จากกระทู้นี้ คห. ที่ 7-2 -->
https://ppantip.com/topic/36448037
-----------------------------------------------------------------------------
เรียนท่าน 3369215
...จิตสุดท้ายในแต่ละภพ เรียกว่า จุติจิต ...จุติจิตจะมีอารมณ์เดิมอันเดียวกับปฏิสนธิจิตของภพนั้นตั้งแต่แรกเกิด (จิตสุดท้ายของพระอรหันต์เรียกว่า จริมกจิต) ... จิตสุดท้ายไม่สำคัญนัก ... ที่สำคัญคือ ปฏิสนธิจิต ในภพหน้า
จริมกจิต ----
เขียนผิด ต้องเป็น จริมจิต อ่านว่า จะ-ริ-มะ-จิต
จิตสุดท้ายไม่สำคัญนัก
อันนี่ไม่น่าจะจริง ที่สำคัญคือ ปฏิสนธิจิต
อันนี่ก็ไม่น่าจะจริง ---- จิตดวงหนึ่งเกิดขึ้น ดวงหนึ่งดับไป ทั้งวันทั้งคืน เกิดสืบเนื่องกันตลอดไป เพราะฉะนั้น ทุกดวงจิตมีความสัมพันธ์กันอย่างสืบเนื่องตลอดไป ไม่มีดวงไหนสำคัญกว่ากัน เสมือนดวงเดียวกัน
การเกิดในภพหน้า ขึ้นอยู่กับว่าปฏิสนธิจิตดวงแรกจะไปหน่วงเอาอารมณ์ขึ้นมา หรือกรรมอะไรที่เป็นชนกกรรมของจิตดวงนี้ ...
----
ถ้าจุติจิต เป็น จิตที่ประกอบด้วยสติ เป็นมหากุศลจิตญานสัมปยุต ต้องรอปฏิสนธิจิตไปหน่วงเอาอารมณ์อีกหรือ ถึงจะคาดการณ์ได้ว่าจะไปไหน
อารมณ์ที่ปฏิสนธิจิตดวงแรกของภพหน้า อาจจะเอามาจากภพสุดท้ายที่เพิ่งตายมา เช่น อาจจะเอามาจากวิถีจิตสุดท้ายก่อนตายของภพนั้นส่งต่อสืบมา หรือว่า อาจจะเอามาจากภพก่อนๆหน้านั้น ก็ได้ เช่น อาจจะเอามาจากภพที่ ๒ หรือ ๓ หรือ ๔ หรือ ๑๐ หรือ ๑๐๐ หรือ อื่นๆ ..ฯลฯ ถัดย้อนหลังกลับไป ก็ได้ ...
----
จิตที่ดับไปแล้ว มีจิตดวงใหม่สืบภพต่อมาแล้ว ยังจะไปหาสิ่งที่ดับไปแล้วกลับมาใช้ได้อีกหรือ
เช่น กรณีที่สัตว์นรกเมื่อตายจากนรกกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ นั่นคือแสดงว่าจิตของสัตว์นรกนั้น ไปหน่วงเอาอารมณ์ที่เป็นกุศลดีๆในภพก่อนหน้าที่จะไปเกิดในนรกเพื่อเอามาเกิดเป็นมนุษย์ เพราะในช่วงที่กำลังตกนรกอยู่นั้น โดนแต่ความทุกข์เผาผลาญอย่างเดีบว ไม่มีโอกาสได้ทำกุศลความดีใดๆเลยแม้นิดเดียว ดังนั้น สัตว์นรกที่มาเกิดในภพที่เป็นสุคติถัดมาที่พ้นจากนรก ย่อมไม่อาจจะเอาอารมณ์ดีๆในชาติที่เป็นสัตว์นรกเพื่อเอามาเกิดในสุคติได้เลย เพราะไม่มีอารมณ์กุศลดีๆใดๆให้นึกเลย
----
อันนี่ไม่จริง กรรมทุกอย่างที่จิตกระทำไป ถูกบันทึกอยู่ในจิตนั่นแหละ (อ่านได้ใน จิตคือพุทธะ ของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล) เมื่อสัตว์นรกนั้นใช้หนี้ในนรกจนหมดสิ้นแล้ว กรรมดีที่บันทึกอยู่ในจิตนั่นแหละ จะมาเป็นอารมณ์ให้จิตระลึกได้ และ นำไปสู่สุขคติภูมิได้ต่อไป
***...แต่โอกาสเป็นไปได้มาก ที่อารมณ์ของปฏิสนธิจิตของภพหน้า จะหน่วงเอาอารมณ์ไปจากชาติที่เพิ่งตายหยกๆ นั่นแหละ...โอกาสที่ปฏิสนธิจิตจะย้อนกลับไปหน่วงเอาอารมณ์มาจากภพก่อนๆหน้านั้น เป็นไปได้น้อยมากๆ เพราะอารมณ์มันอ่อนเป็นปริตตารมณ์ เนื่องจากตายมาก่อนนานแล้ว..จึงไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้ หมั่นทำกุศลกรรมดีๆในภพนี้ไว้ให้หนักๆมากๆๆ ดีที่สุด..
