เริ่มเรื่องนะคะ.. วันที่ 16 มกราคม 2560 ดิฉันได้รับโทรศัพท์จากบริษัทประกัน ACE หรือ บริษัท เอซ ไอเอ็นเอ โอเวอร์ซีส์ อินชัวรันซ์ประกันภัย ติดต่อมาว่าดิฉันเป็นลูกค้าดีเด่นของทาง citibank ได้รับสิทธิรักษาสุขภาพฟัน Dental Care รายละเอียดพูดเร็วมาก เค้าเน้นย้ำว่าไม่ได้เป็นการทำประกัน ซึ่งดิฉันก็ถามย้ำไปว่ามีการเก็บเงินรายเดือนรึเปล่า เซลล์ตอบว่าไม่มีค่ะ และพยายามเบี่ยงไปเรื่องอื่น ซึ่งดิฉันเห็นว่าน่าสนใจดี เพราะได้ส่วนลดการทำทันตกรรมค่อนข้างเยอะ เลยตอบตกลงไป โดยเค้าให้พูดว่า "ตกลงทำประกัน" ซึ่งดิฉันก็งงมาก เพราะเมื่อกี้บอกว่าไม่ได้เป็นการทำประกันนี่นา เค้าก็ยังตอบว่าไม่ใช่ประกันค่า แต่ต้องพูดคำนี้เพื่อให้เสร็จขึ้นตอนการสมัคร ซึ่งตอนนั้นดิฉันก็เลยเออออไปกับเค้า และเค้าก็แจ้งว่ากรรมธรรม์จะส่งมาอีก 3 เดือนหลังจากการสมัครวันนี้....
ผ่านไป 1 สัปดาห์ ดิฉันเค้าไปเช็ค citibank online แล้วพบว่ามีการบิลเรียกเก็บเงินจากบริษัทประกันนี้ จำนวน 770 บาท 2 รายการ รวมเป็นเงิน 1540 บาท ทำให้เข้าใจทันทีว่าโดนหลอก และได้โทรไปขอปฏิเสธการชำระเงินรายการนี้กับทาง citibank ซึ่งไม่สำเร็จ เพราะ citibank แจ้งว่าต้องไปยกเลิกกับบริษัทประกันก่อน จึงโทรไปยกเลิกกับบริษัทประกันที่เบอร์ 02-611-3939 และจะขอค่าเบี้ยประกันคืนค่ะ ซึ่งคำตอบที่ได้จากพนังงานคือ สามารถยกเลิกได้ค่ะ แต่ทางบริษัทได้เก็บเงินล่วงหน้าไปจำนวน 2 เดือนแล้วตามเงื่อนไข (ซึ่งเงื่อนไขตอนไหนหว่า เราก็งงมาก ไม่เห็นเคยบอก) จึงไม่สามารถให้เงินคืนได้ รู้สึกโกรธมากเลยพูดกับพนักงานไปว่า ตามกฎหมายแล้วเรามีสิทธิที่จะยกเลิกและเรียกเงินคืนได้ภายใน 15 วันหลังจากได้รับกรมธรรม์ไม่ใช่หรอ และนี้ยังไม่ได้รับกรมธรรม์ด้วยซ้ำ ซึ่งพนักงานก็บ่ายเบี่ยงไปเรื่องอื่นว่าเค้าไม่สิทธิพิจารณาในเรื่องนี้ คงต้องขอส่งเรื่องให้ทางผู้ใหญ่พิจารณาให้อีกที การสนทนากับพนักงานจึงจบที่เท่านี้ค่ะ
ดิฉันได้ตั้งสติ และค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต เลยได้มาเจอมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคที่เค้าดูแลและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาพวกนี้อยู่ โทรไปเบอร์ 02-248-3734 และเล่าเรื่องทั้งหมดให้พี่เค้าฟังค่ะ จากนั้นพี่เค้าก็ให้เราทำจดหมายแบบตอบรับ ขอยกเลิกการทำประกันกับทางบริษัทประกัน โดยแบบฟอร์มและขั้นตอนดูได้ลิงก์นี้ค่ะ
http://indyconsumers.org/main/index.php/information/handbook/products-service-158/169-2014-10-28-10-03-11
ดิฉันได้ทำจดหมายขอยกเลิกประกันส่งให้กับทางบริษัทประกัน และจดหมายขอปฏิเสธการชำระหนี้ให้กับทางบริษัท citibank ไปพร้อมๆกัน โดยนำสำเนาใบยกเลิกการทำประกันแนบไปกับจดหมายที่ส่งให้กับทาง citibank ด้วย จากนั้นรอผลค่ะ
