[CR] {A Little Girl in Wild Word}#เด็กสาวกับดอกไม้ไฟในเทศกาลTenjin Matsuri#Osaka#07#

สวัสดีค่ะ วันนี้เรากลับมาอีกครั้งกับกระทู้รีวิวเที่ยวคันไซ ไปไหนไปกัน ไปมันคนเดียวนี่แหละ
วันนี้มาขอนำเสนองานเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ติด 2 ใน 3 ของประเทศญี่ปุ่น นั่นก็คือ...............
"Tenjin Matsuri" แห่งเมืองหลวงของคันไซอย่างเมืองโอซาก้านั่นเองค่ะ
เทศกาลนี้จะมีทุกวันที่ 24-25 กรกฎาคม ของทุกปี (จัดใกล้ๆกับเทศกาลจิอน)
เริ่มต้นเรื่องราวคือเราตั้งในมาญี่ปุ่นในหน้าร้อนด้วยเหตุผลหลักคือมาเที่ยวงานเทศกาลนี่ล่ะค่ะ
และเป็นเทศกาลที่ใหญ่ติดอันดับของประเทศญี่ปุ่นทั้งสองเทศกาล(โปรดติดตามในกระทู้ #06 นะคะ)
เมื่อวันวานไปเกียวโตมา วันนี้กลับมาเยือนถิ่นคือโอซาก้า สำหรับใครที่สนใจ
หรือกำลังคิดอยากจะไปญี่ปุ่นหน้าร้อน แต่ไม่รู้จะไปทำไม ร้อนก็ร้อน ขอบอกว่าญี่ปุ่นเที่ยวได้ทุกฤดูค่ะ
เรามาขอรีวิวด้วยสาระก่อนเลยละกัน(ก่อนที่มันจะเริ่มหาสาระไม่ได้) ...แหะ!

เราพักอยู่แถวสถานี Shin-imamiya ค่ะ เราก็ขึ้น Osaka Loop Line มาลงที่สถานี Temma
ตอนแรกกะจะอยู่ชมขบวนแห่ แต่เราแอบแว๊บไปโอคายามะมาในช่วงเช้า
กว่าจะกลับมาถึงโอซาก้าก็เที่ยง ขบวนเริ่มแห่จากศาลเจ้า Tenmangu ช่วงบ่าย 3
ถามว่าทำไมถึงไปไม่ทัน.....เพราะมัวแต่ใส่ชุดยูกาตะอยู่ค่ะ ซื้อเองใส่เอง แป๊บเดียวค่ะ 4 ชั่วโมง! (T^T)
บางคนก็สงสัยว่า ทำไมไม่เช่าร้าน ทำไมไม่ให้ร้านใส่ให้...ง่ายๆค่ะ มันแพง(4000-5000 เยน)
เราไปอยู่ 2 อาทิตย์ มีเงินติดตัวไป 80000 เยน เท่านั้นเองค่ะ ต้องใช้แบบประหยัดมาก มากจริงๆ
เพราะร่อนไปร่อนมาหลายที่มาก ไปมันทุกเมือง ซอกหลืบป่าเขาขึ้นรถไฟต่อรถบัส ไปมาหมดค่ะ^.^
เอาล่ะค่ะ...เข้าเรื่องกันต่อเลยดีกว่า พอลงที่สถานีเทมมะ ก็จะเดินไกลหน่อย เดินตามชาวบ้านเขาไปค่ะ
ไปโผล่ที่จุดชมดอกไม้ไปบนสะพาน Genpachibashi ที่ทอดข้ามแม่น้ำ Okawa ที่มีตำนานลือเลื่อง
อันที่จริงเขาจะมีจุดชมดอกไม้ไฟ 2 จุด และมีจุดชมแบบพิเศษเรียกว่า Paid Seats คือการนั่งชมแบบไฮโซ
สนนราคาที่ 6000 เยน ต่อคน.....พิเศษยังไง วิวตรงนี้จะมีดอกไม้ไฟตรงโค้งน้ำและมีวิวปราสาทโอซาก้าอยู่ค่ะ
อย่างที่บอกค่ะ เรามันโลโซไง....คนอื่นนั่งดูแบบพิเศษ เราก็ดูแบบพี่เสกไป (หากคิดว่ามุกแป๊ก โปรดข้ามผ่านไปค่ะ) :p
