[เพชรกลางไฟ] การแต่งกายของเจ้านายสตรีปลายยุคร.5-ร.6 : กระทู้ต่อยอดจากการชมละคร

หลังจากชมละครเพชรกลางไฟ รู้สึกประทับใจในความสวยงามของชุดของตัวละครที่เป็นเจ้านายสตรีมากๆ จขกท.จึงได้ลองค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติม พบข้อมูลและภาพประกอบที่น่าสนใจเลยอยากนำมาแบ่งปัน เนื้อหาและรูปทั้งหมดเสมือน คัดลอกออกมาจากหนังสือทั้งหมด   รูปภาพที่ถ่ายมาจึงอาจโย้เย้บ้าง ต้องขออภัยจริงๆ  [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

             คือ หนังสือ ราชพัสตราภรณ์ (2548) โดยสำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ, การแต่งกายไทย: วิวัฒนาการและเอกลักษณ์ประจำชาติ เล่ม 1 (2543)  โดย คณะอนุกรรมการการแต่งกายไทย สำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ ขอขอบพระคุณอย่างยิ่งค่ะ

            เบื้องต้น ช่วงเวลาในละครคือ ต้นยุครัชกาลที่ 6 (พ.ศ. 2454-2456)  การแต่งกายในละครโดยรวม มีทั้งแบบปลายยุครัชกาลที่ 5 และช่วงต้น-ช่วงปลายรัชกาลที่ 6 มีข้อสังเกตคือ บางชุดเป็นชุดล้ำยุค (ยังไม่มีจริงตามช่วงเวลาในนิยาย) น่าจะเป็นความตั้งใจของทีมงานที่อยากนำเสนอให้เห็นความงดงามของการแต่งกายในยุครัชกาลที่ 6 โดยขอนำเสนอแบ่งออกเป็น 2 ยุคสำคัญ จะเป็นเนื้อหากับภาพจากหนังสือ และรูปจากละครที่คิดว่าดูสอดคล้องกับในคำอธิบายนั้นๆ (อันนี้คือ จากการคาดเดานะคะ) มีเนื้อหาดังนี้ค่ะ


    
ปลายยุครัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2440-2453)


       รูปแบบการแต่งกาย ทรงผม ตลอดจนเครื่องประดับของสตรีในราชสำนักสยามในยุคนี้ได้รับอิทธิพลจากต่างชาติอย่างมาก นับตั้งแต่ทรงผม ซึ่งแต่เดิมไว้ผมทรงดอกกระทุ่มมานิยมไว้ยาวถึงกลางหลัง และหวีเสยด้านหน้าให้ตั้งสูง สอดใส่ช้องผมไว้ภายในตามแบบสตรีญี่ปุ่น และมีการตกแต่ง ประดับด้วยแถบผ้า แถบลูกไม้ โบว์ ริบบิ้น หรือลูกปัดอย่างงดงาม

       ส่วนฉลองพระองค์หรือเสื้อจะตัดเย็บจากผ้าลูกไม้หรือผ้าเนื้อดีบางเบาจากต่างประเทศ รูปแบบของเสื้อแขนหมูแฮมได้มีการเปลี่ยนแปลงไป คอเสื้อจะกว้างมากขึ้น ลำตัวเสื้อจะปล่อยหลวม ตกแต่งด้วยผ้าหรือลูกไม้ แถบริบบิ้น ลูกปัด และไข่มุก แขนเสื้อพอง ทิ้งตัวและยาวเลยข้อศอก และสะพายทับด้วยแพรอย่างหลวมๆ เฉวียงไหล่ซ้าย กลัดทับด้วยเข็มกลัดอัญมณีอย่างดงาม ในยุคนี้นิยมใช้เครื่องประดับ อาทิ โชคเกอร์ (Choker) หรือเครื่องประดับพระศอ เข็มกลัด จี้ สร้อยคอ มีความงดงามหรูหราตามแบบตะวันตก โดยเครื่องประดับเหล่านี้สามารถนำมาปรับใช้ตามแต่วาระและโอกาสในการสวมใส่ เข็มกลัดและจี้เพชรที่ช่างผู้ออกแบบได้ให้ความใส่ใจในรายละเอียด อาทิ ลวดลายช่อดอกไม้ ใบแปะก๊วย ค้างคาว นกยูง ผีเสื้อ กบ เต่า หงส์ ปลา เป็นต้น