---
อันนี้ไม่ถูกเอามาก ๆ เลย ในทางพระพุทธศาสนา ไม่มีคำว่าโอกาส ทุกอย่างเป็นไปตามกรรม ไม่มีบังเอิญ ไม่ใช่การเสี่ยงดวงว่าจิตจะไปหน่วงเอาอารมณ์ใดมากกว่าอารมณ์ใด ไม่มีคำว่า probability ความน่าจะเป็นแบบในวิชาทางโลก ทุกอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่ใช้คิด ใช่นึกเอาว่าจะเป็นอย่างโน้น อย่างนี้
(หวังว่า คงเข้าใจบ้าง ที่บอกไปนั้น ...ถ้าไม่เข้าใจลองไปย้อนทวนอ่านอีกที)
----
คุณน่าจะมีแหล่งที่มาของเหตุผลที่ให้ด้วย หรือไม่ก็ควรจะอธิบายที่มาที่ไป ให้สมเหตุสมผล จะไม่ทำให้ผู้ภาวนาท่านอื่น ๆ ไขว้เขวได้
((...ผมขอตั้งเป็นหัวข้อกระทู้ไว้ก่อน เดี๋ยวเสร็จธุระค่อยมาแจกแจงกัน...พอดีมีธุระออกไปด่วนหลายชั่วโมง...ขอโทษที...))
QQQ เชิญคุณสมาชิกหมายเลข 1593752 มาถกกันเรื่อง"จุติจิต"และ "ปฏิสนธิจิต" กันซะหน่อย เพราะคุณแย้งผิดในกระทู้ข้างล่าง QQQ
-----------------------------------------------------------------------------
เรียนท่าน 3369215
...จิตสุดท้ายในแต่ละภพ เรียกว่า จุติจิต ...จุติจิตจะมีอารมณ์เดิมอันเดียวกับปฏิสนธิจิตของภพนั้นตั้งแต่แรกเกิด (จิตสุดท้ายของพระอรหันต์เรียกว่า จริมกจิต) ... จิตสุดท้ายไม่สำคัญนัก ... ที่สำคัญคือ ปฏิสนธิจิต ในภพหน้า
จริมกจิต ---- เขียนผิด ต้องเป็น จริมจิต อ่านว่า จะ-ริ-มะ-จิต
จิตสุดท้ายไม่สำคัญนัก อันนี่ไม่น่าจะจริง ที่สำคัญคือ ปฏิสนธิจิต อันนี่ก็ไม่น่าจะจริง ---- จิตดวงหนึ่งเกิดขึ้น ดวงหนึ่งดับไป ทั้งวันทั้งคืน เกิดสืบเนื่องกันตลอดไป เพราะฉะนั้น ทุกดวงจิตมีความสัมพันธ์กันอย่างสืบเนื่องตลอดไป ไม่มีดวงไหนสำคัญกว่ากัน เสมือนดวงเดียวกัน
การเกิดในภพหน้า ขึ้นอยู่กับว่าปฏิสนธิจิตดวงแรกจะไปหน่วงเอาอารมณ์ขึ้นมา หรือกรรมอะไรที่เป็นชนกกรรมของจิตดวงนี้ ...
