Fiamma of the Right เฟียมม่าแห่งเบื้องขวา 右方のフィアンマ
เฟียมม่าเป็นผู้นำของกลุ่ม "God's Right Seat (บัลลังก์ขวาแห่งพระเจ้า)" ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอำนาจมากที่สุดภายในคริสตจักรโรมันคาทอลิก ซึ่งมีอำนาจอยู่เหนือกว่า "สมเด็จพระสันตะปาปา" และเขายังเป็นผู้สังกัดคุณสมบัติและตัวแทนของ "ทูตสวรรค์มิคาเอล (ผู้เป็นเหมือนดั่งพระเจ้า)" และเนื่องจากเป้าหมายและโครงสร้างของกลุ่ม God's Right Seat นั้น ทำให้เฟียมม่าแห่งเบื้องขวามีความสำคัญต่อกลุ่มอย่างมาก เพราะตำแหน่งของ "เบื้องซ้าย เบื้องหน้า และเบื้องหลัง" สามารถเปลี่ยนได้ทุกครั้งที่ต้องการ แต่หากปราศจากเบื้องขวาอย่างเฟียมม่าที่เป็นหัวหอกของกลุ่ม จะทำให้ความมุ่งมั่นและความทะเยอทะยานของกลุ่ม God's Right Seat หมดไป
โดยชื่อของเฟียมม่านั้นเป็นคำศัพท์ของภาษาอิตาลีที่มีความหมายว่า "ไฟ" ซึ่งเปรียบเสมือนกับเวทมนต์ของเฟียมม่าที่มีพื้นฐานเป็นเวทย์ไฟ และยังตีความได้อีกแบบว่า "ผู้ที่จะก่อให้เกิดเปลวไฟที่จะเผาไหม้โลกทั้งใบ" เฟียมม่าเป็นชายที่ไม่เคยสูญเสียอารมณ์ของตัวเองเลย เพราะตัวเขามีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าในตนเอง แต่เขาก็เคยแสดงให้เห็นว่าเขาก็มีความรู้สึกโกรธอยู่บ้างในตอนที่พวก "โทวมะ" มาทำลายการควบคุม "ทูตสวรรค์กาบริเอล" ที่เขาเรียกมา
บุคลิกและรูปร่างที่เด่นชัดของเขาคือ เป็นชายหนุ่มที่มีรูปร่างหยาบกร้าน มีดวงตาตาสีทอง มีผมสีแดง และสวมชุดสีแดงแบบเรียบง่าย และเขายังเป็นอีกคนที่รู้ถึงตัวตนและพลังที่แท้จริงของ Imagine Breaker ตัวเขามีนิสัยที่ค่อนข้างน่ารังเกียจอย่างมาก คือ ที่สุดแห่งความหยิ่งยโส ที่สุดแห่งการเข้าข้างตนเอง ชอบบีบคั้นให้ทุกสิ่งรอบตัวทั้งสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิตเป็นไปตามความต้องการของตัวเอง และมักดูถูกพลังของฝ่ายตรงข้าม เพราะคนเหล่านั้นไม่สามารถต่อกรกับพลังของตัวเองได้
เมื่อมีคนมาตักเตือนด้วยความหวังดี เขาก็จะปฏิเสธที่จะรับฟัง เพราะความคิดที่ว่าตนเองคือ "ผู้ที่ยืนอยู่เหนือมนุษย์คนอื่น" ดังนั้นความคิดของตนย่อมดีที่สุดอย่างไม่ต้องมีข้อสงสัย ทำให้เขา "ชั่งน้ำหนักของผู้คนบนโลกเอาไว้ต่ำกว่าโลกทั้งใบ" อีกทั้งยังมองว่าโลกใบนี้อาจจะมีอนาคตที่ดีกว่านี้ หากมนุษย์บางส่วนที่เป็นรากเน่าเป็นตัวเสื่อมเสียของโลกถูกกำจัดออกไปทั้งหมด เขาจึงเริ่มต้นแผนการ Star of Bethlehem ที่จะกำจัดเหล่ามนุษย์ผู้ติดอยู่ในความลุ่มหลงอันเป็นนิรันดร์ อย่างความโกรธ ความโลภ และความอิจฉาริษยา
