https://ppantip.com/topic/35906699 ภาคที่ 1จากคนที่เกือบเดินไม่ได้ กำลังจะสู่ฟลูมาราธอนแรกในชีวิต
https://ppantip.com/topic/35930887 ภาคที่ 2บทสรุปของคนที่เกือบเดินไม่ได้ และผ่านฟลูมาราธอนแรกในชีวิตในแบบของผม
หลังจากที่ผ่านฟลูแรกในชีวิตมาอย่าง สะบักสะบอม นักวิ่งบ้านนอก เริ่มที่จะได้ใจ เริ่มออกวิ่งตามงานต่างๆ ไปต่างอำเภอ ไปต่างจังหวัด กล้าหาญไปสู่งานที่ กทม. แต่จะเป็นระยะ มินิและ ฮาร์ฟ เพราะถือว่า เอาระยทางเหล่านั้นเป้นการซ้อมประสบการณ์ไปในตัว จนกระทั่งมาถึงงาน ชอนตะวัน มาราธอน ที่ หนองสมบุญ จังหวัด นครสวรรค์ ซึ่งครั้งแรกที่เจอ ก็คืองาน บ้านๆๆเรียบง่าย ที่ ชมรมวิ่งในจังหวัดร่วมกันจัดขึ้น แต่สิ่งที่ น่าสนใจคือ แตร่น แตร่ แตร้น “นักวิ่ง ฟลู ทุกท่านได้ถ้วยทุกคน” อันนี้สิน่าสน อยากมีถ้วยกับเข้า แต่เราสู้ไม่ไหวแน่ๆๆ แต่ แบบนี้ก็น่าสเหมือนกัน ก็เลยเข้าไป อ่านรายละเอียด ซึ่งช่วงแรง ไม่มีอะไรเลย เพจเงียบเหงามาก ไม่ค่อยมีการพูดคุยในเพจ แต่ก็เข้าไปดูเป็นระยะ ๆ เผื่อมีอะไรที่น่าสนใจ
จนกระทั่งวันที่ รับ สมัคร จึงลงสมัครผ่านเวฟ เป็นคนที่ 60 ไม่ได้รีบ แต่ กลัวไม่ได้ถ้วย 555
(ลืมบอกไป ว่า นี่จะเป็นครั้งแรกที่ไป นครสวรรค์ ที่ไม่ใช่ขับรถผ่านแวะซื้อโมจิน่ะครับ อีกอย่างมีเพื่อน อยู่ที่ นครสวรรค์ ถึง 2 คน อย่างน้อยก็ไม่เหงา) หลังจากที่สมัคร ก็จองโรงแรม ใกล้ๆ หนอง ฯ ไม่อยากไปพักที่บ้านเพื่อน กลัว ไม่ได้นอน สรุปแล้ว วันงานก็เกือบไม่ได้นอน ตื่นเต้นจัด
ข้ามมาอย่างรวดเร็ว ก่อนงาน 1 วัน สู่เดินทางจากลำปางไปนครสวรรค์ โดย รถประจำทาง นานมากแล้วที่ นั่งรถไป ตอนกลางวัน เห็นวิวทิวทัศน์อะไรมากมาก เริ่มเดินทาง 12.30 น. ถึง 18.00 น. โดยประมาณ และให้เพื่อนมารับที่ สถานีขนส่ง เพื่อไปเอา บิบ กับเสื้อ ที่ แจ้งผ่านทางแอดมินไปแล้ว
ครั้งแรกที่เห็น หนองสมบุญ สวยมาก มังกรยิ่งใหญ่มาก สถานที่กว้างมาก น่าย้ายบ้านมาออกกำลังกายที่นี่จริงๆ หลังจากที่รับบิบ แล้ว ก็ ขับรถวนสวน รอบนอกดูพื้นที่ (ในวันที่วิ่ง จะต้องวิ่งรอบสวน 13 รอบ โดยมีเหตุผลว่า เพื่อความปลอดภัยของนักวิ่ง อีกทั้ง ทีมงาน จะรอรับนักวิ่ง จนกระทั่งคนสุดท้าย ซึ่งเหตุผลนี้ ผมชอบมาก แต่ก็คิดในใจว่า ไม่ใช่ผมแน่นอน 555 ) หลังจากนั้นก็หาอะไรอร่อยๆๆ กัน เดินเล่น ถนนคนเดิน ขับรถชมสถานที่แฮ้งเอ้าท์ ต่างๆๆ
