สวัสดีค่ะ
เราจะมารีวิวเรื่องการดูแลสุขภาพในผู้ป่วย โดยเฉพาะเรื่องน้ำหนักค่ะ
หมายเหตุ: เราเป็นแพทย์เฉพาะทางค่ะ
เราเป็นคนป่วยค่ะ เราเริ่มป่วยเมื่อ กันยายน 2558 ค่ะ เริ่มด้วยมีอาการผิดปกติทางการมองเห็น โดยตาด้านขวามัวค่ะ จากนั้น ตาขวาครึ่งล่างก็มืดสนิท เราไปพบคุณหมอ ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น NMO (neuromyelytic optica) จากนั้นเราได้รับการรักษาโดยการฉีด steroid ทางน้ำเกลือ และทาน prednisoloneกับazathiopine ซึ่งเป็นยากดภูมิคุ้มกัน เพื่อป้องกันการเป็นซ้ำของโรค ส่วนตาเราก็ดีขึ้นในระดับนึงค่ะ แต่การมองเห็นโดยรวมปกติดี เนื่องจากตาซ้ายเราปกติ ตาขวาครึ่งบนปกติ
เราทานsteroid และยากดภูมิคุ้มกันมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน ซึ่งยาเองมีผลข้างเคียงมากมายค่ะ
เราโชคดี ที่ไม่ค่อยเจ็บป่วยมาก ทั้งๆที่ทำงานใน รพ ตลอดค่ะ ติดหวัดจากลูกบ้าง ปีละ2 ครั้ง (เรามีลูก2คน คนโต 5ขวบ คนเล็ก3ขวบค่ะ)
ความแย่ของยาsteroid คือทำให้เราอ้วน น้ำหนักเราเพิ่มขึ้นจาก50เป็น 58กิโลกรัม ในระยะเวลา1ปีค่ะ
แต่ก่อน เราเป็นคนตัวเล็กๆ ก่อนท้องน้ำหนัก45กิโลกรัมค่ะ
เราเริ่มกังวล กับรูปร่าง และสุขภาพตัวเอง เรามีลูกที่ต้องดูแล มีพ่อแม่ที่เรายังดูแล เราอยากทำงาน อยากแข็งแรง เราจึงเริ่มดูแลตัวเองค่ะ
เราไปออกกำลังกาย และ ดูแลการทานอาหารของตัวเองค่ะ
1. เรื่องของอาหาร เราทานอาหารให้อยู่ในปริมาณปกติที่ตัวเราเองควรได้รับ ก็คือเราก็นับแคลลอรี่ในอาหารที่เราทานค่ะ ช่วงแรกเราลดน้ำหนักค่ะ เราเลยจำกัดค่อนข้างมาก ไม่เกิน1000แคล ต่อวัน นอกจากนี้ เราเลือกทานผักสด สลัด ผลไม้เป็นหลัก มีผักในอาหารทุกมื้อค่ะ ลดแป้งลงค่ะ เลี่ยงอาหารที่ทอด เลี่ยงอาหารหวาน เค็ม มัน เพื่อสุขภาพของเราเองค่ะ
ช่วงแรกเรางดมื้อเย็นเนื่องจากต้องการลดน้ำหนักค่ะ
เรื่องอาหาร ตั้งแต่เรามีลูก พฤติกรรมการกินเราแย่ลงค่ะ เรากินหมูปิ้ง10ไม้ กินหนังไก่ทอด กินเอ็นไก่ทอด บ่อยๆ กินอาหารปริมาณมาก จานใหญ่ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินจึงมีความสำคัญมากๆค่ะ
