[CR] Everest Base Camp by JIA

Everest Base Camp



สวัสดีครับ พ่อ แม่ พี่ น้อง ทั้งหลาย ห่างหายกันไปนาน ผม เจี๋ย กลับมาอีกครั้งกับการเที่ยวต่างแดนครั้งแรกของผม เลยอย่างมาจะขอแชร์ประสบการณ์ที่ผมได้เจอซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยเขียนรีวิวไปบ้าง เช่น
     1. ตรังที่รัก  https://ppantip.com/topic/34398565                                               
     2. จากสุไหงโก-ลก สู่ ภาคเหนือ  https://ppantip.com/topic/34607745
     3. การผจญภัยรอบภาคใต้กับ Wave110 คู่ใจ  https://ppantip.com/topic/34901552 และล่าสุดคือ
     4. ผาหินดำ,ภูเก็ต  https://ppantip.com/topic/35411465
     หรือสอบถาม พูดคุย แชร์ประสบการณ์ผ่าน facebook : https://www.facebook.com/holajia



ซึ่ง ผาหินดำ,ภูเก็ต มันเป็นทริประหว่างทางที่ผมขับ เวฟ ท่องเที่ยว จากนราธิวาส-ประจวบฯ ใช้เส้นทางฝั่งอันดามัน โดยครั้งนั้นมีเพื่อนผมที่ กทม. ขอร่วมเดินทางด้วย เดี๋ยวคราวหน้าผมจะมาเล่าให้ฟังอีกครั้ง และใหม่ล่าสุดๆๆ คือทริปวังเวียง-เวียงจันทน์,ลาว เดี๋ยวจะมาเล่าอีกครั้งนึง
     ส่วนครั้งนี้จะเป็นการบันทึกการเดินทางหรือแชร์ประสบการณ์มากกว่า เน้นรูปภาพซะส่วนใหญ่ เป็นทริปที่ผมอยากเห็นภูเขาที่สูงที่สุดตั้งแต่เด็กๆแล้วละครับ จนโตมาได้มีโอกาสที่จะทำตามความฝัน ผมเรียบเรียงเล่าเรื่องราวยังงูๆปลาๆ ถ้าผิดพลาดประการใด แนะนำ ติชม ได้นะครับ ปล.รูปบางรูปมาจากกล้องของพี่ๆที่ไปด้วยกันผมได้ขออนุญาตเอามาลงแล้วนะครับและผมอาจจะเขียนช้าหน่อยนะครับ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
    ทริปนี้ตั้งแต่วันที่ 14-28 ตุลาคม 2559 ผมได้ใช้บริการของ Serene Tour โดยพี่ บอล เค้าให้ข้อมูลต่างๆ  คำปรึกษา ก่อนเดินทางดีมากเลยครับ ตอนผมตัดสินใจมี 2 ตัว เลือก ABC กับ EBC ซึ่งจากเทรคต่างแดนนี่ครั้งแรกของผมเลยอย่างให้มันเป็นอะไรที่ประทับใจเลยจัด EBC ซะเลย555+ ส่วนค่าใช้จ่ายอยู่ที่ ถ้าราคาไม่รวมตั๋วเนปาลแอร์ไลน์ 47,900 บาท แต่ถ้ารวมตั๋วเนปาลแอร์ไลน์จะอยู่ที่ 59,900 บาท ซึ่งพี่บอลแกก็ลดให้ผม 500 เพราะเห็นเราปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จว.ใต้ ขอบคุณครับพี่



