[CR] ทริปด่วน พัทลุง 2 วัน 1 คืน / วันแรก

สวัสดีคร้า วันนี้ยายจะพาไปเที่ยว พัทลุง เมืองทางผ่านที่แสนสงบสุข  จุดเริ่มต้นของภารกิจด่วน ! ในการไปเยี่ยมหลาน 2 คน ก่อนอื่นต้องย้อนความก่อน  ยายมีเพื่อนสนิทสมัยเรียนปริญญาโท หลังจากเรียนจบแล้วเพื่อนยายย้ายจากกทม.กลับไปช่วยธุรกิจของที่บ้านที่พัทลุง จึงได้สัญญากันว่าจะมีการไปเที่ยวบ้านกันเกิดขึ้น  ผ่านไป 7 ปี! (‘-_-) จนเพื่อนยายมีลูก 2 คน จริงๆมีคุยกันทาง Facebook บ้าง เป็นครั้งคราวก็เกิดการผลัดผ่อนกันเรื่อยไป วันหนึ่งเพื่อนยายก็พูดลอย ๆ ว่า “แกลูกคนโตฉันเข้าอนุบาลแล้วนะ” เพื่อนยายพูดแค่นั้น  กึก! ยายดำเนินการวางแผนจองตั๋วเครื่องบินเพื่อไปหาเพื่อนทันที  ต่อไปจะเป็นแผนการท่องเที่ยวแบบเร่งด่วนของยาย  เผื่อใครที่มีเวลาน้อยก็สามารถไปเที่ยวได้สบาย ๆ
เช้าวันแรก  
ยายเลือกบินไปกับพี่ณเดชน์ (Air Asia) วิธีการเลือกสายการบินนี้จะเปรียบเทียบที่ราคาถูกที่สุดในช่วงเวลาที่ต้องการนะ เพราะถ้าราคาโปรโมชั่นคงจะไม่สะดวกสำหรับคนเวลาจำกัด ถึงสนามบินตรัง ช่วงสายแดดไม่จัดมาก (ขอกราบขอบคุณพระพิรุณที่เว้นช่วงโปรยปรายให้ยายได้เที่ยวอย่างสะดวกสบาย /I\ ) ทริปนี้ ยายไปกัน 3 คน มียาย ลุง แล้วก็เพื่อนสนิทของลุงกะยาย  โดยจะเรียกว่า เมียน้อย  คุณเมียน้อยของยายทำการจองรถAvanza ไว้กับ รถเช่าตรัง บอกกันตรงนี้เลย ว่าพวกพี่เค้าบริการดี รถใหม่ป้ายแดง  ราคาไม่แพง อันนี้ยายแนะนำ ถ้าใครจะใช้บริการ (อันนี้นอกเรื่อง  คือ คุณเมียน้อยจะซื้อรถใหม่ ลังเลระหว่าง Freed กะ Avanza เลยขอว่าอยากลองขับ Avanza เพราะจริงๆไปแค่ 3 คน เช่า yaris ก็ไปได้ใสๆ )  รับรถเรียบร้อยมุ่งตรงไปกินอาหารขึ้นชื่อของเมืองตรัง คือ ติ่มซำ + หมูย่าง  ที่ร้าน “เลตรัง 2” จริงๆก็มีหลายร้านนะที่ขึ้นชื่อ  ก็ลองสอบถามอากู๋ (google) กันตามอัธยาศัย  เอาละอิ่มท้องเต็มพุงก็เริ่มต้นเดินทางเข้าจังหวัดพัทลุงกันเลย ยายมุ่งหน้าไปที่อุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า  เปิด GPS เพื่อนที่คุ้นเคยร่วมทุกข์สุขกันมาหลายทริป  แต่ทริปนี้หนักไปทางทุกข์ ! มากกว่า  ตอนยายดูทางก็นึกตะหงิด ๆ ว่าเองไอ้ทางนี้ 10 กม. ทำไมมันใช้เวลา 30 นาทีหว่า แต่ก็ไม่เอะใจ ไปไหนไปกัน...ลุย! เมื่อทางลาดยางหมดไปเป็นทางลูกรังเริ่มรู้สึกละ เอาน่าๆไปเถอะ ถือซะว่าขับรถชมสวนยาง  แต่...  ขอเชิญชมภาพทางที่คุณนาย GPS พายายไปจ๊ะ