2. ออกกำลังกาย บอกก่อนว่า ชีวิตนี้เราไม่เลยออกกำลังกายนอกจากการเรียนพละศึกษา เราเล่นกีฬาได้ แต่ได้แบบเรียนมาค่ะ ว่ายน้ำ วอลเลย์ บาส เล่นได้หมด แต่เล่นนะคะ
กีฬาที่เราเลือก คือ ชกมวยค่ะ เราไปเรียนชกมวยที่ยิมแห่งหนึ่งค่ะ ที่นี่มีการสอนชกมวยโดยครูมวย ร่วมกับการ เวท ค่ะ ใช่เวลา ทำกิจกรรมต่อครั้งประมาณ 1ชั่วโมงครึ่งค่ะ เราไป 6ครั้งต่อสัปดาห์ใน4เดือนแรก หลังจากนั้น เราไป3ครั้งต่อสัปดาห์ค่ะ (เนื่องจาก ช่วงนี้ลูกๆเปิดเรียนต้องไปรับที่ รร ค่ะ) วันที่เราไม่ได้ไปยิม เราก็เวทเองที่บ้านค่ะ
เราออกกำลังกายเกือบทุกวันค่ะ เพราะเรายังมีหน้าท้องค่ะ อยากให้หายไป
ต่อไปมาดูการเปลี่ยนแปลงของเราค่ะ
รูปแรก ตอนเริ่มลดน้ำหนัก ถ่ายตอนเดือน ม.ค.2560 น้ำหนัก58.5กิโลกรัม BMI23.9 ตอนนั้นวัดไขมันร่างกายทั้งหมด 34.9 กล้ามเนื้อ23.4 Body age44ปี(อายุจริง35ปีค่ะ)
ถ่ายตอน พ.ค.2560ค่ะ น้ำหนักเหลือ 48กิโลกรัม ไขมันร่างกายเหลือ25.3 กล้ามเนื้อ27.0 BMI19.9 body age 31ปีค่ะ^^
เป็นรูปที่พาเด็กๆไปเที่ยว ห่างกัน1ปี
เราอยากจะบอกทุกคน ค่ะ การดูแลสุขภาพ ลดน้ำหนักมันเป็นไปได้ ขึ้นอยู่ตัวเองค่ะ เราเองก็มีข้อจำกัด
1.เราบวม จาก steroid ตอนแรก เราคิดว่าจะเป็นไปได้เหรอ ที่จะลดน้ำหนักลงได้ แต่เราทำให้เห็นว่าทำได้ค่ะ
2.ไม่ใช่แต่น้ำหนักที่ลดลงค่ะ ไขมันร่างกายเราลดลง กล้ามเนื้อเรามากขึ้นค่ะ
3.เราต้องทำงานเหมือนกัน ทำงาน8:00-16:00น ขึ้นเวร 10เวร ต่อเดือน บางคืนไม่ได้นอนถึงเช้า เราก็ออกกำลังกายได้ หาเวลาไปหลังเลิกงาน ฝากลูกไว้กับคุณย่า หรือสามีสัก2ชม ค่ะ เพื่อสุขภาพที่ดีของเราค่ะ
4.เรามีลูกที่ต้องดูแล หลังเลิกงานเราไปรับลูกเอง พาลูกทานข้าว ทำกิจกรรม ทำการบ้าน อาบน้ำ ตอนเช้าก็หน้าที่เรา อาบน้ำ เตรียมอาหารให้ลูกค่ะ สามีป้อนอาหารเช้าและส่งเด็กไป รร
เราก็ยังมีเวลาออกกำลังกาย โดยวันที่เราไม่ได้ไปยิม เราเวทเอง 1ชม ชวนลูกออกกำลังกายกายไปด้วย เป็นการปลูกฝังเค้าด้วยว่าการออกกำลังกาย สำคัญ ควรทำทุกวันค่ะ
สุดท้ายนี้
เราขอบคุณ คุณย่า(คุณแม่สามี)ที่ท่านเข้าใจ และช่วยดูแลหลาน ให้เราได้ออกกำลังกาย
ขอบคุณสามี ที่ช่วยดูแลลูก ขณะที่เราไปยิม และออกกำลังกาย ไปด้วยค่ะ
เราเป็นกำลังใจให้ทุกๆท่านในการดูแลสุขภาพและลดน้ำหนักค่ะ
