กว่าจะได้คิวทานร้านนี้ก็รอกันแบบที่ตีนกาเพิ่มมาอีกเส้นสองเส้นเลยทีเดียว ก่อนไปทานก็รอหลายเดือนอยู่ค่ะ
มาเกริ่นกันก่อนว่าร้าน Sushi Tama นั้นเค้าคือร้านอะไร ที่แน่ๆอ่ะต้องขายซูชิเนอะ..
ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆอยู่บนชั้น M ของโครงการ Piman 49 ในสุขุมวิท ซ. 49 ค่ะ ที่ว่าเล็กอ่ะ..ไม่ได้ล้อเล่นนะ เล็กจริง!! มีอยู่เพียง 6 ที่นั่งเท่านั้นเอง อบอุ่นจัง
เชฟ Seiji Sudo ที่ดูแลร้านนี้นั้นเดิมเคยเป็นหัวหน้าเชฟของร้านซูชิอันโด่งดังระดับ Michelin Star อย่าง Ginza Sushi Ichi ที่ได้มาเปิดสาขาในไทย
แต่เชฟนั้นก็ได้สร้างเอกลักษณ์ของตนเองได้อย่างชัดเจน และพูดได้ว่าต่างจากร้านที่เค้าเคยประจำอยู่พอสมควรเลยค่ะ
อาหารของเชฟ Sudo นั้นจะเน้นเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยจานเล็กๆมากกว่าซูชิเป็นคำเสียอีก คอร์สนี้ทานไปทั้งหมด 25 อย่าง..
25 อย่าง!!! - คิดอย่างแรก..ตายๆๆ ท้องแตกแน่เลยง่ะ..
ทุกอย่างจัดมาอย่างละเมียดและจิ๋วมาก ต้องเตือนไว้ก่อนว่าถ้าหิวๆมานี่มีหงุดหงิดแน่นอน 555 เพราะตัวเราเองก็มีนิดๆ
เอาหล่ะ..เชฟ Sudo เสริฟอะไรให้ทานบ้าง.. ไปดูกันเลยค่า!
มาถึงก็มาเลือกแก้วสาเกกันหน่อย.. เราก็ต้องเลือกอันที่น่ารักที่สุดอยู่ละ ชอบมากหมีน้อย > < (สาเกไม่ได้อยู่ในคอร์สนะคะ)
Hoya Clams
Amouse-Bouche (อาหารเรียกน้ำย่อยแบบคำเดียวหมด) มาก่อนเลย.. อันนี้เป็นหอย Hoya กรุบๆหงึบๆเค็มๆ ค่อยๆละเลียดนะ
Shiro Ebi/Uni
กุ้งขาวสับคลุกกับไข่หอยเม่น กุ้งเนื้อดีมาก หวานมาก อร่อยเลย
Chutoro
นิงิริชิ้นแรกของเราคืนนี้ ชูโทโระ - เนื้อปลาทูน่าส่วนมันปานกลาง มันพอดี นุ่มละมุนมากกก
Kinmedai
ต่อด้วย Kinmedai เนื้อเด้งดึ๋งแถมยังมีกลิ่นหอมของการรนหนังด้วย
Chawanmushi
ไข่ตุ๋นแบบพิเศษตาลุกวาว ทอปปิ้งเราก็เห็นไข่หอยเม่นวางแล้วหล่ะ แต่พอตักไปเท่านั้นแหละ มันไม่ใช่แค่ไข่ไก่ไงที่ตุ๋นมา มี Shirako (ถุงสเปิร์มปลาค็อด) ซ่อนอยู่ด้านล่างด้วย เป็นรวมมิตรไข่กันเลยทีเดียว อร่อยมากค่ะ มีความนุ่มละมุนเนียน ครีมๆมากๆ
Awabi
คือเนื้อสัมผัสของหอยเป๋าฮื้อนี้ดีมาก เนื้อแน่นๆดึ๋งๆ ก่อนทานต้องคลุกข้าว ซอส หอยเข้าด้วยกัน อร่อยมาก หวานไปนิ๊ด แต่ก็ยังอร่อยมากๆอยู่ (อยากให้จานใหญ่กว่านี้นิดนึง 55)
Katsuo Zuke
