ทรัมพ์ลดภาษีเลิกระเบียบของรัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เรากลับขึ้นภาษีบ้าน เพิ่มภาษีน้ำมัน บริหารประเทศมักง่ายไปเปล่า??

รัฐบาล  เมกาเค้าก็เห็นแล้วว่าการเก็บภาษีมากๆ การตั้งระเบียบต่างๆที่ไม่เอื้อต่อการทำธุรกิจ
มันทำให้บริษัทย้ายออกไปตั้งในประเทศอื่นๆกันมาก  ทรัมพ์จึงประกาศลดภาษีทั้งของบริษัทและของ
ภาคเอกชน เมื่อวันก่อนก็อนุมัติการวางท่อน้ำมันดาโกต้าไลน์และฯลฯ  เฉพาะเรื่องท่อส่งน้ำมันอย่าง
เดียวก็จะทำให้เกิดการสร้างงานอีก ๒๘๐๐๐ ตำแหน่ง จะเป็นผลให้จีดีพีเมกาเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า ๓ หมื่นล้าน
เหรียญสหรัฐ

ทำไมภาครัฐของเราจึงมองไม่เห็นหรือว่า การที่รัฐบาลลดภาษียกเลิกกฏระเบียบที่ยุ่งเหยิงซับซ้อน
มันจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น  ผมมองว่าข้าราชการ รวมทั้งรัฐบาล พยายามชักจูงให้คนมาลงทุนเพื่อให้
เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้น  แต่ข้าราชการบางคนที่ไม่เอาไหน พยายามชงให้มีการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น
ทั้งภาษีที่อยู่อาศัย  ปีก่อนนี่ก็เพิ่มภาษีน้ำมันดีเซลไประลอกนึงแล้ว ทั้งๆที่ความจริงไม่ต้องขึ้นก็ได้
การไม่ขึ้นภาษีน้ำมันทำให้คนมีเงินเหลือในกระเป๋ามากขึ้นมันก็เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอยู่ในตัวอยู่แล้ว

มาปีนี้หยกๆนี่ก็เพิ่งจะประกาศจะเพิ่มภาษีน้ำมันเครื่องบินซะอีก  อยากจะขอตำหนิรัฐบาลและส่วนภาค
ราชการเลยนะครับว่าการประกาศขึ้นภาษีโน่นนี่เรื่อยๆในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้เป็นการบริหารที่ไม่ได้เรื่อง  

การที่คุณสมคิดคุยว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจนั้นดีขึ้นผมมองเห็นตัวเลขด้วยจริง  แต่เศรษฐกิจมันดีขึ้นแบบ
ไม่ครบวงจร เพราะมันดีขึ้นจากโครงการต่างๆที่รัฐบาลสนับสนุนเท่านั้น  ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่มี
เกษตรกรอยู่เป็นจำนวนมาก  หากเศรษฐกิจจะดีทุกภาคส่วนจริง มันต้องเริ่มมาจากรากหญ้า  ถ้าราคาพืช
ผลทางการเกษตรต่างๆดีขึ้น  อย่างเช่นช่วงนี้ราคายางดีขึ้น ตัวเลขโดยรวมเศรษฐกิจมันก็จะดีขึ้นบ้างใน
ส่วนของเกษตรกรสวนยาง  เพราะรากหญ้ามีเงินก็จะเอาไปซื้อของมากขึ้น ค้าปลีกดีขึ้น  ยานยนต์ดีขึ้น ฯลฯ
มันก็จะไปทำให้เศรษฐกิจโดยรวมทั้งหมดทุกๆภาคอุตสาหกรรมดีขึ้นจริงๆ  เพราะเริ่มดีจากรากหญ้า
มิใช่ดีในส่วนที่ภาครัฐกระตุ้นเท่านั้น

รัฐบาลและภาครัฐไม่ควรซ้ำเติมประชาชนและผู้บริโภคในช่วงเวลาแบบนี้  เพราะถึงแม้ตัวเลขทางเศรษฐกิจ
จะดูดีขึ้นก็จริง แต่ดีในภาคที่รัฐบาลกำลังมีโครงการต่างๆอยู่เท่านั้น  มิได้ดีทั้งหมดโดยเฉพาะภาคการเกษตร
ไม่ได้ดีขึ้นจริง นี่ดูจากราคาพืชผลการเกษตรโดยเฉพาะข้าว

ส่วนท่านสมคิดนี่ผมก็ทราบว่าท่านเป็นคนความรู้เยอะ  แต่ผมเบื่อปาฐกถาของท่านเหลือเกิน ท่านพูดๆๆมา
ผมก็รู้ทั้งนั้นแหละครับ  แต่รัฐบาลไม่เห็นลงมืออะไร  ประกาศอะไรออกมาหลายๆอย่างก็ทำให้บรรยากาศการ
ลงทุนเสียซะหมด ไม่เคยได้ยินคำว่า government deregulation บ้างหรือไงครับ??

ปีก่อนก็ได้ข่าวการปิดเหมืองทองคำ ทั้งๆที่เค้าก็แจงกันออกมาเห็นจะจะว่าไม่ได้เกิดมลพิษ  การไม่สนใจธุรกิจที่มี
อยู่แล้ว และยังทำให้ธุรกิจที่มีอยู่แล้วต้องหยุดกิจการนี่ ผมว่ามันไม่น่าจะเป็นการสงเสริมธุรกิจ  น่าจะมีการสอบสวน
ให้ชัดเจนว่าสิ่งที่บริษัทเค้าให้ข้อมูลมาถูกต้องหรือไม่  ถ้ามีหรือมีผลเสียน้อยก็ยกเลิก และให้เค้ากลับมาทำต่อได้
จะได้มีการจ้างงาน ไม่ใช่จู่ๆประกาศบริษัทเค้าก็ต้องเลิกจ้างคนงาน ถึงจะจ่ายชดเชย แต่ตรงนี้ก็มองเห็นว่าเป็น
ความเสียหายต่อเศรษฐกิจเพราะการจ้างงานลดลงการส่งออกจากผลผลิตในส่วนนี้ก็ลดลง

อยากจะฝากท่านสมคิดนะครับ อยากให้ท่านสมคิดเอากลับไปปรึกษาท่านตู่นะครับ  ถ้าคิดอะไรไม่ออก
ก็พยายามทำเลียนแบบทรัมพ์หน่อยก็ได้ครับ  Deregulation ซะ  ธุรกิจอุตสาหกรรมไหนเค้าจะย้ายหนี
ก็ให้หาวิธีให้เค้าอยู่ แบบที่ทรัมพ์กำลังทำอยู่นะครับ  

ดูทรัมพ์เพิ่งสาบาณตนเข้ารับตำแหน่งไม่ถึงอาทิตย์นึงดีเค้าทำอะไรไป แล้วมากมายและทำอะไรที่เป็นการรักษา
ธุรกิจเพื่อรักษาตำแหน่งงานและเพิ่มงานให้กับประเทศของเค้าอย่างไม่เคยมีมาก่อน

ปธน ทรัมพ์ ท่านพุดว่าไอ้คนประเภท All talks no action นี่มัน price less จริงๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่