หลุมลึกเป็นศอก ถ้าหวืดลงไปละก็ 3 ชีวิตจบเห่ ยายดันทุรังไปได้ครึ่งทาง 5 กม. ต้องลงรถไปโบกกันเป็นระยะเพื่อไม่ให้หล่นหลุม สุดท้ายเจอหลุมสุดโหด  ไม่ไหวขนาดเดินยังข้ามลำบากเลย Avanza เลิกคุย  ตัดสินใจก็ถอยรถกลับ  แล้วคุณนาย GPS พายายไปเส้นทางใหม่ลาดยาง นิ้งเลย  แล้วทำไมไม่พาตรูมาแต่แรก  ยายนั่งคอตกหมดกัน ตำแหน่งเนวิเกเตอร์ยอดเยี่ยม 7 ปีซ้อน (อันนี้แต่งตั้งให้ตัวเอง ^_^) มาเสียที่พัทลุงนี้แหละ T^T อยู่ ๆ ลุงกับคุณเมียน้อยก็พากันหัวเราะขึ้นมาแล้วบอกว่า “นี้ๆตาแว่น  พวกเราไม่ได้ตื่นเต้นกันแบบนี้มานานเท่าไรแล้วนะ 555”  ปิ๊ง! ยายเลยกลับไปคิดถึงอาการที่หัวใจที่มันเต้นโครมๆ เมื่อตะกี้ นี้ก็เพิ่งจะเบาลงไป  แล้วยายก็ยิ้มออก  จริงด้วยเรามัวแต่ตื่นเช้า -> ขับรถมาทำงาน -> นั่งโต๊ะ -> ขับรถกลับบ้าน -> เข้านอน  วนเวียนอยู่อย่างนี้ มานานมากจนหลงลืมความรู้สึกเหล่านี้ไปซะสนิทเลย  ยายไม่ได้บอกให้ทุกคนขับรถไปเสี่ยงอันตรายแบบยายนะ  แต่ประเด็นที่อยากบอก คือ ความรู้สึกที่มันหายไปต่างหาก  ลองกลับไปค้นดูกันนะ ว่า เราลืมความรู้สึกอะไรตกหล่นไปในวิถีคนเมืองกันบ้างรึป่าว  อีกอย่างคุณเมียน้อยบอกยายว่า “แกตัดสินใจละ เอา Avanza นี้หละ  ผ่านทางตะกี้มาได้  ก็ไม่ต้องดูไรแระ”  นี้ก็เป็นข้อดีอีกอย่างที่ได้จากการลุยสวนยางครั้งนี้ คือ คุณเมียน้อยได้ Avanza เป็นรถใหม่
ในที่สุดก็มาถึง อุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า  อุทยานนี้กว้างมากกินพื้นที่ 2 จังหวัด คือพัทลุงกับนครศรีธรรมราช  เรามากันที่ อ.ศรีบรรพต จ.พัทลุง พอมาถึงลงรถจะไปจ่ายค่าเข้าอุทยาน คนไทย คนละ 20 บาท  เจอคุณพี่เจ้าหน้าที่คนสวยใจดี  (ขอกราบขอบพระคุณคะ /I\ )
เราเข้าไปเจอนักศึกษากลุ่มใหญ่สัก 15-20 คน เห็นจะได้ น่าจะมาเข้าค่ายเรื่องดูนกกันนะ ยายไปยืนแอบฟังเค้าคุยกันเรื่องนกอยู่  และอุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า  นี้ก็ขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติยังสมบูรณ์อยู่มากทีเดียว  ฝั่งพัทลุงนี้มี 2 จุดที่ให้เข้าไปชม คือ ถ้ำวังมัจฉา เดินไปจากที่จอดรถ 2 กม . และจุดชมวิวผาผึ้ง  เดินไปจากที่จอดรถ 300 ม. เราก็ต้องไปที่ไกลก่อน จึงเลือกเดินไปที่ถ้ำวังมัจฉาก่อน คือแบบทั้งอุทยานมีเดินกันอยู่ 3 คน น้องๆนักศึกษาก็เข้าที่พัก  แหม ได้ยินเสียงนกเสียงแมลงชัดเจน สมใจยาย แต่ ... อีกแระ เมื่อเดินบนทางปูนอย่างดีหลายหอบไปถึงหน้าถ้ำ คือ ทางเข้ามันอยู่ไหนอะ  ปีนหากันอยู่แพรบนึง อ่าเจอละ เพื่อนหันมาถามยาย “แกไม่เข้าได้ป่าววะ” ยายส่ายหน้าทันที “มาลำบากขนาดนี้ต้องเข้าแก”  ในถ้ำมืดมากต้องเปิดไฟโทรศัพท์ 3 เครื่อง แล้วค่อยๆเดินไป ได้ 20 เมตร ... น้ำท่วม  จบกัน ไปต่อไม่ได้  เสียดายมาก แต่คนที่ดีใจเห็นจะเป็นคุณเมียน้อยกะลุงที่ไม่ต้องไปต่อ
ทางเข้าถ้ำจะอยู่หลังต้นไม้ที่เห็นจะต้องหย่อนตัวลงไป