เราป่วย แต่เราดูแลสุขภาพ ลดน้ำหนักได้
เราจะมารีวิวเรื่องการดูแลสุขภาพในผู้ป่วย โดยเฉพาะเรื่องน้ำหนักค่ะ
หมายเหตุ: เราเป็นแพทย์เฉพาะทางค่ะ
เราเป็นคนป่วยค่ะ เราเริ่มป่วยเมื่อ กันยายน 2558 ค่ะ เริ่มด้วยมีอาการผิดปกติทางการมองเห็น โดยตาด้านขวามัวค่ะ จากนั้น ตาขวาครึ่งล่างก็มืดสนิท เราไปพบคุณหมอ ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น NMO (neuromyelytic optica) จากนั้นเราได้รับการรักษาโดยการฉีด steroid ทางน้ำเกลือ และทาน prednisoloneกับazathiopine ซึ่งเป็นยากดภูมิคุ้มกัน เพื่อป้องกันการเป็นซ้ำของโรค ส่วนตาเราก็ดีขึ้นในระดับนึงค่ะ แต่การมองเห็นโดยรวมปกติดี เนื่องจากตาซ้ายเราปกติ ตาขวาครึ่งบนปกติ
เราทานsteroid และยากดภูมิคุ้มกันมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน ซึ่งยาเองมีผลข้างเคียงมากมายค่ะ
เราโชคดี ที่ไม่ค่อยเจ็บป่วยมาก ทั้งๆที่ทำงานใน รพ ตลอดค่ะ ติดหวัดจากลูกบ้าง ปีละ2 ครั้ง (เรามีลูก2คน คนโต 5ขวบ คนเล็ก3ขวบค่ะ)
ความแย่ของยาsteroid คือทำให้เราอ้วน น้ำหนักเราเพิ่มขึ้นจาก50เป็น 58กิโลกรัม ในระยะเวลา1ปีค่ะ
แต่ก่อน เราเป็นคนตัวเล็กๆ ก่อนท้องน้ำหนัก45กิโลกรัมค่ะ
เราเริ่มกังวล กับรูปร่าง และสุขภาพตัวเอง เรามีลูกที่ต้องดูแล มีพ่อแม่ที่เรายังดูแล เราอยากทำงาน อยากแข็งแรง เราจึงเริ่มดูแลตัวเองค่ะ
เราไปออกกำลังกาย และ ดูแลการทานอาหารของตัวเองค่ะ
1. เรื่องของอาหาร เราทานอาหารให้อยู่ในปริมาณปกติที่ตัวเราเองควรได้รับ ก็คือเราก็นับแคลลอรี่ในอาหารที่เราทานค่ะ ช่วงแรกเราลดน้ำหนักค่ะ เราเลยจำกัดค่อนข้างมาก ไม่เกิน1000แคล ต่อวัน นอกจากนี้ เราเลือกทานผักสด สลัด ผลไม้เป็นหลัก มีผักในอาหารทุกมื้อค่ะ ลดแป้งลงค่ะ เลี่ยงอาหารที่ทอด เลี่ยงอาหารหวาน เค็ม มัน เพื่อสุขภาพของเราเองค่ะ
ช่วงแรกเรางดมื้อเย็นเนื่องจากต้องการลดน้ำหนักค่ะ
เรื่องอาหาร ตั้งแต่เรามีลูก พฤติกรรมการกินเราแย่ลงค่ะ เรากินหมูปิ้ง10ไม้ กินหนังไก่ทอด กินเอ็นไก่ทอด บ่อยๆ กินอาหารปริมาณมาก จานใหญ่ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินจึงมีความสำคัญมากๆค่ะ