เฟียมม่าเป็นคนที่มีความต้องการอย่างแรงกล้าที่จะช่วยโลกใบนี้ แต่แท้จริงแล้ว เขาไม่เคยเชื่อว่าตนเองคือผู้ที่สามารถปกป้องโลกทั้งใบได้ เขาเพียงรับฟังการสรรเสริญของผู้คนอย่างไม่เคยปักใจเชื่อ เพราะแม้เขาจะมี "พลังที่เทียบเคียงกับพระเจ้า แต่เขาก็เป็นเพียงผู้เทียบเคียง ไม่อาจเป็นพระเจ้าได้" ดังนั้นแผนการหลายอย่างจึงเริ่มต้นขึ้นเพียงเพื่อจะใช้เป็นคำตอบต่อตัวเขาเองว่า "เขาเหมาะสมกับการถูกยกย่องให้เป็นผู้ที่มีศักดิ์เทียบเท่ากับพระเจ้าหรือไม่" จนเขาได้ก่อสงครามโลกครั้งที่ 3 ที่สั่นสะเทือนไปทั้งฝั่งวิทยาศาสตร์และฝั่งเวทมนตร์ และยังเป็นตัวจุดชนวนให้ "เทพอาคมออธินุส" ที่เบื่อหน่ายกลับมามีไฟที่จะเปลี่ยนแปลงโลกอีกครั้งด้วย
และนั้นเอง ทำให้เขาต้องมาปะทะกับ "คามิโจว โทวมะ" เด็กหนุ่มผู้ครอบครองพลังมือขวา "Imagine Breaker" และยังเป็นเด็กหนุ่มที่เข้าใจในตัวเขาและตีค่าตัวเขาออกมาว่า เขาเป็นเพียง "ผู้ที่มีสิทธิจะปกป้องโลกแต่ไม่อาจทำได้" เฟียม่าจึงเป็นตัวตนที่เป็นได้แค่เพียง "ความสมบูรณ์แบบที่ไม่มีวันสมบูรณ์"
The Holy Right Hand (มือขวาศักดิ์สิทธิ์)
เป็นเวทย์มนต์แห่ง "ทูตสวรรค์" ประจำตัวเฟียมม่า ซึ่งสิงสถิตอยู่ในมือขวาของเขา โดยที่ The Holy Right Hand คือพลังของ "ทูตสวรรค์มิคาเอล" ที่ใช้พิชิต "จอมปีศาจลูซิเฟอร์" และส่งมันไปจองจำในขุมนรก และยังถือเป็นศูนย์รวมอำนาจของมือขวาภายในคริสต์ศาสนา ซึ่งเชื่อกันว่ามันมีอำนาจในการสร้างปาฏิหาริย์และทำลายความชั่วร้ายทั้งหมดได้ และเชื่อว่ามันยังมีพลังที่สามารถรักษาโรคภัยต่างๆได้เพียงแค่นำมือขวาศักดิ์สิทธิ์นี้ไปจับตัวผู้ที่ทุกข์ทรมานเพราะโรคภัยไข้เจ็บ โดยเฟียมม่านั้นเคยบอกไว้ว่า Imagine Breaker นั้นเป็นพลังที่ใกล้เคียงกับ "มือขวาศักดิ์สิทธิ์" ของตน แต่ The Holy Right Hand ก็ยังถือเป็นเวทย์มนต์อยู่ ต่างจาก Imagine Breaker ที่ไม่ใช่ทั้งเวทมนตร์และพลังจิต
ซึ่งพลังนี้จะอยู่ในรูปแบบของ "มือมังกร" ที่ออกมาจากไหล่ขวาของเฟียมม่าที่มีพลังมหาโหดแฝงอยู่ โดยเฟียมม่าเพียงแค่ใช้ The Holy Right Hand โจมตีครั้งเดียวก็สามารถทำลายมหาวิหารเซ็นต์ปีเตอร์ซึ่งมีอาณาเขตป้องกันที่แข็งแกร่งไปกว่าครึ่ง (อันที่จริงหากไม่ได้สมเด็จพระสันตะปาปาใช้พลังทั้งหมดรับการโจมตีไว้ที่ตัวเอง ทั้งนครรัฐวาติกันรวมถึงอาณาเขตของเมืองโรมในรัศมี 100 เมตร คงจะราบเป็นหน้ากลองไปแล้ว)
ถึงแม้พลังจะร้ายกาจขนาดนี้ แต่พลังของเฟียมม่ายังอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ มิหนำซ้ำ เจ้าตัวยังบอกว่าอานุภาพพลังยังเทียบไม่ได้กับของต้นตำรับด้วยซ้ำ โดยเฟียนม่าได้บอกว่า "แม้แต่ดาบ Curtana Original ก็ยังไม่เพียงพอจะเป็นภาชนะรองรับพลังของตนในสภาพสมบูรณ์ และคงระเบิดเป็นชิ้นๆทันที" ซึ่งการโจมตีจาก The Holy Right Hand ในสภาพไม่สมบูรณ์นั้น ถึงระดับพลังจะไม่สามารถทำลายโลกได้ แต่มันก็มีพลังมากพอที่จะทำลายล้างทวีปทั้งทวีปไปได้เลยทีเดียว นั้นทำให้เรานึกภาพไม่ออกเลยว่าพลังของ The Holy Right Hand ในสภาพสมบูรณ์มันทรงพลังขนาดไหน
La Persona Superiore a Dio (ผู้อยู่เหนือพระเจ้า)