หลังจากนั้น เข้าโรงแรม พักผ่อน เพื่อที่จะต้องตื่นในเวลา ตี2.00 น. แต่นอนไม่หลับเลย กังวลอะไรมากมาย อีกทั้ง ที่หัวเข่ามีอาการเจ็บจี้ดๆๆ มาประปราย สืบเนื่องจาก อาทิตย์ก่อน ไปวิ่งงานนึงที่ ชม. แต่งชุดแฟนซีไป ด้วย สนุกมากจนลืมเซฟตัวเอง และก่อนงานวิ่ง ยังไป ซ้อมหนักๆ จนกระทั่งมีอาการเจ็บๆๆที่หัวเข่า แต่เอาน่า ผ่านมาเยอะคงไม่เป็นไร หลังจากที่ แต่งตัวเรียบร้อย พร้อมจัดการ กล้วยหอม ร้านข้างโรงแรม อีก 2 ใบ ก่อนสู้ศึก เข้าห้องน้ำเรียบร้อย ก็ ออกจากโรงแรม ซ้อมวิ่ง จ๊อค ไปเรื่อยๆเรียกเหงื่อ ผ่านวัด นครสวรรค์ แล้ว เลี้ยวเข้าสู่ หนองสมบุญ
ก็ได้พบกับทีมงานขับมอเตอร์ไซด์ผ่านมา ก็เรียกขี้นรถเข้างาน ภายในงาน คนแทบยังไม่มากัน หรือว่าผมมาก่อน ก็ถือโอกาส จ๊อคเรียกเหงื่ออีกทีแล้วกัน
จะไปถ่ายรูปกับมังกร แต่ เค้าไม่เปิดไฟ ก็ไม่ถ่าย ซ้อมต่อ นักวิ่งเริ่มเยอะขึ้น เรื่อยๆๆ มีคนออกมาซ้อมมากขึ้น จนกระทั่ง ถึงเวลาสตาร์จริง เสียที อันนี้ขอชมครับ ตรงเวลามากเป๊ะเลย
ในระหว่างที่ วิ่งไปก็ ออกระยะตามแผน คุมเพจไปเรื่อย วิ่งไปเพลินๆๆ ชมวิวรอบๆๆสวน จากมืดๆๆจนถึงสว่าง ในใจ ก็วางแผนไว้ หลังจากเสร็จวิ่ง จะไปใหว้พระบนภูเขา ไปบึงบรเพ็ด ไปหาอะไรกิน นู้นนี่นั้น ตามประสา คนที่มานครสวรรค์ครั้งแรก ในการวิ่งครั้งนี้ ไม่ได้ตั้งเวลาอะไรมากมาย เพราะยังงัยก็ได้ถ้วยอยู่แล้ว กับเวลา 5 ชม. คงไม่เลวร้ายสำหรับครั้งนี้ จนกระทั่ง เข้าสู่ กมที่ 23. ประมาณรอบที่ 7 -8 อาการเจ็บหัวเข่าเริ่มออกอาการ ยังประคองไปได้เรื่อย ลดเพจลงไป มีแอบเดินบ้าง จนกระทั่งรองเท้าเริ่มแน่น เจ็บ ทั้งเท้าทั้ง เข่า จึงถอดรองเท้าออกวิ่ง ลุยเท้าเปล่าไปสักรอบ (จริงแล้ว แอบโทรไปบอกเพื่อนให้เอารองเท้าเชือกคู่ใจมาส่งให้ในงาน) คงช่วยได้แค่บรรเทาอาการเจ็บเท้า ในช่วงเวลานั้น อยากที่ ออกจากสนามมากเพราะ เวลาที่ ตั้งใว้ มันผิดพลาด งานนี้จบไม่สวยแน่ๆๆ แต่ ทว่า เรา ลงทุนไป เกือบ 30 กิโล จะ มายอมแพ้ได้งัย จึงฝืนทน เอาน้ำเย็นที่มีแจกราดพยุงความเจ็บปวดตลอดทาง เพราะสเปรย์ไม่มี เอายาทา ทับไปทั้งกางเกง เอาน้ำราดให้ร้อน จะแก้กางเกง