ยังไม่มีเรื่องตั้งกำแพงภาษี
โดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มต้นสุนทรพจน์ในพิธีสาบานตนเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2025 ว่า “ยุคทองของอเมริกาเริ่มต้นขึ้นแล้ว” และบอกว่า กลับมาเพื่อสานต่อนโยบายอเมริกาต้องมาก่อน (America First) ซึ่งจะทำให้สหรัฐเปี่ยมไปด้วยความมั่นคง ปลอดภัย มีความยุติธรรม ความเจริญรุ่งเรือง และเสรีภาพ
ทรัมป์กล่าวอ้างเรื่องราวโชคชะตาฟ้าลิขิตว่า ก่อนหน้านี้ตัวเขาต้องเผชิญความท้าทายมากกว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนใดเคยประสบพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นคดีทางกฎหมาย หรือความพยายามลอบสังหาร แต่พระเจ้าก็ได้ช่วยชีวิตเขาจากการถูกลอบสังหาร เพื่อให้เขากลับมาทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ตามสโลแกน “Make America Great Again”
ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐให้คำมั่นสัญญาหลายด้านหลายประการ ทั้งความมั่นคง การต่างประเทศ การป้องกันชายแดน การปราบปรามผู้อพยพ ค่าครองชีพ พลังงาน การดึงการผลิตกลับประเทศ การค้า การสร้างความสงบสุข ฯลฯ
“เราจะเป็นประเทศร่ำรวยอีกครั้ง” ทรัมป์กล่าวถึงความหวังของเขาที่จะให้สหรัฐทำเงินจากอุตสาหกรรมพลังงานแบบดั้งเดิมต่อไป โดยจะหนุนการเพิ่มการผลิตและเพิ่มการส่งออกพลังงาน ก่อนจะกล่าวว่า “Drill Baby, Drill.” ซึ่งประเด็นพลังงานนี้นับเป็นประเด็นที่เรียกเสียงปรบมือได้ดังมากเป็นอันดับต้น ๆ ในบรรดาประเด็นทั้งหมดที่ทรัมป์กล่าว
ในด้านการค้า ทรัมป์บอกว่าจะใช้ระบบการค้าที่ปกป้องแรงงานชาวอเมริกันและทำให้ชาวอเมริกันร่ำรวยขึ้น
“แทนที่จะเก็บภาษีพลเมืองของเราเพื่อทำให้ประเทศอื่นร่ำรวยขึ้น เราจะเก็บภาษีศุลกากรและเก็บภาษีเงินได้จาก [บริษัท] ต่างประเทศ เพื่อทำให้พลเมืองของเราร่ำรวยขึ้น” ส่วนหนึ่งในสุนทรพจน์ของทรัมป์ที่ถือว่าจับใจชาวอเมริกัน
หลังพิธีสาบานตน ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร (Executive Order) จำนวนมาก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นการสั่งเพิกถอนคำสั่งฝ่ายบริหารของ โจ ไบเดน (Joe Biden) ไปถึง 78 ฉบับ
“ประชาชาติธุรกิจ” สรุปตัวอย่างคำสั่งฝ่ายบริหารที่สำคัญหรือส่งผลกระทบต่อนานาชาติ ดังนี้
1.ถอนสหรัฐออกจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ยุติรายจ่ายที่เป็นภาระและไม่เป็นธรรมต่อสหรัฐอเมริกา ยกเลิกการเจรจาข้อตกลงว่าด้วยโรคระบาด (Pandemic Agreement) และการแปรญัตติกฎอนามัยระหว่างประเทศ (International Health Regulations)
2.เลื่อนการบังคับใช้ “รัฐบัญญัติปกป้องชาวอเมริกันจากแอปพลิเคชันที่ควบคุมโดยปรปักษ์ต่างชาติ” (Protecting Americans from Foreign Adversary Controlled Applications Act) กับบริษัทย่อยของไบต์แดนซ์ (ByteDance) ที่ดำเนินงานติ๊กต็อก (TikTok) ในสหรัฐออกไป 75 วันนับจากวันประกาศ
3.ใช้นโยบาย America First หรือให้ความสำคัญกับอเมริกาเป็นอันดับแรกกับทุกข้อตกลงด้านสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ (International Environment Agreement) โดยจะถอนสหรัฐออกจากความตกลงปารีส (Paris Agreement) และข้อตกลง ความตกลง หรือพันธกรณีอื่นที่คล้ายคลึงกันภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC)