       ผ้านุ่งจะเป็นผ้าโจง ทำจากผ้าเนื้อดี บ้างเป็นผ้าไหมยกดอกเนื้อหนา บ้างเป็นผ้าไหมหางกระรอกคุรภาพสูงที่ทอจากหัวเมืองต่างๆ นิยมสวมถุงพระบาทที่มีการตกแต่งหรือปักลวดลายอย่างสวยงาม สวมใส่กับรองเท้าส้นสูงแต่งลวดลายแบบตะวันตก พัดทรงหรือพระวิชนีที่ถือจะทำจากวัสดุงดงาม สูงค่า เช่น ผ้าลูกไม้จากต่างประเทศ ขนนก งาช้าง กระดองเต่ากระ

       ในช่วงปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าให้สร้างพระราชวังแห่งใหม่ขึ้น คือ พระราชวังดุสิต ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพระบรมวงศานุวงศ์และสามชิกฝ่ายในเปลี่ยนแปลงไป เช่นดียวกับรูปแบบการแต่งพระองค์และการแต่งกายที่ปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและการใช้ชีวืตประจำวันที่รวดเร็วและกระฉับกระเฉงขึ้น

       ส่วนในโอกาสลำลอง การแต่งกายของสตรียังเป็นแบบนุ่งผืน ห่มผืน คือ นุ่งโจงด้วยผ้าพื้นหรือผ้าลาย และห่มผ้าแถบหรือสไบแพร ไม่สวมรองเท้า ตามแบบที่ปฏิบัติมาแต่ครั้งโบราณ การห่มผ้าแถบนั้นคือการพันอกด้วยผ้าแถบและเหน็บชาย  


ตัวอย่างการแต่งกายยุคปลายรัชกาลที่ 5





สมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ พระพันปีหลวง ไว้พระเกศาดอกกระทุ่ม พระภูษาโจงด้วยผ้าไหมยกดอก ฉลองพระองค์ผ้าลูกไม้ คอสี่เหลี่ยม แขนพองยาวแค่ศอก คาดสายรัดพระองค์ผ้าทรงสะพักเป็นผ้าลุกไม้ไม้จับจีบสะพายอย่างหลวมๆ ประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่พระพาหาซ้าย ทรงถุงพระบาทแพรปัก ฉลองพระบาทหนังส้นสูงหุ้มส้น




พระราชชายา เจ้าดารารัศมี พระเกศาเกล้าเป็นมวยด้านหลัง ประดับศิราภรณ์และปิ่นปัก ทรงพระภูษาซิ่นด้วยผ้าไหมยกดอก ฉลองพระองค์คอปิด แขนระบายเป็นชั้น ยาวจรดข้อพะหัตถ์ ตกแต่งด้วยลูกไม้ ทรงสะพายแพรจีบทับด้วยสานสะพายเครื่องราชอิสริยาภรณ์
ทรงถุงพระบาทและฉลองพระบาทส้นสูงหุ้มส้น




สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ามาลินีนพดารา กรมขุนศรีสัชนาลัยสุรกัญญา พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระเกศายาว หวีเสยด้านหน้า รวบประดับโบว์ด้านหลัง ทรงพระภูษาโจง ฉลองพระองค์ลูกไม้เข้ารูป คอตั้ง แขนยาวรวบปลายแขน ตกแต่งต้นแขนและตัวฉลองพระองค์ตลอดจนปลายแขนด้วยลูกไม้ ทรงคาดเข็มขัดผ้า ทรงสร้อยพระศอยาว ทรงถุงพระบาท ฉลองพระบาทหนังส้นสูงหุ้มส้น





เจ้าจอมสดับ เกล้าผม ประดับมงกุฎเพชร สวมเสื้อผ้าลูกไม้ คอแหลม แขนยาวเสมอศอก ระบายลูกไม้เป็นชั้นที่ปลายแขน จับจีบที่เอว ปะดับดาราจุลจอมเกล้าผูกเป็นโบว์รูปแมลงปอ สวมสร้อยคอและโชคเกอร์เพชร



การแต่งกายของตัวละครในเพชรกลางไฟ

       
ถ้าจะเทียบว่าตัวละครใดที่มีการแต่งกายเข้ากับยุคปลายรัชกาลที่ 5 ที่ดูคล้ายคลึง
เสด็จป้าพระเกศาทรงดอกกระทุ่ม ในตำหนักท่านทรงพระภูษาโจง (นุ่งโจง) ห่มสไบ ยามบรรทม นุ่งโจงและผ้าแถบ ส่วนยายแสง ไว้ผมทรงดอกกระทุ่ม  นุ่งโจง ห่มผ้าแถบ ทั้งเรื่อง (สังเกตว่าสตรีผู้มีอายุยังไว้ผมทรงดอกกระทุ่มอยู่)


คุณสร้อยกับหม่อมต่วน ใส่เสื้อลูกไม้คอปิด สะพายแพรหลวมๆ ประดับเข็มกลัด นุ่งโจง ถือพัด คุณสร้อยไว้ผมทรงดอกกระทุ่ม

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่