26/12/2558 21.30น. สวัสดีครับชาวพันทิป ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อน กระผม สตท คนาพร เนาวรัตน์ ชื่อเล่น เจี๋ย อายุ 28 ปี ปัจจุบันปฏิบัติหน้าที่ที่ 3 จว ชายแดนใต้ครับ นี่เป็นรีวิวครั้งที่ 2 ที่ผมทำ หลังจากครั้งแรก
http://ppantip.com/topic/34398565 ครับ จะว่าไปก็ไม่ใช่รีวิวที่ให้ข้อมูลอะไรสักเท่าไหร่

เอาเป็นว่า เป็นการแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวภาคเหนือโดยให้รูปถ่ายเป็นคนเล่าเรื่องรายละเอียดข้อมูลอาจจะน้อยหน่อยนะครับ

อุปกรณ์ที่ใช้ถ่ายก็มีแค่ Iphone5sและGopro4s
ทั้งนี้การใช้ภาษา เรียบเรียง เขียนแบบบ้านๆนะครับ หากผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยด้วยนะ

เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
หลังจาการทำงานติดต่อเป็นเวลาหลายวัน ก็ถึงช่วงที่ได้ลาพักตามวงรอบ ผมมีเวลาเที่ยว 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 16-25 ธันวาคม ได้ทำการจองตั๋วก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วัน

การวางแผนการท่องเที่ยวข้อมูลต่างๆ ก็ดูจากรีวิวในพันทิปเป็นหลัก ต้องขอบคุณทุกคนที่รีวิวในพันทิปสำหรับข้อมูลและที่สำคัญต้องขอบคุณ ไม จาก เพจ
https://www.facebook.com/PalapiliiThailand/?fref=ts เป็นรีวิวในพันทิปแรกๆ ที่ผมเปิดอ่าน มันทำให้ผมฝัน และอยากที่จะทำตามความฝัน ขอบคุณครับ ไม หวังว่าเราคงได้ร่วมทริปสักครั้ง

โดยแผนที่วางไว้คือเที่ยวเชียงราย 2 วัน เชียงใหม่ 3 วัน กทม 1 วัน ส่วนแพลนการเที่ยวแต่ละจังหวัดผมไม่ได้เจาะจงว่าเวลานี้จะเที่ยวที่ไหนไปที่ไหน แค่วางแผนคร่าวๆอยากไปก้ไปเลยส่วนที่พักก็ไม่มีการจองเดินหาเป็นหลัก การเดินทางคือ รถทัวร์ เครื่องบินและรถไฟ 16/12/58 เดินทางโดนรถทัวร์ สุไหงโก-ลก-กทม ใช้เวลาเดินทาง 18 ชม.โดยประมาณ 17/12/58 เครื่องบิน กทม-เชียงราย ใช้เวลาเดินทาง 1 ชม.40น. โดยประมาณ 19/12/58 รถทัวร์ เชียงราย-เชียงใหม่ ใช้เวลาเดินทาง 4ชม โดยประมาณ 22/12/58 รถไฟ เชียงใหม่-กทม ใช้เวลาเดินทาง 13ชม โดยประมาณ 24/12/58 รถไฟ กทม-สุไหงโก-ลก ใช้เวลาเดินทางนานที่สุด 25ชม นั่งจนเบื่อกันเลยทีเดียว ฮาๆ ต้องทำใจเพราะเราอยู่ไกล

หรือถ้าใครเงินเหลือจะต่อเครื่องรวดเดียวก็ได้นะครับถือเป็นการซื้อเวลา แต่สำหรับผม ณ ตอนนั้น ราคามันโหดเกินเลยต้องเสียเวลาไปกับการเดินทางซะส่วนใหญ่
16/12/58 เริ่มออกทางเดินจาก อ.สุไหงโก-ลกโดยรถทัวร์ ล้อหมุน 12.30น.

