณฑ์ต่อพระเจ้า"


ตัวอัคควาที่บูชาพระแม่มารีจึงได้รับเวทมนตร์ Divine Mother's Mercy ที่มีคุณลักษณะของพระแม่มารีในการลบล้างโทษทัณฑ์ บิดเบือนได้แม้กระทั่งการพิพากษาครั้งสุดท้ายอันเที่ยงธรรมของพระเจ้า เปลี่ยนแปลงป้ายบอกทางสำหรับส่งดวงวิญญาณไปสวรรค์กับนรก และบทลงโทษต่อความผิดและความชั่วร้ายทั้งปวงล้วนไม่มีผลต่อผู้บูชาพระแม่มารีอย่างอัคควา จึงเรียกได้ว่านี่เป็นคู่ต่อสู้ที่ "โทวมะ" ไม่อาจต่อกรได้เลย เพราะพลังกายของอัคควาไม่สามารถถูกลบล้างไปด้วย Imagine Breaker


แต่ถึงตัวเวทย์จะโหด แต่ตัวอัคควาก็มีจุดอ่อนอยู่ เพราะมีคุณสมบัติของ "พระบุตร" และ "พระแม่มารี" อยู่ในร่างเดียว ทำให้อัคควาแตกต่างกับนักบุญทั่วไปที่ปกติจะพยายามทำให้พลังคงที่ ผิดกับอัคควาที่พยายามทำให้พลังเกินขอบเขต อัคควาจึงอ่อนแอต่อพิธีกรรม "ทลายนักบุญ" กว่านักบุญคนไหนๆในโลก ซึ่งทลายนักบุญเป็นพิธีที่จะทำลายจุดเด่นทางร่างกายที่เหมือนพระบุตรของนักบุญ ทำให้นักบุญที่โดนเวทย์นี้เข้าไปจะไม่สามารถขยับได้ชั่วคราว และยิ่งเป็นอัคควาที่มีพลังถึง 2 คุณสมบัติ ถ้าโดนเข้าไปก็จะทำให้พลังที่แข็งแกร่งในร่างกายรวนไปหมดจนทำให้ร่างระเบิด

Moon Spell (คำสะกดแห่งดวงจันทร์)
นอกจากนี้อัคควายังสามารถใช้ Moon Spell ที่มีความเกี่ยวข้องกับดวงจันทร์ได้อีกด้วย นั้นคือ "T H M I M S S P (พระเมตตาของพระแม่มารีจักช่วยผ่อนปรนบทลงโทษ)" จะทำให้ดวงจันทร์เปล่งแสงตอบรับคำพูดของอัคควา และตัวอัคควาก็จะได้รับความคุ้มครองจากดวงจันทร์จากการบูชาพระแม่มารี, "T C T C D B P T T R O G B W I M A A T H (บางครั้ง พลังนี้จะร้องเรียนต่อเหตุผลของพระเจ้า และถูกห่อหุ้มด้วยความเมตตาลอยสู่สวรรค์)" จะทำให้พลังอันมหาศาลของดวงจันทร์มาสถิตอยู่ในกระบองยักษ์ของอัคควา และแรงพลังทำลายของกระบองยักษ์ที่ได้รับพลังงานจากดวงจันทร์จะมีอนุภาพเกินกว่าการปะทะกันของดาวเคราะห์น้อย


Rune Magic/Water Manipulation (เวทย์รูนและพลังควบคุมน้ำ)
อัคควายังสามารถใช้เวทย์ธรรมดาอย่าง "Laguz (รูนแห่งน้ำ)" วิชาเวทย์ที่ว่ากันว่าเป็นขั้นพื้นฐานธรรมดาที่สุด แต่กลับเป็นตัวแทนวิชาเวทย์ทั้งหมด และเวทย์ธาตุน้ำของอัคควายังจัดว่าอยู่ในระดับสุดยอด เช่น

-สามารถควบคุมน้ำให้รวมกันเป็นก้อนน้ำขนาดมหึมาที่มีรัศมี 2 กิโลเมตร ซึ่งมีน้ำหนักถึง 5,000 ตัน กลางอากาศแล้วใช้งานมันได้อย่างอิสระ ทั้งการสร้างเป็นวงเวทย์กลางอากาศ การโจมตีในรูปแบบต่างๆ ทั้งค้อน หอก ดาบ

