.
ภาพร่างเหล่านี้ไม่เคยพบเห็นกันมาก่อน
อาจจะเขียนขึ้นตอนที่ศิลปินที่มีชื่อเสียง
มาหลบภัยคุกคามจากครอบครัว Medici ใน 1530
ที่กลับมาแย่งชิงอำนาจอีกครั้ง
หลังจากถูกมวลชนขับไล่ออกจากนครรัฐ

ในปี ค.ศ. 1975 Paolo Dal Poggetto
ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ Medici Chapels
ในเมือง Florence
ได้พบกับสมบัติของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา

ขณะที่ค้นหาทางออกสายใหม่สำหรับนักท่องเที่ยว
Dal Poggetto และเพื่อนร่วมงานของเขา
ได้ค้นพบประตูลับที่ซ่อนอยู่
ใต้ตู้เก็บเสื้อผ้าที่อยู่ใกล้ New Sacristy
ซึ่งเป็นห้องลับที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ
ภายในบริเวณสุสานของเจ้านครรัฐ Medici
ห้องลับนี้มีบันไดหินขึ้นลงไปสู่ห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้า
ที่เต็มไปด้วยถ่านหินจำนวนหนึ่งที่วางเกลื่อนอยู่บนพื้น
แต่มีจำนวนน้อยมากจนคาดว่าไม่น่าจะใช่ห้องเก็บถ่านหิน

แต่ที่บนฝาผนัง Dal Poggetto
และเพื่อนร่วมงานพบว่ามีบางสิ่งที่น่าจะเชื่อได้ว่า
เป็นภาพวาดจากถ่านและชอล์ก
จากฝีมือของ Michelangelo ศิลปินที่เลื่องชื่อ

ห้องนี้ปิดไม่ให้บริการเพื่อปกป้องงานศิลปะ
Paolo Woods ช่างภาพ National Geographic
เพิ่งได้รับอนุญาตให้เข้าชม/ถ่ายภาพดังกล่าวนี้

Sketching Geniusa
ภาพร่างเขียนด้วยถ่านแสดงด้านหลังของคน
ที่ปรากฎบนฝาผนังในห้องลับแห่งนี้
ภาพร่างรูปนี้อาจจะเป็นต้นร่างของ
ภาพสีที่เขียนของ Michelangelo
ที่ Sistine Chapel
.

---

.
งานศิลปะนี้สามารถมองเห็นได้ในทุกวันนี้
เพราะ Dal Poggetto ตอนที่เข้ามาในห้องนี้ครั้งแรก
ท่านเชื่อว่านี่คือเมืองฟลอเรนซ์
ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งของศิลปินยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา
ที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์หลายท่าน
ท่านเลยตั้งข้อสงสัยและข้อสังเกตว่า
สิ่งที่มีคุณค่าอาจจะซ่อนอยู่
ใต้ผิวสกปรกบนปูนปลาสเตอร์
 
" เมื่อเราเจออาคารเก่ามาก
เราต้องใส่ใจอย่างแรง "
Monica Bietti ผู้อำนวยการ
พิพิธภัณฑ์ Medici Chapels
คนต่อมาหลังจาก Dal Poggetto ให้สัมภาษณ์

ภายใต้การกำกับและดูแลของ Dal Poggetto
ผู้เชี่ยวชาญได้ใช้เวลาหลายสัปดาห์มาก
ในการขจัดคราบสกปรกบนปูน
ด้วยอุปกรณ์บูรณะต่าง ๆ อย่างพิถีพิถัน
เมื่อคราบถ่าน/คราบสกปรกปนเปื้อนหายไป

ภาพร่างจำนวนหลายสิบภาพก็ปรากฏขึ้นมา
มีหลายชิ้นมากที่ทำให้ระลึกถึง
ผลงานอันยิ่งใหญ่ของ Michelangelo
รวมถึงประติมากรรมหินอ่อน
ของรูปมนุษย์ที่ประดับประดาบนหลุมฝังศพของ
Giuliano de Medici ใน New Sacristy 
ข้างบนนี้ที่ Michelangelo ออกแบบด้วยตนเอง
.

---

.
Dal Poggetto ได้ตั้งข้อสังเกตว่า
Michelangelo น่าจะหลบซ่อนตัว
อยู่ในห้องนี้ราว 2 เดือนในปี 1530
เพื่อหนีหน้าเจ้านครรัฐ/ครอบครัว Medici
สกุล Borgia ตระกูลมาเฟียในอิตาลี

เพราะก่อนหน้านี้มหาชนได้ก่อการจราจล
จนมีการขับไล่ชนชั้นปกครอง Medici
ให้ไปพ้นจากเมืองนี้ในปี 1527
เพราะทำตัวเป็นมาเฟียกับแต่งตั้งสันตปาปา
แบบสืบทอดอำนาจในตระกูลของตนเอง

แม้ว่าครอบครัว Medici
จะเป็นผู้อุปถัมภ์รายใหญ่ของ Michelangelo
แต่ศิลปินท่านนี้ได้แยกทางกับครอบครัวนี้
ด้วยการสนับสนุนนครรัฐ Florentines
ในการล้มล้างการปกครองของครอบครัว Medici

อีกไม่กี่ปีต่อมา
ครอบครัว Medici ได้กลับมาชิงอำนาจคืน
Michelangelo ศิลปินวัย 55 ปี
คงกลัวตกอยู่ในอันตรายมาก(อาจถึงตายได้)
เพราะมีการล้างแค้นแบบโหดร้ายทารุณ
“ แน่นอน Michelangelo คงกลัวมาก
ท่านจึงตัดสินใจอยู่แต่ในห้องนี้ ”

