"น้ำพริกกะปิแนมปลาเนื้ออ่อนทอด" มื้อเย็นง่ายๆของหนุ่มโสด(โฉด)

เผลอแป๊บเดียว ปี 2560 ผ่านไปได้เกือบจะสองเดือนเเล้วครับ อีกไม่ถึงสัปดาห์ก็จะสิ้นเดือนกุมภาพันธ์

เดือนหน้าคือเดือนมีนาคม มนุษย์เงินเดือนหลายๆคนรวมถึงจขกท.เองคงไม่ค่อยอยากให้ถึงนัก
เพราะจะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานี่แอบคำนวณเล่นๆก็มากโขอยู่  ตัวลดหย่อนภาษีก็ไม่มี  
สรรพากรท่านก็เคี่ยวเหลือเกินไล่บี้ทุกเม็ด  ลึกๆก็คาดหวังว่ารัฐบาลภายใต้การนำของท่านนายกตู่
จะใช้เงินภาษีของเราอย่างคุ้มค่า 555

"ชีวิตไม่สิ้น ก็ต้องดิ้นกันต่อไป"

นั่งคิดไปคิดมา กลัวจะไม่มีเงินเสียภาษี คงต้องประหยัดกันหน่อย  ขืนมัวเเต่สุรุ่ยสุร่าย ใช้จ่ายไม่ระวังมีหวังเดือนหน้าคงกินแกลบเป็นแน่แท้
เลยตัดสินใจกินข้าวบ้านละกันวันนี้(ประหยัดค่าข้าว)  

ประจวบกับวันนี้คุณแม่จขกท.ไปตลาดตอนเช้า ได้ปลาเนื้ออ่อนสดๆมา  เลยนึกยากกินปลาทอด  ปัญหาคือปลาที่ซื้อมาไม่เยอะ (เพราะชาวบ้านเขาหามาได้เเค่นี้)  ขืนทอดกินเปล่าๆมีหวังต้องตบน้ำสิงห์ขวด 1.5 ลิตรสักครึ่งขวดถึงจะอิ่มท้อง  เลยต้องลดฐานะปลาเนื้ออ่อนทอดจากกับข้าวไปเป็นเครื่องแนมน้ำพริกกะปิมันเสียเลย  555

อย่ามัวชักช้า  มาลงมือตำน้ำพริกโลดดดดดดดดดดดดดดดด

วัตถุดิบที่ต้องเตรียม
1.กะปิอย่างดีย่างไฟให้หอมๆ ถ้าขี้เกียจก็ไม่ต้องย่างไฟ

2.พริกอะไรก็ได้ที่หาได้ ขอเเค่เป็นพริกสด จขกท. ใช่พริกเม็ดแดงๆยาวๆ ไม่รู้จักชื่อพริก เเละมีพริกขี้หนูสองสามเม็ดเอาไว้บุบลอยหน้าน้ำพริก
ชอบเผ็ดมากใส่มาก เผ็ดน้อยใส่น้อย

3.มะนาวลูกงามๆสักลูก กะว่าให้บีบเเล้วได้น้ำมะนาวสักช้อนครึ่ง ยิ่งถ้าได้มะนาวบ้านสดๆจะหอมมาก

4.กระเทียม จะใช้กระเทียมไทยกระเทียมจีนได้ทั้งนั้น ขอเเค่เเกะเปลือกกระเทียมออกเป็นพอ

5.น้ำตาล จขกท.ชอบใช้น้ำตาลมะพร้าวหรือน้ำตาลปี๊บในการตำน้ำพริกเพราะว่ามันดูไทยๆโบราณๆ เเละที่สำคัญมันจะทำให้อาหารหวานนวลกลมกล่อม
ในรูปนี้คือน้ำตาลมะพร้าว  คุณเเม่แกเเช่ตู้เย็นไว้ เวลาจะใช้ทีก็ขูดจนกล้ามเเขนขึ้น  555

6.น้ำปลาแท้ ใส้มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นกับว่ากะปิเราเค็มรึเปล่า  ชอบเค็มมากระวังไตวาย=ตายไว

7.มะเขือพวง (วันนี้ไม่มี)

ถึงเวลาตำก็เริ่มจากเอากุ้งแห้งมาโขลกให้กุ้งแห้งฟู ไม่ต้องโขลกละเอียดมาก เพราะเวลากินน้ำพริกจะได้รู้สึกว่ามี Texture