ให้ พยาบาล ก็เกรงใจมาก ฝืน ทน วิ่งๆๆเดินๆๆต่อไป แต่ อาการที่เข่า เริ่มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆๆ จนไม่สามารถที่ฝืนวิ่งได้ ถึงแม้ใช้วิชา เดินเร็วเข้าช่วยก็ตาม จนต้องเดินเรื่อยๆๆ ตลอดทาง เริ่ม นอกจากชมวิวไปแล้ว ก็พยายามหาเพื่อนร่วมชะตากรรม ให้กำลังใจกันไปเรื่อยๆๆ บางท่านก็เหลือ รอบสุดท้าย บางท่าน เหลือ อีก 3 - 4 รอบ ก้ยังดีที่มีเพื่อนชมสวนอยู่บ้าง บางจุดมีน้องๆ นักวิ่งมินิ ที่เสร็จงานแล้ว รวมกลุ่มร้องเพลง ตั้งกองเชียร์ เพลิดเพลินดีครับ สนุกสนาน ทักทายให้กำลังใจ แถว ๆๆหน้ามังกร มีช่างภาพ เก็บภาพ นักวิ่งซอมบี้ หลายท่าน ทักทายกันตามประสาคนขี้เหงา จากที่มีท่าวิ่งผ่านเท่ห์ๆๆกลายเป็นท่าซอมบี้เดินผ่าน 555
อีกทั้งกำลังใจจากพิธีกร ที่บิ้วอารมณ์ สร้างพลังใจ พร้อมแซวทุกครั้งที่ผ่าน ทำให้คลายเหงาได้เหมือน
จนมาถึงช่วง รอบสุดท้าย เริ่มบอกลา เจ้าหน้าที่ที่ดูแล ซุ้มน้ำ เหล่ากองเชียร์ รวมถึงนักเดินที่อยู่ในชะตาเดียวกัน และพร้อมคิดท่าวิ่งเท่ห์ๆๆเข้า เส้นชัย ให้ช่างภาพถ่ายรูป แต่ เค้าคงรอไม่ไหว ช่างภาพตามจุดที่คุ้นเคยหายไปหมด (เค้าไม่รอเราแล้ว ) แต่ ยังคิดว่า เค้าคงพร้อมรอเราที่เส้นชัย เอาว่ะ นาทีสุดท้าย ด้วยคติ “อยู่หน้ากล้องต้องไม่ตาย” ยิ้มสู้
จนกระทั่งถึงเส้นชัย ด้วยอาการขาสั่นไปหมด ก็มีแวะถ่ายรูปเป็นที่ระทึกบ้าง เสร็จ แล้ว สิ่งที่ต้องตกใจ สุดขีด เนื่องจากทางทีมงานเข้ามาเก็บสายรัดข้อมือ พร้อมแจ้งให้ขึ้นไปรับถ้วย บนเวที แต่ต้องผ่าน สะพานโค้งมาก และ เดิน ขึ้นบันใดไปรับถ้วย ในใจคิดว่า ภาระกิจยังไม่สิ้นสุด ยังเจอหินอีก 2 เนินรวมไปกลับ ขอบคุณท่านที่รอมอบถ้วย ผมไม่ทันได้ไตร่ถาม ได้แต่ขอบคุณ ขอบน้ำใจ อย่างรัวๆๆ ที่ ท่าน ยังรอมอบให้กับนักวิ่งทุกท่านจนจบงาน
ยังๆๆ ยังไม่จบ หลังจากที่รับถ้วยรางวัล แวะรับข้าวกล่อง ยังต้องเดินกลับโรงแรม ซึ่งไม่ได้คิดแผนสำรองนี้เลย จึงโทรให้เพื่อนมารับ และเค้าจะรอที่ประตู 8 รถดับเพลิง ... พระเจ้า ผมยังต้องเผชิญชะตากรรมเดินไปอีก ในมือก็ถือทั้งถ้วย ทั้งรองเท้า และข้าวกล่อง ขาแทบทรุด ผู้ชายคนนี้กำลังหมดแรง (เพลง อ็อฟ เข้ามาใหนหัวตอนใหนไม่รู้) ช่วงเวลานั้น บุญบารมีที่ สะสม คงช่วย ดลบันดาลให้ มีเจ้าหน้าที่ มี มอเตอร์ไซด์ผ่านมา จึงขออาศัยให้ไปส่งที่ประตู 8 จนได้ ไม่เหนือยแรง