4.บรรเทาวิกฤติค่าครองชีพ สั่งหัวหน้าฝ่ายบริหารและหน่วยงานทั้งหมดให้บรรเทาค่าใช้จ่ายฉุกเฉินแก่ประชาชนชาวอเมริกัน ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายฉบับอื่น ๆ เช่น ลดค่าใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัย และเพิ่มอุปทานที่อยู่อาศัย ลดต้นทุนด้านสาธารณะสุข ยกเลิกระเบียบที่เพิ่มต้นทุนเครื่องใช้ในบ้าน เช่น เงื่อนไขด้านสิ่งแวดล้อม
5.ระงับการสรรหาบุคคลากรภาครัฐ ยกเว้นกองทัพและแผนกตรวจคนเข้าเมือง และผู้อำนวยการสำนักบริหารงบประมาณ (OMB) ต้องส่งแผนลดขนาดพนักงานภาครัฐภายใน 90 วันหลังการประกาศ ผ่านการปรึกษากับผู้อำนวยการสำนักบริหารบุคคล (OPM) และผู้ดูแลกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE)
6.ห้ามการส่งระเบียบใด ๆ ไปยังสำนักงานทะเบียนรัฐบาลกลาง (Office of the Federal Register) ก่อนที่ประธานาธิบดีและหัวหน้ากระทรวงและหน่วยงานต่าง ๆ จะทบทวนและอนุมัติ รวมถึงถอนกฎใด ๆ ก็ตามที่ส่งไปแล้วแต่ยังไม่ได้เผยแพร่ในทะเบียนรัฐบาลกลาง (Federal Register) เพื่อนำมาทบทวนใหม่ ส่วนกฎที่ประกาศแล้วแต่ยังไม่มีผลบังคับใช้ก็ให้เลื่อนไปอีก 60 วันแทน
7.ฟื้นฟูเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และยุติการเซ็นเซอร์ของภาครัฐ จากข้ออ้างว่าเป็นไปเพื่อรับมือกับ ‘ข้อมูลเท็จ’ บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ
8.ยกเลิกการใช้กฎหมายกวาดล้างศัตรูทางการเมือง
9.ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติที่ชายแดนตอนใต้ของสหรัฐ ให้กองทัพช่วยกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิควบคุมพรมแดนอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อแก้ปัญหาการอพยพเข้าเมืองอย่างไม่ถูกกฎหมาย
10.ประกาศใช้นโยบายการค้าที่ให้ความสำคัญกับอเมริกาเป็นอันดับแรก (America First Trade Policy) หน่วยงานที่รับผิดชอบต้องกำหนดนโยบายการค้าที่ส่งเสริมการลงทุนในประเทศ แก้ไขการค้าที่ไม่เป็นธรรมและไม่สมดุล โดยใช้มาตรการที่เหมาะสม อย่างเช่น ภาษีศุลกากร
11.ปลดปล่อยพลังของอเมริกา ฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ โดยส่งเสริมการสำรวจและผลิตพลังงานและแร่ธรรมชาติ ยกเลิกกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาแหล่งพลังงานในประเทศ ยกเลิกข้อกำหนดที่เป็นภาระของพลเมือง เช่นข้อกำหนดสัดส่วนการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และส่งเสริมให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการอุปโภค-บริโภคอย่างแท้จริง
12.ปรับโครงสร้างโครงการรับผู้ลี้ภัยของสหรัฐ (USRAP) ใหม่ และระงับการรับผู้ลี้ภัยผ่าน USRAP จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าการเข้าสู่สหรัฐอเมริกาของผู้ลี้ภัยจะสอดคล้องกับผลประโยชน์ของสหรัฐ
13.ยกเลิกการให้สถานะพลเมืองอเมริกันโดยกำเนิด เด็กที่เกิดในสหรัฐอเมริกาแต่เกิดจากพ่อและแม่ที่ไม่ใช่พลเมืองอเมริกัน จะไม่ได้สถานะพลเมืองโดยกำเนิดอีกต่อไป
14.เพิ่มการรักษาความปลอดภัยชายแดน โดยสร้างกำแพงและสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ที่มีการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่และการใช้เทคโนโลยี เพื่อขัดขวางและป้องกันการเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย และดำเนินการเนรเทศผู้ลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย โดยมีกระบวนการคุมขังระหว่างรอส่งตัวออกจากประเทศ
