เหมือนในแฮรี่ พอตเตอร์แบ่งเป็นบ้าน นี่แบ่งเป็นคอลเลจต่างๆ
ทำไมเราเอาระบบอเมริกามาใช้
วิชาหนึ่งสัปดาห์ละ 3 ชม เรียน 16 สัปดาห์ เน้นเลขเชอร์กับสอบเป็นหลัก
ถ้าเป็นแบบอังกฤษ
เลขเชอร์น้อยกว่า เรียนน้อยกว่า เปิดโอกาสให้แต่ละคนศึกษาเรื่องที่ตนสนใจอย่างเต็มที่ ไปลงเรียนวิชาที่ไม่เกี่ยวก็ได้ มีไปเรียนรวมใหญ่ แล้วก็มีเรียนในคอลเลจ แบ่งเป็นกลุ่มเล็กๆ มีอาจารย์สอนกันตัวต่อตัว เรียนสามปี สอบปี 1 กับ ปี 3 ไม่สอบบ่อยๆแบบอเมริกา เรียนทั้งปี สอบสามชั่วโมงวัดผลไปเลย แฟร์ๆ แล้วระบบนี้มีมา 800 กว่าปี สร้างนักวิทยาศาสตร์ นักปกครอง นักคิดต่างๆได้จำนวนมาก ว่างๆก็ไปพายเรือแข่งกัน
ประเด็นคือเรียนเลชเชอร์น้อยกว่า สอบน้อยกว่า มีใบบอกว่าต้องไปอ่านเล่มไหนมาบ้าง ให้นักศึกษาไปเตรียมตัวอ่านมา ให้โอกาสอิสระเต็มที่ใครอยากไปอ่านหนังสือเรื่องอะไร เล่มไหน แล้วมาถกคุยกัน เน้นสอนแบบกลุ่มเล็กๆตัวต่อตัว มีคำถามอะไรได้ถามได้สะดวก เน้น จี้ได้ถูกจุด ว่างๆก็ไปบาร์ สังสรรค์กัน ว่างก็มีเบรกดื่มน้ำชากันบ่อยๆ เพราะไอเดียจะมาจากตอนถกคุยกันระหว่างดื่มน้ำชา ไม่ใช่ตอนเรียน แม้ไปสังสรรค์ไปมาก้ยังเอาทฤษฎีที่เรียนมาถกกันคุยกันต่อ สนุกสนาน แบบสนใจใคร่รู้ชอบศึกษากันจริง แต่ละคอลเลจมีบุคลิก ลักษณะที่แตกต่างกัน
ทำไมมหาวิทยาลัยไทยไม่รับเอาการศึกษาแบบอังกฤษมาใช้ แต่ละยูมีคอลเลจต่างๆให้เลือก แล้วมีจับกลุ่มเล็กๆติวกัน?
ทำไมเราเอาระบบอเมริกามาใช้
วิชาหนึ่งสัปดาห์ละ 3 ชม เรียน 16 สัปดาห์ เน้นเลขเชอร์กับสอบเป็นหลัก
ถ้าเป็นแบบอังกฤษ
เลขเชอร์น้อยกว่า เรียนน้อยกว่า เปิดโอกาสให้แต่ละคนศึกษาเรื่องที่ตนสนใจอย่างเต็มที่ ไปลงเรียนวิชาที่ไม่เกี่ยวก็ได้ มีไปเรียนรวมใหญ่ แล้วก็มีเรียนในคอลเลจ แบ่งเป็นกลุ่มเล็กๆ มีอาจารย์สอนกันตัวต่อตัว เรียนสามปี สอบปี 1 กับ ปี 3 ไม่สอบบ่อยๆแบบอเมริกา เรียนทั้งปี สอบสามชั่วโมงวัดผลไปเลย แฟร์ๆ แล้วระบบนี้มีมา 800 กว่าปี สร้างนักวิทยาศาสตร์ นักปกครอง นักคิดต่างๆได้จำนวนมาก ว่างๆก็ไปพายเรือแข่งกัน
ประเด็นคือเรียนเลชเชอร์น้อยกว่า สอบน้อยกว่า มีใบบอกว่าต้องไปอ่านเล่มไหนมาบ้าง ให้นักศึกษาไปเตรียมตัวอ่านมา ให้โอกาสอิสระเต็มที่ใครอยากไปอ่านหนังสือเรื่องอะไร เล่มไหน แล้วมาถกคุยกัน เน้นสอนแบบกลุ่มเล็กๆตัวต่อตัว มีคำถามอะไรได้ถามได้สะดวก เน้น จี้ได้ถูกจุด ว่างๆก็ไปบาร์ สังสรรค์กัน ว่างก็มีเบรกดื่มน้ำชากันบ่อยๆ เพราะไอเดียจะมาจากตอนถกคุยกันระหว่างดื่มน้ำชา ไม่ใช่ตอนเรียน แม้ไปสังสรรค์ไปมาก้ยังเอาทฤษฎีที่เรียนมาถกกันคุยกันต่อ สนุกสนาน แบบสนใจใคร่รู้ชอบศึกษากันจริง แต่ละคอลเลจมีบุคลิก ลักษณะที่แตกต่างกัน