ผ่านไป 2 วัน นับตั้งแต่วันที่ส่งจดหมาย บริษัทประกันได้ส่งข้อความมาให้ดิฉันว่า บริษัทได้ดำเนินการยกเลิกกรมธรรม์ให้แล้วเรียบร้อย ทำให้ใจชื้นขึ้นมาหน่อยนึง เหลือแต่เรื่องเงินเท่านั้นที่มาลุ้นต่อว่าจะได้คืนรึเปล่า หลังจากนั้นอีก 3 วัน จึงได้รับการติดต่อจากทาง citibank ว่าได้รับเรื่องที่ร้องเรียนเข้ามาแล้ว และจะขอตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดใช้เวลา 3 วันแล้วจะติดต่อกลับมา ซึ่งระหว่างที่รอนั้นบริษัทประกันก็โทรมาแจ้งดิฉันว่าจะคืนเงินค่าเบี้ยประกันให้ แต่จะได้ในเดือนเมษายนตามรอบบิล (โอ้ว !!) หลังจากนั้น citibank ก็โทรมาว่ารอบบิลนี้ต้องจ่ายค่าประกันก่อน แล้ว citibank จะคืนเงินให้ในรอบเดือนถัดไป
สุดท้ายเรื่องก็จบด้วยดีค่ะ ถึงแม้ว่าจะต้องมาเสียเวลาทำเรื่องนั่นนี่เยอะแยะ พร้อมได้เงินคืน(ช้าไปหน่อย) และแม้ว่ามันจะเป็นเงินจำนวนเล็กน้อย แต่มันเป็นเรื่องของจิตใจค่ะ ที่ไม่อยากจะให้ใครมาเอาเปรียบเรา ดิฉันไม่ขอกล่าวโทษบริษัทประกันแต่อย่างใด อยู่ที่วิจารณญานของแต่ละคนค่ะ หากจะโทษก็โทษความโง่ของตัวเองที่หลงเชื่ออะไรง่ายๆ และเซลล์ขายประกันคนนั้นที่ขาดจรรยาบรรณในการทำงาน เรื่องทั้งหมดนี้ คุณแม่ดิฉันยังได้กล่าวไว้ว่า "คิดว่าทำทานแด่น้องผู้หิวโหย ถ้าไม่หิว คงไม่ทำแบบนี้ คนเรามันก็หาวิธีเพื่อให้อยู่รอดทั้งนั้น ถือว่าอโหสิ" โอ้วววว แม่พระ !!!! หลังจากนั้นมาสองสามวัน ชีโทรมาเล่าว่าโดนประกันหลอกค่ะ เข็ดกันเลยทีเดียว ทั้งแม่และลูก
** อย่าลืมโหลดแอพ Whoscall กันนะคะ ถ้าไม่อยากรับโทรศัพท์จากประกันอีก กันไว้ดีกว่าแก้ค่ะ (ไม่ได้มาโฆษณาจ้า มาเตือน)
แชร์ประสบการณ์โดนประกันทางโทรศัพท์หลอก และวิธีการยกเลิกประกันที่ได้ผล
ผ่านไป 1 สัปดาห์ ดิฉันเค้าไปเช็ค citibank online แล้วพบว่ามีการบิลเรียกเก็บเงินจากบริษัทประกันนี้ จำนวน 770 บาท 2 รายการ รวมเป็นเงิน 1540 บาท ทำให้เข้าใจทันทีว่าโดนหลอก และได้โทรไปขอปฏิเสธการชำระเงินรายการนี้กับทาง citibank ซึ่งไม่สำเร็จ เพราะ citibank แจ้งว่าต้องไปยกเลิกกับบริษัทประกันก่อน จึงโทรไปยกเลิกกับบริษัทประกันที่เบอร์ 02-611-3939 และจะขอค่าเบี้ยประกันคืนค่ะ ซึ่งคำตอบที่ได้จากพนังงานคือ สามารถยกเลิกได้ค่ะ แต่ทางบริษัทได้เก็บเงินล่วงหน้าไปจำนวน 2 เดือนแล้วตามเงื่อนไข (ซึ่งเงื่อนไขตอนไหนหว่า เราก็งงมาก ไม่เห็นเคยบอก) จึงไม่สามารถให้เงินคืนได้ รู้สึกโกรธมากเลยพูดกับพนักงานไปว่า ตามกฎหมายแล้วเรามีสิทธิที่จะยกเลิกและเรียกเงินคืนได้ภายใน 15 วันหลังจากได้รับกรมธรรม์ไม่ใช่หรอ และนี้ยังไม่ได้รับกรมธรรม์ด้วยซ้ำ ซึ่งพนักงานก็บ่ายเบี่ยงไปเรื่องอื่นว่าเค้าไม่สิทธิพิจารณาในเรื่องนี้ คงต้องขอส่งเรื่องให้ทางผู้ใหญ่พิจารณาให้อีกที การสนทนากับพนักงานจึงจบที่เท่านี้ค่ะ