15.ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานระดับชาติ เพื่อเร่งให้มีการผลิตพลังงานเพียงพอต่อความต้องการในประเทศ และแก้ปัญหาราคาพลังงานที่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อชาวอเมริกัน
16.เพิกถอนการเช่าพื้นที่ทำฟาร์มพลังงานลมในพื้นที่ไหล่ทวีปนอกชายฝั่ง (OCS)
17.ลดการให้ความช่วยเหลือต่างประเทศ โดยจะหยุดให้ความช่วยเหลือต่างประเทศที่ไม่สอดคล้องกับนโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีสหรัฐ 90 วันเพื่อประเมินประสิทธิภาพโครงการและความสอดคล้องกับนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐว่าควรได้รับการช่วยเหลือต่อไปหรือไม่
18.ออกบันทึกความเข้าใจทวงคืนอำนาจอธิปไตยและความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยการชี้แจงว่า ว่าข้อตกลงภาษีสากล (Global Tax Deal) ที่ผลักดันโดยองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ไม่มีผลบังคับในสหรัฐอเมริกา เว้นแต่รัฐสภาจะออกกฎหมายรับรองบทบัญญัติที่เกี่ยวข้อง และสั่งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้แทนถาวรสหรัฐประจำ OECD ชี้แจงเรื่องนี้ต่อ OECD
19.เข้มงวดการให้วีซ่าเข้าประเทศ เพื่อให้แน่ใจว่าคนต่างชาติที่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศจะไม่มีเจตนาทำร้ายชาวอเมริกันหรือผลประโยชน์ของสหรัฐอเมริกา
20.สั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศดำเนินนโยบายต่างประเทศที่ให้ความสำคัญกับอเมริกาเป็นอันดับแรก และออกแนวทางปฏิบัติที่สอดคล้องโดยเร็วที่สุด...
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ :
https://www.prachachat.net/world-news/news-1738697
สรุป 20 คำสั่งสำคัญของ ‘ทรัมป์’ ในวันแรกที่กลับมานั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐ
โดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มต้นสุนทรพจน์ในพิธีสาบานตนเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2025 ว่า “ยุคทองของอเมริกาเริ่มต้นขึ้นแล้ว” และบอกว่า กลับมาเพื่อสานต่อนโยบายอเมริกาต้องมาก่อน (America First) ซึ่งจะทำให้สหรัฐเปี่ยมไปด้วยความมั่นคง ปลอดภัย มีความยุติธรรม ความเจริญรุ่งเรือง และเสรีภาพ
ทรัมป์กล่าวอ้างเรื่องราวโชคชะตาฟ้าลิขิตว่า ก่อนหน้านี้ตัวเขาต้องเผชิญความท้าทายมากกว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนใดเคยประสบพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นคดีทางกฎหมาย หรือความพยายามลอบสังหาร แต่พระเจ้าก็ได้ช่วยชีวิตเขาจากการถูกลอบสังหาร เพื่อให้เขากลับมาทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ตามสโลแกน “Make America Great Again”
ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐให้คำมั่นสัญญาหลายด้านหลายประการ ทั้งความมั่นคง การต่างประเทศ การป้องกันชายแดน การปราบปรามผู้อพยพ ค่าครองชีพ พลังงาน การดึงการผลิตกลับประเทศ การค้า การสร้างความสงบสุข ฯลฯ
“เราจะเป็นประเทศร่ำรวยอีกครั้ง” ทรัมป์กล่าวถึงความหวังของเขาที่จะให้สหรัฐทำเงินจากอุตสาหกรรมพลังงานแบบดั้งเดิมต่อไป โดยจะหนุนการเพิ่มการผลิตและเพิ่มการส่งออกพลังงาน ก่อนจะกล่าวว่า “Drill Baby, Drill.” ซึ่งประเด็นพลังงานนี้นับเป็นประเด็นที่เรียกเสียงปรบมือได้ดังมากเป็นอันดับต้น ๆ ในบรรดาประเด็นทั้งหมดที่ทรัมป์กล่าว
ในด้านการค้า ทรัมป์บอกว่าจะใช้ระบบการค้าที่ปกป้องแรงงานชาวอเมริกันและทำให้ชาวอเมริกันร่ำรวยขึ้น