เนื้อปลาทูน่า Katsuo หมักในซอสซีอิ๊วที่มีขิงและหัวหอมเป็นส่วนประกอบ แท่งขาวๆนั่นก้างปลาค่ะ.. ด้วยความตะกละก็ได้ถามเวฟว่าทานได้มั้ย..สรุปก้างตกแต่งเฉยๆนะ จ๋อยย จานนี้สำหรับเราไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ค่ะ ทั้งเค็มไปและหวานไป รสหมักเข้มไปมากๆเลย ทานยากเลย
Aji
เป็นคำที่ทานแล้วสดชื่นเลย ปลาอาจิที่โปะต้นหอมผสมกระเทียมสับ และบีบมะนาวลงไปก่อนทาน อร่อยยย
Kamatsu
ย่างมาซะหอมเลย เสริฟมาพร้อมกับ Yuzu kosho (เป็นพริกผสมกับน้ำและเปลือกของส้ม yuzu บด) หอมมาก
เชฟกำลังเตรียมจานต่อไปให้พวกเราอยู่... ของโปรดเลย
Hokkaido Bafun Uni
ไข่หอยเม่น bafun โรยด้วยเกลือจากโอกินาว่า มันหวานและมันมาก รสสัมผัสดีค่ะ แต่แอบมีกลิ่นง่ะ
Tako
ปลาหมึกยักษ์ต้มในซีอิ๊วและน้ำตาล อันนี้กัดเข้าไปแล้วตกใจนิดนึง คือสมองคิดไว้แล้วว่าต้องมีความหนึบความกรึบ แต่เคี้ยวไปแล้วมันนุ่มจนเหมือนไม่ได้ทานหมึกอยู่แหะ นุ่มมากๆๆ คือก็กลายเป็นรสงงๆไปนะจานนี้
Hotate
ทำมาให้ชิมสามแบบ คำแรกให้ทานแบบสดๆ อีกอันเป็นแบบย่างมา อีกอันเหมือนเป็นเอ็นหอยหรือตรงที่อยู่รอบๆของหอยอ่ะค่ะ มันจะมีความกรุบกรอบ
จัดเตรียมปูขนก่อนจะนำไปอบ
Kegani
ปูขนผสมข้าวและไข่หอยเม่น เอาไปอบแล้วจะแห้งลง ทำให้รสชาติมีความเข้มข้นกว่าเดิม รสชาติทะเล๊ทะเล ดีเลยจานนี้
Sasae
หอยซาซาเอะย่างที่มาพร้อมกับตับของมันเอง เปลิอกหอยด้านหลังก็เป็นเจ้าหอยซาซาเอะนี่แหละค่ะ เชฟน่ารักมาก พยายามจะบอกเราว่าอะไรคืออะไรแม้ว่าจะพูดกันไม่รู้เรื่อง ก็เลยเอาเปลือกหอยมาโชว์
เชฟ Sudo เตรียมมากิอะไรให้พวกเรานะ
Iwashi Maki
มากินี้ไม่มีข้าวค่ะ เป็นปลาซาร์ดีน ขิงดอง ใบโอบะ และงาคั่ว .. ชอบๆ
Katsuko-dai
ข้างใต้ของเนื้อปลามีใบซากุระด้วยนะ
Yamaimo
อันนี้คือมันป่าหรือมันมือเสือไม่ทราบว่าที่ไทยมีชื่อว่าอะไร อันนี้อาจจะดูแสนจะธรรมดานะคะ แต่เราชอบมาก เค้าเอาไปหมักกับวาซาบิ กรุบๆยืดๆนิดๆฉุนๆ อร่อยอ่ะ มันล้างปากได้ดีมาก สดชื่นเลย
ซุปซูชิเดือดปุดๆ
Sushi Soup
อันนี้ไม่เคยเห็น.. ซุปซูชิ.. ข้างในถ้วยนี้ประกอบไปด้วยมากิไส้ปลาคินเมได, สาหร่ายคอนบุและบ๊วย
ทานได้สบายๆดี รสชาติกลมกล่อมแต่ความเปรี้ยวเบาๆของบ๊วยก็ทำให้จานนี้มีอะไรมากขึ้นไปอีกค่ะ
ย่างต่อหน้ากันแบบนี้...สะกดจิตแทบไม่อยู่เลย หอมย่างมากๆ
Hokkigai
หอยปีกนกย่างโรยด้วยพริกป่นและบีบด้วยมะนาว รสสัมผัสแบบเป๊ะมากกกกก ไม่เหนียวไปไม่นุ่มไปและยังมีรสชาติของการย่างด้วย
Tairagai
มีสาหร่ายวางอยู่ด้านล่างตัวหอยด้วย นุ่มและหวานเลยชิ้นนี้
Nodoguro
