ชีวประวัติ นักบุญลูซี่ อี เจิ่นเหมย (Saint Lucy Yi Zhenmei - 易貞美)



     นักบุญลูซี่ อี เจิ่นเหมย เป็นแบบอย่างของชาวจีนผู้เป็นผู้ทนทุกข์ทรมานจากการเป็นมรณสักขีเมื่ออายุได้ 47 ปี และได้แสดงให้เห็นถึงคุณธรรมตั้งแต่วัยเด็ก นักบุญลูซี่ อี เจิ่นเหมย (ค.ศ. 1815 - ค.ศ. 1862) เป็นบุตรคนสุดท้องจากพี่น้องทั้งหมด 5 คน เกิดที่เมืองเหมียนหยาง (Mianyang - 綿陽) ในครอบครัวที่เพิ่งกลับใจมานับถือศาสนาคริสต์จากเดิมที่นับถือศาสนาพุทธฝ่ายบิดา


นักบุญลูซี่ อี เจิ่นเหมย (Saint Lucy Yi Zhenmei - 易貞美

     นักบุญลูซี่รู้สึกสนใจในตัวซิสเตอร์ผู้เป็นธรรมทูต จึงได้ถือพรหมจรรย์ให้กับพระเจ้าเมื่ออายุได้ 12 ปี อย่างไรก็ตาม ท่านเคยสัญญาที่จะแต่งงาน และเนื่องจากไม่รู้ว่าจะทำให้ตัวเองออกจากคำสัญญานี้ได้อย่างไร ขณะเดียวกันก็ต้องการถือพรหมจรรย์ไว้ด้วย ท่านจึงแกล้งทำตัวเสียสติ และสามีของท่านจึงยกเลิกแผนการแต่งงานของเขา

     ในช่วงหลายปีที่ใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองเหมียนหยาง นักบุญลูซี่ได้สอนคำสอนแก่บรรดาเด็กๆ เนื่องจากคุณพ่อประจำเขตวัดได้เห็นถึงความรู้เกี่ยวกับหลักคำสอนของคริสตศาสนาของท่าน หลังจากที่บิดาของท่านเสียชีวิต นักบุญลูซี่ได้ย้ายไปที่ฉงชิ่ง (Chongqing - 重慶市) พร้อมกับมารดาและพี่ชายที่เป็นหมอ คุณพ่อขอให้เธอช่วยสอนคำสอนแก่บรรดาสตรี ซึ่งเป็นพันธกิจที่นักบุญลูซี่ทำด้วยความชื่นชมยินดี โดยปฏิเสธที่จะรับเงินตอบแทน ต่อมา ท่านได้ย้ายไปที่มณฑลกุ้ยโจว (Guizhou - 貴州省) ซึ่งท่านได้รับคำชื่นชมจากบิชอป และได้พบกับ ”ฌอง-ปีแอร์ นีล (Jean-Pierre Néel)“ (ค.ศ. 1832 - ค.ศ. 1862) มิชชันนารีชาวฝรั่งเศส ซึ่งเป็นพระสงฆ์คณะมิสซังต่างประเทศแห่งกรุงปารีส (Society of Foreign Missions of Paris - Missions étrangères de Paris - MEP) ซึ่งได้เดินทางไปประเทศจีนในเดือนสิงหาคมปีค.ศ. 1858 คุณพ่อฌอง-ปีแอร์ นีลได้มอบความไว้วางใจให้นักบุญลูซี่ดูแลบรรดาสตรีที่ต้องการเรียนคำสอนของพระคริสต์ และท่านนักบุญก็ได้พิสูจน์อีกครั้งว่า ท่านมีคุณค่าจริงๆ เพราะท่านพูดภาษาจีนได้ กับการเป็นประจักษ์พยานที่ชัดเจนและความซื่อสัตย์ต่อพระบัญญัติของพระเจ้าของท่านทำให้ผู้คนสงสัยว่า ความสุขของท่านมาจากที่ไหน


นักบุญคุณพ่อ ”ฌอง-ปีแอร์ นีล (Jean-Pierre Néel)“ (ค.ศ. 1832 - ค.ศ. 1862) มิชชันนารีชาวฝรั่งเศส ซึ่งเป็นพระสงฆ์คณะมิสซังต่างประเทศแห่งกรุงปารีส (Society of Foreign Missions of Paris - Missions étrangères de Paris - MEP) ซึ่งได้เดินทางไปประเทศจีนในเดือนสิงหาคมปีค.ศ. 1858 คุณพ่อฌอง-ปีแอร์ นีลได้มอบความไว้วางใจให้นักบุญลูซี่ดูแลบรรดาสตรีที่ต้องการเรียนคำสอนของพระคริสต์
ท่านถูกจับกุมเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พร้อมกับบรรดาครูคำสอน และถูกประหารชีวิต
ท่านได้รับการประกาศเป็นนักบุญโดยนักบุญพระสันตะปาปาจอห์ยอห์น ปอลที่ 2 (Saint Pope John Paul II) เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 2000