“แทนที่จะเก็บภาษีพลเมืองของเราเพื่อทำให้ประเทศอื่นร่ำรวยขึ้น เราจะเก็บภาษีศุลกากรและเก็บภาษีเงินได้จาก [บริษัท] ต่างประเทศ เพื่อทำให้พลเมืองของเราร่ำรวยขึ้น” ส่วนหนึ่งในสุนทรพจน์ของทรัมป์ที่ถือว่าจับใจชาวอเมริกัน
หลังพิธีสาบานตน ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร (Executive Order) จำนวนมาก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นการสั่งเพิกถอนคำสั่งฝ่ายบริหารของ โจ ไบเดน (Joe Biden) ไปถึง 78 ฉบับ
“ประชาชาติธุรกิจ” สรุปตัวอย่างคำสั่งฝ่ายบริหารที่สำคัญหรือส่งผลกระทบต่อนานาชาติ ดังนี้
1.ถอนสหรัฐออกจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ยุติรายจ่ายที่เป็นภาระและไม่เป็นธรรมต่อสหรัฐอเมริกา ยกเลิกการเจรจาข้อตกลงว่าด้วยโรคระบาด (Pandemic Agreement) และการแปรญัตติกฎอนามัยระหว่างประเทศ (International Health Regulations)
2.เลื่อนการบังคับใช้ “รัฐบัญญัติปกป้องชาวอเมริกันจากแอปพลิเคชันที่ควบคุมโดยปรปักษ์ต่างชาติ” (Protecting Americans from Foreign Adversary Controlled Applications Act) กับบริษัทย่อยของไบต์แดนซ์ (ByteDance) ที่ดำเนินงานติ๊กต็อก (TikTok) ในสหรัฐออกไป 75 วันนับจากวันประกาศ
3.ใช้นโยบาย America First หรือให้ความสำคัญกับอเมริกาเป็นอันดับแรกกับทุกข้อตกลงด้านสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ (International Environment Agreement) โดยจะถอนสหรัฐออกจากความตกลงปารีส (Paris Agreement) และข้อตกลง ความตกลง หรือพันธกรณีอื่นที่คล้ายคลึงกันภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC)
4.บรรเทาวิกฤติค่าครองชีพ สั่งหัวหน้าฝ่ายบริหารและหน่วยงานทั้งหมดให้บรรเทาค่าใช้จ่ายฉุกเฉินแก่ประชาชนชาวอเมริกัน ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายฉบับอื่น ๆ เช่น ลดค่าใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัย และเพิ่มอุปทานที่อยู่อาศัย ลดต้นทุนด้านสาธารณะสุข ยกเลิกระเบียบที่เพิ่มต้นทุนเครื่องใช้ในบ้าน เช่น เงื่อนไขด้านสิ่งแวดล้อม
5.ระงับการสรรหาบุคคลากรภาครัฐ ยกเว้นกองทัพและแผนกตรวจคนเข้าเมือง และผู้อำนวยการสำนักบริหารงบประมาณ (OMB) ต้องส่งแผนลดขนาดพนักงานภาครัฐภายใน 90 วันหลังการประกาศ ผ่านการปรึกษากับผู้อำนวยการสำนักบริหารบุคคล (OPM) และผู้ดูแลกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE)
6.ห้ามการส่งระเบียบใด ๆ ไปยังสำนักงานทะเบียนรัฐบาลกลาง (Office of the Federal Register) ก่อนที่ประธานาธิบดีและหัวหน้ากระทรวงและหน่วยงานต่าง ๆ จะทบทวนและอนุมัติ รวมถึงถอนกฎใด ๆ ก็ตามที่ส่งไปแล้วแต่ยังไม่ได้เผยแพร่ในทะเบียนรัฐบาลกลาง (Federal Register) เพื่อนำมาทบทวนใหม่ ส่วนกฎที่ประกาศแล้วแต่ยังไม่มีผลบังคับใช้ก็ให้เลื่อนไปอีก 60 วันแทน
7.ฟื้นฟูเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และยุติการเซ็นเซอร์ของภาครัฐ จากข้ออ้างว่าเป็นไปเพื่อรับมือกับ ‘ข้อมูลเท็จ’ บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ
8.ยกเลิกการใช้กฎหมายกวาดล้างศัตรูทางการเมือง
9.ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติที่ชายแดนตอนใต้ของสหรัฐ ให้กองทัพช่วยกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิควบคุมพรมแดนอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อแก้ปัญหาการอพยพเข้าเมืองอย่างไม่ถูกกฎหมาย
