สำหรับศักราชใหม่นี้ นอกจากแม่มณีจะเขียนถึงเรื่องประกันอย่างสม่ำเสมอ แม่มณียังจะขอเสนอซีรีส์ใหม่โชว์สกิลปลายจวัก ผัวรักผัวหลงยิ่งกว่าอีรำพึงทำเสน่ห์ กายเป็นของกรู ใจเป็นของกรู กินอาหารกรู เสน่หาเพียงกรู อย่ารอช้า เริ่มต้นจากเมนูแรกเปิดประเดิมด้วย “น้ำพริกกะปิผัวตะลึง” ตึง ตึง โป๊ะ
สำหรับเมนูน้ำพริกนั้นอยู่คู่ประเทศสยามมาตั้งแต่ยังไม่มีสยามเซ็นเตอร์ แท้จริงแล้วเป็นเมนูเซอร์ ๆ ของชาวไทย ใคร ๆ ก็ทำได้ แต่การจะทำให้ผัวตะลึงนั้นไซร้ ต้องอาศัยการจัดจานเล็ก ๆ น้อย ๆ และการแกะสลักขั้นอนุบาลที่ใช้มีดปอกผลไม้ปลายแหลมธรรมดา แต่ให้ผลลัพธ์อันน่ามหัศจรรย์ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ แน่นอนจะตำน้ำพริกต้องใช้ครกสาก ไม่ได้อยากเรื่องมากแต่เครื่องปั่นมันแทนกันไม่ได้จริง ๆ นะเจ้าคะ นอกจากนั้นก็มีมีดปอกผลไม้ปลายแหลมอีกสักเล่มไว้เพื่อแกะเครื่องผักสด กระทะและน้ำมันสำหรับเครื่องทอด เท่านี้ก็รอดแล้วเจ้าค่ะ อ้อ อย่าลืมเตรียมผัว หรือว่าที่ผัวไว้ตะลึงด้วย
การตำน้ำพริกกะปิสูตรผัวตะลึงนั้น เริ่มด้วยกระเทียมไทยประมาณหยิบมือ หยิบ ๆ มาเหอะ สิบกว่าเม็ด จะมาเอาเป๊ะ ๆ จากแม่มณีได้จั้งได๋ ใส่ลงครกแล้วตำไปซักประมาณ 150-200 ตุ๊บ จะได้กระเทียมที่แหลกลาญบานสะพรั่ง เมื่อเห็นดังนั้นให้นำกะปิอย่างดีห่อใบตองแล้วปิ้งไฟย่างบนกระทะเทฟลอนให้สมกับยุคสมัย ไม่ต้องใช้กระทะ Korea King ใบตองก็ไม่ติดกระทะอยู่แล้ว ปาดกะปิใส่ลงไปไม่ต้องมาก ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะกว่า ๆ มากเกินน้ำพริกจะเป็นขี้โคลนคลัก ๆ ผัวจะตะลึงไปคนละทาง ตำต่อไปอีก 50 ตุ๊บ จนกะปิเป็นเพื่อนกลมเกลียวกันกับกระเทียม เติมน้ำตาลปี๊บซักครึ่งช้อนโต๊ะ กะปิอาจเปลี่ยนเป็นสีแดง ๆ ไม่ต้องตกใจ มันเป็นไปตามหลักเคมี หลังจากนี้ไซร้เป็นเวลาบุบเครื่อง ใส่มะเขือพวงลงไป ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บ มะอึกซอย (หาไม่ได้ก็ไม่ต้องใส่ แต่ถ้าหาได้น้ำพริกจะมีเนื้อและสีสันสวยงามชวนตะลึง เปรียบประหนึ่งอายิโนะโมโต๊ะออร์แกนิคสำหรับน้ำพริกเลยทีเดียว ใส่รูปไว้ให้ เผื่อใครไม่รู้จัก) ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บ
