สวัสดีครับ

หลังจากครั้งแรกที่ผมได้ลองกินซูชิแบบ Omakase ก็มีเพื่อนคนหนึ่งแนะนำให้ไปลอง Omakase ที่ร้านซูชิเปิดใหม่แถวถนนนวลจันทร์ชื่อ Meruto sushi
ด้วยความที่เห็นว่าร้านนี้อยู่ไม่ไกลจากผมซักเท่าไหร่นัก ก็เลยยังไม่ได้ไปลองซักที เพราะคิดว่าจะไปเมื่อไหร่ก็ได้ใกล้ ๆ แค่นี้ (ใกล้กว่าร้านอื่น ๆ ที่ต้องเข้าไปในเมือง)

จนกระทั่งผมเห็นข่าวว่าร้าน Meruto กำลังจะปิดสาขาที่นวลจันทร์ แล้วก็ย้ายไปเปิดอีกร้านที่สาทรแทน
ผมถึงได้ฤกษ์ไปลอง Omakase ที่ Meruto Sushi ซักที หลังจากที่ละเลยร้านนี้มานานด้วยความใกล้ของร้าน
และจากที่ตอนแรกราคาอยู่ที่ 2,290 บาท (ตอนที่ร้านพึ่งเริ่มเปิดใหม่ ๆ ที่เพื่อนผมแนะนำให้ไปชิม) ก็กลายเป็น 3,500 ในวันที่ผมไป
ลองมาดูกันว่าจะคุ้มค่าคุ้มราคาขนาดไหน

ปล. รีวิวนี้ผมไปทานตั้งแต่เดือนมิ.ย. 59 ซึ่งเป็นร้านที่สาขานวลจันทร์ 28 แต่พึ่งจะได้นำรีวิวมาลง
ซึ่งตอนนี้ร้านได้ย้ายไปที่สาทรแล้ว (แต่ก็ยังเห็นทาง fb ของร้านว่ามีเปิดให้ทานที่สาขานวลจันทร์ เป็นบางช่วงเวลา)

************************************************************************************************************

Omakase แบบ Exclusive ยังไง?
เริ่มต้นจากทางเข้าร้าน ซึ่งก็คือบ้านของเชฟนั่นเอง เป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ ให้อารมณ์เหมือนในละครเลย
ลองนึกภาพนะครับ เมื่อเลี้ยวรถเข้ามาในบริเวณร้าน ด้านข้างเป็นบ่อน้ำ และต้นไม้ดูร่มรื่น มีวงเวียนอยู่หน้าตัวบ้าน
เชฟออกมาโบกรถให้จอดตรงหน้าอาคารหลังเล็ก ๆ ทางขวาของบ้าน (เมื่อหันหน้าเข้าตัวบ้าน)
เป็นอาคารกระจกชั้นเดียว ข้าง ๆ ตัวอาคารเป็นระเบียงไม้ มีม้านั่งยาว ๆ ให้นั่งพัก
จากนั้นเชฟก็เชิญให้ไปนั่งรอตรงนั้นก่อน พร้อมกับเสิร์ฟชาเขียวเย็นให้
บรรยากาศร่มรื่น บวกกับความสดชื่นของชาเขียวเย็นแบบเข้มข้น ช่วยทำให้ลืมความร้อนของอากาศไปได้เลย
หลังจากนั้นไม่นาน เชฟก็เชิญให้เข้าไปด้านในร้าน

ภายในเป็นห้องเล็ก ๆ มีเคาน์เตอร์บาร์ที่นั่งได้มากที่สุดน่าจะประมาณ 4-5 คน
แต่โชคดีที่รอบที่ผมไป ไม่มีลูกค้าท่านอื่นเลย นี่แหละความ exclusive ที่เชฟจะได้บริการให้อย่างเต็มที่
ซึ่งนอกจากเชฟจะมีความเฟรนด์ลี่มาก ๆ แล้ว ยังมีหนังสือเกี่ยวกับซูชิให้ได้ดูประกอบไปด้วยอีกต่างหาก
เกริ่นไปเยอะพอสมควร ได้เวลาเสิร์ฟ Omakase ซักที