พอกุ้งแห้งฟูใช้ได้เเล้วใส้พริกกับกระเทียมลงไปบุบ เอาให้พอหยาบๆ  ถ้าบุบจบแหลกมากๆจะดูไม่สวยเวลาเสิร์ฟ เวลาตำต้องระวังพริกกระเด็นเข้าตา เดี๋ยวแสบตาก็พาลเลิกตำน้ำพริกไป คนที่เเขวนท้องรอคงจะฉุนไม่น้อย 555

จากนั้นใส่กะปิที่ย่างไฟจนหอม(ไปสามบ้านแปดบ้าน) ลงไปทิ่มสากลงเบาๆ จากนั้นใส่น้ำตาลมะพร้าวลงไปเอาให้พอดี  ใส่มากไปน้ำพริกจะออกหวาน เผลอจะโดนล้อว่าเชื่อมน้ำพริกเอาได้  พอน้ำตาลละลายเข้ากับส่วนผสมก่อนหน้าที่ว่ามา สีของน้ำพริกเราจะเข้มขึ้น เป็นเงาด้วยนะคับ

ตำมาถึงตอนนี้เริ่มล้าเเขนละ  งั้นรีบใส่น้ำมะนาวกับน้ำปลาลงไปได้เลย  ถ้าดูเเล้วน้ำพริกเราข้นไปก็สามารถเติมน้ำต้มสุกลงไปได้ คนให้ส่วนผสมเข้ากัน

สุดท้ายชิมรสชาติ(หรือรดชาด ; เขียนแบบไหนโปรดบอกจขกท.ที จะป็นพระคุณยิ่ง) เอาตามที่ชอบใจ จขกทชอบแบบเปรี้ยวเค็มหวานพอๆกัน คืออารมณ์แบบปลูกเรือนตาใจผู้อยู่ อาหารก็เช่นเดียวกันเอารสชาติที่เราชอบเราอร่อย ใครบอกไม่อร่อยก็อย่าไปสน
อ้อ..... อย่าลืมบุบพริกขี้หนูลอยหน้าน้ำพริกด้วยนะครับ

ตำน้ำพริกเสร็จละได้เเบบนี้

วันนี้จขกท.รับประทานกับแตงกวาสด ซึ่งผัดสดแนมได้หมดทุกชนิด จะผักทอดก็อร่อยเช่นเดียวกัน



คราวนี้ถึงเวลาที่จะทอดปลาเนื้ออ่อนเเนมน้ำพริกละครับ

วัดถุดิบ
1.ปลาเนื้ออ่อนสดๆ  จขกท.ใช้ปลาเเม่น้ำ(แม่น้ำชี) วิธีเลือกปลาจะต้องเลือกที่ตัวใสๆ มันเงา เหงือกแดง ตาปลาใส เนื้อเเน่น ถ้าสดมากๆปลาของปลาจะสีแดงอมชมพู ไม่เหม็นคาว

ได้ปลามาเเล้วก็ล้างให้สะอาดควักใส้ เอาขี้ปลาออก บั้งปลาพองามให้ลึกถึงก้าง

2.เกลือแกง ใช้ปริมาณแค่หยิบมือ เอาไว้คลุกปลาพอให้มีรสชาติ

จากนั้นเราก็มาเริ่มทอดปลากันนะครับ ใช้ไปกลางค่อนจะแรง  ใส้น้ำมันมากหน่อยยิ่งดี กะเอาให้ท่วมปลาที่จะทอด เวาลาทอดรอจนด้วนล่างของปลาเหลืองดีละค่อยกลับปลา  ถ้ารีบกลับด้านของปลาทอดเร็วเกินไป เนื้อปลาจะเละหมด ซึ่งวันนี้ จขกท.ก็ทำหางปลาเละ
ทอดได้เหลืองเท่านี้คือใช้ได้ จะกรอบนอกนุ่มใน เเละหอมมากๆ

ได้ทั้งน้ำพริก ได้ทั้งเครื่องเเนมก็ถึงเวลาโซ้ยเเล้วครับ  

"ทานให้อร่อย"



ขอบคุณที่กรุณาอ่านกระทู้จนจบนะครับ^^
เจอกันกระทู้หน้านะครับ

By_Dr.Kris
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่