สวัสดีค่ะ เพื่อนๆชาวพันทิพทุกคน วันนี้มีโอกาสได้มาเดินงาน โอทอป มิดเยียร์ 2017 "ภูมิใจ ภูมิปัญญาไทย ระดับโลก" งานก็จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 18 - 25 พฤษภาคม 2560 ภายในงานก็มีสินค้าภูมิปัญญาไทยมากมาย ทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ อาหาร และเครื่องดื่ม
มาร้านนี้เลยดีกว่าอยู่ตรงหน้าเวทีพอดี หาเจอง่ายมาก ชื่อร้านว่า “G Valley by ministry of Industry” เป็นร้านที่ขายขนมและเครื่องดื่ม มีการตกแต่งบูทที่โดดเด่นสะดุดตา แถมยังเปิดตัวในงานนี้เป็นที่แรกอีกด้วย
พอมาถึงก็มองหากาแฟก่อนเลย เพราะว่ารู้สึกง่วงมาก แถมยังคอแห้งอีกด้วย
ละก็เจอนี่ กาแฟที่มีกลิ่นไวน์ พึ่งเคยได้ยินพอได้ยินปุปอยากลองเลยค่ะ ตอนแรกที่เห็นกะว่างานนี้ต้องเมาแน่เลย ใส่ไวน์ลงไปเหรอ? กินแล้วจะเมาไหมเนี่ย?
อยากรู้ว่ามันจะมาผสมกันยังไง เลยจัดมาทั้งแบบร้อน และแบบเย็น เอาให้ตาค้างกันไปเลยทีเดียว
มาดูกรรมวิธีการทำกันเลยดีกว่า เค้าใช้วิธีการชงกาแฟดริป โดยการเทน้ำร้อนหมุนวนเป็นทางเดียวกัน ให้น้ำค่อยๆซึมผ่านกาแฟคั่วบด ทำให้ยังคงกลิ่นและรสชาติของกาแฟไว้ได้ดีกว่าการชงผ่านเครื่องทำกาแฟ และเคล็ดลับกลิ่นไวน์ของเมล็ดกาแฟของที่นี่ก็มาจากกรรมวิธีการบ่มเมล็ดกาแฟด้วยเอนไซม์สายพันธุ์พิเศษและคุมปัจจัยต่างๆ ทั้งเวลาและอุณหภูมิ ทำให้กาแฟของที่นี่มีรสเปรี้ยวและกลิ่นหอมของไวน์ โดยที่ไม่ต้องเทไวน์ลงไปผสมเลย แถมยังรสนุ่มกว่ากาแฟทั่วไปอีกด้วย
ในส่วนของกาแฟดริปเย็น บาริสต้าก็จะเทลงน้ำแข็งก่อนแล้วเอามาแต่น้ำออกมาอีกทีหนึ่ง
หลังจากดูกรรมวิธีการกันแล้วก็ได้ทั้งแบบร้อนและแบบเย็นมา เอาล่ะ ลองกันเลยดีกว่า
พอได้ลองคำแรกรู้สึกหอมไวน์จิงๆ ปกติเปนคนไม่ได้ติดกาแฟขนาดนั้น ทานแค่เวลาง่วง แต่พอได้ลองอันนี้รู้สึกไม่เหมือนกาแฟขมๆทั่วไปที่เคยทาน คำแรกหลังจากกินเข้าไปรู้สึกเลยว่ามีกลิ่นเปรี้ยวไวน์ติดลิ้น แต่ไม่มีแอลกอฮอล์เลยสักนิด ไม่ต้องผสมพวกน้ำตาลหรือโกโก้ก็อร่อยได้ เพิ่มอรรถรสในการกินกาแฟเข้าไปอีก
ส่วนราคาของเมนูนี้ แบบร้อน 55 บาท แบบเย็น 65 บาท
ราคานี้เป็นราคาพิเศษเฉพาะในงานนี้เท่านั้น!!