เป็นปลาเนื้อขาวที่มีความมันแบบดีมาก ทานกับโชยุและมะนาวตัด คือทานไปแล้วละลายเลยอ่ะ แล้วกลิ่นของการรนไฟที่หนังปลานั้นหอมอร่อยมาก ชิ้นนี้เราชอบสุดละของมื้อนี้ เลิฟๆๆๆ
Maguro
ปลาทูน่าเนื้อแดง โรยด้วยผิวมะนาวขูด เนื้อปลามันนุ่มๆเด้งดึ๋งเหมือนเนื้อเยลลี่เลยอ่ะ ชอบบ
Special Chirashi
ข้าวหน้าปลาดิบรวมถ้วยเล็กน่ารัก มีกุ้ง ไข่ปลาแซลมอล กระเจี๊ยบ ปลาทูน่าเนื้อแดงและข้าว ความยืดของกระเจี๊ยบนี่ทำให้จานนี้ทานได้ง่ายและเข้ากันได้ดีเลย
Tamagoyaki
ไข่หวานนุ่มๆ
Coconut Milk Pudding
ปิดท้ายกันด้วยของหวานนะ พุดดิ้งมะพร้าว มีเกาลัดเชื่อมและซอสชาเขียวมัทชะด้วย มีความละมุน นุ่ม ไม่หวานจนเกินไปและยังมีขมนิดๆจากชาเขียว เป็นการจบมื้อที่ดีเลยหล่ะ
. ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` .
ตอนแรกที่ทานจานแรกๆก็ยอมรับเลยว่าหงุดหงิดที่แต่ละจานทำไมถึงได้เล็กขนาดนี้นะ หิวตาลายไงไม่ใช่อะไร 55
สุดท้ายก็อิ่มแบบพอดีเลย จริงๆแล้วการที่จานเล็กก็ดีนะคะ ได้ทานอาหารที่หลากหลายดี
ก็ต้องขอชื่นชมเชฟ Sudo เลยที่สามารถควบคุมการจัดการ คุณภาพ และรสชาติอาหารได้อย่างไม่มีที่ติ แม้ว่าเค้าจะทำทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบด้วยตัวคนเดียว
การบริการก็ดีมาก มีพนักงานบริการ 2 คน ที่คอยจัดการเรื่องเครื่องดื่มได้อย่างไม่ขาด แล้วยังมีหน้าที่อธิบายให้เราฟังว่าสิ่งที่ทานนั้นคืออะไรบ้าง
สิ่งเดียวที่อยากจะบ่นของมื้อนี้ก็คงเป็นเพียงเรื่องที่เมนูมีหอยเยอะไปหน่อย คือจริงๆก็ไม่ได้ชอบทานขนาดนั้น ทานได้แต่ก็ไม่ต้องเยอะขนาดนี้ก็ได้นะ 555 แต่ก็คงจะเป็นช่วงที่เมนูหอยอร่อยที่สุดแล้วมั้ง? ขี้บ่นเนอะ 555
ที่ชอบสุดก็คงเป็น Nodoguro, Kinmedai Nigiri แล้วก็ หอยเป๋าฮื้อ... เลิฟฟฟฟ
ก็หวังว่าจะชอบรีวิวนี้กันนะคะ
ไว้คราวหน้าไปร้านไหนดีๆจะมาแนะนำกันอีกค่ะ : )
ราคา: 6,500 ++ ต่อคน
CREDITS:
Photos taken by: www.instagram.com/sittipas
ติดตามกันได้ที่เวปนี้เลย เป็นรีวิวเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษนะ
www.littlebigtummy.com
www.instagram.com/littlebigtummy
. ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . `
Tama Sushi, M/F, Piman 49, 46/10 Sukhumvit Soi 49, Bangkok, Thailand
เวลาทำการ: Tue-Sun 6-10:30pm
โทร: 091-871-0666
www.facebook.com/tamasushibangkok
อาหาร: ญี่ปุ่น
ที่จอดรถ: มี
สถานีรถไฟฟ้า: BTS พร้อมพงศ์
[CR] . ` . ` . SUSHI TAMA OMAKASE . ` . ` .