เฟียมม่านั้นต้องการกุญแจ 3 อย่าง ในการทำให้ The Holy Right Hand นี้สมบูรณ์แบบ ซึ่งได้แก่
1.) Imagine Breaker ของคามิโจว โทวมะ
2.) อินเดกซ์ที่เป็นสารบัญหนังสือต้องห้ามทั้ง 103,000 เล่ม
3.) วัตถุดิบที่จะเรียกทูตสวรรค์กาบริเอลลงมาสู่โลก "ซาช่า ครอยเซฟ"
ซึ่งถ้าได้วัตถุดิบมาเติมเต็มใน The Holy Right Hand ได้สำเร็จหล่ะก็ เฟียมม่าจะได้รับพลังที่ไร้เทียมทานที่จะสามารถกอบกู้โลกทั้งใบหรือจะใช้ทำลายโลกทั้งใบได้มาไว้ในกำมือ และตัวตนของเฟียมม่าเองก็จะอยู่ในสถานะของ "La Persona Superiore a Dio (ผู้อยู่เหนือพระเจ้า)" อีกด้วย และพลังของเฟียมม่าในสภาพสมบูรณ์จะมีความสามารถที่แข็งแกร่งดังนี้ (รวมพลังอื่นที่ไม่ใช่ The Holy Right Hand ด้วย)
-เมื่อเฟียมม่าคิดจะโจมตีสิ่งใด สิ่งนั้นจะ "สลาย" ไปในทันทีโดยไม่มีสาเหตุ โดยที่การโจมตีนี้จะไม่มีพลังทำลายใดๆทั้งสิ้น เหมือนเป็นการ
"ชำระล้างของพระเจ้า"
-เมื่อเฟียมม่าคิดจะโจมตี "มือมังกร" ตรงไหล่ขวาจะโจมตีโดยอัตโนมัติ โดยจะไม่ขึ้นตรงต่อจิตสำนึกของเฟียมม่า และจะไม่สนระยะทาง
ทิศทาง หรือตำแหน่งของเป้าหมาย ดังนั้น "การจะทำลายโลกหรือดวงอาทิตย์ทิ้งก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นสำหรับเฟียมม่า"
-เมื่อพบศัตรูที่มีพลังเหนือกว่าตนเอง "มือมังกร" จะเพิ่มพลังให้เฟียมม่าเหนือกว่าศัตรูทันที โดยอยู่ในเงื่อนไขที่ "เฟียมม่าจะมีพลังนำอยู่ 1 ก้าว
เสมอ" ทำให้เขาสามารถฆ่าศัตรูได้โดยการโจมตีเพียงครั้งเดียวไม่ว่าศัตรูจะเป็นใครก็ตาม หรือที่เรียกว่า "One Hit Kill"
-มีพลังการ "ป้องกันอัตโนมัติ" โดยเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาจะทำร้ายเฟียมม่า ไม่ว่าสิ่งนั้นจะมาจากทิศทางไหน มีความแรงและเร็วเท่าไหร่
หรือเกิดขึ้นทันทีหรือไม่ ก็จะโดนทำให้สลายไป (เวทย์ "ทัณฑ์สวรรค์" ของเวนโต้กับเวทย์ "Ars Magna" ของออลเลโอรุสก็ใช้ไม่ได้ผลกับ
เฟียมม่า)
-สร้างดาบไฟของ "ทูตสวรรค์มิคาเอล" ที่ใช้ขับไล่ "ลูซิเฟอร์" ได้ โดยที่ตัวดาบมีความยาวถึง 40 กิโลเมตร และดาบไฟนี้ Imagine Breaker
ของโทวมะก็ไม่สามารถลบล้างไปได้หมด
-สร้างดาบแสงที่มีความสามารถน่าสะพรึงกลัว โดยเฟียมม่าเรียกออกมาตัด "Imagine Breaker" ของโทวมะไปได้อย่างง่ายดาย
-สามารถทำการ "เทเลพอร์ต" ได้ทุกที่ทุกเวลา โดยต้องมีเงื่อนไขบางอย่าง
-สามารถ "ดูดซับ" สิ่งต่างๆเข้ามาในร่างได้ เช่น ใช้ดูดซับ Imagine Breaker มา เพื่อทำให้พลังสมบูรณ์
-สามารถเรียก "อาวุธในตำนาน" ของเหล่าจอมเวทย์ได้ทุกอย่าง
-สามารถใช้ "เวทย์ไฟ" ซึ่งมีพลังมหาศาล แม้แต่เวทย์ไฟของ "สเตล แมกนุส" ก็ยังเทียบไม่ติด
-สามารถ "ซ่อนตัวตน" ของเขาได้จากทุกคน แม้กระทั่ง "เทพอาคม" ก็ไม่สามารถตรวจจับเขาได้
-สามารถใช้เวทมนตร์ในการ "ติดต่อ" สื่อสารกับผู้อื่นจากระยะใกล้ผ่านนกกระดาษสีแดง