นอกจากนี้ยังมีกาแฟอื่นๆด้วยนะ
ต่อมาก็มาลองไอศกรีมกันดีกว่า ที่นี่มีอยู่ 2 แบบ อย่างแรกคือ
ไอศกรีมมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองแท้ ราคาแท่งละ 59 บาท ทำจากมะม่วงแท้ไม่ผสมอะไร เลยลองอันนี้ก่อนเลย เพราะก่อนหน้านี้เคยลองเอามะม่วงมาลองมาแช่แข็งกะกินเป็นไอศกรีมที่บ้าน แต่ออกมาดำและช้ำหมดเลย เห็นอันนี้ก็เลยต้องลองซักหน่อย ส่วนไอศกรีมมะม่วงของที่ร้านนี้ใช้กรรมวิธีการแช่แข็งแบบพิเศษเลยออกมาสด และสีสวยแบบนี้ พอได้ลองทานรู้เลยว่าเค้าคัดมาอย่างดีจริงๆ รสชาติดีงาม หวาน ไม่ฝาด นุ่ม อร่อยกว่าไอศกรีมมะม่วงที่ผสมครีม นม และน้ำตาลอื่นๆที่เคยลองมาแน่นอน เพราะที่นี่เค้าใช้เนื้อมะม่วงแท้ที่คัดมาแล้ว ใครที่ชอบของหวานแต่รักสุขภาพต้องมาโดนเลยแหละ
อีกแบบนึงก็จะเป็นไอศกรีมที่ทำจากน้ำผลไม้ ผสมผิวผลไม้ เสริฟพร้อมข้าวป๊อบ
มีทั้งหมด 3 รสชาติ
Raspberry Vinery เป็นไอศกรีมราสเบอร์รี่ผสข้าวป๊อบ ราดด้วยทอปปิ้งไวน์น้ำผึ้ง ราคา 69 บาท
Lemonade Garden เป็นไอศกรีมเลมอนผสข้าวป๊อบ และเลมอนอบแห้ง ราคา 59 บาท
Lychee Iceberg เป็นไอศกรีมลิ้นจี่ผสมข้าวป๊อบ และลิ้นจี่สด ราคา 59 บาท
ลองอันนี้เลยดีกว่า Raspberry Vinery เพราะราคาแพงสุด ต้องพิเศษกว่าอันอื่นแน่ๆ คำแรกรู้สึกได้รสราสเบอรี่เน้นๆ แถมยังหอมไวน์และกลิ่นน้ำผึ้ง ตอนแรกก็ไม่น่าเชื่อว่าจะเข้ากันได้ดีขนาดนี้ แถมยังมี ข้าวป๊อบกรุบๆกรอบๆ เพิ่มเท็กเจ้อในการกินไอศกรีมอีกด้วย
ต่อมา Lemonade Garden ลองรสนี้แล้วรู้สึกสดชื่นเลยทีเดียว มีรสเปรี้ยวที่กลมกล่อม แถมยังมีทอปปิ้งข้าวป๊อบ และเลมอนอบแห้งอีกด้วย เลมอนอบแห้งที่นี่ก็รสชาติดีเลยทีเดียว สรุปว่าลองรสนี้แล้วปลื้มมากๆ
Lychee Iceberg ผสมเนื้อลิ้นจี่ เสริฟพร้อมข้าวป๊อบ และลิ้นจี่สด รสชาติลิ้นจี่เข้มดี ใครที่ชอบน้ำลิ้นจี่อยู่แล้วน่าจะถูกใจเมนูนี้เลยแหละ
พอได้ทานไอติมแล้วเลยต้องมาลองดูท๊อปปิ้งมันสักหน่อย
ข้าวป๊อบ มี 2 รสชาติ คือ เลมอน และ ลิ้นจี่ ราคา 45 บาท
ต่อมาก็ผลไม้อบแห้ง
กระปุกเล็ก 35 บาท มีรสมะม่วงน้ำปลาหวาน3รส และรสเลมอน
ถ้าอยากกินผลไม้หลายๆอย่างก็นี่เลย แพครวมผลไม้ 6 รส มี Spicy lemon, Spicy Mango, Philippine Mango, Tomato, Spicy Lemon, Jack fruit
ราคา 120 บาท
แล้วก็น้ำมะพร้าว ราคา 50 บาท ที่นี่ก็จะหวาน หอม อร่อยกว่าทั่วไป นอกจากนี้เค้ายังมีแผรผังให้ดู เราจะได้รู้ว่าลูกที่เราเลือกมาจากมะพร้าวต้นไหน
แล้วก็วาฟเฟิล 30 บาท ได้ 2 ชิ้น
ใครที่เป็นคอกาแฟ ขนม และผลไม้ อย่าพลาดบูทนี้เชียวนะ อยู่ล็อคที่ 29 มีต้นไม้ตั้งตระหง่านอยู่กลางบูทเลย
หรือติดต่อได้ที่ Line : @g-valley
[SR] รีวิวร้านกาแฟกลิ่นไวน์ และไอศกรีมผลไม้ G Valley by ministry of Industry
มาร้านนี้เลยดีกว่าอยู่ตรงหน้าเวทีพอดี หาเจอง่ายมาก ชื่อร้านว่า “G Valley by ministry of Industry” เป็นร้านที่ขายขนมและเครื่องดื่ม มีการตกแต่งบูทที่โดดเด่นสะดุดตา แถมยังเปิดตัวในงานนี้เป็นที่แรกอีกด้วย
พอมาถึงก็มองหากาแฟก่อนเลย เพราะว่ารู้สึกง่วงมาก แถมยังคอแห้งอีกด้วย
ละก็เจอนี่ กาแฟที่มีกลิ่นไวน์ พึ่งเคยได้ยินพอได้ยินปุปอยากลองเลยค่ะ ตอนแรกที่เห็นกะว่างานนี้ต้องเมาแน่เลย ใส่ไวน์ลงไปเหรอ? กินแล้วจะเมาไหมเนี่ย?