เส้นทางการเดินเท้าตั้งแต่ลุคลา-Everest Base Camp ไปกลับเราจะใช้เส้นเดิม ซึ่งเป็นเส้นทางที่นิยมกันและจะมีอีกเส้นนึงคือ Gokyo แต่จะใช้เวลาเพิ่มอีก 3 วัน ซึ่งผมลามากกว่านี้ไม่ได้แล้ว(เสียดายเหมือนกันไม่ได้เดินเส้นนี้) ส่วนตารางการเดินทาง ดังนี้
14 ตค. กรุงเทพฯ - กาฐมัณฑุ
15 ตค. กามัณฑุ - ปาทัน
16 ตค. กามัณฑุ - ลุกล่า(2840 เมตร) - ม่อนโจ(2700 เมตร)
17 ตค. พักดิง(2610 เมตร) - นามเช(3440 เมตร)
18 ตค. นามเช - คุมจุง - นามเช(3440 เมตร) วันพัก ปรับสภาพร่างกายให้คุ้นชินกับความสูง
19 ตค. นามเช(3440 เมตร) - เตงโบเช(3860 เมตร)
20 ตค. เตงโบเช(3860 เมตร) - ดิงโบเช(4350)
21 ตค. ดิงโบเช(4350) วันพัก ปรับสภาพร่างกายให้คุ้นชินกับความสูง
22 ตค. ดิงโบเช(4350) - โลบูเจ(4910 เมตร)
23 ตค. โลบูเจ(4910 เมตร) - โกรักเชป(5140 เมตร) - Everest Base Camp(5365 เมตร)
24 ตค. โกรักเชป(5140 เมตร) - เพอริเช(4200 เมตร)
25 ตค. เพอริเช(4200 เมตร) - นามเช(3440 เมตร)
26 ตค. นามเช(3440 เมตร) - ลุคลา(2840 เมตร)
27 ตค. ลุคลา(2840 เมตร) - กามัณฑุ
28 ตค. กามัณฑุ - กรุงเทพฯ
     ราคานี้รวม
- ที่พักใน กาฐมัณฑุ 3 คืน พร้อมอาหารเช้า                                   
- อาหารและที่พักระหว่าง Trekking                                             
- ตั้วเครื่องบินไปกลับ กามัณฑุ-ลุคลา-กามัณฑุ(นน.กระเป๋า 15 กก)     
- ค่าใบอนุญาต Tims & Everest permit                                        
- อาหารตามที่ระบุ
- ไกด์ 1 ท่าน ผู้ช่วยไกด์ 1 ท่าน ลูกหาบ 5 ท่าน
- ประกันภัยไกด์และลูกหาบ
- รถรับส่งสนามบิน
- อุปกรณ์การเดินทางของไกด์และลูกหาบ
- 2 Tea breaks ต่อวัน
- น้ำดื่มวันละ 2 ลิตร(เช้า,เย็น)
- ถุงนอนและเสื้อขนเป็ดกันหนาว
- ประกันภัยการเดินทาง
- วีซ่า
     ราคานี้ไม่รวม
- เครื่องดื่มนอกรายการ
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัว
- การช่วยเหลือทางการแพทย์อื่นๆนอกเหนือประกันภัยระบุ
- ทิปลูกหาบและไกด์
- ค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศไม่ดีหรือ Flight Delay
- น้ำอุ่นสำหรับอาบ
- การชาร์จแบตเตอรี่,Package Wifi/internet

วันที่ 14 ตค.
     วันนี้ก็ไม่มีอะไรมากแค่เดินทางไปสนามบินเพื่อขึ้นเครื่องไปประเทศเนปาล ผมถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยใช้บริการ แอร์พอร์ตลิงค์ ประมาณบ่าย 3 เป็นครั้งแรกที่ผมเดินทางด้วยตัวเองมาที่นี่ พอถึงก็ งง ไปไม่ถูกเพราะสนามบินใหญ่มาก ได้แต่เดินถามเค้าไปเรื่อยๆ แล้วก็มาถึงแถว w ประตู 10



เจอพี่ๆเพื่อนๆ กล่าวสวัสดีทักทาย พี่บอลกับอาบิ้นยืนรออยู่ ผู้ร่วมทริปทั้งหมดมี 9 คน มี1.ผมเอง 2.พี่โม่ 3.พี่เตี้ย 4.พลอย 5.เหมียว 6.พี่เล็ก 7.อาสุวัฒน์ 8.พี่แซม 9.ตู่ (ส่วนพี่เล็กกับตู่เดินทางไปก่อนหน้านี้เแล้ว)ออกเดินทางจากไทยประมาณ 17.30 ใช้เวลาประมาณ 4 ชม ก็มาถึงเนปาล เวลาช้ากว่าบ้านเราประมาณ 1 ชม 15 น.



ถึงเนปาลก็ประมาณ 3 ทุ่ม ลงจากเครื่องก็ได้สัมผัสกับอากาศที่เย็นสบาย จุดลงเครื่องกับตัวอาคารอยู่ห่างกัน นั่งรถไปตรงบริเวณตัวอาคาร เพื่อเข้าไปยื่นหนังสือเดินทาง จากนั้นรอรับสัมภาระ ผมสังเกตเห็นชาวเนปาลที่มาจากไทยขนพวกทีวี มาจากบ้านเราไม่รู้ว่าที่นี่มันแพงหรือเค้าเอามาขายต่อหรือป่าว ก่อนจะออกจากสนามบินก็ได้เปิดซิมใช้เน็ตร้าน Ncell Shop ร้านจะอยู่ตรงทางออกของอาคารสนามบิน ข้างนอกมีชาวเนปาลมารอรับมากมายหน้าตัวอาคาร