เอาละ  เรากลับไปจุดชมวิวผาผึ้งก็ได้ ขากลับลงมาเจอป้ายบอกทาง จุดชมวิวผาผึ้ง 300 ม.   เอ ป้ายอยู่นี้  ทางขึ้นไปไหนละ สงสัยเดินไปทางนี้  ยายก็เดินนำเลย  หันไปบอกคณะว่า “แกทางนี้มีรอยคนเดินขึ้นไปมันเรียบ ๆ ฉันอ่านพี่รพินทร์  ไพรวัลย์มาแล้ว  ฉันมั่นใจทางนี้แหละ”  เดินไปครึ่งชั่วโมง 300 ม. ครึ่งชั่วโมง  งะ..ตำแหน่งเนวิเกเตอร์ยอดเยี่ยม 7 ปีซ้อน หมดจริงๆแน่  คุณเมียน้อยหันมาค้อนๆ ถามยายว่า “แก 300 ม. ใช่เหรอแบบนี้” ยายต้องกลั้นใจตอบแบบไม่สบตาและเสียงค่อนข้างเบาว่า   “ใช่แก เค้าวัดแนวดิ่ง  ”  ก่อนที่สถานการณ์ของขาทั้ง 6 ข้างจะแย่ไปกว่านี้ เราเจอบันได  เย้! ถึงแล้วแน่เรย  รีบอดทนไต่บันไดอย่างมีความหวัง  เฮือก...มาถึงครึ่งทาง  ครึ่งทางอีกแล้วหรา  คุณเมียน้อยกับลุงบอกไม่ไหวแล้ว ขาสั่นไปหมดแล้วไม่ไปแล้วนะ นั่งรอตรงนี้  ตอนนี้บังคับขาไม่ได้แล้วมันสั่นเองแล้ว  ยายจึงได้เก็บภาพมาแค่นี้  
คือ จุดชมวิวจริง ๆ อยู่บนยอดนู้นนนนน สุดขอบภาพอะ
เอาน่าขอแก้ตัวอีกสักที  ยายเจอทางลงอีกทาง เป็นบันไดปูนทอดยาวลงไป รีบชักชวนคุณเมียน้อยกะลุงทันที  จึงโดนถามกลับมาว่า “แกถ้าลงไปแล้ว  ไปโผล่นครศรีธรรมราชจะทำไง”  โห เสียเซลฟ์สุด ๆ นี้ยายหมดความเชื่อถือแล้วใช่ไหม บอกทางผิด 2 ครั้งติดกันเท่านั้นเอง    แต่...ไม่จ้า ครั้งนี้ยายประสบความสำเร็จ  ทางลงไปโผล่ข้างที่จอดรถเลย 😊 เพื่อไถ่โทษในความผิดอันใหญ่หลวงยายรับอาสาขับรถไปถึงรีสอร์ทเองจ้า  เราเลือกพักที่ ศรีปากประ สวย...ลืมเหนื่อยเลย
เรานัดเพื่อนสนิทยายทานข้าวที่รีสอร์ทเพราะที่นี้เค้ามีร้านอาหาร วิวยอ เป็นที่ขึ้นชื่อของแถวนี้เลย  สัก 4-5 โมงละ เพื่อนยายโทรมาบอกว่า เราควรจะไปดูสะพานตินลสูลานนท์กันก่อนดีกว่า เพราะค่ำแล้วจะมองอะไรไม่เห็น  ที่แรกยายกะว่าไปดูกลางคืนมีวิวไฟสวยดีออก (ความคิดคนกรุงเทพ ที่มีแสงไฟตลอด 24 ชม)   ขับรถออกไปจากรีสอร์ทนิดเดียว
แค่ขับรถเปิดกระจก เอาหน้าบานๆโต้ลมดูวิวของทะเลสาบสงขลาก็สวยมากแล้วอะคะ  จู่ๆ ตอนที่ขับรถอยู่บนสะพาน  ลุงพูดขึ้นมาลอยๆ ว่า  “นี้คือท้องฟ้าเดียวกับที่ กทม. ใช่ไหม ทำไมมันถึงกว้างและสวยอย่างนี้หละ  เราเพิ่งรู่ว่าที่จริงแล้วท้องฟ้ามันกว้างขนาดนี้เลยหรอ” พาพันชอบ
ในที่สุดก็มาถึงเวลาที่ยายรอคอย  กินข้าวเย็นจ้า  ที่ร้านวิวยอ  อาหารอร่อยใช้ได้เลยทีเดียว  อาหารขึ้นชื่อก็มี ใบเหลียงผัดไข่  ต้มกะทิสายบัว ตำสายบัวกุ้งสด ฯ  มีดนตรีสดสไตล์เพื่อชีวิตบรรเลงเพิ่มบรรยากาศด้วย  อิ่มกันแล้วก็ออกไปเดินตลาดน้ำลำปำ  ไปถึงเกือบ 2 ทุ่มเห็นจะได้  ตลาดวายจ๊ะ เค้าเก็บของกันหมดแระ ไม่เป็นไร  กลับรีสอร์ทเอาแรงเพราะพรุ่งนี้ต้องออกเรือไปทุ่งบัวแดงแต่เช้าตรู่  คุณเมียน้อยกะลุงเค้าอยากไปนั่งฟังเพลงกินบรรยายกาศตามประสาหนุ่ม ๆ ส่วนยายอาบน้ำ สวดมนต์นอนตามประสาคนสูงวัย
ชื่อสินค้า:   ทะเลน้อย พัทลุง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่