พริกขี้หนูสวนแดงเขียวใส่ไปให้ละลานตา ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บ สูตรชาววังจุฑาเทพที่แม่มณีเป็นสะใภ้ จะไม่ตำพริกให้แหลกลาญ แค่บุบ ๆ ลอยเกลื่อนกลาด ใครใคร่กินเผ็ดตักพริกไปกินเอง หลังจากนั้นก็วางสาก อย่า ๆ อย่าเพิ่งชิม หล่อนยังมิได้ปรุงเปรี้ยว เค็มเลย ที่ใส่มะนาวกับน้ำปลาทีหลังมีเหตุผลซับซ้อน ใส่ไปตั้งแต่แรกตอนตำเครื่องน้ำก็กระเด็นซิ โธ่ ใส่น้ำปลาและน้ำมะนาวตามชอบ ใช้ช้อนคนให้เข้ากัน อย่าใช้ตะเกียบมันจะคนยาก หากเห็นว่าน้ำพริกข้นเกินไปดูไม่แพง ให้เติมน้ำสุกอุ่นลงไปได้ไม่ผิดกติกา การปรุงน้ำพริกไม่นิยมใช้ตัวช่วย เช่น คนอร์ รสทิพย์ อายิโนะโมโต๊ะ อย่าลองเลยแม่มณีขอ
ทีนี้มาถึงการเตรียมเครื่อง สูตรวังจุฑาเทพฉบับย่อ จะแบ่งเป็นเครื่องผักสด และเครื่องทอด นอกจากจะเลือกที่กินอร่อยเป็นเพื่อนกันกับน้ำพริกแล้ว ยังต้องเลือกสีสันอันเป็นอาหารตาอีกด้วย หากคิดไม่ออก เลือกตามแม่มณีเถิดจะเกิดผล ดูวิธีทำตามภาพปลากรอบโลด
พริกชี้ฟ้า ใช้มีดกรีดเป็น 5 แฉก เอาเม็ดออก ใช้มีดเฉือนเนื้อในพริกออกให้บาง เอาแช่น้ำไว้ มันจะม้วนงอเป็นดอกไม้ ง่ายไม่ต้องใช้ฝีมือ
กระชายเอามีดขูดเปลือกออก ค่อย ๆ ฝานเนื้อเป็นกลีบทีละกลีบจากด้านนอกเข้าด้านใน กลายเป็นดอกจำปี เบามือสุด ๆ หาไม่กลีบหัก ใช้ฝีมือขึ้นมา 1 เลเวล
แตงกวา หนึ่งลูกแบ่งตามภาพ ได้เป็นใบ 4 ใบ เป็นห่วง 1 ห่วง ทั้งจานใช้แตงกวา 2 ลูกก็อยู่แล้ว กรีด ๆ แซะ ๆ ได้เป็นใบประดับจาน
ห่วงแตงกวาตรงกลางเอามาแกะซิกแซกแค่ด้านเดียว ใช้เป็นห่วงชุบตัวสายบัวจากโคลนตมให้ดูดีมีชาติตระกูล
ต่อด้วยเครื่องทอด จะใช้เป็นปลาทูทอดสักตัว หรือ ชะอมชุบไข่ก็ได้ วิธีทำง่ายดาย รูดชะอมซักหยิบมืออีกละ ตอกไข่ใส่ลงไปหนึ่งฟอง ตีให้พอเข้ากัน ไม่ต้องปรุงเค็ม เดี๋ยวจะไปขโมยซีนน้ำพริก ลงทอดในกระทะให้เป็นแผ่น ช้อนขึ้นตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ดูดีมีอันจะกิน
เมื่อนำมาทุกอย่างเรียงร้อยกันอย่างมีศิลปะ แล้วก็จะได้น้ำพริกกะปิผัวตะลึง แม่มณีเห็นขายกันตามห้างชุดนึงราคาเป็นร้อย บางที่ไม่อร่อยอีกต่างหาก แบ่งเวลาจากการเช็คไลน์ อ่านเฟส มาตำเองปรุงเองยามว่าง อร่อยตา อร่อยปาก สามีก้นถึงฟาก ปากถึงข้าว ติดบ้านเป็นแมวโดนตอนเลยทีเดียว แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงเพียงใด เป็นหญิงหัดทำอาหารไว้ก็มิเสียหายหรอกจริงมั้ยเจ้าคะ
