วันก่อนไปเล่นฟิตเนตรีดไขมันออกจากร่างอยู่ดีๆ ก็เปิดมือถือไถเล่น ไปเจอเพจรีวิวบุฟเฟ่ต์ป้ายยาเข้าให้ เป็นบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวันของโรงแรม
W Bangkok ที่ถนนสาธร ซึ่งต้องทำการซื้อคูปองผ่าน Lineshop เห็นเขาลงแล้วก็เกิดอยากกินขึ้นมาทันใด รีบกดจองแล้ววันรุ่งขึ้นก็บึ่งไปเลย

คูปองที่สั่งซื้อผ่าน Lineshop ราคาจะตกที่หัวละ 599 บาท เมื่อทำการซื้อแล้วจะวอร์คอินเข้าไปโชว์เลขสั่งซื้อรึจะทำการจองผ่าน
ช่องทางของโรงแรมก็ได้ เมื่อไปถึงแล้วให้ติดต่อที่ ประชาสัมพันธ์ว่ามากินบุฟเฟ่ต์เขาจะพาขึ้นบันไดวนไปห้องอาหารชั้น 2 จากนั้นก็โชว์สลิปให้ดู
ฝ่ายบริการห้องอาหารก็จะพาไปที่โต๊ะแล้วก็เริ่มตักอาหารได้ เวลากินก็เริ่มตั้งแต่เที่ยงตรงจนถึงบ่ายสองครึ่ง นั่งกินชิวไปยาวๆ
แถมนิด ช่วงนี้โรงแรมเขาเปิดบุฟมื้อกลางวันแค่วันพฤหัสกับศุกร์เท่านั้นนะ และจากที่อ่านรีวิวมา แต่ละวันไลน์อาหารก็ไม่เหมือนกันด้วย
วันที่ผมไปเป็นวันพฤหัส งั้นเราชมไปพร้อมกันว่ามีอะไรบ้าง

มุมแรกพวกของทอด มีปลาและมันฝรั่งทอด กับพวกเทมปุระ








ถัดมาก็ของผัดและอบต่างๆ ทั้งผักและเนื้ออบ ไก่และแซลมอนอบ แล้วก็พิซซ่าสไตล์อิตาเลียน

ตรงกลางเป็นสเตชั่นอาหารญี่ปุ่น ซึ่งจะมีข้าวปั้น ปลาดิบ และราเม็งแบบสั่งทำ






ต่อมาเป็นพวกสลัด ขนมปัง และของกินคู่ขนมปังอย่าง ชีส ของดอง และแซลมอนรมควัน






โซนด้านหน้าทางเข้าจะเป็นพวกของหวาน ทั้งเค้กชิ้น คัพเค้ก ไอศครีม คุกกี้ แล้วก็ป็อปคอร์น แถมมี เครื่องปรุงกระจุกกระจิกอย่าง เกล็ดน้ำตาล
ถั่วเคลือบ ซอสเบอรี่ แล้วก็ครีมรสต่างๆให้ได้ปรุงแต่งกันอย่างสะใจทีเดียว

ตะลอนทัวร์มามากแล้วได้เวลาชิมอาหารกันซะที

เปิดจานแรกก่อนด้วยของเย็นๆ รอบนี้ขอไม่เอาขนมปังมานะ กลัวจุก
กรีกสลัด - ได้รสเค็มอมเปรี้ยวของชีส ผักกรอบหวาน ได้รสฉุนแรงหอมแดงของหอมแดง
คีนัวสลัด - กรุบๆคล้ายลูกเดือยแต่เล็กกว่า รสเค็มอมเปรี้ยวเลมอนเบาๆ
สลัดมะเขือเทศกับมอสาเรลล่าชีส - ได้ความหวานฉ่ำของมะเขือเทศกับ ชีสรสมันปนขม ความรู้สึกเหมือนกินโมจิรสเปรี้ยวเลย
แซลมอนรมควัน - เนื้อหนาดี เค็มอมหวานกินคู่กับชีสขมๆมันๆ นัวปากมากมาย
ซาลามี - แฮมหมักรสชาติเปรี้ยวอมคาว ไขเยอะไปหน่อย
ชอริโซ่ - รสจะเปรี้ยวกว่าซาลามี และได้รสเผ็ดหอมของปาปริก้า