     ในเวลานั้น การเบียดเบียนศาสนาคริสต์ได้เริ่มขึ้นอีกครั้งตามคำสั่งของเทียน ซิงซู่ (Tian Xingshu) เจ้าหน้าที่ระดับสูงของมณฑลกุ้ยโจว ซึ่งเกลียดศาสนาคริสต์และไม่พอใจที่ชาวต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง นักบุญคุณพ่อฌอง-ปีแอร์ นีลถูกจับกุมเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พร้อมกับบรรดาครูคำสอน นักบุญมาร์ติน หวู่ เซ่อเซิง (Martin Wu Xuesheng) , นักบุญจอห์น เฉิน เซียนเฮิง (John Chen Xianheng) และ นักบุญจอห์น จาง เทียนเชิน (John Zhang Tianshen - 張天申若望) ซึ่งรับศีลล้างบาปเพียง 2 วันก่อน และได้สั่งสอนคำสอนของศาสนาคริสต์แก่ครอบครัวและเพื่อนๆ แม้กระทั่งในช่วงที่รับศีลล้างบาป ทั้ง 4 คนปฏิเสธที่จะละทิ้งพระคริสต์ รวมถึงนักบุญจอห์น จาง เทียนเชินที่เพิ่งรับศีลล้างบาปได้ไม่นาน แล้วเพชฌฆาตได้ประหารชีวิตท่านเป็นคนสุดท้าย โดยหวังว่า เขาจะละทิ้งพระคริสต์ นักบุญจอห์น จาง เทียนเชินเลยตอบว่า “ข้าพเจ้าไม่ต้องการอะไรนอกจากบำเหน็จนิรันดรจากสวรรค์”


นักบุญมาร์ติน หวู่ เซ่อเซิง (Martin Wu Xuesheng) ผู้เป็นครูคำสอน ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์


นักบุญจอห์น เฉิน เซียนเฮิง (John Chen Xianheng) ผู้เป็นครูคำสอน ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์


นักบุญจอห์น จาง เทียนเชิน (John Zhang Tianshen - 張天申若望) ผู้เป็นครูคำสอน ซึ่งรับศีลล้างบาปเพียง 2 วันก่อนที่จะถูกจับกุมเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ และได้สั่งสอนคำสอนของศาสนาคริสต์แก่ครอบครัวและเพื่อนๆ แม้กระทั่งในช่วงที่รับศีลล้างบาป
เพชฌฆาตได้ประหารชีวิตท่านเป็นคนสุดท้าย โดยหวังว่า เขาจะละทิ้งพระคริสต์ นักบุญจอห์น จาง เทียนเชินเลยตอบว่า “ข้าพเจ้าไม่ต้องการอะไรนอกจากบำเหน็จนิรันดรจากสวรรค์”


     ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ นักบุญลูซี่ อี เจิ่นเหมยก็ถูกจับกุมเช่นกัน โดยในเส้นทางเดียวกันกับที่นักบุญทั้ง 4 ที่ถูกนำตัวไปประหารชีวิต ท่านได้รับโอกาสให้ละทิ้งความศรัทธาต่อศาสนาคริสต์ นิกายคาทอลิกด้วยวิธีการล่อลวงต่างๆ แต่ท่านก็ยังคงยืนหยัดมั่นคง วันรุ่งขึ้น ท่านถูกนำตัวไปที่ตะแลงแกงและถูกตัดศีรษะ คริสตชนผู้กล้าหาญบางคนสามารถกู้ร่างของนักบุญทั้ง 5 ท่านกลับมาได้และฝังร่างของพวกท่าน ญาติพี่น้องของท่านได้นำผ้าโพกศีรษะเปื้อนเลือดของนักบุญลูซี่ อี เจิ่นเหมยไปเป็นพระธาตุ และนำไปวางไว้บนร่างของเปาลา (Paula) หลานสาวของท่านที่ป่วยหนัก ซึ่งได้รับการรักษาในทันที นักบุญทั้ง 5 แห่งมณฑลกุ้ยโจว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบรรดานักบุญ 120 คน ซึ่งเป็นมรณสักขีในประเทศจีนระหว่างปีค.ศ. 1648 ถึง ค.ศ. 1930 และได้รับการประกาศเป็นนักบุญโดยนักบุญพระสันตะปาปาจอห์ยอห์น ปอลที่ 2 (Saint Pope John Paul II) เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 2000


ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ นักบุญลูซี่ อี เจิ่นเหมยก็ถูกจับกุมเช่นกัน โดยในเส้นทางเดียวกันกับที่นักบุญทั้ง 4 ที่ถูกนำตัวไปประหารชีวิต ท่านได้รับโอกาสให้ละทิ้งความศรัทธาต่อศาสนาคริสต์ นิกายคาทอลิกด้วยวิธีการล่อลวงต่างๆ แต่ท่านก็ยังคงยืนหยัดมั่นคง วันรุ่งขึ้น ท่านถูกนำตัวไปที่ตะแลงแกงและถูกตัดศีรษะ


มรณสักขีชาวจีนอีก 120 คน (120 Chinese Martyrs - 120 中華殉道聖人)


นักบุญพระสันตะปาปาจอห์ยอห์น ปอลที่ 2 (Saint Pope John Paul II) ได้ประกาศให้นักบุญลูซี่ อี เจิ่นเหมย (Saint Lucy Yi Zhenmei - 易貞美) เป็นนักบุญ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 2000

ปล. หากมีการแปลผิดพลาดประการใด หรือข้อมูลผิดพลาด แอดมินก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

#คริสต์ #คาทอลิก #คริสต์ศรัทธา #ชีวประวัติ #นักบุญ #ประวัติศาสตร์ #นักบุญลูซี่อีเจิ่นเหมย #มรณสักขี #ประเทศจีน #จีน #คุณธรรม #พระธาตุ #catholic #SaintLucyYiZhenmei #martyr #china #易貞美

CR. : คริสต์ศรัทธา
https://www.facebook.com/share/p/18drjwjiit/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่