อยากรู้ว่ามันจะมาผสมกันยังไง เลยจัดมาทั้งแบบร้อน และแบบเย็น เอาให้ตาค้างกันไปเลยทีเดียว
มาดูกรรมวิธีการทำกันเลยดีกว่า เค้าใช้วิธีการชงกาแฟดริป โดยการเทน้ำร้อนหมุนวนเป็นทางเดียวกัน ให้น้ำค่อยๆซึมผ่านกาแฟคั่วบด ทำให้ยังคงกลิ่นและรสชาติของกาแฟไว้ได้ดีกว่าการชงผ่านเครื่องทำกาแฟ และเคล็ดลับกลิ่นไวน์ของเมล็ดกาแฟของที่นี่ก็มาจากกรรมวิธีการบ่มเมล็ดกาแฟด้วยเอนไซม์สายพันธุ์พิเศษและคุมปัจจัยต่างๆ ทั้งเวลาและอุณหภูมิ ทำให้กาแฟของที่นี่มีรสเปรี้ยวและกลิ่นหอมของไวน์ โดยที่ไม่ต้องเทไวน์ลงไปผสมเลย แถมยังรสนุ่มกว่ากาแฟทั่วไปอีกด้วย
ในส่วนของกาแฟดริปเย็น บาริสต้าก็จะเทลงน้ำแข็งก่อนแล้วเอามาแต่น้ำออกมาอีกทีหนึ่ง
หลังจากดูกรรมวิธีการกันแล้วก็ได้ทั้งแบบร้อนและแบบเย็นมา เอาล่ะ ลองกันเลยดีกว่า
พอได้ลองคำแรกรู้สึกหอมไวน์จิงๆ ปกติเปนคนไม่ได้ติดกาแฟขนาดนั้น ทานแค่เวลาง่วง แต่พอได้ลองอันนี้รู้สึกไม่เหมือนกาแฟขมๆทั่วไปที่เคยทาน คำแรกหลังจากกินเข้าไปรู้สึกเลยว่ามีกลิ่นเปรี้ยวไวน์ติดลิ้น แต่ไม่มีแอลกอฮอล์เลยสักนิด ไม่ต้องผสมพวกน้ำตาลหรือโกโก้ก็อร่อยได้ เพิ่มอรรถรสในการกินกาแฟเข้าไปอีก
ส่วนราคาของเมนูนี้ แบบร้อน 55 บาท แบบเย็น 65 บาท
ราคานี้เป็นราคาพิเศษเฉพาะในงานนี้เท่านั้น!!