แม่มณี..เมนูผัวตะลึง (น้ำพริกผัวตะลึง) โดย เเม่มณี Ms.Many
สำหรับศักราชใหม่นี้ นอกจากแม่มณีจะเขียนถึงเรื่องประกันอย่างสม่ำเสมอ แม่มณียังจะขอเสนอซีรีส์ใหม่โชว์สกิลปลายจวัก ผัวรักผัวหลงยิ่งกว่าอีรำพึงทำเสน่ห์ กายเป็นของกรู ใจเป็นของกรู กินอาหารกรู เสน่หาเพียงกรู อย่ารอช้า เริ่มต้นจากเมนูแรกเปิดประเดิมด้วย “น้ำพริกกะปิผัวตะลึง” ตึง ตึง โป๊ะ
สำหรับเมนูน้ำพริกนั้นอยู่คู่ประเทศสยามมาตั้งแต่ยังไม่มีสยามเซ็นเตอร์ แท้จริงแล้วเป็นเมนูเซอร์ ๆ ของชาวไทย ใคร ๆ ก็ทำได้ แต่การจะทำให้ผัวตะลึงนั้นไซร้ ต้องอาศัยการจัดจานเล็ก ๆ น้อย ๆ และการแกะสลักขั้นอนุบาลที่ใช้มีดปอกผลไม้ปลายแหลมธรรมดา แต่ให้ผลลัพธ์อันน่ามหัศจรรย์ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ แน่นอนจะตำน้ำพริกต้องใช้ครกสาก ไม่ได้อยากเรื่องมากแต่เครื่องปั่นมันแทนกันไม่ได้จริง ๆ นะเจ้าคะ นอกจากนั้นก็มีมีดปอกผลไม้ปลายแหลมอีกสักเล่มไว้เพื่อแกะเครื่องผักสด กระทะและน้ำมันสำหรับเครื่องทอด เท่านี้ก็รอดแล้วเจ้าค่ะ อ้อ อย่าลืมเตรียมผัว หรือว่าที่ผัวไว้ตะลึงด้วย
การตำน้ำพริกกะปิสูตรผัวตะลึงนั้น เริ่มด้วยกระเทียมไทยประมาณหยิบมือ หยิบ ๆ มาเหอะ สิบกว่าเม็ด จะมาเอาเป๊ะ ๆ จากแม่มณีได้จั้งได๋ ใส่ลงครกแล้วตำไปซักประมาณ 150-200 ตุ๊บ จะได้กระเทียมที่แหลกลาญบานสะพรั่ง เมื่อเห็นดังนั้นให้นำกะปิอย่างดีห่อใบตองแล้วปิ้งไฟย่างบนกระทะเทฟลอนให้สมกับยุคสมัย ไม่ต้องใช้กระทะ Korea King ใบตองก็ไม่ติดกระทะอยู่แล้ว ปาดกะปิใส่ลงไปไม่ต้องมาก ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะกว่า ๆ มากเกินน้ำพริกจะเป็นขี้โคลนคลัก ๆ ผัวจะตะลึงไปคนละทาง ตำต่อไปอีก 50 ตุ๊บ จนกะปิเป็นเพื่อนกลมเกลียวกันกับกระเทียม เติมน้ำตาลปี๊บซักครึ่งช้อนโต๊ะ กะปิอาจเปลี่ยนเป็นสีแดง ๆ ไม่ต้องตกใจ มันเป็นไปตามหลักเคมี หลังจากนี้ไซร้เป็นเวลาบุบเครื่อง ใส่มะเขือพวงลงไป ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บ มะอึกซอย (หาไม่ได้ก็ไม่ต้องใส่ แต่ถ้าหาได้น้ำพริกจะมีเนื้อและสีสันสวยงามชวนตะลึง เปรียบประหนึ่งอายิโนะโมโต๊ะออร์แกนิคสำหรับน้ำพริกเลยทีเดียว ใส่รูปไว้ให้ เผื่อใครไม่รู้จัก) ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บ
