สวัสดีครับบบ
ขอแนะนำหนึ่งในอาหารที่อันตรายและหายากในประเทศไทยครับ และร้านที่จะแนะนำก็ได้ Michelin 3 ดาวสูงสุด อาหารชนิดนี้คือเนื้อปลาปักเป้า (Fugu) ครับ เนื่องจากตัวปลาปักเป้าเองเป็นปลาที่มีพิษร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ พ่อครัวที่แล่จึงต้องเป็นเชฟที่มีใบรับรองเท่านั้นครับ ปกติแล้วจะใช้เวลาฝึกและเรียนเป็นระยะเวลาประมาณ 3 ปี ว่ากันว่าปีๆนึงจะมีผู้สอบผ่านประมาณ 25% เท่านั้นครับ และคนญี่ปุ่นก็นิยมกินปลาปักเป้าเนื่องด้วยรสชาติที่ไม่เหมือนปลาชนิดอื่น และในโอกาสพิเศษเป็นส่วนใหญ่
ร้านนี้มีชื่อว่าร้าน Yamadaya (山田屋) เป็นร้านที่ได้รับรางวัล Michelin 3 ดาวในโตเกียวครับ อยู่ห่างจากสถานี Roppongi ประมาณ 1 กิโลครับ เดินประมาณ 15 นาที บรรยากาศหน้าร้านครับ
อาหารในร้านนี้จะเสิร์ฟเป็น Kaiseki หรือเป็น Course นั่นเองครับ สนนราคาก็จัดว่าสูงเนื่องจากรางวัลเอง และวัตถุดิบที่เลือกมาอย่างดีครับ ร้านนี้ราคาเริ่มต้นต่อคอร์สรู้สึกจะอยู่ที่ 23,000 - 33,000 Yen ครับ ซึ่งผมได้เลือกตัวคอร์สตรงกลาง ราคา 28,000 Yen ครับ
ด้านการบริการของร้านนี้ ดีเยี่ยมตามระดับ Michelin 3 ดาวครับ พนักงานก็ยิ้มแย้มแจ่มใสให้คำอธิบายในทุกๆเมนูที่เสิร์ฟเป็นอย่างดีครับ ภาษาอังกฤษไม่มีปัญหาเลยครับ เชพจากทางร้านจะประจำ counter ที่เรานั่งและทำอาหารให้เราเห็นครับ
ตัว Course นั้นจะแบ่งเป็น 7 เซ็ทด้วยกันครับ
เริ่มจาก Appetizers ซึ่งจะมี Akami หรือทูน่าเนื้อแดง, Uni หรือไข่หอยเม่น เป็น Sashimi และมีผักต้ม ผสมกับ ซอสงาผสมถั่วเหลืองครับ Sashimi สดตามมาตรฐานร้านอาหาร Fine dining ในญี่ปุ่นครับ และยังมีเนื้อปูต้มกับเห็ดเข็มทองผสมน้ำส้มสายชู ช่วยในการตัดรสและทำให้รู้สึกพร้อมที่จะกิน course ต่อไปครับ
เมนูต่อไปเป็นเมนูซุปกะหล่ำแบบจีน ข้างในเป็น ไก่ห่อด้วยแป้ง dumpling ครับ และปรุงรสด้วยพริกไทยสดจากญี่ปุ่น จานนี้ผมยังรู้สึกว่าธรรมดาไม่ได้พิเศษอะไรครับ
จากนั้นเริ่มเข้าสู่ Fugu course หรือปลาปักเป้ากันเลยครับ เมนูแรกก่อนเลยจะเป็น Sashimi หรือเนื้อปลาปักเป้าดิบครับ ซึ่งจะทานคู่กับน้ำส้มสายชูพอนซึผสมกับต้นหอมญี่ปุ่นครับ ผมชอบเนื้อปลาปักเป้า sashimi เป็นพิเศษเพราะนอกจากเนื้อจะไม่มีความมันแล้ว ยังมีความยืดหยุ่นในตัวและทานคู่กับน้ำส้มสายชูจะดึงรสชาติความหวานและสดของเนื้อปลาได้เป็นอย่างดีครับ
นอกจากนั้นยังมีตัวตับบดของปลาซึ่งหาทานได้ยากเพราะตับจะเป็นส่วนที่อันตรายที่สุดครับ ความมันของตับก็ตัดรสชาติได้ดีกับ sashimi ที่รสชาติเบาบางและน้ำจิ้มพอนซึครับ ประทับใจมาก