รถมาแล้ว ที่นั่งกว้าง หลับสบาย หายห่วง^^

นั่งรถมาสักพัก จนท ก็จะแจกของว่าง ก็จะมีกาแฟซองและขนมเค้ก อย่างที่กล่าวไว้ใช้เวลาเดินทาง 18ชม. ระหว่างทางจะมีจุดพักรถให้กินข้าวที่ อ.ทุ่งสง
จากนั้นเดินทางต่อ ก็จะมาถึง กทม 06.00น.นิดๆ

ของวันที่ 17 ซึ่งผมได้ลงที่หมอชิต เพื่อที่จะเดินทางต่อเครื่องที่ดอนเมืองเวลา 13.00น. ช่วงเช้ามีเวลา 6ชม. จัดแจงอาบน้ำหาข้าวกินที่หมอชิต สายๆว่าจะไปเดินเล่นที่ตลาดและสวนสาธารณะที่จตุจักร

ทำภาระกิจส่วนตัวกินข้าวเสร็จ เดินทางต่อโดยรถเมล์สาย 135 มาลงที่สถานีรถไฟใต้ดินจตุจักร

ใช้เวลาเดินทางไม่กี่นาทีก็มาถึงจตัจักรครับ

คาดว่าน่าจะเป็นวันหยุด ถึงได้มีแค่ต้นไม้ ดอกไม้ มาขาย เดินได้สักพัก ก็ไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะแถวนั้นต่อ บรรยากาศดีมาก ผมว่าหาพื้นที่สีเขียวใน กทม คงยากนะ ไม่เหมือน ตจว ป่าไม้เต็มไปหมด

เดินเล่นในสวน ถ่ายรูปไปเรื่อย รอเวลาเดินทางไปขึ้นเครื่อง เมื่อได้เวลาก็เดินทางต่อ โดยสายรถเมล์ A1 (ขึ้นรถหน้าสวนจตุจัตร)รถจะไปจอดฝั่งสนามบินเลย

WIFI บนรถเมล์ ผมไม่แน่ใจว่าต้องเสียค่าบริการหรือป่าว

บริเวณหน้าสนามบิน
เมื่อมาถึงก็ทำการเช็คอิน

คนเยอะมากครับ ระหว่างก็ได้มี จนท น่ารัก ประจำสนามบิน มาค่อยให้บริการ เค้าจะถามว่าจะโหลดสัมภาระไว้ใต้เครื่องไม๊ ถ้าไม่โหลด จนท ก็จะพาเราไปเช็คอินที่ตู้ ผมก็เพิ่งรู้นะครับว่ามีแบบนี้ด้วย ผมไม่ค่อยได้ใช้บริการเลย หน้าตาก็จะเป็นแบบนี้ครับ/ขอบคุร จนท ที่ แนะนำนะครับ

หน้าตาเป็นแบบนี้ครับ
จากนั้นได้เวลาก็ไปรอในเกท(เรียกถูกป่าวไม่รู้)

ระหว่างทางถ่ายรูปตลอด นานๆจะได้ใช้บริการ ฮาๆ

จนท กำลังสาธิตวิธีใช้อุปกรณ์
ตอนกำลังจะขึ้นความเสียวเริ่มมาเยือน มันรู้สึกเหมือนกำลังเล่นเครื่องเล่นที่สวนสนุกยังไงยังงั้น ผมตื่นเต้นทุกที55 ใช้เวลาถึงเชียงรายประมาณ 1ชม.40น.

ระหว่างทางก็จะมีสินค้าและบริการของทางสายการบิน

ผบ จัดหมวกมา 1 ใบ เป็นที่ระทึก
พอใกล้จะถึงสนามบิน ความเสียวได้มาเยือนอีกครั้ง ผมนั่งใกล้หน้าต่าง สังเกตออกไปด้านนอกมีหมอกหนามาก

ระหว่างนั้นเครื่องบินบินเข้าไปในหมอก เครื่องสั่น แถมตกหลุมอากาศอีก ผมไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน ตกหลุมหลายครั้งมาก ผมกับแฟนจับมือกันแน่น เหงื่อนี่ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น แต่ก็มาถึงสนามบินด้วยความปลอดภัย