Michelangelo คงต้องใช้ชีวิตอยู่ตามลำพัง
ด้วยการร่างภาพผลงานในอดีต
และร่างงานศิลป์ต่าง ๆ ไว้ที่ฝาผนัง
งานร่างดังกล่าวนี้ท่านได้ตั้งใจว่าจะทำให้เสร็จสมบูรณ์
ถ้ามีเวลาทำต่อไปในอนาคต(ถ้าไม่ตายเสียก่อน)
เช่นเดียวกัยงานชิ้นเอกของท่าน
หินอ่อนแกะสลัก David (เสร็จในปี 1504)
ภาพวาดในโบสถ์ Sistine Chapel(เสร็จในปี 1512)
Monica Bietti ให้สัมภาษณ์

ภาพที่ปรากฏ ภาพร่างหยาบ ๆ ของผู้ชาย
ที่เขียนด้วยชอร์ค ที่ต่อมาคือ
Resurrection of Christ
.

---

.
“ ท่านเป็นอัจฉริยะ
พลังการสร้างสรรค์ไร้ขีดจำกัด
ท่านจะทำอะไรได้ (ในห้องลับ)
เว้นแต่จะร่างภาพ ”

เพราะผลงานศิลปะหลายร้อยปีแล้ว
ความน่าจะเป็นที่ยืนยันได้ว่า
เป็นผลงานร่างของ Michelangelo
เพราะร่องรอยลายเส้นที่ขยุกขยิก
ช่างห่างไกลจากฝีมือของ Michelangelo
แต่สถานที่/พื้นที่และงานศิลป์ที่ปรากฎ
ต่างสนับสนุนหลักฐานความเชื่อเรื่องนี้

หลังจากการค้นพบในปี 1975
ภาพร่างภายในสถานที่ดังกล่าว
ที่ปรากฎและได้รวบรวมไว้
ในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา
เป็นผลงานชิ้นเอกในศตวรรษที่ 20
แต่ William Wallace นักวิชาการ Michelangelo
ที่ Washington University ใน St. Louis
ได้ตั้งข้อสงสัย/สังเกตไว้ว่า
.

---

.
William Wallace เชื่อว่า Michelangelo
มีชื่อเสียงโด่งดังมาก เกินกว่าที่จะหลบซ่อนตัว
อยู่ในห้องใต้ระดับพื้นดินแห่งนี้
โดยไม่มีใครรู้เห็นหรือตามตัวได้
ท่านน่าจะหลบหนีไปอยู่กับผู้อุปถัมภ์รายอื่นก่อนหน้านี้แล้ว
และภาพร่างดังกล่าวนี้น่าจะเขียนเสร็จก่อนปี 1520
ในช่วงที่ Michelangelo กับผู้ร่วมงานจำนวนมาก
หยุดพักผ่อนชั่วคราวหลังจากการก่ออิฐ
และสกัดหินอ่อนที่ New Sacristy
ที่กำลังก่อสร้างอยู่ด้านบนห้องลับนี้

" ภาพหลายภาพบนฝาผนังนี้
อาจจะเป็นผลงานของ Michelangelo
แต่บางภาพอาจจะเป็นผลงานของคนงาน/ช่างศิลป์
ที่เขียนลำดับการทำงานหรือเขียนเพื่อความสนุก
ในช่วงเวลาหยุดพักทำงานประจำวัน

การแยกภาพออกมาแทบจะทำไม่ได้เลย
แต่ศิลปินนิรนามที่ร่างภาพดังกล่าวนี้ไว้
ก็ไม่ได้ลดทอนคุณค่าความสำคัญ
ของการค้นพบครั้งนี้แต่อย่างใด

การได้เข้ามาอยู่ในห้องนี้ช่างน่าตื่นเต้น
คุณรู้สึกเหมือนได้รับเกียรติอย่างยิ่ง
คุณจะรู้สึกว่าได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ
Michelangelo กับลูกศิษย์และผู้ช่วยของท่าน

ภายในห้องสร้างอารมณ์และความรู้สึก
ให้กับผู้ชมผู้โชคดีที่จะได้เข้าไปเยี่ยมชม
ภายในผนังกำแพงสี่เหลี่ยม
แสงส่องผ่านช่องหน้าต่างขนาดเล็ก
มันคล้ายกับมองเข้าไปในจิตใจของ Michelangelo
เจ้าของผลงานที่น่าทึ่งจนแทบจะหยุดหายใจ
ชายผู้มีขึดความสามารถไร้ขีดจำกัด
มีอายุยืนยาวถึง 89 ปี และไม่เคยหยุดยั้ง
กับการสร้างผลงานให้ดียิ่งขึ้น ยิ่งขึ้น ”
.



.
เรียบเรียง/ที่มา

https://goo.gl/gwrr4w

.

---

.


.
มีข่าวเล่าลือกันว่าพระสันตปาปา 4 พระองค์
ระหว่างปี 1464-1555(พ.ศ.2007-2098)
เป็นเกย์ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งพระสันตปาปา
คือ Paul II, Sixtus IV, Leo X(คนในตระกูล Medici)
และที่โด่งดังที่สุดคือ Julius III
ที่นอนร่วมเตียงเดียวกันกับพระคาดินัล
ที่เป็นหลานชายวัยรุ่นอายุ 15 ปี