-หลังจบสงครามก็ฝึกฝนจนสามารถใช้ "Turn into a fairy" เวทย์ที่สร้างขึ้นเพื่อต่อต้าน "เทพอาคม" ได้
John's Pen remote control (รีโมทควบคุมปากกาแห่งจอร์น)
อุปกรณ์เวทมนตร์ซึ่งเป็นสมบัติลับที่มีเพียงผู้นำของ "กลุ่มราชวงศ์" กับ "กลุ่มพิวริตัน" ที่ถือครอง มีลักษณะคล้ายกุญแจรหัสซึ่งสลักอักษรอัลฟาเบทไว้อยู่ มันเป็นอุปกรณ์เวทมนตร์ในการควบคุมอินเดกซ์ในโหมดปากกาแห่งจอร์นได้ นั้นทำให้เขาสามารถเปิดใช้งานโหมดปากกาแห่งจอห์นที่มีคัมภีร์เวทมนตร์ 103,000 เล่ม เพื่อเข้าถึงความลับต่างๆที่เขายังไม่เคยรู้เกี่ยวกับ The Holy Right Hand และเพราะรีโททนี้ทำให้เฟียมม่าสามารถอ่านความรู้ไร้ขีดจำกัดในคัมภีร์ต้องห้ามพวกนั้นได้แบบไม่ได้รับผลกระทบทางสมองเลย (ปกติถ้าใครเข้าไปอ่านอาจตายได้)
Star of Bethlehem (ป้อมปราการลอยฟ้า)
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 3 เฟียมม่าได้ควบคุม Star of Bethlehem ซึ่งเป็นป้อมปราการลอยฟ้าขนาดยักษ์ซึ่งออกแบบโดยเขา และสร้างขึ้นด้วยความช่วยเหลือของเหล่าจอมเวทย์กว่า 2,000 คน ซึ่งมีการใช้พลังของ "มีช่า ครอยเซฟ (ทูตสวรรค์กาบริเอล)" ในการเปลี่ยนกลางวันและกลางคืนเพื่อใช้งาน Star of Bethelemem และด้วยพลังของ Star of Bethelemem ทำให้เฟียมม่าสามารถเรียก Telesma เพียงพอที่จะทำให้โลกนี้เข้าสู่สรวงสวรรค์ได้ และจะได้รับพลังงานมากพอที่จะทำลายได้ทั้งทวีปเอเชียและโลกทั้งใบได้ด้วยมวลสาร Telesma ขนาดยักษ์ แต่หลังจากความพ่ายแพ้ของเฟียมม่าทำให้ป้อมปราการลอยฟ้า Bethelemem พังทลายลงไป
หลังจากเขาผ่ายแพ้ให้แก่โทวมะแล้ว "อเลสเตอร์" ก็โผล่มาตัดแขนขวาเขาออก พร้อมกับเอาชนะเฟียมม่าให้ลงไปนอนจมกองหิมะได้ภายในพริบตาเดียว ซึ่งการต่อสู้นั้นใช้เวลาไม่ถึงนาทีด้วยซํ้า และทำให้รู้ว่า "แม้เฟียมม่าจะมีพลังที่อยู่เหนือกว่าพระเจ้า แต่เมื่อต้องพบกับสิ่งที่อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์อำนาจของพระเจ้า จึงทำให้ผู้อยู่เหนือพระเจ้าแพ้ลงไปอย่างง่ายดาย" นี่เองก็เป็นครั้งแรกที่ทั้งโลกได้รู้ว่า "อเลสเตอร์ โครว์ลี่ ยังมีชีวิตอยู่" และเฟียมม่าก็ได้ "ออลเลรุส" และ "ซิลเวีย" ช่วยชีวิตเอาไว้ในช่วงท้ายของ LN เล่ม 22
และตั้งแต่ตอนนั้น เฟียมม่าก็ได้ตระหนักว่าเขาเป็นเพียงคนที่เอาแต่ใจในการช่วยโลก เขาจึงได้เริ่มต้นชีวิตที่ถูกต้องใหม่อีกครั้ง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของเขาถูกกล่าวว่า "เหมือนกับว่าวิญญาณชั่วร้ายได้ออกจากจิตใจเขาไปอย่างสมบูรณ์" และเฟียมม่าก็ได้กลายเป็นพรรคพวกของโทวมะในเวลาต่อมาอีกด้วย ปัจจุบันเฟียมม่าก็ไม่มีแขนขวาอีกแล้ว ทำให้พลังของ "มือมังกร" ลดลงไปอย่างมาก แต่เขาก็ยังโผล่มาช่วยโทวมะเอาไว้ในการต่อสู้กับ "เทพอาคมออธินุส" และยังมาช่วยโทวมะอีกในการต่อสู้กับ "เทพอาคมพระราชาคณะ" จึงถือได้ว่าเฟียมม่านั้นยังมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากทีเดียว
Credit :
https://m.facebook.com/photo.php?fbid=1116799541715570&id=1109409519121239&set=a.1111547768907414.1073741828.1109409519121239
Credit :
https://m.facebook.com/photo.php?fbid=1116799941715530&id=1109409519121239&set=a.1111547768907414.1073741828.110940951912123
1 ใน 3 ผู้ใช้มือขวา "เฟียนม่าแห่งเบื้องขวา"
โดยชื่อของเฟียมม่านั้นเป็นคำศัพท์ของภาษาอิตาลีที่มีความหมายว่า "ไฟ" ซึ่งเปรียบเสมือนกับเวทมนต์ของเฟียมม่าที่มีพื้นฐานเป็นเวทย์ไฟ และยังตีความได้อีกแบบว่า "ผู้ที่จะก่อให้เกิดเปลวไฟที่จะเผาไหม้โลกทั้งใบ" เฟียมม่าเป็นชายที่ไม่เคยสูญเสียอารมณ์ของตัวเองเลย เพราะตัวเขามีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าในตนเอง แต่เขาก็เคยแสดงให้เห็นว่าเขาก็มีความรู้สึกโกรธอยู่บ้างในตอนที่พวก "โทวมะ" มาทำลายการควบคุม "ทูตสวรรค์กาบริเอล" ที่เขาเรียกมา
บุคลิกและรูปร่างที่เด่นชัดของเขาคือ เป็นชายหนุ่มที่มีรูปร่างหยาบกร้าน มีดวงตาตาสีทอง มีผมสีแดง และสวมชุดสีแดงแบบเรียบง่าย และเขายังเป็นอีกคนที่รู้ถึงตัวตนและพลังที่แท้จริงของ Imagine Breaker ตัวเขามีนิสัยที่ค่อนข้างน่ารังเกียจอย่างมาก คือ ที่สุดแห่งความหยิ่งยโส ที่สุดแห่งการเข้าข้างตนเอง ชอบบีบคั้นให้ทุกสิ่งรอบตัวทั้งสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิตเป็นไปตามความต้องการของตัวเอง และมักดูถูกพลังของฝ่ายตรงข้าม เพราะคนเหล่านั้นไม่สามารถต่อกรกับพลังของตัวเองได้
เมื่อมีคนมาตักเตือนด้วยความหวังดี เขาก็จะปฏิเสธที่จะรับฟัง เพราะความคิดที่ว่าตนเองคือ "ผู้ที่ยืนอยู่เหนือมนุษย์คนอื่น" ดังนั้นความคิดของตนย่อมดีที่สุดอย่างไม่ต้องมีข้อสงสัย ทำให้เขา "ชั่งน้ำหนักของผู้คนบนโลกเอาไว้ต่ำกว่าโลกทั้งใบ" อีกทั้งยังมองว่าโลกใบนี้อาจจะมีอนาคตที่ดีกว่านี้ หากมนุษย์บางส่วนที่เป็นรากเน่าเป็นตัวเสื่อมเสียของโลกถูกกำจัดออกไปทั้งหมด เขาจึงเริ่มต้นแผนการ Star of Bethlehem ที่จะกำจัดเหล่ามนุษย์ผู้ติดอยู่ในความลุ่มหลงอันเป็นนิรันดร์ อย่างความโกรธ ความโลภ และความอิจฉาริษยา
เฟียมม่าเป็นคนที่มีความต้องการอย่างแรงกล้าที่จะช่วยโลกใบนี้ แต่แท้จริงแล้ว เขาไม่เคยเชื่อว่าตนเองคือผู้ที่สามารถปกป้องโลกทั้งใบได้ เขาเพียงรับฟังการสรรเสริญของผู้คนอย่างไม่เคยปักใจเชื่อ เพราะแม้เขาจะมี "พลังที่เทียบเคียงกับพระเจ้า แต่เขาก็เป็นเพียงผู้เทียบเคียง ไม่อาจเป็นพระเจ้าได้" ดังนั้นแผนการหลายอย่างจึงเริ่มต้นขึ้นเพียงเพื่อจะใช้เป็นคำตอบต่อตัวเขาเองว่า "เขาเหมาะสมกับการถูกยกย่องให้เป็นผู้ที่มีศักดิ์เทียบเท่ากับพระเจ้าหรือไม่" จนเขาได้ก่อสงครามโลกครั้งที่ 3 ที่สั่นสะเทือนไปทั้งฝั่งวิทยาศาสตร์และฝั่งเวทมนตร์ และยังเป็นตัวจุดชนวนให้ "เทพอาคมออธินุส" ที่เบื่อหน่ายกลับมามีไฟที่จะเปลี่ยนแปลงโลกอีกครั้งด้วย