จานที่สอง ของทอด
ผักเทมปุระ - แป้งกรอบดี ไส้ในหวานฉ่ำสดใหม่ โดยเฉพาะไส้มะเขือม่วงนี่นุ่มเหมือนครีมเลย
ปลาทอดและมันฝรั่ง - ไม่รู้ว่าใช้ปลาอะไรแต่รสชาติออกจืดๆ ปลาเนื้อแข็งและสากมาก แถมแป้งไม่กรอบเลย อันนี้อย่างเฟล
ส่วนมันฝรั่งที่ตักมาด้วย หอมเครื่องปรุงกรอบมันปาก ดีกว่าหลายขุมนัก
กุ้งเทมปุระ - เนื้อกุ้งหวานและหอมดีมาก แป้งไม่ค่อยกรอบเท่าไหร่ แอบเสียดาย
บล็อคโคลีชีส - ผักกลิ่นแรงไปนิด ได้รสชาตินุ่มมันของชีสและมันบดที่ผสมมา

จานสาม พวกเนื้อทั้งหลาย
แซลมอนอบ - เนื้อนุ่มละเอียดมากๆ ยังกับกินขนมปุยฝ้าย รสชาติมันๆของแซลมอน
หมูผัดเกาหลี - หมูเนื้อเฉยๆไม่นิ่มไม่หยาบ ได้กลิ่นรสแบบพริกเกาหลีชัดเจน หวานอมเผ็ดที่ลิ้นนิดๆ
ไก่ราดซอสหวาน - เนื้อค่อนข้างหนา แต่ก็ยังนิ่มเคี้ยวง่าย ได้กลิ่นหอมของซอสบาร์บีคิว
กุ้งผัดซอสมะขาม - เนื้อกุ้งรสหวานแบบเดียวกับที่เอามาทำเทมปุระ แต่เนื้อแอบแห้งไปหน่อย คงจะทำไว้นานแล้ว
ไก่อบ - เนื้อนุ่มสุด หอมมันเต็มรสชาติ ซอสราดมาด้วยก็ดีงาม
เนื้อย่างกระเทียม - หอมเข้มรสวัวแบบเข้มๆ มันก็หวานนัวสุดยอด

จานถัดมาเป็นของเหลือๆที่ยัดใส่จานอื่นไม่หมด
แซลมอนดิบ - เนื้อหวานหอมกลิ่นปลาแม้หน้าตาสีสันจะดูไม่น่าโสภานัก
ทูน่าดิบ - เนื้อนุ่มหวานระดับกลางๆ คาวพอประมาณ
คิมบับ หรือ ข้าวห้อสาหร่ายแบบเกาหลี รสชาติก็คล้ายๆกับมากิแบบญี่ปุ่น แต่ของที่นี่จะเหนียวสาหร่ายกว่าเจ้าอื่นที่เคยกิน
พิซซ่ามาการิต้า - รสชาติโดยรวมเหมือนแบบต้มยำ แค่เปลี่ยนจากกลิ่นต้มยำไทยเป็นกลิ่นมะเขือเทศ
พิซซ่าต้มยำทะเล - ออกหวานหอมแบบเครื่องต้มยำ ไม่เผ็ด ชีสมาแน่น หอมกลิ่นเตาถ่านจัดๆ เนื้อหอยชิ้นใหญ่ดีแต่มาชิ้นเดียว

ราเมน เขามีให้เลือก 3 ซุป ผมจัดซุปเต้าเจียวมา ซึ่งหอมรสเต้าเจี้ยวมาก เส้นหมี่ลืนมันสูดคล่องคอ ของที่เคียงมาด้วย
มีแค่ไส้กรอกกับเกี๊ยวซ่าธรรมดาๆ ไม่หวือหวา แต่มีเทมปุระมาแกล้มก็ยังดีอยู่ครับ

ถ้าทำการจองเอาไว้ ทางร้านก็จะมีม็อคเทลให้ด้วยคนละแก้ว ซึ่งรสชาติก็ออกเปรี้ยวๆหอมกลิ่นลาเวนเดอร์(ไม่แน่ใจ)