สรุป งานชอนตะวันมาราธอน 2017
1. งานนี้เหมาะมากสำหรับ นักวิ่งหน้าใหม่ นักวิ่งที่อยากผ่านฟลูแรก ด้วย เส้นทางสวยงาม ร่มรื่น จากวิวแสงไฟยามค่ำคืนส่งมายัง แสงแรกของพระอาทิตย์ยามเช้า จนถึงแสงแดดที่จัดจ้าน อาจจะมีเบื่อบ้าง แต่รวมๆๆก็เพลินดี เส้นทางไม่มีเนินทางเรียบ (เท้าเปล่ายังวิ่งได้ครับ แต่ สักพัก พื้นร้อนทนไม่ใหวเหมือนกัน) ปลอดรถ 99.99% ส่วน .01 % ที่เหลือคือรถเจ้าหน้าที่ ตรวจตรา ความปลอดภัยและให้กำลังใจนักวิ่ง
2.น้ำดื่ม มีรอบละ 2 จุด โดยเฉลี่ย ทุกๆๆ 1.6 กม. มีน้ำดื่มเย็นๆๆไม่ขาด สาย เริ่มที เกลือแร่ , น้ำแดง , ผ้าเย็น , แตงโมและ ทองหยอด
3.ทีมงานพร้อมเริ่มจากมีแอดมินช่วยตอบคำถามในเพจทุกครั้ง ยิ่งใกล้ๆวันงาน แทบจะใหว้วานไปซื้อของให้ได้เลย พิธีกร สนุกสนาน นักวิ่งท้ายขบวนไม่เหงา ยิ่งเหลือน้อย ยิ่งแซวแรงขาแทบขวิด ช่างภาพมีไม่เยอะ แต่อยู่ประจำจุด วิ่งวนมากี่รอบต่อกี่รอบก็เจอตลอดและถ่ายตลอด นักวิ่งหาท่าถ่ายรูปไม่ทันคงจะซ้ำท่า กองเชียร์จากน้องๆๆที่เสร็จจากวิ่งมินิ มาให้กำลังใจ มีกำลังใจ สนุกสนานทุกครั้งที่วิ่งผ่านและเขิลอายทุกครั้งที่เดินผ่าน จากคำมั่นสัญญาว่า “ทีมงานจะรออยู่จนเหลือนักวิ่งคนสุดท้าย” และรออยู่จริง บ่ายๆยังเก็บของในงานอยู่เลย 555 (ผ่านมาเห็นพอดี)
4.เตือนตัวเอง ต่อให้พร้อมแค่ใหน ซ้อมมาเท่าไหร่ ตราบใดที่ร่างกายมีสัญญาณเตือนเรื่องความไม่พร้อม อย่าฝืนเลย เจ็บตัวเปล่าๆ แม้แต่เพื่อนนักวิ่งไอดอลของผม ยังพลาดท่าเข้าห้องหน้า 4 มุมสวน ยังต้องยอมเลย วิ่งเพื่อสุขภาพไม่ทำลายสุขภาพ มีสุขจากการวิ่ง จากการออกำลังกาย กันน่ะครับ
ขอบคุณทุกท่านที่เสียสละเวลาอันมีค่า เข้ามาอ่าน ขอบคุณทีมงานชอนตะวันมาราธอนทุกท่าน ขอบคุณเพื่อนที่ดูแลตั้งแต่ออกเดินทางจนกระทั้งกลับถึงบ้าน ขอบคุณหลายๆท่านที่เข้ามาทักทาย พูดคุยกัน แม้เป็นเพียงเวลาสั้นๆๆก็ตาม สุดท้ายขอบคุณตัวเองที่ ตัดสินใจมางานนี้ไม่ผิดหวังจริงๆๆ คนนครสวรรค์ใจดีมาก อาหารก็อร่อย ไปไม่นานใช้บริการไป 5 ร้านแล้ว
5.ขอโทษครับที่แอบเอารุปมาประกอบแต่ไม่ได้ตัดเครดิตน่ะ และมีบางภาพที่มีรูปท่านอื่นติดไปด้วย