พริกขี้หนูสวนแดงเขียวใส่ไปให้ละลานตา ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บ สูตรชาววังจุฑาเทพที่แม่มณีเป็นสะใภ้ จะไม่ตำพริกให้แหลกลาญ แค่บุบ ๆ ลอยเกลื่อนกลาด ใครใคร่กินเผ็ดตักพริกไปกินเอง หลังจากนั้นก็วางสาก อย่า ๆ อย่าเพิ่งชิม หล่อนยังมิได้ปรุงเปรี้ยว เค็มเลย ที่ใส่มะนาวกับน้ำปลาทีหลังมีเหตุผลซับซ้อน ใส่ไปตั้งแต่แรกตอนตำเครื่องน้ำก็กระเด็นซิ โธ่ ใส่น้ำปลาและน้ำมะนาวตามชอบ ใช้ช้อนคนให้เข้ากัน อย่าใช้ตะเกียบมันจะคนยาก หากเห็นว่าน้ำพริกข้นเกินไปดูไม่แพง ให้เติมน้ำสุกอุ่นลงไปได้ไม่ผิดกติกา การปรุงน้ำพริกไม่นิยมใช้ตัวช่วย เช่น คนอร์ รสทิพย์ อายิโนะโมโต๊ะ อย่าลองเลยแม่มณีขอ
ทีนี้มาถึงการเตรียมเครื่อง สูตรวังจุฑาเทพฉบับย่อ จะแบ่งเป็นเครื่องผักสด และเครื่องทอด นอกจากจะเลือกที่กินอร่อยเป็นเพื่อนกันกับน้ำพริกแล้ว ยังต้องเลือกสีสันอันเป็นอาหารตาอีกด้วย หากคิดไม่ออก เลือกตามแม่มณีเถิดจะเกิดผล ดูวิธีทำตามภาพปลากรอบโลด
พริกชี้ฟ้า ใช้มีดกรีดเป็น 5 แฉก เอาเม็ดออก ใช้มีดเฉือนเนื้อในพริกออกให้บาง เอาแช่น้ำไว้ มันจะม้วนงอเป็นดอกไม้ ง่ายไม่ต้องใช้ฝีมือ
กระชายเอามีดขูดเปลือกออก ค่อย ๆ ฝานเนื้อเป็นกลีบทีละกลีบจากด้านนอกเข้าด้านใน กลายเป็นดอกจำปี เบามือสุด ๆ หาไม่กลีบหัก ใช้ฝีมือขึ้นมา 1 เลเวล
แตงกวา หนึ่งลูกแบ่งตามภาพ ได้เป็นใบ 4 ใบ เป็นห่วง 1 ห่วง ทั้งจานใช้แตงกวา 2 ลูกก็อยู่แล้ว กรีด ๆ แซะ ๆ ได้เป็นใบประดับจาน
ห่วงแตงกวาตรงกลางเอามาแกะซิกแซกแค่ด้านเดียว ใช้เป็นห่วงชุบตัวสายบัวจากโคลนตมให้ดูดีมีชาติตระกูล
ต่อด้วยเครื่องทอด จะใช้เป็นปลาทูทอดสักตัว หรือ ชะอมชุบไข่ก็ได้ วิธีทำง่ายดาย รูดชะอมซักหยิบมืออีกละ ตอกไข่ใส่ลงไปหนึ่งฟอง ตีให้พอเข้ากัน ไม่ต้องปรุงเค็ม เดี๋ยวจะไปขโมยซีนน้ำพริก ลงทอดในกระทะให้เป็นแผ่น ช้อนขึ้นตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ดูดีมีอันจะกิน
เมื่อนำมาทุกอย่างเรียงร้อยกันอย่างมีศิลปะ แล้วก็จะได้น้ำพริกกะปิผัวตะลึง แม่มณีเห็นขายกันตามห้างชุดนึงราคาเป็นร้อย บางที่ไม่อร่อยอีกต่างหาก แบ่งเวลาจากการเช็คไลน์ อ่านเฟส มาตำเองปรุงเองยามว่าง อร่อยตา อร่อยปาก สามีก้นถึงฟาก ปากถึงข้าว ติดบ้านเป็นแมวโดนตอนเลยทีเดียว แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงเพียงใด เป็นหญิงหัดทำอาหารไว้ก็มิเสียหายหรอกจริงมั้ยเจ้าคะ