คอร์สต่อไปจะนำเนื้อไปทอดเป็นเทมปุระในกระทะครับ เมนูนี้ผมยังรู้สึกทั่วๆไปครับ แต่การทอดทำได้ดีข้างนอกทำได้กรอบและเนื้อข้างในยังนุ่มอยู่ไม่สุกจนเกินไปครับ ผมเคยทานปลาปักเป้าในร้าน Izakaya ร้านนึงผมคิดว่าทำได้ดีกว่าร้านนี้ด้วยครับ
คอร์สต่อไปก็ประทับใจมากครับคือเป็นเมนูต้มครับ ซึ่งเชฟจะทำการลวกเนื้อปลาปักเป้าให้เราทีละชิ้นครับ เพื่อให้มั่นใจว่าเนื้อแต่ละชิ้นมีการลวกด้วยอุณหภูมิที่พอเหมาะที่สุด ซึ่งในเมนูนี้ทานคู่กับผักต่างๆ เช่น ต้นหอมญี่ปุ่น เห็ดหอม แครอท ใบเก็กฮวย และเต้าหู้ ครับ จานนี้ทานควบคู่กับน้ำจิ้มพอนซึและต้นหอมซอยเช่นกัน
เชฟจะทำการลวกปลา Shabu Shabu ให้เราครับ ผมเข้าใจว่าเชฟคงจะเข้าใจดีกว่า อุณหภูมิที่เหมาะสมกับปลาต้องลวกนานแค่ไหนครับ เค้าจะรอให้เราทานเสร็จในแต่ละถ้วยถึงจะลวกเพิ่มให้เราครับ
ปลาปักเป้าที่ลวกเสร็จแล้ว ไม่สุกจนแข็งหรือดิบจนเกินไป เป็นการลวกที่พอดีครับ อร่อยมาก
ปิดท้ายด้วยโจ๊กผสมไข่และต้นหอมญี่ปุ่นในน้ำซุปจากปลาปักเป้าครับ ทางร้านจะมีน้ำ stock ที่ทางร้านทำเองจากปลาปักเป้าและนำไปผสมเจลาตินและทำเป็นก้อน Jelly ให้เราใส่ไปในโจ๊กเพื่อเพิ่มความเข้มข้นครับ เมนูนี้ก็ประทับใจครับทำออกมาได้ดี
ขนมที่ให้นั้นเป็นพลับญี่ปุ่นพันธุ์ Daishiro ครับมีความหวานและฉ่ำในตัวเองเป็นเมนูปิดท้ายของมื้อนี้ โดยรวมรู้สึกประทับใจกับรสชาติและความใส่ใจของเชฟมากครับ แต่ก็ยอมรับว่าราคาค่อนข้างสูงมากเมื่อเทียบกับร้านปลาปักเป้าร้านอื่น
รสชาติ: 4.3/5.0
การบริการ: 4.5/5.0
บรรยากาศ: 4.5/5.0
ความคุ้มค่า: 3.9/5.0
ความเห็นส่วนตัวที่ประทับใจมากคือการบริการของร้านครับ ร้านนี้จะหมั่นคอยดูชาเขียวร้อนที่ผมทานครับ ไม่สนใจว่าจะหมดหรือไม่หมด ถ้าเกิดเลยเวลาที่กำหนดทำให้มันเย็นจนเกินไป จะเปลี่ยนที่ใหม่ให้ตลอดครับ และคอยมาถามตลอดว่ารสชาติอาหารเป็นยังไงบ้าง โอเคมั้ย เรียกว่าใส่ใจมากครับ อีกข้อนึงที่ดีคือ เชฟพยายามอธิบายถึงเรื่องราวและที่มาของวัตถุดิบต่างๆให้ และหน้าตายิ้มแย้มตลอดเวลาครับ ส่วนความคุ้มค่าผมว่าค่อนข้างแพงไปหน่อยครับ จริงๆมีอีกหลายร้านที่ทำได้โอเคและคุ้มค่ากว่าครับ
ราคา: 23000-33000+ Yen
Tabelog link:
https://tabelog.com/en/tokyo/A1307/A130703/13034857/
Location on Google map:
https://goo.gl/maps/cH4KoRBAw4u
ขอบคุณมากครับผม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้P.S. ติดตามรีวิวอื่นๆได้ทาง http://www.facebook.com/LuxeBelly/ ครับ