ฟลูที่ 2 ของคนที่เกือบเดินไม่ได้ จนต้องเดินจนเบื่อ (ชอนตะวัน มาราธอน) ไม่อยากอ่านยาว อ่านสรุปตรงท้ายก่อนได้
https://ppantip.com/topic/35930887 ภาคที่ 2บทสรุปของคนที่เกือบเดินไม่ได้ และผ่านฟลูมาราธอนแรกในชีวิตในแบบของผม
หลังจากที่ผ่านฟลูแรกในชีวิตมาอย่าง สะบักสะบอม นักวิ่งบ้านนอก เริ่มที่จะได้ใจ เริ่มออกวิ่งตามงานต่างๆ ไปต่างอำเภอ ไปต่างจังหวัด กล้าหาญไปสู่งานที่ กทม. แต่จะเป็นระยะ มินิและ ฮาร์ฟ เพราะถือว่า เอาระยทางเหล่านั้นเป้นการซ้อมประสบการณ์ไปในตัว จนกระทั่งมาถึงงาน ชอนตะวัน มาราธอน ที่ หนองสมบุญ จังหวัด นครสวรรค์ ซึ่งครั้งแรกที่เจอ ก็คืองาน บ้านๆๆเรียบง่าย ที่ ชมรมวิ่งในจังหวัดร่วมกันจัดขึ้น แต่สิ่งที่ น่าสนใจคือ แตร่น แตร่ แตร้น “นักวิ่ง ฟลู ทุกท่านได้ถ้วยทุกคน” อันนี้สิน่าสน อยากมีถ้วยกับเข้า แต่เราสู้ไม่ไหวแน่ๆๆ แต่ แบบนี้ก็น่าสเหมือนกัน ก็เลยเข้าไป อ่านรายละเอียด ซึ่งช่วงแรง ไม่มีอะไรเลย เพจเงียบเหงามาก ไม่ค่อยมีการพูดคุยในเพจ แต่ก็เข้าไปดูเป็นระยะ ๆ เผื่อมีอะไรที่น่าสนใจ
จนกระทั่งวันที่ รับ สมัคร จึงลงสมัครผ่านเวฟ เป็นคนที่ 60 ไม่ได้รีบ แต่ กลัวไม่ได้ถ้วย 555
(ลืมบอกไป ว่า นี่จะเป็นครั้งแรกที่ไป นครสวรรค์ ที่ไม่ใช่ขับรถผ่านแวะซื้อโมจิน่ะครับ อีกอย่างมีเพื่อน อยู่ที่ นครสวรรค์ ถึง 2 คน อย่างน้อยก็ไม่เหงา) หลังจากที่สมัคร ก็จองโรงแรม ใกล้ๆ หนอง ฯ ไม่อยากไปพักที่บ้านเพื่อน กลัว ไม่ได้นอน สรุปแล้ว วันงานก็เกือบไม่ได้นอน ตื่นเต้นจัด
ข้ามมาอย่างรวดเร็ว ก่อนงาน 1 วัน สู่เดินทางจากลำปางไปนครสวรรค์ โดย รถประจำทาง นานมากแล้วที่ นั่งรถไป ตอนกลางวัน เห็นวิวทิวทัศน์อะไรมากมาก เริ่มเดินทาง 12.30 น. ถึง 18.00 น. โดยประมาณ และให้เพื่อนมารับที่ สถานีขนส่ง เพื่อไปเอา บิบ กับเสื้อ ที่ แจ้งผ่านทางแอดมินไปแล้ว
ครั้งแรกที่เห็น หนองสมบุญ สวยมาก มังกรยิ่งใหญ่มาก สถานที่กว้างมาก น่าย้ายบ้านมาออกกำลังกายที่นี่จริงๆ หลังจากที่รับบิบ แล้ว ก็ ขับรถวนสวน รอบนอกดูพื้นที่ (ในวันที่วิ่ง จะต้องวิ่งรอบสวน 13 รอบ โดยมีเหตุผลว่า เพื่อความปลอดภัยของนักวิ่ง อีกทั้ง ทีมงาน จะรอรับนักวิ่ง จนกระทั่งคนสุดท้าย ซึ่งเหตุผลนี้ ผมชอบมาก แต่ก็คิดในใจว่า