และนั้นเอง ทำให้เขาต้องมาปะทะกับ "คามิโจว โทวมะ" เด็กหนุ่มผู้ครอบครองพลังมือขวา "Imagine Breaker" และยังเป็นเด็กหนุ่มที่เข้าใจในตัวเขาและตีค่าตัวเขาออกมาว่า เขาเป็นเพียง "ผู้ที่มีสิทธิจะปกป้องโลกแต่ไม่อาจทำได้" เฟียม่าจึงเป็นตัวตนที่เป็นได้แค่เพียง "ความสมบูรณ์แบบที่ไม่มีวันสมบูรณ์"
The Holy Right Hand (มือขวาศักดิ์สิทธิ์)
เป็นเวทย์มนต์แห่ง "ทูตสวรรค์" ประจำตัวเฟียมม่า ซึ่งสิงสถิตอยู่ในมือขวาของเขา โดยที่ The Holy Right Hand คือพลังของ "ทูตสวรรค์มิคาเอล" ที่ใช้พิชิต "จอมปีศาจลูซิเฟอร์" และส่งมันไปจองจำในขุมนรก และยังถือเป็นศูนย์รวมอำนาจของมือขวาภายในคริสต์ศาสนา ซึ่งเชื่อกันว่ามันมีอำนาจในการสร้างปาฏิหาริย์และทำลายความชั่วร้ายทั้งหมดได้ และเชื่อว่ามันยังมีพลังที่สามารถรักษาโรคภัยต่างๆได้เพียงแค่นำมือขวาศักดิ์สิทธิ์นี้ไปจับตัวผู้ที่ทุกข์ทรมานเพราะโรคภัยไข้เจ็บ โดยเฟียมม่านั้นเคยบอกไว้ว่า Imagine Breaker นั้นเป็นพลังที่ใกล้เคียงกับ "มือขวาศักดิ์สิทธิ์" ของตน แต่ The Holy Right Hand ก็ยังถือเป็นเวทย์มนต์อยู่ ต่างจาก Imagine Breaker ที่ไม่ใช่ทั้งเวทมนตร์และพลังจิต
ซึ่งพลังนี้จะอยู่ในรูปแบบของ "มือมังกร" ที่ออกมาจากไหล่ขวาของเฟียมม่าที่มีพลังมหาโหดแฝงอยู่ โดยเฟียมม่าเพียงแค่ใช้ The Holy Right Hand โจมตีครั้งเดียวก็สามารถทำลายมหาวิหารเซ็นต์ปีเตอร์ซึ่งมีอาณาเขตป้องกันที่แข็งแกร่งไปกว่าครึ่ง (อันที่จริงหากไม่ได้สมเด็จพระสันตะปาปาใช้พลังทั้งหมดรับการโจมตีไว้ที่ตัวเอง ทั้งนครรัฐวาติกันรวมถึงอาณาเขตของเมืองโรมในรัศมี 100 เมตร คงจะราบเป็นหน้ากลองไปแล้ว)
ถึงแม้พลังจะร้ายกาจขนาดนี้ แต่พลังของเฟียมม่ายังอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ มิหนำซ้ำ เจ้าตัวยังบอกว่าอานุภาพพลังยังเทียบไม่ได้กับของต้นตำรับด้วยซ้ำ โดยเฟียนม่าได้บอกว่า "แม้แต่ดาบ Curtana Original ก็ยังไม่เพียงพอจะเป็นภาชนะรองรับพลังของตนในสภาพสมบูรณ์ และคงระเบิดเป็นชิ้นๆทันที" ซึ่งการโจมตีจาก The Holy Right Hand ในสภาพไม่สมบูรณ์นั้น ถึงระดับพลังจะไม่สามารถทำลายโลกได้ แต่มันก็มีพลังมากพอที่จะทำลายล้างทวีปทั้งทวีปไปได้เลยทีเดียว นั้นทำให้เรานึกภาพไม่ออกเลยว่าพลังของ The Holy Right Hand ในสภาพสมบูรณ์มันทรงพลังขนาดไหน
La Persona Superiore a Dio (ผู้อยู่เหนือพระเจ้า)
เฟียมม่านั้นต้องการกุญแจ 3 อย่าง ในการทำให้ The Holy Right Hand นี้สมบูรณ์แบบ ซึ่งได้แก่
1.) Imagine Breaker ของคามิโจว โทวมะ
2.) อินเดกซ์ที่เป็นสารบัญหนังสือต้องห้ามทั้ง 103,000 เล่ม
3.) วัตถุดิบที่จะเรียกทูตสวรรค์กาบริเอลลงมาสู่โลก "ซาช่า ครอยเซฟ"
