บทนำ :
https://ppantip.com/topic/36488847
.........................................................................................................................................................................................
บทที่ 1
คืนยี่เป็ง
" ตื่น! ไอ้เชี่ยอ๋อง ตื่นโว้ยตื่นนนนนนน "
เสียงตบประตูดังรัวๆ ‘อ๋อง’ขยี้ตางัวเงีย ใช้เท้าเตะผ้าห่มไปกองที่ปลายเท้าอย่างงงๆเดินออกไปเปิดประตูมึนๆ
"อะหยังของคิง บ่าฮ่าฝุ่น! มาปลุกฮาหยังเช้านักหนาล้ำเหลือ บ่าเดียวนิ"
อ๋องสีหางตาไปมาพูดขึ้นอย่างรำคาญ เมื่อเห็น’สีฝุ่น’เพื่อนสนิทร่วมคณะฯที่อยู่กระท่อมหลังถัดไปยืนอยู่หน้าประตู
"กล้วย! เที่ยงแล้วไอ้ฟาย นี่! เมื่อคืนมีผู้หญิงที่ไหนมานอนที่ห้องกรุ เมิงจำได้ป่าว"
คำถามที่ดูงงๆจากสีฝุ่นหรือไอ้ฝุ่นของเพื่อนๆ ชายหนุ่มรูปร่างผอมสูงเกือบร้อยแปดสิบใบหน้าพึ่งตื่นนอน เปลือยท่อนบนใส่กางเกงบอลตัวเดียว ผมหยักศกยาวเคลียหลังกระเซิงฟูดูเผินๆเหมือนคนขาดของ แผ่นหลังสักรูปเถาตำลึงด้วยหมึกดำ เลื้อยยั้วเยี้ยพันไปตามปลายแขนทั้งสองข้าง มีลูกตำลึงสีแดงสดเหนือราวนมด้านขวา ส่วนด้านซ้ายสักคำ ‘พ่อ’+’แม่’ ด้วยอักษรสไตล์กราฟิตี้โดยศิลปินที่ขาดทักษะ ขอบตาทั้งสองข้างดูคล้ำ เครายาวเฟื้อยดูเผินๆคล้ายฤาษีแก่พรรษา ริมฝีปากมีไรหนวดขึ้นเขียว ใบหน้าที่เรียวตอบของเขาดูดีแบบเถื่อนๆนิดๆ กำลังยืนรอคำตอบอยู่หน้าประตู
อากาศหลังเที่ยงของเชียงใหม่เดี๋ยวนี้ไม่เหมือนหนาวครั้งกระโน้น เวลาอย่างนี้แดดแทบจะเผาร่างมนุษย์ผู้อ่อนแอให้สาบสูญไปจากโลกนี้ได้ภายในไม่กี่นาที แต่อากาศละแวกซอยวัดอุโมงค์ก็ไม่ได้เลวร้ายจนเกินไปนัก เนื่องจากอยู่เชิงดอยสุเทพ หอพักนิรนามแห่งนี้ซ่อนตัวอยู่ในสวนลิ้นจี่ สร้างเป็นกระท่อมเล็กๆชั้นเดียวยกพื้นสูงบันไดสี่ห้าขั้นหลังคาทรงสูงมุงกระเบื้องลอน ห้องขนาด3x4ม.ห้องน้ำในตัว มีระเบียงข้างหน้าเล็กๆพอให้นั่งเหงาหรือเป็นที่จิบเบียร์เบาๆ ปลูกเรียงรายอยู่ใต้ต้นลิ้นจี่ซึ่งมีทั้งหมดแปดหลัง
“นี่เมื่อคืนคิงจำอะหยังบ่าได้เลยก๋า บ่าง่าว!“
อ๋องดูจะรำคาญที่มีคนมาขัดจังหวะการนอน เขาสูงไล่เลี่ยกับสีฝุ่นตัวขาวหนากว่าเล็กน้อย ผิวขาวตาหยีดูขี้เล่นตลอดเวลา อันที่จริงบ้านอ๋องก็ไม่ได้ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนัก แต่เขาอ้างกับพ่อแม่ว่าคณะสถาปัตย์ที่เขาเรียนมักทำโปรเจ็คท์ส่งอาจารย์ ซึ่งต้องกลับบ้านดึกดื่น อ๋องจึงขออนุญาตมาอยู่หอพัก
“ถ้าจำได้กรุจะมาถามเมิงหาพระแสงเลเซอร์อะไรวะ นี่เมิงบอกมาเลยว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อคืนเมิงขับรถพากูกลับแสดงว่าเมิงไม่เมา“
สีฝุ่นสบัดหัวไปมาด้วยสภาพยังคงแฮ้งค์ปวดหัวตึบๆ ไม่สามารถลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้ เหมือนว่าความทรงจำช่วงหนึ่งของเขาถูกมนุษย์ต่างดาวพรากไปช่วงสั้นๆ อ๋องสั่นหัวอย่างเบื่อหน่ายแล้วอธิบายเหตุการณ์เมื่อคืนให้ฟัง
ฮักฮิมคือ : บทที่ 1
.........................................................................................................................................................................................