ไม่ใช่ผมแน่นอน 555 ) หลังจากนั้นก็หาอะไรอร่อยๆๆ กัน เดินเล่น ถนนคนเดิน ขับรถชมสถานที่แฮ้งเอ้าท์ ต่างๆๆ หลังจากนั้น เข้าโรงแรม พักผ่อน เพื่อที่จะต้องตื่นในเวลา ตี2.00 น. แต่นอนไม่หลับเลย กังวลอะไรมากมาย อีกทั้ง ที่หัวเข่ามีอาการเจ็บจี้ดๆๆ มาประปราย สืบเนื่องจาก อาทิตย์ก่อน ไปวิ่งงานนึงที่ ชม. แต่งชุดแฟนซีไป ด้วย สนุกมากจนลืมเซฟตัวเอง และก่อนงานวิ่ง ยังไป ซ้อมหนักๆ จนกระทั่งมีอาการเจ็บๆๆที่หัวเข่า แต่เอาน่า ผ่านมาเยอะคงไม่เป็นไร หลังจากที่ แต่งตัวเรียบร้อย พร้อมจัดการ กล้วยหอม ร้านข้างโรงแรม อีก 2 ใบ ก่อนสู้ศึก เข้าห้องน้ำเรียบร้อย ก็ ออกจากโรงแรม ซ้อมวิ่ง จ๊อค ไปเรื่อยๆเรียกเหงื่อ ผ่านวัด นครสวรรค์ แล้ว เลี้ยวเข้าสู่ หนองสมบุญ ก็ได้พบกับทีมงานขับมอเตอร์ไซด์ผ่านมา ก็เรียกขี้นรถเข้างาน ภายในงาน คนแทบยังไม่มากัน หรือว่าผมมาก่อน ก็ถือโอกาส จ๊อคเรียกเหงื่ออีกทีแล้วกัน จะไปถ่ายรูปกับมังกร แต่ เค้าไม่เปิดไฟ ก็ไม่ถ่าย ซ้อมต่อ นักวิ่งเริ่มเยอะขึ้น เรื่อยๆๆ มีคนออกมาซ้อมมากขึ้น จนกระทั่ง ถึงเวลาสตาร์จริง เสียที อันนี้ขอชมครับ ตรงเวลามากเป๊ะเลย
ในระหว่างที่ วิ่งไปก็ ออกระยะตามแผน คุมเพจไปเรื่อย วิ่งไปเพลินๆๆ ชมวิวรอบๆๆสวน จากมืดๆๆจนถึงสว่าง ในใจ ก็วางแผนไว้ หลังจากเสร็จวิ่ง จะไปใหว้พระบนภูเขา ไปบึงบรเพ็ด ไปหาอะไรกิน นู้นนี่นั้น ตามประสา คนที่มานครสวรรค์ครั้งแรก ในการวิ่งครั้งนี้ ไม่ได้ตั้งเวลาอะไรมากมาย เพราะยังงัยก็ได้ถ้วยอยู่แล้ว กับเวลา 5 ชม. คงไม่เลวร้ายสำหรับครั้งนี้ จนกระทั่ง เข้าสู่ กมที่ 23. ประมาณรอบที่ 7 -8 อาการเจ็บหัวเข่าเริ่มออกอาการ ยังประคองไปได้เรื่อย ลดเพจลงไป มีแอบเดินบ้าง จนกระทั่งรองเท้าเริ่มแน่น เจ็บ ทั้งเท้าทั้ง เข่า จึงถอดรองเท้าออกวิ่ง ลุยเท้าเปล่าไปสักรอบ (จริงแล้ว แอบโทรไปบอกเพื่อนให้เอารองเท้าเชือกคู่ใจมาส่งให้ในงาน) คงช่วยได้แค่บรรเทาอาการเจ็บเท้า ในช่วงเวลานั้น อยากที่ ออกจากสนามมากเพราะ เวลาที่ ตั้งใว้ มันผิดพลาด งานนี้จบไม่สวยแน่ๆๆ แต่ ทว่า เรา ลงทุนไป เกือบ 30 กิโล จะ มายอมแพ้ได้งัย จึงฝืนทน เอาน้ำเย็นที่มีแจกราดพยุงความเจ็บปวดตลอดทาง เพราะสเปรย์ไม่มี เอายาทา ทับไปทั้งกางเกง เอาน้ำราดให้ร้อน จะแก้กางเกง