[CR] LuxeBelly Review - Yamadaya (山田屋): ร้านปลาปักเป้า Michelin 3 Stars ใน Tokyo
ขอแนะนำหนึ่งในอาหารที่อันตรายและหายากในประเทศไทยครับ และร้านที่จะแนะนำก็ได้ Michelin 3 ดาวสูงสุด อาหารชนิดนี้คือเนื้อปลาปักเป้า (Fugu) ครับ เนื่องจากตัวปลาปักเป้าเองเป็นปลาที่มีพิษร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ พ่อครัวที่แล่จึงต้องเป็นเชฟที่มีใบรับรองเท่านั้นครับ ปกติแล้วจะใช้เวลาฝึกและเรียนเป็นระยะเวลาประมาณ 3 ปี ว่ากันว่าปีๆนึงจะมีผู้สอบผ่านประมาณ 25% เท่านั้นครับ และคนญี่ปุ่นก็นิยมกินปลาปักเป้าเนื่องด้วยรสชาติที่ไม่เหมือนปลาชนิดอื่น และในโอกาสพิเศษเป็นส่วนใหญ่
ร้านนี้มีชื่อว่าร้าน Yamadaya (山田屋) เป็นร้านที่ได้รับรางวัล Michelin 3 ดาวในโตเกียวครับ อยู่ห่างจากสถานี Roppongi ประมาณ 1 กิโลครับ เดินประมาณ 15 นาที บรรยากาศหน้าร้านครับ
อาหารในร้านนี้จะเสิร์ฟเป็น Kaiseki หรือเป็น Course นั่นเองครับ สนนราคาก็จัดว่าสูงเนื่องจากรางวัลเอง และวัตถุดิบที่เลือกมาอย่างดีครับ ร้านนี้ราคาเริ่มต้นต่อคอร์สรู้สึกจะอยู่ที่ 23,000 - 33,000 Yen ครับ ซึ่งผมได้เลือกตัวคอร์สตรงกลาง ราคา 28,000 Yen ครับ
ด้านการบริการของร้านนี้ ดีเยี่ยมตามระดับ Michelin 3 ดาวครับ พนักงานก็ยิ้มแย้มแจ่มใสให้คำอธิบายในทุกๆเมนูที่เสิร์ฟเป็นอย่างดีครับ ภาษาอังกฤษไม่มีปัญหาเลยครับ เชพจากทางร้านจะประจำ counter ที่เรานั่งและทำอาหารให้เราเห็นครับ
ตัว Course นั้นจะแบ่งเป็น 7 เซ็ทด้วยกันครับ
เริ่มจาก Appetizers ซึ่งจะมี Akami หรือทูน่าเนื้อแดง, Uni หรือไข่หอยเม่น เป็น Sashimi และมีผักต้ม ผสมกับ ซอสงาผสมถั่วเหลืองครับ Sashimi สดตามมาตรฐานร้านอาหาร Fine dining ในญี่ปุ่นครับ และยังมีเนื้อปูต้มกับเห็ดเข็มทองผสมน้ำส้มสายชู ช่วยในการตัดรสและทำให้รู้สึกพร้อมที่จะกิน course ต่อไปครับ
เมนูต่อไปเป็นเมนูซุปกะหล่ำแบบจีน ข้างในเป็น ไก่ห่อด้วยแป้ง dumpling ครับ และปรุงรสด้วยพริกไทยสดจากญี่ปุ่น จานนี้ผมยังรู้สึกว่าธรรมดาไม่ได้พิเศษอะไรครับ
จากนั้นเริ่มเข้าสู่ Fugu course หรือปลาปักเป้ากันเลยครับ เมนูแรกก่อนเลยจะเป็น Sashimi หรือเนื้อปลาปักเป้าดิบครับ ซึ่งจะทานคู่กับน้ำส้มสายชูพอนซึผสมกับต้นหอมญี่ปุ่นครับ ผมชอบเนื้อปลาปักเป้า sashimi เป็นพิเศษเพราะนอกจากเนื้อจะไม่มีความมันแล้ว ยังมีความยืดหยุ่นในตัวและทานคู่กับน้ำส้มสายชูจะดึงรสชาติความหวานและสดของเนื้อปลาได้เป็นอย่างดีครับ