ซัด 5 จานนั้นไปก็เริ่มจุกละ ตักของหวานมาเลยแล้วกัน ลองหมดทุกอย่างยกเว้นป๊อปคอร์น
จานนี้รวมเค้กทั้งหลาย
เค้กวานิลลา - แป้งร่วนๆ ครีมหวานไปทางน้ำตาลมากกว่านม
เค้กลูกเกต - เนื้อแน่น หอมกาแฟและลูกเกต หวานเข้ม
เค้กใบเตย - หอมหวานรสใบเตย ครีมด้านบนเนียนเหมือนพุดดิ้ง
เค้กช็อคโกพุดดิ้ง - ดูภายนอกเหมือนจะนุ่มนิ่ม แต่แท้จริงแล้วหนาพอดู พุดดิ้งช็อคออกรสชาติขมเข้มและเปรี้ยวหน่อยๆตามแบบ
ช็อคโกแลตหมักเข้มข้น ด้านล่างของเค้กมีวุ้นรสเลมอนโปะด้วย
ขนมปังสตรอเบอรี่ - เป็นเค้กฟองน้ำ เนื้อแป้งแตกรุ่ยไม่ค่อยแจ่ม แต่มีความหอมของสตอรเบอรี่ในระดับหนึ่งและไส้ตรงกลางเป็น
เยลลี่รสครีมสตอรเบอรี่รสนุ่มนวล
คัพเค้ก - ครีมรสออกเค็มๆ แป้งร่วน
รวมๆแล้วเค้กทำได้ดี แต่ไม่ว้าวมาก เครื่องเคียงที่ราดมาด้วยก็เป็นพวกแยมบลูเบอรี่และราสเบอรี่ แล้วก็ถั่วเคลือบน้ำตาลแข็งๆ
ซอสบลูฯกินกับเค้กแล้วโดนสุด

คุกกี้กับครีม และไอศครีม ซึ่งเจ๋งกว่าเค้กหลายขุมนัก
คุกกี้รสดับเบิ้ลช็อค แป้งร่วนละเอียดยังกับทราบ กรุบกรับอร่อยนุ่มนวล ไส้ก็เป้นช็อคโกแลตชิพแน่นๆเนื้อๆหวานเข้มถึงใจ
อีกรสก็เป็นธัญพืช กรุบร่วนพวกเม็ดต่างๆ และไส้ในก็มีเม็ดช็อคโกแลตเม็ดเบิ้มอยู่ด้วย
พวกครีมที่เอาไว้กินเคียงก็อร่อยไม่แพ้กัน มันอมหวานเย็นสดชื่นไร้ความเลี่ยน รสโกโก้จะออกขมๆหน่อย คล้ายนมช็อคโกแลต
ส่วนรสถั่วคาราเมลนี่เด็ดกว่าใครเพื่อน