ให้ พยาบาล ก็เกรงใจมาก ฝืน ทน วิ่งๆๆเดินๆๆต่อไป แต่ อาการที่เข่า เริ่มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆๆ จนไม่สามารถที่ฝืนวิ่งได้ ถึงแม้ใช้วิชา เดินเร็วเข้าช่วยก็ตาม จนต้องเดินเรื่อยๆๆ ตลอดทาง เริ่ม นอกจากชมวิวไปแล้ว ก็พยายามหาเพื่อนร่วมชะตากรรม ให้กำลังใจกันไปเรื่อยๆๆ บางท่านก็เหลือ รอบสุดท้าย บางท่าน เหลือ อีก 3 - 4 รอบ ก้ยังดีที่มีเพื่อนชมสวนอยู่บ้าง บางจุดมีน้องๆ นักวิ่งมินิ ที่เสร็จงานแล้ว รวมกลุ่มร้องเพลง ตั้งกองเชียร์ เพลิดเพลินดีครับ สนุกสนาน ทักทายให้กำลังใจ แถว ๆๆหน้ามังกร มีช่างภาพ เก็บภาพ นักวิ่งซอมบี้ หลายท่าน ทักทายกันตามประสาคนขี้เหงา จากที่มีท่าวิ่งผ่านเท่ห์ๆๆกลายเป็นท่าซอมบี้เดินผ่าน 555 อีกทั้งกำลังใจจากพิธีกร ที่บิ้วอารมณ์ สร้างพลังใจ พร้อมแซวทุกครั้งที่ผ่าน ทำให้คลายเหงาได้เหมือน จนมาถึงช่วง รอบสุดท้าย เริ่มบอกลา เจ้าหน้าที่ที่ดูแล ซุ้มน้ำ เหล่ากองเชียร์ รวมถึงนักเดินที่อยู่ในชะตาเดียวกัน และพร้อมคิดท่าวิ่งเท่ห์ๆๆเข้า เส้นชัย ให้ช่างภาพถ่ายรูป แต่ เค้าคงรอไม่ไหว ช่างภาพตามจุดที่คุ้นเคยหายไปหมด (เค้าไม่รอเราแล้ว ) แต่ ยังคิดว่า เค้าคงพร้อมรอเราที่เส้นชัย เอาว่ะ นาทีสุดท้าย ด้วยคติ “อยู่หน้ากล้องต้องไม่ตาย” ยิ้มสู้ จนกระทั่งถึงเส้นชัย ด้วยอาการขาสั่นไปหมด ก็มีแวะถ่ายรูปเป็นที่ระทึกบ้าง เสร็จ แล้ว สิ่งที่ต้องตกใจ สุดขีด เนื่องจากทางทีมงานเข้ามาเก็บสายรัดข้อมือ พร้อมแจ้งให้ขึ้นไปรับถ้วย บนเวที แต่ต้องผ่าน สะพานโค้งมาก และ เดิน ขึ้นบันใดไปรับถ้วย ในใจคิดว่า ภาระกิจยังไม่สิ้นสุด ยังเจอหินอีก 2 เนินรวมไปกลับ ขอบคุณท่านที่รอมอบถ้วย ผมไม่ทันได้ไตร่ถาม ได้แต่ขอบคุณ ขอบน้ำใจ อย่างรัวๆๆ ที่ ท่าน ยังรอมอบให้กับนักวิ่งทุกท่านจนจบงาน ยังๆๆ ยังไม่จบ หลังจากที่รับถ้วยรางวัล แวะรับข้าวกล่อง ยังต้องเดินกลับโรงแรม ซึ่งไม่ได้คิดแผนสำรองนี้เลย จึงโทรให้เพื่อนมารับ และเค้าจะรอที่ประตู 8 รถดับเพลิง ... พระเจ้า ผมยังต้องเผชิญชะตากรรมเดินไปอีก ในมือก็ถือทั้งถ้วย ทั้งรองเท้า และข้าวกล่อง ขาแทบทรุด ผู้ชายคนนี้กำลังหมดแรง (เพลง อ็อฟ เข้ามาใหนหัวตอนใหนไม่รู้) ช่วงเวลานั้น บุญบารมีที่ สะสม คงช่วย ดลบันดาลให้ มีเจ้าหน้าที่ มี มอเตอร์ไซด์ผ่านมา จึงขออาศัยให้ไปส่งที่ประตู 8 จนได้ ไม่เหนือยแรง สรุป งานชอนตะวันมาราธอน 2017
