ผลวิจัยชิ้นใหม่วิจัยพบ "การนั่งสมาธิ" ช่วยบำบัดโรควิตกกังวลและลดความเครียดได้
"โรควิตกกังวล หรือ Anxiety Disorder" เป็นกลุ่มโรคความผิดปกติทางจิต กำหนดโดยความวิตกกังวลและความกลัวเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอนาคตโดยไม่มีเหตุผล
ทีมนักวิจัยในเเคนาดากล่าวว่า คน 1 ใน 4 คนจะประสบกับโรควิตกกังวลในชีวิตและความกังวลอาจเพิ่มความรุนแรงขึ้นจนทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถใส่ใจกับงานที่ทำหรือเรื่องสำคัญอื่นๆ ในชีวิตได้
แต่ทีมนักวิจัยที่มหาวิทยาลัยวิเตอร์ลู ในออนตาริโอ้ ประเทศเเคนาดา ชี้ว่าการทำสมาธินาน 10 นาทีต่อวันเป็นประจำทุกวัน อาจช่วยให้คนจิตใจสงบมากขึ้น ไม่ว่อกแว่กและทำงานได้ดีมากขึ้น
การวิจัยนี้จัดทำโดย Mengran Xu และทีมงาน โดยบรรดาผู้เข้าร่วมในการวิจัยได้ทำสมาธิเพื่อทำให้จิตใจจดจ่ออยู่กับปัจจุบัน และไม่คิดอะไร
Xu นักจิตวิทยาคลินิกที่มหาวิทยาลัยวอเตอร์ลู หัวหน้าการวิจัยนี้ กล่าวว่า "เป็นที่รู้กันดีว่าคนที่เป็นโรควิตกกังวลไม่สามารถจดจ่อจิตใจกับงานที่กำลังทำอยู่ เพราะว่อกแว่ก คิดไปถึงเรื่องอื่นๆ อยู่ตลอดเวลา และมักวิตกกังวล แต่คนที่ฝึกสมาธิไม่ให้จิตใจสงบนิ่งจะมีสมาธิดีขึ้น และจดจ่อกับงานที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
ในการวิจัยนี้ มีผู้เข้าร่วมการวิจัย 82 คน เเละทั้งหมดเป็นโรควิตกกังวล พวกเขาถูกสั่งให้ทำงานบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ต้องใช้ความตั้งใจและจดจ่อในงานสูง พวกเขาจะถูกสั่งให้หยุดทำงานเป็นช่วงๆ เพื่อวัดความสามารถในการจดจ่อ
จากนั้นครึ่งหนึ่งของอาสาสมัครจะถูกสั่งให้ฟังเทปเสียงคนอ่านหนังสือให้ฟัง ส่วนอาสาสมัครครึ่งที่เหลือจะทำสมาธิเพื่อฝึกความสงบนิ่งทางจิตใจ โดยนับลมหายใจเข้าออกนานประมาณ 10 นาที
Xu หัวหน้าทีมนักวิจัยชี้ว่า "ทีมงานพบความเเตกต่างอย่างเห็นได้ชัดระหว่างความสามารถในการทำงานของอาสาสมัครที่นั่งสมาธิกับอาสาสมัครที่ไม่นั่งสมาธิ กล่าวคืออาสาสมัครที่นั่งฟังเทปคนอ่านหนังสือทำงานได้ไม่ดีเท่ากับอาสาสมัครที่นั่งสมาธิเพื่อสงบจิตใจ ส่วนคนที่วิตกกังวลเเต่ฝึกสมาธิสามารถจดจ่อกับงานที่ทำและทำงานได้ดีกว่า"
ทีมนักวิจัยชี้ว่า คนที่เป็นโรควิตกกังวลสามารถลดสภาพจิตใจที่ว่อกแว่ก เพิ่มความสามารถในการจดจ่ออยู่กับงานที่ทำได้ดีขึ้นด้วยการนั่งสมาธิเพราะคนที่เป็นโรควิตกกังวลมักจะคิดและกังวลเกี่ยวกับเรื่องอื่นซ้ำเเล้วซ้ำอีกอย่างไม่มีเหตุผล
Xu หัวหน้าการวิจัย กล่าวว่าคนเราทั่วไปใช้เวลาครึ่งหนึ่งในการทำงานไปคิดถึงเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานที่ทำอยู่ เเละสำหรับคนที่เป็นโรควิตกกังวล ความคิดว่อกเเว่กเกิดขึ่นซ้ำเเล้วซ้ำอีกจนเป็นสาเหตุให้เกิดความกังวลตามมา
ทีมนักวิจัยบอกว่า การควบคุมความคิดที่ว่อกเเว่กด้วยการนั่งสมาธินาน 10 นาทีทุกวัน จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของคนเราทั้งในการทำงานและในด้านความปลอดภัยด้วย เพราะคุณควรมีสมาธิไม่ว่อกเเว่กขณะขับขี่รถยนต์
รายงานโดย Jessica Berman
เรียบเรียงโดย ทักษิณา ข่ายแก้ว
ที่มา
http://www.voathai.com/a/meditation-anxiety-ct/3870441.html