-สามารถควบคุมน้ำขนาด 30 เมตร จำนวนมหาศาล มาใช้โจมตีและไล่ต้อนศัตรูจากทุกทิศทาง

-สามารถทำให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็งมาใช้โจมตี

-สามารถสร้างชั้นน้ำระหว่างเท้าเพื่อทำการสไลด์บนพื้นแทนการวิ่ง

และยังสามารถใช้วิชาเวทย์ยอดนิยมอย่าง "ขับไล่คน" ที่จะทำให้คนธรรมดาที่อยู่รอบๆบริเวณจะออกไปจากจุดที่อัคควาทำการขับไล่โดยไม่รู้สึกตัว และสามารถใช้เวทย์รักษาบาดแผลได้อีกด้วย

Great Sword Ascalon (ดาบศักดิ์สิทธิ์อัสคาลอน)
ดาบที่ถูกสร้างขึ้นโดยใช้การอ้างอิงคอนเซ็ปมาจากดาบศักดิ์สิทธิ์ในตำนานที่ "เซ็นต์จอร์จ" ใช้สังหารมังกรชั่วร้าย (ตัวที่เป็นต้นกำเนิดเวทย์ดราก้อนเบรธของอินเดกซ์) ตัวดาบมีขนาด 465.5 เซนติเมตร มีคุณสมบัติในการโจมตีเพื่อสังหารมังกรถึง 7 อย่างด้วยกัน และภายในดาบใหญ่นี้เองก็มีดาบเล่มเล็กเก็บซุกซ่อนไว้อยู่อีก 1 เล่ม โดยเมื่ออัสคาลอนจะแสดงคุณสมบัติก็จะเปล่งแสงสีออกมา และที่ตัวดาบก็จะมีสัญลักษณ์เป็นโล่ห์ที่มีตราของ มังกร ยูนิคอร์น และซิลกี้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ "คณะอัศวิน" โดยตัวดาบมีคุณสมบัติในการฆ่ามังกรดังนี้

สีแดง : คมมีดหนาเหมือนขวานใช้ฟันกล้ามเนื้อของมังกร
สีฟ้า : คมมีดบางเหมือนมีดโกนใช้เฉือนไขมันของมังกร
สีเขียว : เดือยแหลมตรงกลางดาบใช้ตัดเกล็ดของมังกร
สีเหลือง : ลวดที่เหมือนเลื่อยฉลุตรงตัวดาบใช้ตัดอวัยวะของมังกร
สีม่วง : เลื่อยขนาดใหญ่หลังดาบใช้ตัดกระดูกของมังกร
สีชมพู : เดือยรูปตะขอใกล้ปลายดาบใช้งัดฟันของมังกร
สีขาว : เดือยในการต่อสู้ระยะประชิดใช้ตัดเส้นประสาทของมังกร

ในภายหลังนอกจากเขาจะช่วยหยุดการปฏิวัติอังกฤษแล้ว อัคควาก็ยังได้ช่วยชีวิต "ฮามาสึระ ชิอาเกะ" และได้เสียสละตัวเองเพื่อลดทอนพลังของ "ทูตสวรรค์กาบริเอล" เพื่อให้ "แอคเซลาเรเตอร์" และ "คาซาคิริ เฮียวกะ" สามารถต่อสู้กับ "กาบริเอล" ได้อย่างสูสี จึงทำให้ตัวเขาที่ยอมสละชีวิตสูญเสียพลังในฐานะของนักบุญและพระแม่มารีในระหว่างสงครามโลกครั้งที 3 ไป ในขณะที่เขากำลังจะตาย ก็ได้ฮามาสึระที่ต้องการตอบแทนบุญคุณช่วยเหลือเอาไว้ ปัจจุบันอัคควาก็ไม่มีพลังของนักบุญอีกแล้ว แต่ความยิ่งใหญ่ของเขาก็จะยังเป็นตำนานตลอดไป !!!

Credit : https://www.facebook.com/1109409519121239/photos/a.1111547768907414.1073741828.1109409519121239/1116205965108261/?type=3