IFEC...EARTH...ตั๋วB/E...สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่

กระทู้สนทนา
เริ่มต้นนั้น ตั๋ว B/E (Bill of Exchange) หรือตั๋วแลกเงิน
ในอดีต มันคือ ใบแจ้งหนี้หรือ ใบรับหนี้ที่เกิดจากการค้า
พูดง่ายๆคือ บริษัทซื้อของแต่ไม่อยากจ่ายเงินสด
เลยออกตั๋ว B/E มาแทน
โดยส่วนใหญ่ จะมีเวลา 3-6 เดือน ถึงจะเอาไปขึ้นเงินได้

ต่อมา การออกตั๋ว ของบริษัทจดทะเบียนก็เปลี่ยนไป
คือ แทนที่จะออกแทนใบแจ้งหนี้
ดันเอามาใช้แทนการกู้เงิน ในการลงทุนระยะยาวแทน

ปกติ บริษัทจะกู้เงิน ก็ต้องไปติดต่อธนาคาร
ธนาคารก็จะประเมินความเสี่ยง เพื่อดูว่า
บริษัทมีความสามารถพอ ที่จะใช้หนี้ได้หรือเปล่า
ถ้ามี จึงจะอนุมัติ
ซึ่งดอกเบี้ยธนาคารก็ประมาณ 5-8%

ทีนี้ก็มีคนหัวใส อยากลดดอกเบี้ยเงินกู้ลง
(เพราะการลดต้นทุนทางการเงินลง กำไรสุทธิก็จะเพิ่มขึ้น)
เลยหันมาออกตั๋ว B/E แทน ซึ่งมีดอกเบี้ย 2-3%

ตั๋ว B/E คือใบแจ้งหนี้ มันเลยไม่มีการประเมินความเสี่ยง
อยากออกก็ออกได้ และเนื่องจากดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารอยู่ที่ 1.5%
ตั๋วให้ 3% คนเลยแห่มาซื้อกัน

ถ้าธุรกิจมั่นคง กำไรดี มันก็ดูไม่น่ามีอะไร ดีกับบริษัทอีกด้วย
เสียดอกเบี้ยแค่3% ดีกว่ากู้Bank
ส่วนคนซื้อก็ได้ดอกเบี้ย3% ดีกว่าฝากBank win win
ตั๋วมีอายุ 270วัน พอครบ กำหนด บริษัทก็จะออกตั๋วชุดใหม่ วนไป

แต่เนื่องจากธุรกิจ ปกติการดำเนินงานมักจะมีปัญหาอยู่บ้าง
ยิ่งธุรกิจที่มีลักษณะเป็นวัฏจักร
ถ้าไปกู้ Bankแต่ไม่มีเงินจ่ายดอกเบี้ย จะเกิดไรขึ้น
เช่น กู้ 100 ล้านดอกเบี้ย 5% ถ้าไม่จ่ายดอกเบี้ย
ก็จะโดนปรับ เช่น 15ล้าน ปีต่อไปก็อาจต้องจ่าย 20 ล้าน(5+15 ล้านค่าปรับ)

แต่... ถ้าไม่มีเงินจ่ายค่าตั๋ว B/E จะเกิดไรขึ้น
เช่น ออกตั๋ว100ล้าน 3% พอครบกำหนดต้องมีเงินสด 103ล้านเตรียมจ่าย
ถ้าไม่มีก็ต้องไปกู้ Bank ซึ่ง Bank ก็จะไม่ให้เพราะรู้ว่าหนี้เต็มเพดานแล้ว
ขายสินทรัพย์ ก็ต้องใช้เวลา ซึ่งไม่ทัน
ออกตั๋วใหม่ ก็ไม่ได้ ไม่มีคนซื้อ

"จากเสียค่าปรับ อาจกลายเป็น บริษัทเจ๊งได้"

เข้าใจว่า บริษัทอยากเพิ่มกำไร แต่ความเสี่ยงที่ตามมาอาจไม่คุ้มกัน
ลดต้นทุน 3% แต่ถ้าพลาด บริษัทอาจเจ๊ง
คิดอย่างไร ก็ไม่คุ้ม
อัศวินเดินทาง

ทีนี้พอมาถึงตรงนี้แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

เมื่อผิดนัด ตั๋ว B/E
จริงๆ บริษัท ไม่ได้เจ๊ง เพราะตัวธุรกิจ
แต่ที่เจ๊ง เพราะ ไม่มีเงินสดในการทำธุรกิจ
คือไม่มีเครดิต กู้เงินไม่ได้ ซื้อสินค้าเชื่อไม่ได้
ต้องใช้เงินสดอย่างเดียว ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่บริษัทไม่มี

การจะแก้ปัญหานี้ได้ ต้องยอมรับปัญหาให้ได้ก่อน
ปัญหามันเกิดมาจาก "การกู้เงินมาแบบง่ายๆเกินตัว"
พอเกิดปัญหาขึ้น ผลมันเลยใหญ่โต
จะแก้ปัญหาการเงิน มันก็ต้องใช้คนมีความรู้ด้านการเงิน
เลิกไปเลย CEO เป็นหมอ วิศวกร หรือ แม้แต่ นักบริหารธุรกิจ
ท่านต้องการนักบัญชี
เพราะท่านต้องขายสินทรัพย์
พูดง่ายๆคือส่วนธุรกิจ เพื่อหาเงินสดมาให้ได้ก่อน
ขายโรงงาน ลดจำนวนพนักงาน ลดค่าใช้จ่าย
พร้อมกับการหาเงินสดมาดำเนินธุรกิจ
ซึ่งถ้าทำด้วยความตั้งใจ จะผ่านไปได้
แม้จะต้องลดขนาดธุรกิจลง

ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้
จะใช้เวลานานแค่ไหนนั้น
ขึ้นกับขนาดและความร้ายแรงของปัญหาของแต่ละบริษัท

บริษัทที่ผมอยู่นั้นใช้เวลา 10ปีในการแก้ปัญหา
โดยระหว่างทาง ราคาหุ้นจาก 50$ ลงไปอยู่ที่ ไม่ถึง 1$
และกลับมาอยู่ที่ 17$ ในปัจจุบัน
อัศวินเหงื่อตก
ไม่ซื้อ...ไม่ขาดทุน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่