พอมาถึงสะพานเราก็เดินๆสำรวจสะพาน บางคนก็เริ่มมาจับจองพื้นที่กันแล้ว แต่ตอนนี้เราหิวค่ะ...เลยเดินลงมาใต้สะพาน
งานเทศกาลก็คืองานเทศกาลค่ะ ซุ้มร้านรวงต่างๆมากมาย ของกินก็เยอะ เป็นแบบ Local เจแปนนิสสไตล์แต๊ๆเลยจ้า - - -
ใครที่รักในงานเทศกาลแบบเรา ก็ขอเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องมาเสพบรรยากาศแบบญี่ปุ่นกันนะคะ
สาวๆเขาแต่กันมาเต็มที่มาก ชุดยูกาตะ มากับแฟน มากับเพื่อน มากับครอบครัว...เดินกันขวักไขว่เลยค่ะ
เราไปคนเดียวเลยต้องขอให้สาวญี่ปุ่นท่าทางเป็นมิตรถ่ายรูปให้ ตอนแรกพูดภาษาอังกฤษ แต่นางดูไม่เข้าใจ
เดชะบุญว่าเคยอยู่ชมรมภาษาญี่ปุ่น เลยพอพูดจิ๊จ๊ะกับเขาได้นิดๆหน่อยๆ ก็เลยได้รูปที่นางถ่ายให้มารูปนึงค่ะ
ไม่ใช่ความผิดของนางค่ะ เราผิดเองที่ไม่ยืนนิ่งๆแล้วมองกล้อง...อาริงาโตะจ้ะ (T^T)
เอาล่ะค่ะ เรามาชมภาพของกินเป็นออเดิร์ฟก่อนดูพลุกันดีกว่าเนาะ อาจจะภาพสั่นๆ
ถ่ายมาแบบไม่โปร เพราะคนเยอะ เดินเบียดกันจมูกแทบชนคอหอยกัน...
ของกินที่เราประทับใจเป็นพิเศษ คือ แอปเปิ้ลอาบน้ำตาลเชื่อม เห็นในการ์ตูนคิดว่าคงไม่อร่อย
แต่พอลองซื้อมากิน แม่เจ้า!!!!! อร่อยมว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก ต้องลองค่ะท่านผู้ชม ^^
และแล้วเราก็ได้ยินเสียงกลองจากเวทีลอยน้ำ เป็นสัญญาณให้เราไปจับจองพื้นที่ดูพลุบนสะพานค่ะ
เรารีบกำจัดของกินในมืออย่างรวดเร็วแล้วเดินดุ่มๆขึ้นสะพานไป...เต็มแล้วค่ะ ไม่มีที่จะนั่ง
แต่...เราโชคดีค่ะ เราไปเจอคุณยายแก่ๆคนหนึ่ง เป็นคนญี่ปุ่น....แกเอาผ้ามาปูนั่งตรงริมราวกั้นสะพาน
แกกวักมือเรียกเราที่ยืนเด๋ออยู่ พร้อมกันภาษาญี่ปุ่นเร็วๆรัวๆ เราเลยเดินเข้าไปหาคุณยาย
แกตบเบาๆลงบนผ้าที่ปูอยู่ เป็นการเชิญชวนให้นั่ง เราก็นั่งลงแล้วกล่าวขอบคุณค่ะ ^^
พอถึงช่วงที่ฟ้าเริ่มมืดก็มีขบวนเรือ Dondoko และเรือ noh ลอยมาตามแม่น้ำ
ตามมาด้วยเรือไฟ(ไม่ใช่แบบที่นครพนมนะคะ) เป็นเรือที่มีคบเพลิงไฟขนาดใหญ่นำแสงสว่างมา
ถือว่าเป็นการเริ่มงานได้สวยงามค่ะ หลังจากนั้นก็มีขบวนเรือจากร้านค้าและองค์กรต่างๆ
ล่องมาตามแม่น้ำโอคาวะ...จนฟ้าเริ่มมืดลง แสงสว่างจากเรือก็เริ่มชัดเจนมากขึ้น
เรางี้ใจเต้นตึกตัก......คุณยายก็คอยหันมาคุยด้วยตลอด(แน่นอนว่าเราฟังไม่รู้เรื่อง)
เมื่อถึงเวลา 1 ทุ่ม เสียงของดอกไม้ไฟดอกแรกดังไปทั่วพื้นที่ พร้อมกับแสงสว่างทั่วทั้งท้องฟ้า
เสียงร้องรำทำเพลงของผู้คนบนเรือ(ขอบอกว่ามีเรือคนไทยด้วย มีวงดนตรีไทยบนเรือ)