กว่าจะได้คิวทานร้านนี้ก็รอกันแบบที่ตีนกาเพิ่มมาอีกเส้นสองเส้นเลยทีเดียว ก่อนไปทานก็รอหลายเดือนอยู่ค่ะ
มาเกริ่นกันก่อนว่าร้าน Sushi Tama นั้นเค้าคือร้านอะไร ที่แน่ๆอ่ะต้องขายซูชิเนอะ..
ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆอยู่บนชั้น M ของโครงการ Piman 49 ในสุขุมวิท ซ. 49 ค่ะ ที่ว่าเล็กอ่ะ..ไม่ได้ล้อเล่นนะ เล็กจริง!! มีอยู่เพียง 6 ที่นั่งเท่านั้นเอง อบอุ่นจัง
เชฟ Seiji Sudo ที่ดูแลร้านนี้นั้นเดิมเคยเป็นหัวหน้าเชฟของร้านซูชิอันโด่งดังระดับ Michelin Star อย่าง Ginza Sushi Ichi ที่ได้มาเปิดสาขาในไทย
แต่เชฟนั้นก็ได้สร้างเอกลักษณ์ของตนเองได้อย่างชัดเจน และพูดได้ว่าต่างจากร้านที่เค้าเคยประจำอยู่พอสมควรเลยค่ะ
อาหารของเชฟ Sudo นั้นจะเน้นเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยจานเล็กๆมากกว่าซูชิเป็นคำเสียอีก คอร์สนี้ทานไปทั้งหมด 25 อย่าง..
25 อย่าง!!! - คิดอย่างแรก..ตายๆๆ ท้องแตกแน่เลยง่ะ..
ทุกอย่างจัดมาอย่างละเมียดและจิ๋วมาก ต้องเตือนไว้ก่อนว่าถ้าหิวๆมานี่มีหงุดหงิดแน่นอน 555 เพราะตัวเราเองก็มีนิดๆ
เอาหล่ะ..เชฟ Sudo เสริฟอะไรให้ทานบ้าง.. ไปดูกันเลยค่า!
มาถึงก็มาเลือกแก้วสาเกกันหน่อย.. เราก็ต้องเลือกอันที่น่ารักที่สุดอยู่ละ ชอบมากหมีน้อย > < (สาเกไม่ได้อยู่ในคอร์สนะคะ)
Hoya Clams
Amouse-Bouche (อาหารเรียกน้ำย่อยแบบคำเดียวหมด) มาก่อนเลย.. อันนี้เป็นหอย Hoya กรุบๆหงึบๆเค็มๆ ค่อยๆละเลียดนะ
Shiro Ebi/Uni
กุ้งขาวสับคลุกกับไข่หอยเม่น กุ้งเนื้อดีมาก หวานมาก อร่อยเลย
Chutoro
นิงิริชิ้นแรกของเราคืนนี้ ชูโทโระ - เนื้อปลาทูน่าส่วนมันปานกลาง มันพอดี นุ่มละมุนมากกก
Kinmedai
ต่อด้วย Kinmedai เนื้อเด้งดึ๋งแถมยังมีกลิ่นหอมของการรนหนังด้วย
Chawanmushi
ไข่ตุ๋นแบบพิเศษตาลุกวาว ทอปปิ้งเราก็เห็นไข่หอยเม่นวางแล้วหล่ะ แต่พอตักไปเท่านั้นแหละ มันไม่ใช่แค่ไข่ไก่ไงที่ตุ๋นมา มี Shirako (ถุงสเปิร์มปลาค็อด) ซ่อนอยู่ด้านล่างด้วย เป็นรวมมิตรไข่กันเลยทีเดียว อร่อยมากค่ะ มีความนุ่มละมุนเนียน ครีมๆมากๆ
Awabi
คือเนื้อสัมผัสของหอยเป๋าฮื้อนี้ดีมาก เนื้อแน่นๆดึ๋งๆ ก่อนทานต้องคลุกข้าว ซอส หอยเข้าด้วยกัน อร่อยมาก หวานไปนิ๊ด แต่ก็ยังอร่อยมากๆอยู่ (อยากให้จานใหญ่กว่านี้นิดนึง 55)
Katsuo Zuke