นอกจากนั้นยังมีตัวตับบดของปลาซึ่งหาทานได้ยากเพราะตับจะเป็นส่วนที่อันตรายที่สุดครับ ความมันของตับก็ตัดรสชาติได้ดีกับ sashimi ที่รสชาติเบาบางและน้ำจิ้มพอนซึครับ ประทับใจมาก
คอร์สต่อไปจะนำเนื้อไปทอดเป็นเทมปุระในกระทะครับ เมนูนี้ผมยังรู้สึกทั่วๆไปครับ แต่การทอดทำได้ดีข้างนอกทำได้กรอบและเนื้อข้างในยังนุ่มอยู่ไม่สุกจนเกินไปครับ ผมเคยทานปลาปักเป้าในร้าน Izakaya ร้านนึงผมคิดว่าทำได้ดีกว่าร้านนี้ด้วยครับ
คอร์สต่อไปก็ประทับใจมากครับคือเป็นเมนูต้มครับ ซึ่งเชฟจะทำการลวกเนื้อปลาปักเป้าให้เราทีละชิ้นครับ เพื่อให้มั่นใจว่าเนื้อแต่ละชิ้นมีการลวกด้วยอุณหภูมิที่พอเหมาะที่สุด ซึ่งในเมนูนี้ทานคู่กับผักต่างๆ เช่น ต้นหอมญี่ปุ่น เห็ดหอม แครอท ใบเก็กฮวย และเต้าหู้ ครับ จานนี้ทานควบคู่กับน้ำจิ้มพอนซึและต้นหอมซอยเช่นกัน
เชฟจะทำการลวกปลา Shabu Shabu ให้เราครับ ผมเข้าใจว่าเชฟคงจะเข้าใจดีกว่า อุณหภูมิที่เหมาะสมกับปลาต้องลวกนานแค่ไหนครับ เค้าจะรอให้เราทานเสร็จในแต่ละถ้วยถึงจะลวกเพิ่มให้เราครับ
ปลาปักเป้าที่ลวกเสร็จแล้ว ไม่สุกจนแข็งหรือดิบจนเกินไป เป็นการลวกที่พอดีครับ อร่อยมาก
ปิดท้ายด้วยโจ๊กผสมไข่และต้นหอมญี่ปุ่นในน้ำซุปจากปลาปักเป้าครับ ทางร้านจะมีน้ำ stock ที่ทางร้านทำเองจากปลาปักเป้าและนำไปผสมเจลาตินและทำเป็นก้อน Jelly ให้เราใส่ไปในโจ๊กเพื่อเพิ่มความเข้มข้นครับ เมนูนี้ก็ประทับใจครับทำออกมาได้ดี
ขนมที่ให้นั้นเป็นพลับญี่ปุ่นพันธุ์ Daishiro ครับมีความหวานและฉ่ำในตัวเองเป็นเมนูปิดท้ายของมื้อนี้ โดยรวมรู้สึกประทับใจกับรสชาติและความใส่ใจของเชฟมากครับ แต่ก็ยอมรับว่าราคาค่อนข้างสูงมากเมื่อเทียบกับร้านปลาปักเป้าร้านอื่น
รสชาติ: 4.3/5.0
การบริการ: 4.5/5.0
บรรยากาศ: 4.5/5.0
ความคุ้มค่า: 3.9/5.0
ความเห็นส่วนตัวที่ประทับใจมากคือการบริการของร้านครับ ร้านนี้จะหมั่นคอยดูชาเขียวร้อนที่ผมทานครับ ไม่สนใจว่าจะหมดหรือไม่หมด ถ้าเกิดเลยเวลาที่กำหนดทำให้มันเย็นจนเกินไป จะเปลี่ยนที่ใหม่ให้ตลอดครับ และคอยมาถามตลอดว่ารสชาติอาหารเป็นยังไงบ้าง โอเคมั้ย เรียกว่าใส่ใจมากครับ อีกข้อนึงที่ดีคือ เชฟพยายามอธิบายถึงเรื่องราวและที่มาของวัตถุดิบต่างๆให้ และหน้าตายิ้มแย้มตลอดเวลาครับ ส่วนความคุ้มค่าผมว่าค่อนข้างแพงไปหน่อยครับ จริงๆมีอีกหลายร้านที่ทำได้โอเคและคุ้มค่ากว่าครับ
ราคา: 23000-33000+ Yen
Tabelog link: https://tabelog.com/en/tokyo/A1307/A130703/13034857/
Location on Google map: https://goo.gl/maps/cH4KoRBAw4u
ขอบคุณมากครับผม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้