พอมาถึงก็ งง ว่าจะไปไหนต่อ ดูแผนที่ในสภาพบิน หาข้อมูล ในอินเตอร์เน็ต ยืนๆอยู่ก็ได้เจอกับพี่พิศาลเจ้าหน้าที่ EOD ในสนามบิน พี่พิศาลได้แนะนำข้อมูลที่ต่างๆ และได้ให้แผนที่ ขอบคุณพี่มากครับที่ช่วยเหลือ ปล.EOD เป็นพี่น้องกันทั่วโลก^^

พี่พิศาลสุดหล่อ
ออกจากสนามบิน พอประตูสนามบินเปิด ผมรู้สึกถึงความหนาวของที่นี่ ผมไม่เคยเจอมาก่อน มันหนาวกว่าแอฟริกาบ้านผม(ผมเปรียบเทียบความร้อนของภาคใต้ อิอิ)ผมว่าในสนามบินหนาวแล้วนะ อากาศนอกสนามบินหนาวยิ่งกว่าอีก ซะใจจริงๆกับความหนาว เดินออกมาจากสนามบินไม่ไกลก็หารถต่อเข้าในเมือง

แค่นี้ก่อนนะครับ แล้วว่างๆจะมาต่อให้ใหม่ ฝันดีคราฟฟฟฟฟฟ
[CR] [CR]จากสุไหงโก-ลก สู่ ภาคเหนือ
ทั้งนี้การใช้ภาษา เรียบเรียง เขียนแบบบ้านๆนะครับ หากผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยด้วยนะ
การวางแผนการท่องเที่ยวข้อมูลต่างๆ ก็ดูจากรีวิวในพันทิปเป็นหลัก ต้องขอบคุณทุกคนที่รีวิวในพันทิปสำหรับข้อมูลและที่สำคัญต้องขอบคุณ ไม จาก เพจ https://www.facebook.com/PalapiliiThailand/?fref=ts เป็นรีวิวในพันทิปแรกๆ ที่ผมเปิดอ่าน มันทำให้ผมฝัน และอยากที่จะทำตามความฝัน ขอบคุณครับ ไม หวังว่าเราคงได้ร่วมทริปสักครั้ง
16/12/58 เริ่มออกทางเดินจาก อ.สุไหงโก-ลกโดยรถทัวร์ ล้อหมุน 12.30น.
รถมาแล้ว ที่นั่งกว้าง หลับสบาย หายห่วง^^
นั่งรถมาสักพัก จนท ก็จะแจกของว่าง ก็จะมีกาแฟซองและขนมเค้ก อย่างที่กล่าวไว้ใช้เวลาเดินทาง 18ชม. ระหว่างทางจะมีจุดพักรถให้กินข้าวที่ อ.ทุ่งสง
จากนั้นเดินทางต่อ ก็จะมาถึง กทม 06.00น.นิดๆ
ของวันที่ 17 ซึ่งผมได้ลงที่หมอชิต เพื่อที่จะเดินทางต่อเครื่องที่ดอนเมืองเวลา 13.00น. ช่วงเช้ามีเวลา 6ชม. จัดแจงอาบน้ำหาข้าวกินที่หมอชิต สายๆว่าจะไปเดินเล่นที่ตลาดและสวนสาธารณะที่จตุจักร
ทำภาระกิจส่วนตัวกินข้าวเสร็จ เดินทางต่อโดยรถเมล์สาย 135 มาลงที่สถานีรถไฟใต้ดินจตุจักร
ใช้เวลาเดินทางไม่กี่นาทีก็มาถึงจตัจักรครับ
คาดว่าน่าจะเป็นวันหยุด ถึงได้มีแค่ต้นไม้ ดอกไม้ มาขาย เดินได้สักพัก ก็ไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะแถวนั้นต่อ บรรยากาศดีมาก ผมว่าหาพื้นที่สีเขียวใน กทม คงยากนะ ไม่เหมือน ตจว ป่าไม้เต็มไปหมด