10.ประกาศใช้นโยบายการค้าที่ให้ความสำคัญกับอเมริกาเป็นอันดับแรก (America First Trade Policy) หน่วยงานที่รับผิดชอบต้องกำหนดนโยบายการค้าที่ส่งเสริมการลงทุนในประเทศ แก้ไขการค้าที่ไม่เป็นธรรมและไม่สมดุล โดยใช้มาตรการที่เหมาะสม อย่างเช่น ภาษีศุลกากร
11.ปลดปล่อยพลังของอเมริกา ฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ โดยส่งเสริมการสำรวจและผลิตพลังงานและแร่ธรรมชาติ ยกเลิกกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาแหล่งพลังงานในประเทศ ยกเลิกข้อกำหนดที่เป็นภาระของพลเมือง เช่นข้อกำหนดสัดส่วนการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และส่งเสริมให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการอุปโภค-บริโภคอย่างแท้จริง
12.ปรับโครงสร้างโครงการรับผู้ลี้ภัยของสหรัฐ (USRAP) ใหม่ และระงับการรับผู้ลี้ภัยผ่าน USRAP จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าการเข้าสู่สหรัฐอเมริกาของผู้ลี้ภัยจะสอดคล้องกับผลประโยชน์ของสหรัฐ
13.ยกเลิกการให้สถานะพลเมืองอเมริกันโดยกำเนิด เด็กที่เกิดในสหรัฐอเมริกาแต่เกิดจากพ่อและแม่ที่ไม่ใช่พลเมืองอเมริกัน จะไม่ได้สถานะพลเมืองโดยกำเนิดอีกต่อไป
14.เพิ่มการรักษาความปลอดภัยชายแดน โดยสร้างกำแพงและสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ที่มีการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่และการใช้เทคโนโลยี เพื่อขัดขวางและป้องกันการเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย และดำเนินการเนรเทศผู้ลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย โดยมีกระบวนการคุมขังระหว่างรอส่งตัวออกจากประเทศ
15.ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานระดับชาติ เพื่อเร่งให้มีการผลิตพลังงานเพียงพอต่อความต้องการในประเทศ และแก้ปัญหาราคาพลังงานที่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อชาวอเมริกัน
16.เพิกถอนการเช่าพื้นที่ทำฟาร์มพลังงานลมในพื้นที่ไหล่ทวีปนอกชายฝั่ง (OCS)
17.ลดการให้ความช่วยเหลือต่างประเทศ โดยจะหยุดให้ความช่วยเหลือต่างประเทศที่ไม่สอดคล้องกับนโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีสหรัฐ 90 วันเพื่อประเมินประสิทธิภาพโครงการและความสอดคล้องกับนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐว่าควรได้รับการช่วยเหลือต่อไปหรือไม่
18.ออกบันทึกความเข้าใจทวงคืนอำนาจอธิปไตยและความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยการชี้แจงว่า ว่าข้อตกลงภาษีสากล (Global Tax Deal) ที่ผลักดันโดยองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ไม่มีผลบังคับในสหรัฐอเมริกา เว้นแต่รัฐสภาจะออกกฎหมายรับรองบทบัญญัติที่เกี่ยวข้อง และสั่งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้แทนถาวรสหรัฐประจำ OECD ชี้แจงเรื่องนี้ต่อ OECD
19.เข้มงวดการให้วีซ่าเข้าประเทศ เพื่อให้แน่ใจว่าคนต่างชาติที่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศจะไม่มีเจตนาทำร้ายชาวอเมริกันหรือผลประโยชน์ของสหรัฐอเมริกา
20.สั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศดำเนินนโยบายต่างประเทศที่ให้ความสำคัญกับอเมริกาเป็นอันดับแรก และออกแนวทางปฏิบัติที่สอดคล้องโดยเร็วที่สุด...
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.prachachat.net/world-news/news-1738697