ไอศครีมรสกะทิ ราดด้วยครีมและพวกเครื่องต่างๆ ดีงามพระรามเก้าเป็นที่สุด

ไปตักคุกกี้กับครีมกินอีกรอบ ก็เหลือบเห็นมีเค้กแบบใหม่มาวางเลยหยิบมาชิมดู
เป็นมาร์ชเมลโลวบลูเบอรี่ รสหวานนุ่มหอมกลิ่นเบอรี่จางๆ กับมาการองไส้ข็อคโกแลตหวานเข้มแบบจัดเต็ม
รสชาติอาหาร : ****
พวกอาหารคาวแม้สีสันจะดูดีแต่รสชาติโดยรวมแล้วยังเฉยๆ จะมีดีก็พวกเนื้ออบทั้งหลายที่อ่อนนุ่มและหอมหวลอย่างมาก
พิซซ่าชีสให้เยอะสาแก่ใจคนชอบชีส ของหวานแม้จะมีน้อยแต่รสชาติอลังการณ์งานสร้าง โดยเฉพาะคุกกี้กับครีมนี่เนียนนุ่มหวานอร่อยปาก
ของทอดมีดีและแย่ปนกันไป ส่วนปลาดิบกับพวกของเย็นที่กินคู่กับขนมปัง รสชาติจัดอยู่ในเรตกลางๆ กินก็ได้ ไม่กินก็ไม่เสียหาย
บรรยากาศในร้าน : *****
ตกแต่งได้หรูหราน่านั่งตามสไตล์ร้านอาหารในโรงแรม จัดพื้นที่เดินตักอาหารได้สะดวก
การบริการ : *****
มีคนคอยต้อนรับอย่างดี เติมน้ำเปลี่ยนผ้าให้ตลอด พนักงานประจำไลน์อาหารก็สุภาพเป็นมิตรทำหน้าที่ได้ไม่บกพร่อง
ความหลากหลาย : ****1/2
จัดอยู่ในเกณฑ์กลางๆ เท่าที่สังเกตุจะเน้นพวกเครื่องมากกว่า โดยเฉพาะไลน์อาหารหวานมีทั้งครีม ทั้งเกล็ดน้ำตาล ซอสต่างๆเพียบ
ราคา : ***
จัดว่าย่อมเยาว์ในระดับอาหารโรงแรมนะ จ่าย 599 ได้กินไก่อบเนื้ออบและของหวานรสเด็ด
การเข้าถึง : *****
ไม่ยากเย็นเท่าไหร่ ถ้ามาจากแยกสวนลุมก็ตรงยาวไปจนถึงสี่แยกสาธรไปกลับรถตรงก่อนถึง สถานีเซนต์หลุยส์ ซอยแรกจะจุดกลับรถก็ถึงโรงแรมแล้ว
รึถ้าให้ง่ายกว่านั้น ก็นั่ง BTS มาเลย อีซี่ไลฟ์
ความคุ้มค่า : *****
จากเม็ดเงินที่เสียไป ได้กลับมาเป็นความเลิศหรูของบรรยากาศอาหารโรงแรม กับรสชาติอาหารที่แปลกลิ้น โดยเฉพาะของหวานที่มาเหนือเกินคาด
บวกกับบริการขนาดนี้ ถือว่าคุ้มสุดๆ แต่สายเน้นกินหลากหลายหรือเน้นพวกพรีเมี่ยมอาจจะไม่ค่อยโดนใจเท่าไหร่ เพราะร้านนี้ไม่มีของเด็ดจริงๆลงในไลน์เลย (สงสัยถ้าจะได้กินของดีจริงคงต้องจองมื้อเย็นกระมัง)แต่ก็นั่นแหละครับ ใครที่เบื่อๆร้านบุฟเฟ่ต์แบบเดิมๆแล้วอยากจะมานั่งทอดหุ่ยกับมื้อเที่ยง
แสนอร่อย ในบรรยากาศแสนสบาย ร้านนี้คือคำตาบครับ อย่าลืมเช็ควันเวลาดีๆก่อนจองนะครับ
ภาพรวม : ****1/2
[CR] BufFeast Review : รีวิวบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวันที่ห้องอาหาร "The Kitchen Table " โรงแรม W Bangkok สาธร
W Bangkok ที่ถนนสาธร ซึ่งต้องทำการซื้อคูปองผ่าน Lineshop เห็นเขาลงแล้วก็เกิดอยากกินขึ้นมาทันใด รีบกดจองแล้ววันรุ่งขึ้นก็บึ่งไปเลย