ซึ่งถ้าได้วัตถุดิบมาเติมเต็มใน The Holy Right Hand ได้สำเร็จหล่ะก็ เฟียมม่าจะได้รับพลังที่ไร้เทียมทานที่จะสามารถกอบกู้โลกทั้งใบหรือจะใช้ทำลายโลกทั้งใบได้มาไว้ในกำมือ และตัวตนของเฟียมม่าเองก็จะอยู่ในสถานะของ "La Persona Superiore a Dio (ผู้อยู่เหนือพระเจ้า)" อีกด้วย และพลังของเฟียมม่าในสภาพสมบูรณ์จะมีความสามารถที่แข็งแกร่งดังนี้ (รวมพลังอื่นที่ไม่ใช่ The Holy Right Hand ด้วย)
-เมื่อเฟียมม่าคิดจะโจมตีสิ่งใด สิ่งนั้นจะ "สลาย" ไปในทันทีโดยไม่มีสาเหตุ โดยที่การโจมตีนี้จะไม่มีพลังทำลายใดๆทั้งสิ้น เหมือนเป็นการ
"ชำระล้างของพระเจ้า"
-เมื่อเฟียมม่าคิดจะโจมตี "มือมังกร" ตรงไหล่ขวาจะโจมตีโดยอัตโนมัติ โดยจะไม่ขึ้นตรงต่อจิตสำนึกของเฟียมม่า และจะไม่สนระยะทาง
ทิศทาง หรือตำแหน่งของเป้าหมาย ดังนั้น "การจะทำลายโลกหรือดวงอาทิตย์ทิ้งก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นสำหรับเฟียมม่า"
-เมื่อพบศัตรูที่มีพลังเหนือกว่าตนเอง "มือมังกร" จะเพิ่มพลังให้เฟียมม่าเหนือกว่าศัตรูทันที โดยอยู่ในเงื่อนไขที่ "เฟียมม่าจะมีพลังนำอยู่ 1 ก้าว
เสมอ" ทำให้เขาสามารถฆ่าศัตรูได้โดยการโจมตีเพียงครั้งเดียวไม่ว่าศัตรูจะเป็นใครก็ตาม หรือที่เรียกว่า "One Hit Kill"
-มีพลังการ "ป้องกันอัตโนมัติ" โดยเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาจะทำร้ายเฟียมม่า ไม่ว่าสิ่งนั้นจะมาจากทิศทางไหน มีความแรงและเร็วเท่าไหร่
หรือเกิดขึ้นทันทีหรือไม่ ก็จะโดนทำให้สลายไป (เวทย์ "ทัณฑ์สวรรค์" ของเวนโต้กับเวทย์ "Ars Magna" ของออลเลโอรุสก็ใช้ไม่ได้ผลกับ
เฟียมม่า)
-สร้างดาบไฟของ "ทูตสวรรค์มิคาเอล" ที่ใช้ขับไล่ "ลูซิเฟอร์" ได้ โดยที่ตัวดาบมีความยาวถึง 40 กิโลเมตร และดาบไฟนี้ Imagine Breaker
ของโทวมะก็ไม่สามารถลบล้างไปได้หมด
-สร้างดาบแสงที่มีความสามารถน่าสะพรึงกลัว โดยเฟียมม่าเรียกออกมาตัด "Imagine Breaker" ของโทวมะไปได้อย่างง่ายดาย
-สามารถทำการ "เทเลพอร์ต" ได้ทุกที่ทุกเวลา โดยต้องมีเงื่อนไขบางอย่าง
-สามารถ "ดูดซับ" สิ่งต่างๆเข้ามาในร่างได้ เช่น ใช้ดูดซับ Imagine Breaker มา เพื่อทำให้พลังสมบูรณ์
-สามารถเรียก "อาวุธในตำนาน" ของเหล่าจอมเวทย์ได้ทุกอย่าง
-สามารถใช้ "เวทย์ไฟ" ซึ่งมีพลังมหาศาล แม้แต่เวทย์ไฟของ "สเตล แมกนุส" ก็ยังเทียบไม่ติด
-สามารถ "ซ่อนตัวตน" ของเขาได้จากทุกคน แม้กระทั่ง "เทพอาคม" ก็ไม่สามารถตรวจจับเขาได้
-สามารถใช้เวทมนตร์ในการ "ติดต่อ" สื่อสารกับผู้อื่นจากระยะใกล้ผ่านนกกระดาษสีแดง
-หลังจบสงครามก็ฝึกฝนจนสามารถใช้ "Turn into a fairy" เวทย์ที่สร้างขึ้นเพื่อต่อต้าน "เทพอาคม" ได้
John's Pen remote control (รีโมทควบคุมปากกาแห่งจอร์น)
