W does brunch เป็นมื้อบรันช์วันเสาร์ที่จัดทุกเสาร์ที่ 1 และ 3 ของเดือนที่ห้องอาหาร The Kitchen Table ชั้นสองของโรงแรม W hotel ตั้งที่สาทร โดยสามารถเดินทางด้วย BTS ลงที่สถานีช่องนนทรี


เหมือนเดิมนะครับ ขอฝากติดตามแฟนเพจวิจารณ์ร้านอื่นๆ ซึ่งมีทั้งในและต่างประเทศได้ที่ https://www.facebook.com/pages/World-Food-Review/1532831343634563 ถ้าชอบกดไลค์แชร์และคอมเมนต์ได้ครับ

สำหรับร้านอาหารนี้การตกแต่งเป็นแบบทันสมัย ออกเป็นปาร์ตี้ด้วย ซึ่งมีดีเจเล่นเพลงตลอดเวลา โดยเพลงค่อนข้างจะเป็นแบบปาร์ตี้เลย


ส่วนอาหารถูกจัดเป็นส่วนๆและมีการให้แผนที่มาด้วย
เริ่มต้นจาก Welcome drink เป็นน้ำมะนาว ออกเปรี้ยวๆหวานๆ ใส่ในหลอดทดลอง ซึ่งจะได้รับตั้งแต่ก่อนเข้าร้าน
ส่วนบนโต๊ะจะมีน้ำที่มีมินต์และเลมอนแช่ ทำให้ได้กลิ่นมินต์และเลมอน สดชื่นนิดๆ

Special appetizer ซึ่งจะเสิร์ฟให้ทุกโต๊ะ แต่จริงๆน่าจะเป็นระดับของ amuse-bouche มากกว่า
Bloody mary oyster shot หอยนางรมชิ้นเล็กๆใน bloody mary ที่เป็นน้ำมะเขือเทศ ทำให้ออกเปรี้ยวนิดๆ กลิ่นหอยคาว และสากเหมือนมีทรายอยู่
Oyster mousse topped with bacon and cavier ตัวมูสไม่ได้กลิ่นหอยนางรมเลย แต่ได้กลิ่นมันฝรั่งมากกว่า เบคอนแข็งมาก คาเวียร์กลิ่นไม่แรง
ขอเริ่มส่วนของอาหารแล้ว ซึ่งแบ่งเป็นโซนๆอย่างที่กล่าวไป เริ่มต้นจากโซน Something ... to start with ...
Caesar salad ผักสดกรอบ หาเบคอนไม่เจอ น้ำสลัดเปรี้ยวนิดหน่อย กรูตองก์เป็น baguette มาทำเลยชิ้นใหญ่ ไม่มีถังคลุก

Seared tuna avocado salad หาอะโวกาโดไม่เจอเลย รสออกเปรี้ยวนิดๆ ส่วนปลาทูน่าเนื้อนุ่มมาก
Som tum pork salad ไม่เป็นส้มตำเลย ไม่มีมะละกอเลย แต่รสชาติออกเค็มๆ ส่วนหมูมีกลิ่นของกระเทียมและเนื้อนุ่มมากๆ
Confit duck leg salad เป็ดเนื้อนุ่ม หวาน ออกเผ็ดนิดๆ
Chinese Tiger Prawn Salad กุ้งเสือเนื้อแน่น ผลไม้ที่ตักมาเป็นฝรั่งที่ออกเปรี้ยวๆ ส่วนครีมสลัดออกหวานนิดๆ

โซนต่อมา Fresh baked & soup
Croissant เนื้อไม่เป็นชั้นสวย แต่ก็ยังไม่เลวร้ายถึงขนาดขนมปัง ไม่ค่อยกรอบ เค็มนิดๆ ส่วนเนยเหลวพอควร มีกลิ่นของทรัฟเฟิลด้วย

Seafood chowder ซุปครีมที่ค่อนข้างใส ไม่ข้นมาก ส่วนกุ้งออกหนึบๆเหนียวๆ

โซนต่อไป Sushi on stage
Sushi ที่หยิบมาเป็นหน้าปลาไหลที่หน้าค่อนข้างแข็งไป ไม่ได้มีซอสราด ส่วนมากิจะคลุกด้วยเบนิโตะ ทำให้ออกเค็มนิดๆ ส่วนข้าวไม่ค่อยแน่น กระด้างหน่อยๆ เย็น
Sashimi ที่นี่มีทั้งกุ้งต้ม แซลมอน มากุโร ฮามาจิ ค่อนข้างใช้ได้ สดแต่ไม่ได้มากจนรู้ถึงความหวาน ไข่ที่ไม่หวาน และปูอัดธรรมดาๆ

โซนที่สี่ Seafood charcuterie & cheese
Manila clam เนื้อแน่น มีกลิ่นสาบนิดๆ
Alaska king crab เนื้อแน่น แต่ค่อนข้างเค็ม
Slippery lobster เนื้อแน่น กระด้างนิดๆ หวานดี