คูปองที่สั่งซื้อผ่าน Lineshop ราคาจะตกที่หัวละ 599 บาท เมื่อทำการซื้อแล้วจะวอร์คอินเข้าไปโชว์เลขสั่งซื้อรึจะทำการจองผ่าน
ช่องทางของโรงแรมก็ได้ เมื่อไปถึงแล้วให้ติดต่อที่ ประชาสัมพันธ์ว่ามากินบุฟเฟ่ต์เขาจะพาขึ้นบันไดวนไปห้องอาหารชั้น 2 จากนั้นก็โชว์สลิปให้ดู
ฝ่ายบริการห้องอาหารก็จะพาไปที่โต๊ะแล้วก็เริ่มตักอาหารได้ เวลากินก็เริ่มตั้งแต่เที่ยงตรงจนถึงบ่ายสองครึ่ง นั่งกินชิวไปยาวๆ
แถมนิด ช่วงนี้โรงแรมเขาเปิดบุฟมื้อกลางวันแค่วันพฤหัสกับศุกร์เท่านั้นนะ และจากที่อ่านรีวิวมา แต่ละวันไลน์อาหารก็ไม่เหมือนกันด้วย
วันที่ผมไปเป็นวันพฤหัส งั้นเราชมไปพร้อมกันว่ามีอะไรบ้าง
มุมแรกพวกของทอด มีปลาและมันฝรั่งทอด กับพวกเทมปุระ
ถัดมาก็ของผัดและอบต่างๆ ทั้งผักและเนื้ออบ ไก่และแซลมอนอบ แล้วก็พิซซ่าสไตล์อิตาเลียน
ตรงกลางเป็นสเตชั่นอาหารญี่ปุ่น ซึ่งจะมีข้าวปั้น ปลาดิบ และราเม็งแบบสั่งทำ
ต่อมาเป็นพวกสลัด ขนมปัง และของกินคู่ขนมปังอย่าง ชีส ของดอง และแซลมอนรมควัน
โซนด้านหน้าทางเข้าจะเป็นพวกของหวาน ทั้งเค้กชิ้น คัพเค้ก ไอศครีม คุกกี้ แล้วก็ป็อปคอร์น แถมมี เครื่องปรุงกระจุกกระจิกอย่าง เกล็ดน้ำตาล
ถั่วเคลือบ ซอสเบอรี่ แล้วก็ครีมรสต่างๆให้ได้ปรุงแต่งกันอย่างสะใจทีเดียว
ตะลอนทัวร์มามากแล้วได้เวลาชิมอาหารกันซะที
เปิดจานแรกก่อนด้วยของเย็นๆ รอบนี้ขอไม่เอาขนมปังมานะ กลัวจุก
กรีกสลัด - ได้รสเค็มอมเปรี้ยวของชีส ผักกรอบหวาน ได้รสฉุนแรงหอมแดงของหอมแดง
คีนัวสลัด - กรุบๆคล้ายลูกเดือยแต่เล็กกว่า รสเค็มอมเปรี้ยวเลมอนเบาๆ
สลัดมะเขือเทศกับมอสาเรลล่าชีส - ได้ความหวานฉ่ำของมะเขือเทศกับ ชีสรสมันปนขม ความรู้สึกเหมือนกินโมจิรสเปรี้ยวเลย
แซลมอนรมควัน - เนื้อหนาดี เค็มอมหวานกินคู่กับชีสขมๆมันๆ นัวปากมากมาย
ซาลามี - แฮมหมักรสชาติเปรี้ยวอมคาว ไขเยอะไปหน่อย
ชอริโซ่ - รสจะเปรี้ยวกว่าซาลามี และได้รสเผ็ดหอมของปาปริก้า
จานที่สอง ของทอด
ผักเทมปุระ - แป้งกรอบดี ไส้ในหวานฉ่ำสดใหม่ โดยเฉพาะไส้มะเขือม่วงนี่นุ่มเหมือนครีมเลย
ปลาทอดและมันฝรั่ง - ไม่รู้ว่าใช้ปลาอะไรแต่รสชาติออกจืดๆ ปลาเนื้อแข็งและสากมาก แถมแป้งไม่กรอบเลย อันนี้อย่างเฟล
ส่วนมันฝรั่งที่ตักมาด้วย หอมเครื่องปรุงกรอบมันปาก ดีกว่าหลายขุมนัก
กุ้งเทมปุระ - เนื้อกุ้งหวานและหอมดีมาก แป้งไม่ค่อยกรอบเท่าไหร่ แอบเสียดาย
บล็อคโคลีชีส - ผักกลิ่นแรงไปนิด ได้รสชาตินุ่มมันของชีสและมันบดที่ผสมมา
จานสาม พวกเนื้อทั้งหลาย
แซลมอนอบ - เนื้อนุ่มละเอียดมากๆ ยังกับกินขนมปุยฝ้าย รสชาติมันๆของแซลมอน
