ในคำที่ว่า..
(๕ โดยสภาวะของมันเอง ก็แย้งหรือค้านต่อความเป็นอัตตา มีแต่ภาวะที่ตรงข้ามกับความเป็นอัตตา;) แต่
ตอนหลังกลับกล่าวว่า นิพพานไม่ใช่อัตตา แท้จริงนิพพานเป็นอนัตตา
คำว่า.. มีแต่ภาวะที่ตรงข้ามกับความเป็นอัตตา ก็แสดงว่าพระพรหมคุณาภรณ์ ท่านทราบเป็นอย่างดีแล้ว ว่า
ไม่ว่าขันธ์ ๕ จะเป็น หรืออยู่ภาวะแบบไหน อย่างไร ภาวะที่เรียกว่าอัตตาย่อมเป็นตรงกันข้ามเสมอในภาวะนั้นๆ
...แล้วตอนหลังมาทำไมพระพรหมคุณาภรณ์ จึงหันกลับ 180 องษา จากหน้ามือเป็นหลังมืออย่างไม่คาดคิด
จนต้องออกหนังสือชี้แจงเป็นปึกๆ จนผู้คนสับสนอลหม่านไปหมด เพราะใครก็เรียกท่านว่าตู้พระไตรปิฏก
ทั้งที่พระไตรปิฏกก็ระบุชัดเจน
ขอยกตัวอย่างให้เห็ยเลยก็แล้วกันพอเป็นที่เข้าใจ เช่น..
.....เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพานไม่มีฝี ...
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็นดังลูกศร ...
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพานไม่มีลูกศร ...
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความลำบาก ...
เมื่อพิจารณาเห็นว่าความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพานไม่มีความลำบาก ...
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็นอาพาธ ...
เมื่อพิจารณาเห็นว่าความดับแห่งเบญจขันธ์ เป็นนิพพานไม่มีอาพาธ ...
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็นอื่น ...
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพานไม่มีสิ่งอื่นเป็นปัจจัย ...
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็นของชำรุด ...
เมื่อพิจารณาเห็นว่าความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพานไม่มีความชำรุดเป็นธรรมดา ...
ทีนี้เห็นรึยังว่า ภาวะตรงข้ามระบุว่านิพพานหมดเลย แล้วอัตตาที่พระพรหมคุณาภรณ์ท่านกล่าวถึง
มันก็คือ นิพพานนั่นเอง
แล้วเหตุไฉน ท่านจึงมาพลิกว่า นิพพานเป็นอนัตตา
ถ้าท่านทั้งหลายไม่งึด แต่เฮางึดเน้อ จะอู้หื้อ
เหตุไฉนพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)จึงกล่าวย้อนแย้งกับหลักการของตัวเอง ?
(๕ โดยสภาวะของมันเอง ก็แย้งหรือค้านต่อความเป็นอัตตา มีแต่ภาวะที่ตรงข้ามกับความเป็นอัตตา;) แต่
ตอนหลังกลับกล่าวว่า นิพพานไม่ใช่อัตตา แท้จริงนิพพานเป็นอนัตตา
คำว่า.. มีแต่ภาวะที่ตรงข้ามกับความเป็นอัตตา ก็แสดงว่าพระพรหมคุณาภรณ์ ท่านทราบเป็นอย่างดีแล้ว ว่า
ไม่ว่าขันธ์ ๕ จะเป็น หรืออยู่ภาวะแบบไหน อย่างไร ภาวะที่เรียกว่าอัตตาย่อมเป็นตรงกันข้ามเสมอในภาวะนั้นๆ
...แล้วตอนหลังมาทำไมพระพรหมคุณาภรณ์ จึงหันกลับ 180 องษา จากหน้ามือเป็นหลังมืออย่างไม่คาดคิด
จนต้องออกหนังสือชี้แจงเป็นปึกๆ จนผู้คนสับสนอลหม่านไปหมด เพราะใครก็เรียกท่านว่าตู้พระไตรปิฏก
ทั้งที่พระไตรปิฏกก็ระบุชัดเจน
ขอยกตัวอย่างให้เห็ยเลยก็แล้วกันพอเป็นที่เข้าใจ เช่น..
.....เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพานไม่มีฝี ...
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็นดังลูกศร ...
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพานไม่มีลูกศร ...
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความลำบาก ...
เมื่อพิจารณาเห็นว่าความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพานไม่มีความลำบาก ...
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็นอาพาธ ...
เมื่อพิจารณาเห็นว่าความดับแห่งเบญจขันธ์ เป็นนิพพานไม่มีอาพาธ ...
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็นอื่น ...
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพานไม่มีสิ่งอื่นเป็นปัจจัย ...
เมื่อพิจารณาเห็นเบญจขันธ์โดยความเป็นของชำรุด ...
เมื่อพิจารณาเห็นว่าความดับแห่งเบญจขันธ์เป็นนิพพานไม่มีความชำรุดเป็นธรรมดา ...
ทีนี้เห็นรึยังว่า ภาวะตรงข้ามระบุว่านิพพานหมดเลย แล้วอัตตาที่พระพรหมคุณาภรณ์ท่านกล่าวถึง
มันก็คือ นิพพานนั่นเอง
แล้วเหตุไฉน ท่านจึงมาพลิกว่า นิพพานเป็นอนัตตา
ถ้าท่านทั้งหลายไม่งึด แต่เฮางึดเน้อ จะอู้หื้อ