เนื้อปลาทูน่า Katsuo หมักในซอสซีอิ๊วที่มีขิงและหัวหอมเป็นส่วนประกอบ แท่งขาวๆนั่นก้างปลาค่ะ.. ด้วยความตะกละก็ได้ถามเวฟว่าทานได้มั้ย..สรุปก้างตกแต่งเฉยๆนะ จ๋อยย จานนี้สำหรับเราไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ค่ะ ทั้งเค็มไปและหวานไป รสหมักเข้มไปมากๆเลย ทานยากเลย
Aji
เป็นคำที่ทานแล้วสดชื่นเลย ปลาอาจิที่โปะต้นหอมผสมกระเทียมสับ และบีบมะนาวลงไปก่อนทาน อร่อยยย
Kamatsu
ย่างมาซะหอมเลย เสริฟมาพร้อมกับ Yuzu kosho (เป็นพริกผสมกับน้ำและเปลือกของส้ม yuzu บด) หอมมาก
เชฟกำลังเตรียมจานต่อไปให้พวกเราอยู่... ของโปรดเลย
Hokkaido Bafun Uni
ไข่หอยเม่น bafun โรยด้วยเกลือจากโอกินาว่า มันหวานและมันมาก รสสัมผัสดีค่ะ แต่แอบมีกลิ่นง่ะ
Tako
ปลาหมึกยักษ์ต้มในซีอิ๊วและน้ำตาล อันนี้กัดเข้าไปแล้วตกใจนิดนึง คือสมองคิดไว้แล้วว่าต้องมีความหนึบความกรึบ แต่เคี้ยวไปแล้วมันนุ่มจนเหมือนไม่ได้ทานหมึกอยู่แหะ นุ่มมากๆๆ คือก็กลายเป็นรสงงๆไปนะจานนี้
Hotate
ทำมาให้ชิมสามแบบ คำแรกให้ทานแบบสดๆ อีกอันเป็นแบบย่างมา อีกอันเหมือนเป็นเอ็นหอยหรือตรงที่อยู่รอบๆของหอยอ่ะค่ะ มันจะมีความกรุบกรอบ
จัดเตรียมปูขนก่อนจะนำไปอบ
Kegani
ปูขนผสมข้าวและไข่หอยเม่น เอาไปอบแล้วจะแห้งลง ทำให้รสชาติมีความเข้มข้นกว่าเดิม รสชาติทะเล๊ทะเล ดีเลยจานนี้
Sasae
หอยซาซาเอะย่างที่มาพร้อมกับตับของมันเอง เปลิอกหอยด้านหลังก็เป็นเจ้าหอยซาซาเอะนี่แหละค่ะ เชฟน่ารักมาก พยายามจะบอกเราว่าอะไรคืออะไรแม้ว่าจะพูดกันไม่รู้เรื่อง ก็เลยเอาเปลือกหอยมาโชว์
เชฟ Sudo เตรียมมากิอะไรให้พวกเรานะ
Iwashi Maki
มากินี้ไม่มีข้าวค่ะ เป็นปลาซาร์ดีน ขิงดอง ใบโอบะ และงาคั่ว .. ชอบๆ
Katsuko-dai
ข้างใต้ของเนื้อปลามีใบซากุระด้วยนะ
Yamaimo
อันนี้คือมันป่าหรือมันมือเสือไม่ทราบว่าที่ไทยมีชื่อว่าอะไร อันนี้อาจจะดูแสนจะธรรมดานะคะ แต่เราชอบมาก เค้าเอาไปหมักกับวาซาบิ กรุบๆยืดๆนิดๆฉุนๆ อร่อยอ่ะ มันล้างปากได้ดีมาก สดชื่นเลย
ซุปซูชิเดือดปุดๆ
Sushi Soup
อันนี้ไม่เคยเห็น.. ซุปซูชิ.. ข้างในถ้วยนี้ประกอบไปด้วยมากิไส้ปลาคินเมได, สาหร่ายคอนบุและบ๊วย
ทานได้สบายๆดี รสชาติกลมกล่อมแต่ความเปรี้ยวเบาๆของบ๊วยก็ทำให้จานนี้มีอะไรมากขึ้นไปอีกค่ะ
ย่างต่อหน้ากันแบบนี้...สะกดจิตแทบไม่อยู่เลย หอมย่างมากๆ
Hokkigai
หอยปีกนกย่างโรยด้วยพริกป่นและบีบด้วยมะนาว รสสัมผัสแบบเป๊ะมากกกกก ไม่เหนียวไปไม่นุ่มไปและยังมีรสชาติของการย่างด้วย
Tairagai
มีสาหร่ายวางอยู่ด้านล่างตัวหอยด้วย นุ่มและหวานเลยชิ้นนี้
Nodoguro
