สิ่งที่จะกล่าวในส่วนต่างๆ ต่อไปนี้ ก่อให้เกิด สถิติระดับโลก อย่างหนึ่ง
แต่เพียงเท่านี้ หาใช่เป็นสิ่งพิเศษ อันไม่มีประเทศใดในโลกจะทำได้ แต่อย่างใดไม่


ผลจากการดำเนินการดังกล่าว
ประกอบกับกรณีสำคัญอย่างหนึ่ง

คือ การลดอัตราค่าใช้โทรศัพท์มือถือ

ที่ซึ่ง คตส. ที่แต่งตั้งโดยคณะรัฐประหาร 2549
กล่าวโทษ เอาผิด สถานหนัก
ถึงขั้น กรณีการลดอัตราค่าใช้โทรศัพท์มือถือ เป็นส่วนหนึ่งของการที่ คตส.
จะเอาโทษ ยึดทรัพย์ ทั้งหมด ทั้งปวง ของเครือชินวัตร ที่ได้ประกอบการดำเนินธุรกิจ ตลอดมา
แม้จะเป็นทรัพย์สินที่มีอยู่ก่อนเกิดคดีที่ถูกกล่าวโทษ

โดยนายแก้วสรร อติโพธิ อ้างทฤษฎีวัวกินหญ้า ต้องยึดวัวทั้งตัว

ยังไม่พอ จากเดิมที่จะยึดทรัพย์ทั้งหมด โดยถือว่าเป็นของทักษิณ ไม่ใช่เป็นของลูกทักษิณ
ยังจะตามไปปรับเป็นค่าภาษีเอาจากลูกทักษิณเพิ่มอีก โดยถือว่าไม่เป็นของทักษิณ แต่เป็นของลูกทักษิณ

สมควรที่ สักวันหนึ่ง ต้องให้ คตส. ได้รับกรรมสนองสถานหนัก ฐานปฏิบัติหน้าที่อย่างฉ้อฉล หรือไม่ ?

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


คำกล่าวโทษของ คตส.  
เป็นการเลือกใช้ความแต่บางเสี้ยว
ไม่ใช่ความทั้งหมด หรือไม่ใช่ส่วนสำคัญที่สุด หรือไม่ใช่ส่วนจำเป็นที่สุด
แบบนกมีหู หนูมีปีก ที่ความจริงเป็นบ่าง
บางเวลาว่าเป็นนก บางเวลาว่าเป็นหนู บางเวลาว่าเพราะมีหู บางเวลาว่าเพราะมีปีก
แล้วแต่ว่าจะเลือกใช้กับฝ่ายไหน
หรือไม่ ?

โดยเลือกความแต่เพียงว่า
การลดอัตราค่าใช้โทรศัพท์ลง จะทำให้รัฐได้รับเงินลดลง

ละเลยส่วนอันสำคัญ อันได้แก่

ประชาชน ได้ใช้โทรศัพท์มือถือในราคาถูก
ผลประโยชน์ได้แก่ประชาชนโดยตรง
ไม่ต้องรอให้นักการเมืองอย่างบางพรรคจัดสรรมาให้
ที่อาจจะตกหล่น พลัดหลงหายเข้ากระเป๋านักการเมืองอย่างบางพรรค
ไปบางส่วน หรือหลายส่วน

องค์กรธุรกิจได้รับความสะดวกในการติดต่อธุรกิจ
จากการที่ค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสารน้อยลง
เกิดการใช้โทรศัพท์ เพิ่มขึ้นอย่างมากมายมหาศาล

รายได้ของรัฐ จากการใช้โทรศัพท์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย
จาก 2 ล้านเลขหมาย เป็น 8 ล้านเลขหมาย ทันที ในปี 2546
รวมแล้วมากยิ่งกว่าก่อนลดอัตราค่าใช้โทรศัพท์ลง
เป็นจำนวนรายได้แก่รัฐเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

ผลจากการต่างๆ ดังกล่าว
ก่อบังเกิดเป็นผลลัพธ์ของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของประเทศไทย
ประมาณ 6.7 ถึง 7.1 เปอร์เซ็นต์
เป็นสถิติระดับโลก อันดับที่ 31
แต่ถ้าพิจารณาอัตราการขยายตัวจากเดิมประกอบด้วย
จากที่ประเทศไทยต้องประสบความหายนะจากวิกฤติเศรษฐกิจ
ก็จะไม่เพียงเป็นสถิติโลก อันดับที่ 31
แต่จะมีการพลิกฟื้นและอัตราการขยายตัวมากและรวดเร็ว
อาจจะสูงสุดหรือเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ประเทศหนึ่ง ในเวลานั้นด้วย

และ
ต่อไปนี้ คือ ที่สุดของโลก
ที่ประกอบเข้าด้วยกัน

ที่ซึ่ง ประเทศไทย จึงเป็นที่สุดของโลก อย่างไม่มีใครจะเทียบเปรียบได้



ผลจากการข้างต้น
การขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของประเทศไทย
ติดลบอย่างหนัก เป็นค่าต่ำที่สุดของโลก กว่าประเทศใดๆ
ในเวลานั้น

เพราะเป็นสถิติระดับโลก

ทั้งสูงเป็นสถิติระดับโลก
และ
ทั้งต่ำเป็นที่สุดของโลก

เศรษฐกิจรุ่งเรือง ขยายตัวสูงเป็นสถิติระดับโลก ในเวลานั้น
โดยพรรคไทยรักไทย

เศรษฐกิจพังพินาศ ขยายตัวต่ำเป็นที่สุดของโลก ในเวลานั้น
โดยม็อบ กปปส. ที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับม็อบ
แต่บุคลากรแทบหมดทั้งพรรค เข้าร่วมหรือปรากฏตัวในม็อบ ในลักษณะต่างๆ

การจะทำให้ เศรษฐกิจรุ่งเรือง ขยายตัวสูงเป็นสถิติระดับโลก ไม่ใช่การจะทำได้โดยง่าย
และ
การจะทำให้ เศรษฐกิจพังพินาศ ขยายตัวต่ำเป็นที่สุดของโลก ก็ไม่ใช่การจะทำได้โดยง่าย

ประเทศไทย จึงเป็นที่สุดของโลก
อย่างที่ไม่มี ประเทศใด จะมาเทียบเปรียบติด
เทียบความเป็นที่สุดได้

ใช่หรือไม่ ?

ไม่ว่าจะเป็นเวลาอีกยาวนานเท่าใด
การกระทำเลวร้ายต่อประเทศชาติบ้านเมือง
จะต้องให้ผู้กระทำได้รับโทษสถานหนัก ให้จงได้

เพื่ออนุชนรุ่นหลัง จะไม่ต้องรับเคราะห์กรรม
เพราะคนชั่วไม่เคยได้รับโทษ

อีกต่อไป

ใช่หรือไม่ ?


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้