เดินเล่นในสวน ถ่ายรูปไปเรื่อย รอเวลาเดินทางไปขึ้นเครื่อง เมื่อได้เวลาก็เดินทางต่อ โดยสายรถเมล์ A1 (ขึ้นรถหน้าสวนจตุจัตร)รถจะไปจอดฝั่งสนามบินเลย
WIFI บนรถเมล์ ผมไม่แน่ใจว่าต้องเสียค่าบริการหรือป่าว
บริเวณหน้าสนามบิน
เมื่อมาถึงก็ทำการเช็คอิน
คนเยอะมากครับ ระหว่างก็ได้มี จนท น่ารัก ประจำสนามบิน มาค่อยให้บริการ เค้าจะถามว่าจะโหลดสัมภาระไว้ใต้เครื่องไม๊ ถ้าไม่โหลด จนท ก็จะพาเราไปเช็คอินที่ตู้ ผมก็เพิ่งรู้นะครับว่ามีแบบนี้ด้วย ผมไม่ค่อยได้ใช้บริการเลย หน้าตาก็จะเป็นแบบนี้ครับ/ขอบคุร จนท ที่ แนะนำนะครับ
หน้าตาเป็นแบบนี้ครับ
จากนั้นได้เวลาก็ไปรอในเกท(เรียกถูกป่าวไม่รู้)
ระหว่างทางถ่ายรูปตลอด นานๆจะได้ใช้บริการ ฮาๆ
จนท กำลังสาธิตวิธีใช้อุปกรณ์
ตอนกำลังจะขึ้นความเสียวเริ่มมาเยือน มันรู้สึกเหมือนกำลังเล่นเครื่องเล่นที่สวนสนุกยังไงยังงั้น ผมตื่นเต้นทุกที55 ใช้เวลาถึงเชียงรายประมาณ 1ชม.40น.
ระหว่างทางก็จะมีสินค้าและบริการของทางสายการบิน
ผบ จัดหมวกมา 1 ใบ เป็นที่ระทึก
พอใกล้จะถึงสนามบิน ความเสียวได้มาเยือนอีกครั้ง ผมนั่งใกล้หน้าต่าง สังเกตออกไปด้านนอกมีหมอกหนามาก
ระหว่างนั้นเครื่องบินบินเข้าไปในหมอก เครื่องสั่น แถมตกหลุมอากาศอีก ผมไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน ตกหลุมหลายครั้งมาก ผมกับแฟนจับมือกันแน่น เหงื่อนี่ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น แต่ก็มาถึงสนามบินด้วยความปลอดภัย
พอมาถึงก็ งง ว่าจะไปไหนต่อ ดูแผนที่ในสภาพบิน หาข้อมูล ในอินเตอร์เน็ต ยืนๆอยู่ก็ได้เจอกับพี่พิศาลเจ้าหน้าที่ EOD ในสนามบิน พี่พิศาลได้แนะนำข้อมูลที่ต่างๆ และได้ให้แผนที่ ขอบคุณพี่มากครับที่ช่วยเหลือ ปล.EOD เป็นพี่น้องกันทั่วโลก^^
พี่พิศาลสุดหล่อ
ออกจากสนามบิน พอประตูสนามบินเปิด ผมรู้สึกถึงความหนาวของที่นี่ ผมไม่เคยเจอมาก่อน มันหนาวกว่าแอฟริกาบ้านผม(ผมเปรียบเทียบความร้อนของภาคใต้ อิอิ)ผมว่าในสนามบินหนาวแล้วนะ อากาศนอกสนามบินหนาวยิ่งกว่าอีก ซะใจจริงๆกับความหนาว เดินออกมาจากสนามบินไม่ไกลก็หารถต่อเข้าในเมือง
แค่นี้ก่อนนะครับ แล้วว่างๆจะมาต่อให้ใหม่ ฝันดีคราฟฟฟฟฟฟ