---- ถ้าจุติจิต เป็น จิตที่ประกอบด้วยสติ เป็นมหากุศลจิตญานสัมปยุต ต้องรอปฏิสนธิจิตไปหน่วงเอาอารมณ์อีกหรือ ถึงจะคาดการณ์ได้ว่าจะไปไหน
อารมณ์ที่ปฏิสนธิจิตดวงแรกของภพหน้า อาจจะเอามาจากภพสุดท้ายที่เพิ่งตายมา เช่น อาจจะเอามาจากวิถีจิตสุดท้ายก่อนตายของภพนั้นส่งต่อสืบมา หรือว่า อาจจะเอามาจากภพก่อนๆหน้านั้น ก็ได้ เช่น อาจจะเอามาจากภพที่ ๒ หรือ ๓ หรือ ๔ หรือ ๑๐ หรือ ๑๐๐ หรือ อื่นๆ ..ฯลฯ ถัดย้อนหลังกลับไป ก็ได้ ...
---- จิตที่ดับไปแล้ว มีจิตดวงใหม่สืบภพต่อมาแล้ว ยังจะไปหาสิ่งที่ดับไปแล้วกลับมาใช้ได้อีกหรือ
เช่น กรณีที่สัตว์นรกเมื่อตายจากนรกกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ นั่นคือแสดงว่าจิตของสัตว์นรกนั้น ไปหน่วงเอาอารมณ์ที่เป็นกุศลดีๆในภพก่อนหน้าที่จะไปเกิดในนรกเพื่อเอามาเกิดเป็นมนุษย์ เพราะในช่วงที่กำลังตกนรกอยู่นั้น โดนแต่ความทุกข์เผาผลาญอย่างเดีบว ไม่มีโอกาสได้ทำกุศลความดีใดๆเลยแม้นิดเดียว ดังนั้น สัตว์นรกที่มาเกิดในภพที่เป็นสุคติถัดมาที่พ้นจากนรก ย่อมไม่อาจจะเอาอารมณ์ดีๆในชาติที่เป็นสัตว์นรกเพื่อเอามาเกิดในสุคติได้เลย เพราะไม่มีอารมณ์กุศลดีๆใดๆให้นึกเลย
---- อันนี่ไม่จริง กรรมทุกอย่างที่จิตกระทำไป ถูกบันทึกอยู่ในจิตนั่นแหละ (อ่านได้ใน จิตคือพุทธะ ของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล) เมื่อสัตว์นรกนั้นใช้หนี้ในนรกจนหมดสิ้นแล้ว กรรมดีที่บันทึกอยู่ในจิตนั่นแหละ จะมาเป็นอารมณ์ให้จิตระลึกได้ และ นำไปสู่สุขคติภูมิได้ต่อไป
***...แต่โอกาสเป็นไปได้มาก ที่อารมณ์ของปฏิสนธิจิตของภพหน้า จะหน่วงเอาอารมณ์ไปจากชาติที่เพิ่งตายหยกๆ นั่นแหละ...โอกาสที่ปฏิสนธิจิตจะย้อนกลับไปหน่วงเอาอารมณ์มาจากภพก่อนๆหน้านั้น เป็นไปได้น้อยมากๆ เพราะอารมณ์มันอ่อนเป็นปริตตารมณ์ เนื่องจากตายมาก่อนนานแล้ว..จึงไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้ หมั่นทำกุศลกรรมดีๆในภพนี้ไว้ให้หนักๆมากๆๆ ดีที่สุด..
--- อันนี้ไม่ถูกเอามาก ๆ เลย ในทางพระพุทธศาสนา ไม่มีคำว่าโอกาส ทุกอย่างเป็นไปตามกรรม ไม่มีบังเอิญ ไม่ใช่การเสี่ยงดวงว่าจิตจะไปหน่วงเอาอารมณ์ใดมากกว่าอารมณ์ใด ไม่มีคำว่า probability ความน่าจะเป็นแบบในวิชาทางโลก ทุกอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่ใช้คิด ใช่นึกเอาว่าจะเป็นอย่างโน้น อย่างนี้
(หวังว่า คงเข้าใจบ้าง ที่บอกไปนั้น ...ถ้าไม่เข้าใจลองไปย้อนทวนอ่านอีกที)
---- คุณน่าจะมีแหล่งที่มาของเหตุผลที่ให้ด้วย หรือไม่ก็ควรจะอธิบายที่มาที่ไป ให้สมเหตุสมผล จะไม่ทำให้ผู้ภาวนาท่านอื่น ๆ ไขว้เขวได้
((...ผมขอตั้งเป็นหัวข้อกระทู้ไว้ก่อน เดี๋ยวเสร็จธุระค่อยมาแจกแจงกัน...พอดีมีธุระออกไปด่วนหลายชั่วโมง...ขอโทษที...))