ดิฉันได้ตั้งสติ และค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต เลยได้มาเจอมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคที่เค้าดูแลและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาพวกนี้อยู่ โทรไปเบอร์ 02-248-3734 และเล่าเรื่องทั้งหมดให้พี่เค้าฟังค่ะ จากนั้นพี่เค้าก็ให้เราทำจดหมายแบบตอบรับ ขอยกเลิกการทำประกันกับทางบริษัทประกัน โดยแบบฟอร์มและขั้นตอนดูได้ลิงก์นี้ค่ะ http://indyconsumers.org/main/index.php/information/handbook/products-service-158/169-2014-10-28-10-03-11
ดิฉันได้ทำจดหมายขอยกเลิกประกันส่งให้กับทางบริษัทประกัน และจดหมายขอปฏิเสธการชำระหนี้ให้กับทางบริษัท citibank ไปพร้อมๆกัน โดยนำสำเนาใบยกเลิกการทำประกันแนบไปกับจดหมายที่ส่งให้กับทาง citibank ด้วย จากนั้นรอผลค่ะ
ผ่านไป 2 วัน นับตั้งแต่วันที่ส่งจดหมาย บริษัทประกันได้ส่งข้อความมาให้ดิฉันว่า บริษัทได้ดำเนินการยกเลิกกรมธรรม์ให้แล้วเรียบร้อย ทำให้ใจชื้นขึ้นมาหน่อยนึง เหลือแต่เรื่องเงินเท่านั้นที่มาลุ้นต่อว่าจะได้คืนรึเปล่า หลังจากนั้นอีก 3 วัน จึงได้รับการติดต่อจากทาง citibank ว่าได้รับเรื่องที่ร้องเรียนเข้ามาแล้ว และจะขอตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดใช้เวลา 3 วันแล้วจะติดต่อกลับมา ซึ่งระหว่างที่รอนั้นบริษัทประกันก็โทรมาแจ้งดิฉันว่าจะคืนเงินค่าเบี้ยประกันให้ แต่จะได้ในเดือนเมษายนตามรอบบิล (โอ้ว !!) หลังจากนั้น citibank ก็โทรมาว่ารอบบิลนี้ต้องจ่ายค่าประกันก่อน แล้ว citibank จะคืนเงินให้ในรอบเดือนถัดไป
สุดท้ายเรื่องก็จบด้วยดีค่ะ ถึงแม้ว่าจะต้องมาเสียเวลาทำเรื่องนั่นนี่เยอะแยะ พร้อมได้เงินคืน(ช้าไปหน่อย) และแม้ว่ามันจะเป็นเงินจำนวนเล็กน้อย แต่มันเป็นเรื่องของจิตใจค่ะ ที่ไม่อยากจะให้ใครมาเอาเปรียบเรา ดิฉันไม่ขอกล่าวโทษบริษัทประกันแต่อย่างใด อยู่ที่วิจารณญานของแต่ละคนค่ะ หากจะโทษก็โทษความโง่ของตัวเองที่หลงเชื่ออะไรง่ายๆ และเซลล์ขายประกันคนนั้นที่ขาดจรรยาบรรณในการทำงาน เรื่องทั้งหมดนี้ คุณแม่ดิฉันยังได้กล่าวไว้ว่า "คิดว่าทำทานแด่น้องผู้หิวโหย ถ้าไม่หิว คงไม่ทำแบบนี้ คนเรามันก็หาวิธีเพื่อให้อยู่รอดทั้งนั้น ถือว่าอโหสิ" โอ้วววว แม่พระ !!!! หลังจากนั้นมาสองสามวัน ชีโทรมาเล่าว่าโดนประกันหลอกค่ะ เข็ดกันเลยทีเดียว ทั้งแม่และลูก
** อย่าลืมโหลดแอพ Whoscall กันนะคะ ถ้าไม่อยากรับโทรศัพท์จากประกันอีก กันไว้ดีกว่าแก้ค่ะ (ไม่ได้มาโฆษณาจ้า มาเตือน)