1. งานนี้เหมาะมากสำหรับ นักวิ่งหน้าใหม่ นักวิ่งที่อยากผ่านฟลูแรก ด้วย เส้นทางสวยงาม ร่มรื่น จากวิวแสงไฟยามค่ำคืนส่งมายัง แสงแรกของพระอาทิตย์ยามเช้า จนถึงแสงแดดที่จัดจ้าน อาจจะมีเบื่อบ้าง แต่รวมๆๆก็เพลินดี เส้นทางไม่มีเนินทางเรียบ (เท้าเปล่ายังวิ่งได้ครับ แต่ สักพัก พื้นร้อนทนไม่ใหวเหมือนกัน) ปลอดรถ 99.99% ส่วน .01 % ที่เหลือคือรถเจ้าหน้าที่ ตรวจตรา ความปลอดภัยและให้กำลังใจนักวิ่ง
2.น้ำดื่ม มีรอบละ 2 จุด โดยเฉลี่ย ทุกๆๆ 1.6 กม. มีน้ำดื่มเย็นๆๆไม่ขาด สาย เริ่มที เกลือแร่ , น้ำแดง , ผ้าเย็น , แตงโมและ ทองหยอด
3.ทีมงานพร้อมเริ่มจากมีแอดมินช่วยตอบคำถามในเพจทุกครั้ง ยิ่งใกล้ๆวันงาน แทบจะใหว้วานไปซื้อของให้ได้เลย พิธีกร สนุกสนาน นักวิ่งท้ายขบวนไม่เหงา ยิ่งเหลือน้อย ยิ่งแซวแรงขาแทบขวิด ช่างภาพมีไม่เยอะ แต่อยู่ประจำจุด วิ่งวนมากี่รอบต่อกี่รอบก็เจอตลอดและถ่ายตลอด นักวิ่งหาท่าถ่ายรูปไม่ทันคงจะซ้ำท่า กองเชียร์จากน้องๆๆที่เสร็จจากวิ่งมินิ มาให้กำลังใจ มีกำลังใจ สนุกสนานทุกครั้งที่วิ่งผ่านและเขิลอายทุกครั้งที่เดินผ่าน จากคำมั่นสัญญาว่า “ทีมงานจะรออยู่จนเหลือนักวิ่งคนสุดท้าย” และรออยู่จริง บ่ายๆยังเก็บของในงานอยู่เลย 555 (ผ่านมาเห็นพอดี)
4.เตือนตัวเอง ต่อให้พร้อมแค่ใหน ซ้อมมาเท่าไหร่ ตราบใดที่ร่างกายมีสัญญาณเตือนเรื่องความไม่พร้อม อย่าฝืนเลย เจ็บตัวเปล่าๆ แม้แต่เพื่อนนักวิ่งไอดอลของผม ยังพลาดท่าเข้าห้องหน้า 4 มุมสวน ยังต้องยอมเลย วิ่งเพื่อสุขภาพไม่ทำลายสุขภาพ มีสุขจากการวิ่ง จากการออกำลังกาย กันน่ะครับ
ขอบคุณทุกท่านที่เสียสละเวลาอันมีค่า เข้ามาอ่าน ขอบคุณทีมงานชอนตะวันมาราธอนทุกท่าน ขอบคุณเพื่อนที่ดูแลตั้งแต่ออกเดินทางจนกระทั้งกลับถึงบ้าน ขอบคุณหลายๆท่านที่เข้ามาทักทาย พูดคุยกัน แม้เป็นเพียงเวลาสั้นๆๆก็ตาม สุดท้ายขอบคุณตัวเองที่ ตัดสินใจมางานนี้ไม่ผิดหวังจริงๆๆ คนนครสวรรค์ใจดีมาก อาหารก็อร่อย ไปไม่นานใช้บริการไป 5 ร้านแล้ว 5.ขอโทษครับที่แอบเอารุปมาประกอบแต่ไม่ได้ตัดเครดิตน่ะ และมีบางภาพที่มีรูปท่านอื่นติดไปด้วย