วันที่รู้สึกอยากโทรหาแฟนมากกว่าหนึ่งครั้ง

หากทำผิด...โดยไม่รู้...อภัยได้...
แต่ไม่ใช่...แค่ขอโทษ...แล้วก็หาย...
ผิดคือผิด...ทำแล้ว...โทษไม่กลาย...
ควรเอาตาย...คือพวกรู้...แล้วยังทำ...

ตามเรื่องรุมโทรมเด็กอายุสิบสี่ที่ด่านช้าง  หากเอาตามที่แม่ผู้เสียหายและทนายให้สัมภาษณ์ในรายการ  ผมนั่งดูไปน้ำตาซึมไป  มันโหดร้ายจนไม่น่าเชื่อว่าบ้านเราคือเมืองพุทธ  น้องที่เป็นเหยื่อเรียนเกรดเฉลี่ยสามกว่าทุกเทอม  ในวันเกิดเหตุเพิ่งไปประกวดงานฝีมือของโรงเรียนและได้รับรางวัลชนะเลิศมาด้วย  แต่ฝ่ายผู้ต้องหากลับบอกว่าน้องเป็นเด็กเที่ยวชอบดื่มเหล้าเมายา  น้องสมยอมอะไรต่างๆ นานา  บอกตามตรงในใจผมไม่เชื่อฝ่ายผู้ต้องหาเลย  เพราะทนายฝ่ายผู้เสียหายสัมภาษณ์ออกสื่อพร้อมหลักฐาน  และล่าสุดคนที่บอกไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและให้การปฏิเสธในคราวแรก  เริ่มจำนนด้วยหลักฐานทีละคนสองคน  คิดว่าเร็วๆ นี้น่าจะโค่นขบวนการอุบาทว์นี้ลงได้

สิ่งที่ผมฟังแล้วรันทดหดหู่ที่สุดคือ  เรื่องเกิดตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน  2559  จนถึงสงกรานต์ความคืบหน้าของคดีคือจับผู้ต้องหาได้เพียงคนเดียว  เอาผิดแค่คนเดียว  ผมอยากถามผู้เกี่ยวข้องกับคดีว่าหัวใจของพวกเขาทำด้วยอะไร  ครึ่งปีจับผู้ต้องหาได้แค่คนเดียว  หากเรื่องไม่ดังเป็นข่าวใหญ่โตขึ้นมา  มันก็จบด้วยผู้ต้องหาแค่คนเดียวกระนั้นหรือ  แล้วผู้ต้องหาไม่เคยทำผิดมาก่อน  ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี...สุดท้ายก็แค่เพียงรอลงอาญาใช่หรือไม่

เด็กผู้หญิงอายุสิบสี่เรียนดี  นิสัยดี  อยู่กับแม่แค่สองคน  ครอบครัวเขามีอนาคตที่ลูกสาวคนเดียว  จิตใจพวกคุณทำด้วยอะไร  คุณทำลายอนาคตของครอบครัวที่ไม่มีทางสู้แบบนี้ได้ลงคอได้อย่างไร  ในใจมีความเป็นคนอยู่หรือเปล่า

ผมตามข่าวหลายๆ แหล่งด้วยความเจ็บปวดกับเรื่องนี้  จากแต่ก่อนผมคุยกับแฟนที่อยู่อีกจังหวัดแค่วันละครั้ง  ทุกวันนี้ผมต้องคุยกันวันละสามครั้ง  มันรู้สึกจิตตกและไม่ปลอดภัยเป็นอย่างมาก  คดีรุมโทรมหรือข่มขืนแค่ติดคุกตลอดชีวิต...ผมว่ามันน้อยไปนะ

ผมเชื่อมาตลอดว่าไม่มีใครอยากเป็นคนเลวหรือทำชั่ว  วันนี้ผมต้องพูดตามตรงว่าไม่แน่ใจแล้ว  ขอโทษทุกๆ คนด้วยที่วันนี้ผมไม่สามารถเขียนเรื่องสั้นให้อ่านได้  สภาพจิตใจผมไม่พร้อมจริงๆ


*********************

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่