จากนั้นขึ้นรถตู้ไปที่พัก คนที่นี่เดินไม่กลัวรถเลย รถเก๋งก็ชอบเปิดไฟสูง ขับกันมั่วมากแต่แปลกนะไม่ค่อยเกิดอุบัติเหตุ คนที่นี่เค้านิยมใช้รถมอไซในการเดินทาง ถึงที่พักแล้วเก็ยข้าวของเสร็จออกมาเดินเล่นต่อที่พักผมแถวย่านทาเมล ร้านส่วนมากปิดหมดแล้ว พี่บอลแวะกินร้านแฮมเบอเก้อ รสชาติก็เหมือนของบ้านเรา ผ่านร้านค้า ร้านผลไม้ มีร้านเซเว่นด้วย และก็กลับห้อง คืนนี้นอนสบายหน่อย แต่ผมก็นอนไม่ค่อยหลับเพราะไม่ชินกับสถานที่

วันที่ 15 ตค.
     ตื่น 6 โมง เพื่อไปเดินดูตลาดเช้า ก่อนถึงตลาดก็แวะที่วัดพระแก้ว ซึ่งมีเจดีย์องค์ใหญ่ อยู่ตรงกลาง ไหว้ขอพร จะมีกงล้อให้หมุนมันเหมือนเป็นคำสวดในกงล้อ เดินเล่นรอบๆ แล้วก็ไปตลาดเช้าต่อ ผ่านร้านต่างๆวุ่นวายเหมือนบ้านเรา ได้เจอคล้ายศาลที่เวลาคนเจ็บฟันขอพรให้หายเจ็บเหมือนกับเราเหรียญมาตอกตาปูติดไว้กับศาล ที่ตลาดมีของแปลกๆที่เราไม่เคยเห็น อย่างเช่นพริกที่ลูกมันกลมๆเหมือนลูกเชอรี่ เกลือจากเทือกเขาหิมาลัย ตาชั่งเวลาซื้อของ สมุนไพรเครื่องเทศต่างๆ













แล้วก็กลับที่พัก กินข้าวอาบน้ำ โปรกแกรมเที่ยวจะแถวปาทัน วัดทอง ชมพระราชวังปาทัน รถมารับพร้อมไกด์ชาวเนปาลก็พาเที่ยวที่ต่างๆ เค้าก็อธิบายสถานที่ต่าง ชีวิตบนท้องถนนก็ยังวุ้นวายเหมือนเดิม ขับรถไม่ไกลเราก็มาถึงปาทัน



เดินอีกแปปนึงเราก็ถึงวัด ถ้าสังเกตในรูปจะเห็นว่าบ้านเรื่อนติดกันและจะมีไม้มาค้ำตัวบ้าน เพื่อให้เกิดความแข็งแรงกับโครงสร้างมากกว่าเดิม เนื่องจากที่ผ่านมาประเทศเนปาลเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง เค้าบอกว่ามันสามารถช่วยได้ในระดับนึง






เข้าไปในวัดทอง มีผู้คนมาทำบุญกันมาก ถือเป็นวัดสำคัญอีกวัดนึง ไกด์ก็อธิบายๆไปเรื่อยๆของเค้าอะครับ แต่ผมก็ฟังไม่เข้าใจเพราะเค้าพูดภาษาอังกฤษ ได้แต่ให้คนอื่นแปลให้อีกที และพวกเราก็ร่วมสวดมนต์ถวายพระราชกุศลแด่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ออกจากวัดฝั่งตรงข้ามจะมีร้านวาดรูป แบบเป็นวัด เจดีย์อะไรประมาณนี้ ฝีมือเค้าสุดยอดมากครับ สวยทุกรูปพี่บอลบอกว่าฝีมือระดับอาจารย์



ต่อจากนั้นก็เดินไปชมพระราชวังปาทัน และวัดสยมภูนารถ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดทอง เดินแปปเดียวก็ถึง ด้านในก็จัดเป็นพิพิธภัณฑ์












กลับจากเที่ยวช่วงเช้าไปกินข้าว บ่ายกลับที่พัก ช่วงบ่ายพี่บอลจะแจกกระเป๋าใบใหญ่ซึ่งเอาไว้ใส่ของที่จะให้ลูกหาบแบกโดย นน จะไม่เกิน 15 กิโล และเราก็จะได้เจอกับไกด์ที่จะพาเราไปถึงเบสแค้ม
ชื่อสินค้า:   Nepal Tourth
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่