2. ออกกำลังกาย บอกก่อนว่า ชีวิตนี้เราไม่เลยออกกำลังกายนอกจากการเรียนพละศึกษา เราเล่นกีฬาได้ แต่ได้แบบเรียนมาค่ะ ว่ายน้ำ วอลเลย์ บาส เล่นได้หมด แต่เล่นนะคะ
กีฬาที่เราเลือก คือ ชกมวยค่ะ เราไปเรียนชกมวยที่ยิมแห่งหนึ่งค่ะ ที่นี่มีการสอนชกมวยโดยครูมวย ร่วมกับการ เวท ค่ะ ใช่เวลา ทำกิจกรรมต่อครั้งประมาณ 1ชั่วโมงครึ่งค่ะ เราไป 6ครั้งต่อสัปดาห์ใน4เดือนแรก หลังจากนั้น เราไป3ครั้งต่อสัปดาห์ค่ะ (เนื่องจาก ช่วงนี้ลูกๆเปิดเรียนต้องไปรับที่ รร ค่ะ) วันที่เราไม่ได้ไปยิม เราก็เวทเองที่บ้านค่ะ
เราออกกำลังกายเกือบทุกวันค่ะ เพราะเรายังมีหน้าท้องค่ะ อยากให้หายไป
ต่อไปมาดูการเปลี่ยนแปลงของเราค่ะ
รูปแรก ตอนเริ่มลดน้ำหนัก ถ่ายตอนเดือน ม.ค.2560 น้ำหนัก58.5กิโลกรัม BMI23.9 ตอนนั้นวัดไขมันร่างกายทั้งหมด 34.9 กล้ามเนื้อ23.4 Body age44ปี(อายุจริง35ปีค่ะ)
ถ่ายตอน พ.ค.2560ค่ะ น้ำหนักเหลือ 48กิโลกรัม ไขมันร่างกายเหลือ25.3 กล้ามเนื้อ27.0 BMI19.9 body age 31ปีค่ะ^^
เป็นรูปที่พาเด็กๆไปเที่ยว ห่างกัน1ปี
เราอยากจะบอกทุกคน ค่ะ การดูแลสุขภาพ ลดน้ำหนักมันเป็นไปได้ ขึ้นอยู่ตัวเองค่ะ เราเองก็มีข้อจำกัด
1.เราบวม จาก steroid ตอนแรก เราคิดว่าจะเป็นไปได้เหรอ ที่จะลดน้ำหนักลงได้ แต่เราทำให้เห็นว่าทำได้ค่ะ
2.ไม่ใช่แต่น้ำหนักที่ลดลงค่ะ ไขมันร่างกายเราลดลง กล้ามเนื้อเรามากขึ้นค่ะ
3.เราต้องทำงานเหมือนกัน ทำงาน8:00-16:00น ขึ้นเวร 10เวร ต่อเดือน บางคืนไม่ได้นอนถึงเช้า เราก็ออกกำลังกายได้ หาเวลาไปหลังเลิกงาน ฝากลูกไว้กับคุณย่า หรือสามีสัก2ชม ค่ะ เพื่อสุขภาพที่ดีของเราค่ะ
4.เรามีลูกที่ต้องดูแล หลังเลิกงานเราไปรับลูกเอง พาลูกทานข้าว ทำกิจกรรม ทำการบ้าน อาบน้ำ ตอนเช้าก็หน้าที่เรา อาบน้ำ เตรียมอาหารให้ลูกค่ะ สามีป้อนอาหารเช้าและส่งเด็กไป รร
เราก็ยังมีเวลาออกกำลังกาย โดยวันที่เราไม่ได้ไปยิม เราเวทเอง 1ชม ชวนลูกออกกำลังกายกายไปด้วย เป็นการปลูกฝังเค้าด้วยว่าการออกกำลังกาย สำคัญ ควรทำทุกวันค่ะ
สุดท้ายนี้
เราขอบคุณ คุณย่า(คุณแม่สามี)ที่ท่านเข้าใจ และช่วยดูแลหลาน ให้เราได้ออกกำลังกาย
ขอบคุณสามี ที่ช่วยดูแลลูก ขณะที่เราไปยิม และออกกำลังกาย ไปด้วยค่ะ
เราเป็นกำลังใจให้ทุกๆท่านในการดูแลสุขภาพและลดน้ำหนักค่ะ