เรากับคุณยายต่างตาโตแล้วกันไปยิ้มให้กัน พร้อมตะโกน "Kireineeeee" (สวยจังเลย)
แล้วคุณยายก็สอนเราร้องเพลงตอบเวลาคนบนเรือตะโกนถาม(เหมือนการแซวกันระหว่างคนบนเรือและคนบนสะพาน)
ถือเป็นประสบการณ์ที่เยี่ยมยอดและมิตรภาพที่ไร้ภาษา ไร้พรมแดน อย่างแท้จริงค่ะ ^__^
เราก้มมองดูนาฬิกาเป็นเวลา 2 ทุ่มกว่าแล้ว เรามาคนเดียวเพราะฉะนั้นความปลอดภัยสำคัญมากค่ะ
เราเลยลุกขึ้นพร้อมบอกลาคุณยาย แล้วก็เดินออกมา แต่พอหันหลังกลับไปคุณยายเดินตามมาค่ะ
งงเลยทีนี้....คุณยายพูดอะไรซักอย่างกับเรา เราเลยพยายามอธิบายว่า Go back to hotel.
ยายก็ยิ้มแล้วก็รัวญี่ปุ่นกลับมา.....เราเลยบอกคุณยายว่า "ซาโยนาระ" ....แล้วไหว้คุณยายทีนึง
คุณยายชี้มือไปทางสถานีรถไฟ แล้วเราจับใจความได้ว่า...แกจะเดินไปส่งค่ะ (น่าร๊ากกกกกก)
คือ คุณยายแกแก่มาก เดินหลังงอ อายุน่าจะราว 80 นิดๆเห็นจะได้ ....เราโบกมือแล้วบอกไม่เป็นไรค่ะ
แล้วเราเลยเดินไปกอดคุณยายแล้วบอกลา คุณยายก็โบกมือลา "จาไน"......(แล้วพบกันใหม่) ^______^

เรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่า....เรื่องราวดีๆมีบนโลกใบนี้เสมอ ไม่ว่าจะที่ไหน เมื่อไหร่ กับใคร
สิ่งดีๆมักจะซ่อนอยู่ในมุมเล็กๆ และเมื่อคุณได้เจอมันก็จะยังคงส่องสวางในใจคุณเสมอ
เหมือนดอกไม้ไฟนั่นแหละค่ะ ก่อนถูกจุดเป็นแค่ดินปืนลูกกลมๆ ดูธรรมดาไม่น่าจะมีอะไร
แต่เมื่อไหร่ที่ถูกจุดและพุ่งทะยานขึ้นไปเป็นดอกไม้ไฟบนท้องฟ้า มันก็ระยิบระยับสวยงาม
แม้มันจะหายไปอย่างรวดเร็ว........แต่ภาพของดอกไม้ไฟจะยังไม่จางหายไปจากใจคุณ สวัสดีค่ะ ^^
กระทู้นี้ไม่มีฝากร้าน แต่ขอฝากกระทู้เก่าๆเล่าเรื่องราวการตะลอนเที่ยวญี่ปุ่นของเรานะคะ
#01#ปฐมบท#
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
#02#Fushimi Inari Shrine#Kyoto#  
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
#03#Arashiyama#Kyoto#
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
#04#Kibune - Kurama#
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
#05#Miyama#
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
#06#Gion Matsuri#Kyoto#
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
*******แล้วพบกันใหม่กระทู้หน้าค่ะ *******
ชื่อสินค้า:   Osaka - JAPAN
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่