นอกจากนี้ยังมีกาแฟอื่นๆด้วยนะ
ต่อมาก็มาลองไอศกรีมกันดีกว่า ที่นี่มีอยู่ 2 แบบ อย่างแรกคือ
ไอศกรีมมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองแท้ ราคาแท่งละ 59 บาท ทำจากมะม่วงแท้ไม่ผสมอะไร เลยลองอันนี้ก่อนเลย เพราะก่อนหน้านี้เคยลองเอามะม่วงมาลองมาแช่แข็งกะกินเป็นไอศกรีมที่บ้าน แต่ออกมาดำและช้ำหมดเลย เห็นอันนี้ก็เลยต้องลองซักหน่อย ส่วนไอศกรีมมะม่วงของที่ร้านนี้ใช้กรรมวิธีการแช่แข็งแบบพิเศษเลยออกมาสด และสีสวยแบบนี้ พอได้ลองทานรู้เลยว่าเค้าคัดมาอย่างดีจริงๆ รสชาติดีงาม หวาน ไม่ฝาด นุ่ม อร่อยกว่าไอศกรีมมะม่วงที่ผสมครีม นม และน้ำตาลอื่นๆที่เคยลองมาแน่นอน เพราะที่นี่เค้าใช้เนื้อมะม่วงแท้ที่คัดมาแล้ว ใครที่ชอบของหวานแต่รักสุขภาพต้องมาโดนเลยแหละ
อีกแบบนึงก็จะเป็นไอศกรีมที่ทำจากน้ำผลไม้ ผสมผิวผลไม้ เสริฟพร้อมข้าวป๊อบ
มีทั้งหมด 3 รสชาติ
Raspberry Vinery เป็นไอศกรีมราสเบอร์รี่ผสข้าวป๊อบ ราดด้วยทอปปิ้งไวน์น้ำผึ้ง ราคา 69 บาท
Lemonade Garden เป็นไอศกรีมเลมอนผสข้าวป๊อบ และเลมอนอบแห้ง ราคา 59 บาท
Lychee Iceberg เป็นไอศกรีมลิ้นจี่ผสมข้าวป๊อบ และลิ้นจี่สด ราคา 59 บาท
ลองอันนี้เลยดีกว่า Raspberry Vinery เพราะราคาแพงสุด ต้องพิเศษกว่าอันอื่นแน่ๆ คำแรกรู้สึกได้รสราสเบอรี่เน้นๆ แถมยังหอมไวน์และกลิ่นน้ำผึ้ง ตอนแรกก็ไม่น่าเชื่อว่าจะเข้ากันได้ดีขนาดนี้ แถมยังมี ข้าวป๊อบกรุบๆกรอบๆ เพิ่มเท็กเจ้อในการกินไอศกรีมอีกด้วย
ต่อมา Lemonade Garden ลองรสนี้แล้วรู้สึกสดชื่นเลยทีเดียว มีรสเปรี้ยวที่กลมกล่อม แถมยังมีทอปปิ้งข้าวป๊อบ และเลมอนอบแห้งอีกด้วย เลมอนอบแห้งที่นี่ก็รสชาติดีเลยทีเดียว สรุปว่าลองรสนี้แล้วปลื้มมากๆ
Lychee Iceberg ผสมเนื้อลิ้นจี่ เสริฟพร้อมข้าวป๊อบ และลิ้นจี่สด รสชาติลิ้นจี่เข้มดี ใครที่ชอบน้ำลิ้นจี่อยู่แล้วน่าจะถูกใจเมนูนี้เลยแหละ
พอได้ทานไอติมแล้วเลยต้องมาลองดูท๊อปปิ้งมันสักหน่อย
ข้าวป๊อบ มี 2 รสชาติ คือ เลมอน และ ลิ้นจี่ ราคา 45 บาท
ต่อมาก็ผลไม้อบแห้ง
กระปุกเล็ก 35 บาท มีรสมะม่วงน้ำปลาหวาน3รส และรสเลมอน
ถ้าอยากกินผลไม้หลายๆอย่างก็นี่เลย แพครวมผลไม้ 6 รส มี Spicy lemon, Spicy Mango, Philippine Mango, Tomato, Spicy Lemon, Jack fruit
ราคา 120 บาท
แล้วก็น้ำมะพร้าว ราคา 50 บาท ที่นี่ก็จะหวาน หอม อร่อยกว่าทั่วไป นอกจากนี้เค้ายังมีแผรผังให้ดู เราจะได้รู้ว่าลูกที่เราเลือกมาจากมะพร้าวต้นไหน
แล้วก็วาฟเฟิล 30 บาท ได้ 2 ชิ้น
ใครที่เป็นคอกาแฟ ขนม และผลไม้ อย่าพลาดบูทนี้เชียวนะ อยู่ล็อคที่ 29 มีต้นไม้ตั้งตระหง่านอยู่กลางบูทเลย
หรือติดต่อได้ที่ Line : @g-valley
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น