Poached tiger prawn เนื้อกุ้งแน่น ไม่ค่อยหวาน
Black mussel เนื้อแน่น เด้งนิดๆ

Smoked Atlantic salmon รสเค็มพอสมควร เนื้อหยุ่นๆ มีกลิ่นของควันตกค้างหลักรับประทาน
Homemade salmon pastrami ปกติ pastrami จะเป็นการนำเนื้อแดงไปแช่น้ำเกลือ แล้วตากแห้ง แล้วคลุกด้วยเครื่องเทศ ก่อนไปนึ่งและรมควันอีกที ซึ่งที่นี่ใช้แซลมอนแทน ด้วยกระบวนการนี้ทำให้แน่นอนว่าเค็ม แต่ไม่ได้เค็มมาก ปลาเนื้อนุ่ม ส่วนเครื่องเทศที่คลุกคือพริกไทยดำ

มาเริ่มต้นกับของหนักๆมากขึ้น กับโซน Foie gras & pasta
Pan-seared foie gras rhubarb compote ฟัวกราส์ชิ้นหนา ย่างให้ด้านหน้าพอเปลี่ยนสี ทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างแน่น ส่วนรูบาร์บก็มีรสที่เปรี้ยว

Raviolli in brown butter sauce ไส้น่าจะเป็นไส้หมูแบบ pate แต่ปัญหาคือแป้งที่ใช้น่าจะเป็นแป้งสาลีทั่วไป ไม่ใช่ semolina เพราะแป้งไม่มีความหนึบ แต่ออกเป็นแห้งๆ และส่วนขอบก็แข็งกรอบ ส่วนซอสก็มีกลิ่นของทรัฟเฟิลด้วย

Spaghetti cream sauce พาสต้าดันใช้ fettucine เส้นค่อนข้างนุ่มไป ส่วนครีมเข้มข้นและมันมากๆ ออกเค็มนิดๆ

โซนของคาวโซนสุดท้าย From the hot counter + carved roast meat
Steamed salmon with plum sacue ปลาแซลมอนนุ่ม หวานนิดๆ ส่วนน้ำซอสออกเค็มๆหวานๆไม่มาก คล้ายกับปลานึ่งซีอิ๊ว
Steamed jasmine rice ข้างหุกสุกเกินไป
Wok fried Japanese scallop with chili paste หอยเชลล์ตัวค่อนข้างเล็ก นุ่ม ส่วนซอสออกเผ็ดนิดๆ
Slow roasted baby chicken in green curry ไก่นุ่มมาก ได้รับรสของแกงเขียวหวานด้วย เค็มนิดๆ เผ็ดหน่อย

Braised lamb shoulder with beetroot jus แกะเนื้อนุ่ม ไม่มีกลิ่นสาบ ส่วนซอสออกเค็มนิดๆ
Baked tiger prawn with lemon butter and garden salad ผิวด้านนอกเป็นแป้งที่เละๆ ส่วนกุ้งเนื้อแน่น มีกลิ่นเลมอนนิดๆ

โซนของหวาน Sweet simple things
W cheesecake medley ชีสเค้กเนื้อเนียน รสเปรี้ยว หวาน มีกลิ่นฉุนนิดๆ ส่วนฐานค่อนข้างนุ่มแต่กินแล้วจะรู้สึกสากในคอ
Rose vanilla cake ครีมทำจากเนยเลยค่อนข้างเหลว ส่วนเค้กเนื้อแน่น นุ่ม หวาน
Her velvet cake ครีมสีชมพูทำจากเนยเช่นกัน สีฉูดฉาดพอสมควร เหลว ส่วนเค้กช็อคโกแลตเนื้อแน่น นุ่ม ขมพอสมควร
Spiced caramel chiboust and hazelnut strudel ส่วนของ chiboust cream คาราเมลหวาน เหนียว มีกลิ่นของซินนามอน ส่วนตัว strudel ก็เป็นแค่แครกเกอร์ซ้อนกัน ร่วน แห้ง
W black and white forest tube เป็นมูสสองขั้น โดยชั้นบนมีสีขาว เบา รสจืด ส่วนชั้นล่างเป็นมูสช็อคโกแลต ออกขมนิดๆ ระหว่างสองชั้นจะมีเชอรี่อยู่ด้วย ส่วนฐานล่างเป็นเค้กช็อคโกแลตที่เบา นุ่ม และขม ส่วนตัวรอบนอกทำจากไวท์ช็อคโกแลต

Mini chocolate rum cannel เป็นเค้กช็อคโกแลตร้อนๆ มีสองชั้น ด้านบนเนื้อจะสากนิดๆ ส่วนด้วนล่างเนื้อเนียนแน่น
Mango mousse มะม่วงค่อนข้างเปรี้ยว มูสเหลว ส่วนฐานเป็นวุ้นออกกลิ่นกะทิเล็กๆ

สำหรับเครื่องดื่มที่เป็น soft drink สามารถสั่งได้เลย
Apple juice หวาน เปรี้ยวนิดๆ
Orange juice เปรี้ยว ขมนิดๆ มีเนื้อส้มปน

Guava juice เปรี้ยว หวานน้อย

Soda water มีใส่เลมอนลงไปด้วย

Chamomile tea


สรุป
1. เป็นปาร์ตี้จัดทุกวันเสาร์ที่ 1 และ 3 ของเดือน
2. การบริการค่อนข้างดี พนักงานเรียกมาให้บริการได้ง่าย
3. อาหารคุณภาพค่อนข้างดี แต่การปรุงหลายอย่างกลับไม่ค่อยดี
4. อาหารเหมาะกับชาวต่างชาติ เพราะรสเผ็ดค่อนข้างน้อย
5. ของหวานค่อนข้างทำได้แปลกตา แต่อาจจะฉูดฉาดไปพอควร ตามสไตล์ปาร์ตี้