"การนั่งสมาธิ" กับการบำบัดโรควิตกกังวลและความเครียด
"โรควิตกกังวล หรือ Anxiety Disorder" เป็นกลุ่มโรคความผิดปกติทางจิต กำหนดโดยความวิตกกังวลและความกลัวเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอนาคตโดยไม่มีเหตุผล
ทีมนักวิจัยในเเคนาดากล่าวว่า คน 1 ใน 4 คนจะประสบกับโรควิตกกังวลในชีวิตและความกังวลอาจเพิ่มความรุนแรงขึ้นจนทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถใส่ใจกับงานที่ทำหรือเรื่องสำคัญอื่นๆ ในชีวิตได้
แต่ทีมนักวิจัยที่มหาวิทยาลัยวิเตอร์ลู ในออนตาริโอ้ ประเทศเเคนาดา ชี้ว่าการทำสมาธินาน 10 นาทีต่อวันเป็นประจำทุกวัน อาจช่วยให้คนจิตใจสงบมากขึ้น ไม่ว่อกแว่กและทำงานได้ดีมากขึ้น
การวิจัยนี้จัดทำโดย Mengran Xu และทีมงาน โดยบรรดาผู้เข้าร่วมในการวิจัยได้ทำสมาธิเพื่อทำให้จิตใจจดจ่ออยู่กับปัจจุบัน และไม่คิดอะไร
Xu นักจิตวิทยาคลินิกที่มหาวิทยาลัยวอเตอร์ลู หัวหน้าการวิจัยนี้ กล่าวว่า "เป็นที่รู้กันดีว่าคนที่เป็นโรควิตกกังวลไม่สามารถจดจ่อจิตใจกับงานที่กำลังทำอยู่ เพราะว่อกแว่ก คิดไปถึงเรื่องอื่นๆ อยู่ตลอดเวลา และมักวิตกกังวล แต่คนที่ฝึกสมาธิไม่ให้จิตใจสงบนิ่งจะมีสมาธิดีขึ้น และจดจ่อกับงานที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
ในการวิจัยนี้ มีผู้เข้าร่วมการวิจัย 82 คน เเละทั้งหมดเป็นโรควิตกกังวล พวกเขาถูกสั่งให้ทำงานบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ต้องใช้ความตั้งใจและจดจ่อในงานสูง พวกเขาจะถูกสั่งให้หยุดทำงานเป็นช่วงๆ เพื่อวัดความสามารถในการจดจ่อ
จากนั้นครึ่งหนึ่งของอาสาสมัครจะถูกสั่งให้ฟังเทปเสียงคนอ่านหนังสือให้ฟัง ส่วนอาสาสมัครครึ่งที่เหลือจะทำสมาธิเพื่อฝึกความสงบนิ่งทางจิตใจ โดยนับลมหายใจเข้าออกนานประมาณ 10 นาที
Xu หัวหน้าทีมนักวิจัยชี้ว่า "ทีมงานพบความเเตกต่างอย่างเห็นได้ชัดระหว่างความสามารถในการทำงานของอาสาสมัครที่นั่งสมาธิกับอาสาสมัครที่ไม่นั่งสมาธิ กล่าวคืออาสาสมัครที่นั่งฟังเทปคนอ่านหนังสือทำงานได้ไม่ดีเท่ากับอาสาสมัครที่นั่งสมาธิเพื่อสงบจิตใจ ส่วนคนที่วิตกกังวลเเต่ฝึกสมาธิสามารถจดจ่อกับงานที่ทำและทำงานได้ดีกว่า"
ทีมนักวิจัยชี้ว่า คนที่เป็นโรควิตกกังวลสามารถลดสภาพจิตใจที่ว่อกแว่ก เพิ่มความสามารถในการจดจ่ออยู่กับงานที่ทำได้ดีขึ้นด้วยการนั่งสมาธิเพราะคนที่เป็นโรควิตกกังวลมักจะคิดและกังวลเกี่ยวกับเรื่องอื่นซ้ำเเล้วซ้ำอีกอย่างไม่มีเหตุผล
Xu หัวหน้าการวิจัย กล่าวว่าคนเราทั่วไปใช้เวลาครึ่งหนึ่งในการทำงานไปคิดถึงเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานที่ทำอยู่ เเละสำหรับคนที่เป็นโรควิตกกังวล ความคิดว่อกเเว่กเกิดขึ่นซ้ำเเล้วซ้ำอีกจนเป็นสาเหตุให้เกิดความกังวลตามมา
ทีมนักวิจัยบอกว่า การควบคุมความคิดที่ว่อกเเว่กด้วยการนั่งสมาธินาน 10 นาทีทุกวัน จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของคนเราทั้งในการทำงานและในด้านความปลอดภัยด้วย เพราะคุณควรมีสมาธิไม่ว่อกเเว่กขณะขับขี่รถยนต์
รายงานโดย Jessica Berman
เรียบเรียงโดย ทักษิณา ข่ายแก้ว
ที่มา http://www.voathai.com/a/meditation-anxiety-ct/3870441.html