หมูผัดเกาหลี - หมูเนื้อเฉยๆไม่นิ่มไม่หยาบ ได้กลิ่นรสแบบพริกเกาหลีชัดเจน หวานอมเผ็ดที่ลิ้นนิดๆ
ไก่ราดซอสหวาน - เนื้อค่อนข้างหนา แต่ก็ยังนิ่มเคี้ยวง่าย ได้กลิ่นหอมของซอสบาร์บีคิว
กุ้งผัดซอสมะขาม - เนื้อกุ้งรสหวานแบบเดียวกับที่เอามาทำเทมปุระ แต่เนื้อแอบแห้งไปหน่อย คงจะทำไว้นานแล้ว
ไก่อบ - เนื้อนุ่มสุด หอมมันเต็มรสชาติ ซอสราดมาด้วยก็ดีงาม
เนื้อย่างกระเทียม - หอมเข้มรสวัวแบบเข้มๆ มันก็หวานนัวสุดยอด
จานถัดมาเป็นของเหลือๆที่ยัดใส่จานอื่นไม่หมด
แซลมอนดิบ - เนื้อหวานหอมกลิ่นปลาแม้หน้าตาสีสันจะดูไม่น่าโสภานัก
ทูน่าดิบ - เนื้อนุ่มหวานระดับกลางๆ คาวพอประมาณ
คิมบับ หรือ ข้าวห้อสาหร่ายแบบเกาหลี รสชาติก็คล้ายๆกับมากิแบบญี่ปุ่น แต่ของที่นี่จะเหนียวสาหร่ายกว่าเจ้าอื่นที่เคยกิน
พิซซ่ามาการิต้า - รสชาติโดยรวมเหมือนแบบต้มยำ แค่เปลี่ยนจากกลิ่นต้มยำไทยเป็นกลิ่นมะเขือเทศ
พิซซ่าต้มยำทะเล - ออกหวานหอมแบบเครื่องต้มยำ ไม่เผ็ด ชีสมาแน่น หอมกลิ่นเตาถ่านจัดๆ เนื้อหอยชิ้นใหญ่ดีแต่มาชิ้นเดียว
ราเมน เขามีให้เลือก 3 ซุป ผมจัดซุปเต้าเจียวมา ซึ่งหอมรสเต้าเจี้ยวมาก เส้นหมี่ลืนมันสูดคล่องคอ ของที่เคียงมาด้วย
มีแค่ไส้กรอกกับเกี๊ยวซ่าธรรมดาๆ ไม่หวือหวา แต่มีเทมปุระมาแกล้มก็ยังดีอยู่ครับ
ถ้าทำการจองเอาไว้ ทางร้านก็จะมีม็อคเทลให้ด้วยคนละแก้ว ซึ่งรสชาติก็ออกเปรี้ยวๆหอมกลิ่นลาเวนเดอร์(ไม่แน่ใจ)
ซัด 5 จานนั้นไปก็เริ่มจุกละ ตักของหวานมาเลยแล้วกัน ลองหมดทุกอย่างยกเว้นป๊อปคอร์น
จานนี้รวมเค้กทั้งหลาย
เค้กวานิลลา - แป้งร่วนๆ ครีมหวานไปทางน้ำตาลมากกว่านม
เค้กลูกเกต - เนื้อแน่น หอมกาแฟและลูกเกต หวานเข้ม
เค้กใบเตย - หอมหวานรสใบเตย ครีมด้านบนเนียนเหมือนพุดดิ้ง
เค้กช็อคโกพุดดิ้ง - ดูภายนอกเหมือนจะนุ่มนิ่ม แต่แท้จริงแล้วหนาพอดู พุดดิ้งช็อคออกรสชาติขมเข้มและเปรี้ยวหน่อยๆตามแบบ
ช็อคโกแลตหมักเข้มข้น ด้านล่างของเค้กมีวุ้นรสเลมอนโปะด้วย
ขนมปังสตรอเบอรี่ - เป็นเค้กฟองน้ำ เนื้อแป้งแตกรุ่ยไม่ค่อยแจ่ม แต่มีความหอมของสตอรเบอรี่ในระดับหนึ่งและไส้ตรงกลางเป็น
เยลลี่รสครีมสตอรเบอรี่รสนุ่มนวล
คัพเค้ก - ครีมรสออกเค็มๆ แป้งร่วน
รวมๆแล้วเค้กทำได้ดี แต่ไม่ว้าวมาก เครื่องเคียงที่ราดมาด้วยก็เป็นพวกแยมบลูเบอรี่และราสเบอรี่ แล้วก็ถั่วเคลือบน้ำตาลแข็งๆ
ซอสบลูฯกินกับเค้กแล้วโดนสุด
คุกกี้กับครีม และไอศครีม ซึ่งเจ๋งกว่าเค้กหลายขุมนัก
คุกกี้รสดับเบิ้ลช็อค แป้งร่วนละเอียดยังกับทราบ กรุบกรับอร่อยนุ่มนวล ไส้ก็เป้นช็อคโกแลตชิพแน่นๆเนื้อๆหวานเข้มถึงใจ