เป็นปลาเนื้อขาวที่มีความมันแบบดีมาก ทานกับโชยุและมะนาวตัด คือทานไปแล้วละลายเลยอ่ะ แล้วกลิ่นของการรนไฟที่หนังปลานั้นหอมอร่อยมาก ชิ้นนี้เราชอบสุดละของมื้อนี้ เลิฟๆๆๆ
Maguro
ปลาทูน่าเนื้อแดง โรยด้วยผิวมะนาวขูด เนื้อปลามันนุ่มๆเด้งดึ๋งเหมือนเนื้อเยลลี่เลยอ่ะ ชอบบ
Special Chirashi
ข้าวหน้าปลาดิบรวมถ้วยเล็กน่ารัก มีกุ้ง ไข่ปลาแซลมอล กระเจี๊ยบ ปลาทูน่าเนื้อแดงและข้าว ความยืดของกระเจี๊ยบนี่ทำให้จานนี้ทานได้ง่ายและเข้ากันได้ดีเลย
Tamagoyaki
ไข่หวานนุ่มๆ
Coconut Milk Pudding
ปิดท้ายกันด้วยของหวานนะ พุดดิ้งมะพร้าว มีเกาลัดเชื่อมและซอสชาเขียวมัทชะด้วย มีความละมุน นุ่ม ไม่หวานจนเกินไปและยังมีขมนิดๆจากชาเขียว เป็นการจบมื้อที่ดีเลยหล่ะ
. ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` .
ตอนแรกที่ทานจานแรกๆก็ยอมรับเลยว่าหงุดหงิดที่แต่ละจานทำไมถึงได้เล็กขนาดนี้นะ หิวตาลายไงไม่ใช่อะไร 55
สุดท้ายก็อิ่มแบบพอดีเลย จริงๆแล้วการที่จานเล็กก็ดีนะคะ ได้ทานอาหารที่หลากหลายดี
ก็ต้องขอชื่นชมเชฟ Sudo เลยที่สามารถควบคุมการจัดการ คุณภาพ และรสชาติอาหารได้อย่างไม่มีที่ติ แม้ว่าเค้าจะทำทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบด้วยตัวคนเดียว
การบริการก็ดีมาก มีพนักงานบริการ 2 คน ที่คอยจัดการเรื่องเครื่องดื่มได้อย่างไม่ขาด แล้วยังมีหน้าที่อธิบายให้เราฟังว่าสิ่งที่ทานนั้นคืออะไรบ้าง
สิ่งเดียวที่อยากจะบ่นของมื้อนี้ก็คงเป็นเพียงเรื่องที่เมนูมีหอยเยอะไปหน่อย คือจริงๆก็ไม่ได้ชอบทานขนาดนั้น ทานได้แต่ก็ไม่ต้องเยอะขนาดนี้ก็ได้นะ 555 แต่ก็คงจะเป็นช่วงที่เมนูหอยอร่อยที่สุดแล้วมั้ง? ขี้บ่นเนอะ 555
ที่ชอบสุดก็คงเป็น Nodoguro, Kinmedai Nigiri แล้วก็ หอยเป๋าฮื้อ... เลิฟฟฟฟ
ก็หวังว่าจะชอบรีวิวนี้กันนะคะ
ไว้คราวหน้าไปร้านไหนดีๆจะมาแนะนำกันอีกค่ะ : )
ราคา: 6,500 ++ ต่อคน
CREDITS:
Photos taken by: www.instagram.com/sittipas
ติดตามกันได้ที่เวปนี้เลย เป็นรีวิวเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษนะ
www.littlebigtummy.com
www.instagram.com/littlebigtummy
. ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . ` . . ` . `
Tama Sushi, M/F, Piman 49, 46/10 Sukhumvit Soi 49, Bangkok, Thailand
เวลาทำการ: Tue-Sun 6-10:30pm
โทร: 091-871-0666
www.facebook.com/tamasushibangkok
อาหาร: ญี่ปุ่น
ที่จอดรถ: มี
สถานีรถไฟฟ้า: BTS พร้อมพงศ์