อุปกรณ์เวทมนตร์ซึ่งเป็นสมบัติลับที่มีเพียงผู้นำของ "กลุ่มราชวงศ์" กับ "กลุ่มพิวริตัน" ที่ถือครอง มีลักษณะคล้ายกุญแจรหัสซึ่งสลักอักษรอัลฟาเบทไว้อยู่ มันเป็นอุปกรณ์เวทมนตร์ในการควบคุมอินเดกซ์ในโหมดปากกาแห่งจอร์นได้ นั้นทำให้เขาสามารถเปิดใช้งานโหมดปากกาแห่งจอห์นที่มีคัมภีร์เวทมนตร์ 103,000 เล่ม เพื่อเข้าถึงความลับต่างๆที่เขายังไม่เคยรู้เกี่ยวกับ The Holy Right Hand และเพราะรีโททนี้ทำให้เฟียมม่าสามารถอ่านความรู้ไร้ขีดจำกัดในคัมภีร์ต้องห้ามพวกนั้นได้แบบไม่ได้รับผลกระทบทางสมองเลย (ปกติถ้าใครเข้าไปอ่านอาจตายได้)
Star of Bethlehem (ป้อมปราการลอยฟ้า)
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 3 เฟียมม่าได้ควบคุม Star of Bethlehem ซึ่งเป็นป้อมปราการลอยฟ้าขนาดยักษ์ซึ่งออกแบบโดยเขา และสร้างขึ้นด้วยความช่วยเหลือของเหล่าจอมเวทย์กว่า 2,000 คน ซึ่งมีการใช้พลังของ "มีช่า ครอยเซฟ (ทูตสวรรค์กาบริเอล)" ในการเปลี่ยนกลางวันและกลางคืนเพื่อใช้งาน Star of Bethelemem และด้วยพลังของ Star of Bethelemem ทำให้เฟียมม่าสามารถเรียก Telesma เพียงพอที่จะทำให้โลกนี้เข้าสู่สรวงสวรรค์ได้ และจะได้รับพลังงานมากพอที่จะทำลายได้ทั้งทวีปเอเชียและโลกทั้งใบได้ด้วยมวลสาร Telesma ขนาดยักษ์ แต่หลังจากความพ่ายแพ้ของเฟียมม่าทำให้ป้อมปราการลอยฟ้า Bethelemem พังทลายลงไป
หลังจากเขาผ่ายแพ้ให้แก่โทวมะแล้ว "อเลสเตอร์" ก็โผล่มาตัดแขนขวาเขาออก พร้อมกับเอาชนะเฟียมม่าให้ลงไปนอนจมกองหิมะได้ภายในพริบตาเดียว ซึ่งการต่อสู้นั้นใช้เวลาไม่ถึงนาทีด้วยซํ้า และทำให้รู้ว่า "แม้เฟียมม่าจะมีพลังที่อยู่เหนือกว่าพระเจ้า แต่เมื่อต้องพบกับสิ่งที่อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์อำนาจของพระเจ้า จึงทำให้ผู้อยู่เหนือพระเจ้าแพ้ลงไปอย่างง่ายดาย" นี่เองก็เป็นครั้งแรกที่ทั้งโลกได้รู้ว่า "อเลสเตอร์ โครว์ลี่ ยังมีชีวิตอยู่" และเฟียมม่าก็ได้ "ออลเลรุส" และ "ซิลเวีย" ช่วยชีวิตเอาไว้ในช่วงท้ายของ LN เล่ม 22
และตั้งแต่ตอนนั้น เฟียมม่าก็ได้ตระหนักว่าเขาเป็นเพียงคนที่เอาแต่ใจในการช่วยโลก เขาจึงได้เริ่มต้นชีวิตที่ถูกต้องใหม่อีกครั้ง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของเขาถูกกล่าวว่า "เหมือนกับว่าวิญญาณชั่วร้ายได้ออกจากจิตใจเขาไปอย่างสมบูรณ์" และเฟียมม่าก็ได้กลายเป็นพรรคพวกของโทวมะในเวลาต่อมาอีกด้วย ปัจจุบันเฟียมม่าก็ไม่มีแขนขวาอีกแล้ว ทำให้พลังของ "มือมังกร" ลดลงไปอย่างมาก แต่เขาก็ยังโผล่มาช่วยโทวมะเอาไว้ในการต่อสู้กับ "เทพอาคมออธินุส" และยังมาช่วยโทวมะอีกในการต่อสู้กับ "เทพอาคมพระราชาคณะ" จึงถือได้ว่าเฟียมม่านั้นยังมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากทีเดียว
Credit :
https://m.facebook.com/photo.php?fbid=1116799541715570&id=1109409519121239&set=a.1111547768907414.1073741828.1109409519121239
Credit :
https://m.facebook.com/photo.php?fbid=1116799941715530&id=1109409519121239&set=a.1111547768907414.1073741828.110940951912123