อีกรสก็เป็นธัญพืช กรุบร่วนพวกเม็ดต่างๆ และไส้ในก็มีเม็ดช็อคโกแลตเม็ดเบิ้มอยู่ด้วย
พวกครีมที่เอาไว้กินเคียงก็อร่อยไม่แพ้กัน มันอมหวานเย็นสดชื่นไร้ความเลี่ยน รสโกโก้จะออกขมๆหน่อย คล้ายนมช็อคโกแลต
ส่วนรสถั่วคาราเมลนี่เด็ดกว่าใครเพื่อน
ไอศครีมรสกะทิ ราดด้วยครีมและพวกเครื่องต่างๆ ดีงามพระรามเก้าเป็นที่สุด
ไปตักคุกกี้กับครีมกินอีกรอบ ก็เหลือบเห็นมีเค้กแบบใหม่มาวางเลยหยิบมาชิมดู
เป็นมาร์ชเมลโลวบลูเบอรี่ รสหวานนุ่มหอมกลิ่นเบอรี่จางๆ กับมาการองไส้ข็อคโกแลตหวานเข้มแบบจัดเต็ม
รสชาติอาหาร : ****
พวกอาหารคาวแม้สีสันจะดูดีแต่รสชาติโดยรวมแล้วยังเฉยๆ จะมีดีก็พวกเนื้ออบทั้งหลายที่อ่อนนุ่มและหอมหวลอย่างมาก
พิซซ่าชีสให้เยอะสาแก่ใจคนชอบชีส ของหวานแม้จะมีน้อยแต่รสชาติอลังการณ์งานสร้าง โดยเฉพาะคุกกี้กับครีมนี่เนียนนุ่มหวานอร่อยปาก
ของทอดมีดีและแย่ปนกันไป ส่วนปลาดิบกับพวกของเย็นที่กินคู่กับขนมปัง รสชาติจัดอยู่ในเรตกลางๆ กินก็ได้ ไม่กินก็ไม่เสียหาย
บรรยากาศในร้าน : *****
ตกแต่งได้หรูหราน่านั่งตามสไตล์ร้านอาหารในโรงแรม จัดพื้นที่เดินตักอาหารได้สะดวก
การบริการ : *****
มีคนคอยต้อนรับอย่างดี เติมน้ำเปลี่ยนผ้าให้ตลอด พนักงานประจำไลน์อาหารก็สุภาพเป็นมิตรทำหน้าที่ได้ไม่บกพร่อง
ความหลากหลาย : ****1/2
จัดอยู่ในเกณฑ์กลางๆ เท่าที่สังเกตุจะเน้นพวกเครื่องมากกว่า โดยเฉพาะไลน์อาหารหวานมีทั้งครีม ทั้งเกล็ดน้ำตาล ซอสต่างๆเพียบ
ราคา : ***
จัดว่าย่อมเยาว์ในระดับอาหารโรงแรมนะ จ่าย 599 ได้กินไก่อบเนื้ออบและของหวานรสเด็ด
การเข้าถึง : *****
ไม่ยากเย็นเท่าไหร่ ถ้ามาจากแยกสวนลุมก็ตรงยาวไปจนถึงสี่แยกสาธรไปกลับรถตรงก่อนถึง สถานีเซนต์หลุยส์ ซอยแรกจะจุดกลับรถก็ถึงโรงแรมแล้ว
รึถ้าให้ง่ายกว่านั้น ก็นั่ง BTS มาเลย อีซี่ไลฟ์
ความคุ้มค่า : *****
จากเม็ดเงินที่เสียไป ได้กลับมาเป็นความเลิศหรูของบรรยากาศอาหารโรงแรม กับรสชาติอาหารที่แปลกลิ้น โดยเฉพาะของหวานที่มาเหนือเกินคาด
บวกกับบริการขนาดนี้ ถือว่าคุ้มสุดๆ แต่สายเน้นกินหลากหลายหรือเน้นพวกพรีเมี่ยมอาจจะไม่ค่อยโดนใจเท่าไหร่ เพราะร้านนี้ไม่มีของเด็ดจริงๆลงในไลน์เลย (สงสัยถ้าจะได้กินของดีจริงคงต้องจองมื้อเย็นกระมัง)แต่ก็นั่นแหละครับ ใครที่เบื่อๆร้านบุฟเฟ่ต์แบบเดิมๆแล้วอยากจะมานั่งทอดหุ่ยกับมื้อเที่ยง
แสนอร่อย ในบรรยากาศแสนสบาย ร้านนี้คือคำตาบครับ อย่าลืมเช็ควันเวลาดีๆก่อนจองนะครับ
ภาพรวม : ****1/2
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น