ในโลกหรือในธรรมชาติทั้งหมดนี้ มีเพียง 2 อย่างคือ สังขาร และ วิสังขาร
สังขาร (สังขตธรรม) คือ สิ่งที่เกิดจากการปรุงแต่ง หรือก็คือทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้
วิสังขาร (อสังขตธรรม) คือ สิ่งที่ปราศจากการปรุงแต่งใดๆ มีอย่างเดียวคือ นิพพาน (หรือนิโรธ หรือวิมุติ)
ทั้งสังขารและวิสังขาร รวมเรียกว่า "ธัมมา" หรือ "ธรรม" (สังขต
ธรรมและอสังขต
ธรรม)
หากไม่มีนิพพาน พระพุทธเจ้าก็คงจะตรัสว่า
สัพเพ
สังขารา อนิจจา
สัพเพ
สังขารา ทุกขา
สัพเพ
สังขารา อนัตตา
แต่เพราะอนัตตา หมายรวมถึง ธรรมทั้งปวง ไม่ได้มีแต่สังขาร (สังขต
ธรรม) เท่านั้น ยังมีวิสังขาร (อสังขต
ธรรม) ด้วย
พระองค์จึงตรัสว่า
สัพเพ
สังขารา อนิจจา
สัพเพ
สังขารา ทุกขา
สัพเพ
ธัมมา อนัตตา
หากขาดบรรทัดสุดท้ายนี้ คงจะยุ่งนะครับ
ด้วยพระอัจฉริยภาพของพระพุทธเจ้า ทำให้เรามีคำตอบว่านิพพานคืออนัตตา
สังขาร (สังขตธรรม) คือ สิ่งที่เกิดจากการปรุงแต่ง หรือก็คือทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้
วิสังขาร (อสังขตธรรม) คือ สิ่งที่ปราศจากการปรุงแต่งใดๆ มีอย่างเดียวคือ นิพพาน (หรือนิโรธ หรือวิมุติ)
ทั้งสังขารและวิสังขาร รวมเรียกว่า "ธัมมา" หรือ "ธรรม" (สังขตธรรมและอสังขตธรรม)
หากไม่มีนิพพาน พระพุทธเจ้าก็คงจะตรัสว่า
สัพเพ สังขารา อนิจจา
สัพเพ สังขารา ทุกขา
สัพเพ สังขารา อนัตตา
แต่เพราะอนัตตา หมายรวมถึง ธรรมทั้งปวง ไม่ได้มีแต่สังขาร (สังขตธรรม) เท่านั้น ยังมีวิสังขาร (อสังขตธรรม) ด้วย
พระองค์จึงตรัสว่า
สัพเพ สังขารา อนิจจา
สัพเพ สังขารา ทุกขา
สัพเพ ธัมมา อนัตตา
หากขาดบรรทัดสุดท้ายนี้ คงจะยุ่งนะครับ