บทที่ 1
คืนยี่เป็ง
" ตื่น! ไอ้เชี่ยอ๋อง ตื่นโว้ยตื่นนนนนนน "
เสียงตบประตูดังรัวๆ ‘อ๋อง’ขยี้ตางัวเงีย ใช้เท้าเตะผ้าห่มไปกองที่ปลายเท้าอย่างงงๆเดินออกไปเปิดประตูมึนๆ
"อะหยังของคิง บ่าฮ่าฝุ่น! มาปลุกฮาหยังเช้านักหนาล้ำเหลือ บ่าเดียวนิ"
อ๋องสีหางตาไปมาพูดขึ้นอย่างรำคาญ เมื่อเห็น’สีฝุ่น’เพื่อนสนิทร่วมคณะฯที่อยู่กระท่อมหลังถัดไปยืนอยู่หน้าประตู
"กล้วย! เที่ยงแล้วไอ้ฟาย นี่! เมื่อคืนมีผู้หญิงที่ไหนมานอนที่ห้องกรุ เมิงจำได้ป่าว"
คำถามที่ดูงงๆจากสีฝุ่นหรือไอ้ฝุ่นของเพื่อนๆ ชายหนุ่มรูปร่างผอมสูงเกือบร้อยแปดสิบใบหน้าพึ่งตื่นนอน เปลือยท่อนบนใส่กางเกงบอลตัวเดียว ผมหยักศกยาวเคลียหลังกระเซิงฟูดูเผินๆเหมือนคนขาดของ แผ่นหลังสักรูปเถาตำลึงด้วยหมึกดำ เลื้อยยั้วเยี้ยพันไปตามปลายแขนทั้งสองข้าง มีลูกตำลึงสีแดงสดเหนือราวนมด้านขวา ส่วนด้านซ้ายสักคำ ‘พ่อ’+’แม่’ ด้วยอักษรสไตล์กราฟิตี้โดยศิลปินที่ขาดทักษะ ขอบตาทั้งสองข้างดูคล้ำ เครายาวเฟื้อยดูเผินๆคล้ายฤาษีแก่พรรษา ริมฝีปากมีไรหนวดขึ้นเขียว ใบหน้าที่เรียวตอบของเขาดูดีแบบเถื่อนๆนิดๆ กำลังยืนรอคำตอบอยู่หน้าประตู
อากาศหลังเที่ยงของเชียงใหม่เดี๋ยวนี้ไม่เหมือนหนาวครั้งกระโน้น เวลาอย่างนี้แดดแทบจะเผาร่างมนุษย์ผู้อ่อนแอให้สาบสูญไปจากโลกนี้ได้ภายในไม่กี่นาที แต่อากาศละแวกซอยวัดอุโมงค์ก็ไม่ได้เลวร้ายจนเกินไปนัก เนื่องจากอยู่เชิงดอยสุเทพ หอพักนิรนามแห่งนี้ซ่อนตัวอยู่ในสวนลิ้นจี่ สร้างเป็นกระท่อมเล็กๆชั้นเดียวยกพื้นสูงบันไดสี่ห้าขั้นหลังคาทรงสูงมุงกระเบื้องลอน ห้องขนาด3x4ม.ห้องน้ำในตัว มีระเบียงข้างหน้าเล็กๆพอให้นั่งเหงาหรือเป็นที่จิบเบียร์เบาๆ ปลูกเรียงรายอยู่ใต้ต้นลิ้นจี่ซึ่งมีทั้งหมดแปดหลัง
“นี่เมื่อคืนคิงจำอะหยังบ่าได้เลยก๋า บ่าง่าว!“
อ๋องดูจะรำคาญที่มีคนมาขัดจังหวะการนอน เขาสูงไล่เลี่ยกับสีฝุ่นตัวขาวหนากว่าเล็กน้อย ผิวขาวตาหยีดูขี้เล่นตลอดเวลา อันที่จริงบ้านอ๋องก็ไม่ได้ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนัก แต่เขาอ้างกับพ่อแม่ว่าคณะสถาปัตย์ที่เขาเรียนมักทำโปรเจ็คท์ส่งอาจารย์ ซึ่งต้องกลับบ้านดึกดื่น อ๋องจึงขออนุญาตมาอยู่หอพัก
“ถ้าจำได้กรุจะมาถามเมิงหาพระแสงเลเซอร์อะไรวะ นี่เมิงบอกมาเลยว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อคืนเมิงขับรถพากูกลับแสดงว่าเมิงไม่เมา“
สีฝุ่นสบัดหัวไปมาด้วยสภาพยังคงแฮ้งค์ปวดหัวตึบๆ ไม่สามารถลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้ เหมือนว่าความทรงจำช่วงหนึ่งของเขาถูกมนุษย์ต่างดาวพรากไปช่วงสั้นๆ อ๋องสั่นหัวอย่างเบื่อหน่ายแล้วอธิบายเหตุการณ์เมื่อคืนให้ฟัง