สิ้นปี เข้าปีใหม่ หมดเงินกันไปกับค่าใช้จ่ายอะไร เท่าไหร่บ้างครับ
ส่วนตัวหมดไปกับ ของขวัญ,งานเลี้ยง,อาหาร ของกิน(ไม่มีแอลกอฮอล์) พลุ , ดอกไม้ไฟ
หลายคนคงคุ้นเคยกับความรู้สึกใจหายเมื่อเปิดแอพธนาคารดูยอดเงินหลังผ่านเทศกาลปีใหม่ เพราะนอกจากค่าใช้จ่ายปกติแล้ว ยังมีค่าของขวัญ ค่าเดินทางกลับบ้าน และค่าสังสรรค์ที่ดูเหมือนจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่จริงๆ แล้ว การ "เงินหมดต้นปี" ไม่ใช่เรื่องของโชคชะตา แต่เป็นเรื่องของการวางแผนและการจัดการที่ดีต่างหาก
ก่อนอื่น เราต้องเข้าใจที่มาของปัญหาก่อน เดือนธันวาคมมาพร้อมกับ "โบนัส" ที่หลายคนรอคอย แต่ก็มาพร้อมกับค่าใช้จ่ายมหาศาล ทั้งของขวัญให้ครอบครัว เพื่อน และที่ทำงาน ค่าเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัด ปาร์ตี้สังสรรค์ และการช้อปปิ้งในช่วงเซลส์ส่งท้ายปี ยิ่งไม่มีการวางแผนที่ดี ยิ่งทำให้เงินรั่วไหลได้ง่าย
การแก้ปัญหานี้ต้องเริ่มจากการ "รู้ก่อนจ่าย" คือการวางแผนล่วงหน้า จดรายการค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องจ่ายในช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคม ตั้งงบสำหรับแต่ละรายการอย่างชัดเจน เช่น กำหนดงบของขวัญต่อชิ้นไม่เกิน 500 บาท และสำคัญที่สุดคือต้องเผื่องบฉุกเฉินไว้อย่างน้อย 20% ของรายได้
เทคนิค "ซองเงิน" เป็นวิธีที่ได้ผลดีในการควบคุมค่าใช้จ่าย โดยแบ่งเงินออกเป็น 4 ส่วนหลัก: เงินจำเป็น (40%) สำหรับค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าอาหาร, เงินเที่ยว (20%) สำหรับปาร์ตี้และท่องเที่ยว, เงินของขวัญ (20%), และเงินออม (20%) ที่ต้องตั้งกฎเหล็กว่าห้ามแตะเด็ดขาด
การ "ประหยัดอย่างฉลาด" ก็เป็นอีกกุญแจสำคัญ เช่น การรวมกลุ่มซื้อของขวัญเพื่อได้ส่วนลดมากขึ้น จัดปาร์ตี้แบบ Potluck ที่ทุกคนนำอาหารมาแชร์กัน ใช้แต้มสะสมหรือคูปองส่วนลด และเลือกเดินทางในช่วง Off-peak ที่ค่าตั๋วถูกกว่า นอกจากนี้ การหารายได้เสริม เช่น ขายของออนไลน์ รับจ้างห่อของขวัญ หรือทำขนมขาย ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี
https://www.facebook.com/TNNthailand/posts/pfbid0MzrNGV4EcsEpoiAvEqcoHRoKH8LgPDjUtKrQr1ehhaz8QZzYEmJEjYx4mcDC4gCzl
"เงินหมดต้นปี" วิกฤตซ้ำซาก? แก้ได้ด้วย "รู้ก่อนจ่าย-ซองเงิน-ประหยัดฉลาด"
ส่วนตัวหมดไปกับ ของขวัญ,งานเลี้ยง,อาหาร ของกิน(ไม่มีแอลกอฮอล์) พลุ , ดอกไม้ไฟ
หลายคนคงคุ้นเคยกับความรู้สึกใจหายเมื่อเปิดแอพธนาคารดูยอดเงินหลังผ่านเทศกาลปีใหม่ เพราะนอกจากค่าใช้จ่ายปกติแล้ว ยังมีค่าของขวัญ ค่าเดินทางกลับบ้าน และค่าสังสรรค์ที่ดูเหมือนจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่จริงๆ แล้ว การ "เงินหมดต้นปี" ไม่ใช่เรื่องของโชคชะตา แต่เป็นเรื่องของการวางแผนและการจัดการที่ดีต่างหาก
ก่อนอื่น เราต้องเข้าใจที่มาของปัญหาก่อน เดือนธันวาคมมาพร้อมกับ "โบนัส" ที่หลายคนรอคอย แต่ก็มาพร้อมกับค่าใช้จ่ายมหาศาล ทั้งของขวัญให้ครอบครัว เพื่อน และที่ทำงาน ค่าเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัด ปาร์ตี้สังสรรค์ และการช้อปปิ้งในช่วงเซลส์ส่งท้ายปี ยิ่งไม่มีการวางแผนที่ดี ยิ่งทำให้เงินรั่วไหลได้ง่าย
การแก้ปัญหานี้ต้องเริ่มจากการ "รู้ก่อนจ่าย" คือการวางแผนล่วงหน้า จดรายการค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องจ่ายในช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคม ตั้งงบสำหรับแต่ละรายการอย่างชัดเจน เช่น กำหนดงบของขวัญต่อชิ้นไม่เกิน 500 บาท และสำคัญที่สุดคือต้องเผื่องบฉุกเฉินไว้อย่างน้อย 20% ของรายได้
เทคนิค "ซองเงิน" เป็นวิธีที่ได้ผลดีในการควบคุมค่าใช้จ่าย โดยแบ่งเงินออกเป็น 4 ส่วนหลัก: เงินจำเป็น (40%) สำหรับค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าอาหาร, เงินเที่ยว (20%) สำหรับปาร์ตี้และท่องเที่ยว, เงินของขวัญ (20%), และเงินออม (20%) ที่ต้องตั้งกฎเหล็กว่าห้ามแตะเด็ดขาด
การ "ประหยัดอย่างฉลาด" ก็เป็นอีกกุญแจสำคัญ เช่น การรวมกลุ่มซื้อของขวัญเพื่อได้ส่วนลดมากขึ้น จัดปาร์ตี้แบบ Potluck ที่ทุกคนนำอาหารมาแชร์กัน ใช้แต้มสะสมหรือคูปองส่วนลด และเลือกเดินทางในช่วง Off-peak ที่ค่าตั๋วถูกกว่า นอกจากนี้ การหารายได้เสริม เช่น ขายของออนไลน์ รับจ้างห่อของขวัญ หรือทำขนมขาย ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี
https://www.facebook.com/TNNthailand/posts/pfbid0MzrNGV4EcsEpoiAvEqcoHRoKH8LgPDjUtKrQr1ehhaz8QZzYEmJEjYx4mcDC4gCzl