น้ำพริกอ่องสูตรคนกรุง (ภาคกลาง)

น้ำพริกอ่องเป็นอาหารภาคเหนือ โดยปกติคนเหนือจะตำน้ำพริกดังกล่าวโดยไม่มีการใส่น้ำตาลเข้าไปผสมแต่จะใช้ความหวานของมะเขือเทศแทน แต่เนื่องจาก จขกท สังเกตลักษณะการกินของคนภาคกลาง พบว่า ส่วนใหญ่จะนิยมอาหารออกไปทางหวานเป็นหลัก ประกอบกับภรรยาชอบเป็นคนทานอาหารคาวแบบหวาน จึงต้องปรับปรุงให้เหมาะกับรสปากของคนกินเป็นหลักแทน (สรุป เมียชอบกินหวานเลยต้องทำหวาน)

1.วัตถุดิบที่ใช้ สำหรับหมู 1 กิโล
- หมูบด 1 กิโล (ใช้หมูบดซีพี แต่ส่วนตัวคิดว่าหมูบดของเบทาโกรจะมันน้อยกว่าและบดหยาบกว่า ซึ่งเวลาทำออกมาจะให้รสสัมผัสที่ต่างกัน แล้วแต่คนชอบเลยครับ)
- มะเขือส้ม 1 กิโล (ไม่ควรเอามะเขือราชินีหรือมะเขือเทศลูกใหญ่เนื่องจากเคยลองทำดูแล้ว ปรากฏว่าน้ำพริกไม่แฝงรสชาติเปรี้ยวเลย อาจทำให้รสชาติด้อยลงได้ครับ)
- ต้นหอมผักชี ครึ่งมัด 5 บาท (ใช้สำหรับโรยหน้าหลังจากเสร็จ ไม่มีก็ไม่ต้องใส่ก็ได้ครับ)

รูปหมู่รวมครับ


สำหรับทำน้ำพริกตำเอง
- หอมแดง        9    หัวใหญ่
- กระเทียมจีน        1    หัวใหญ่ (ใช้กระเทียมไทยก็ดีครับ เทียบสัดส่วนกันเอง)
- กะปิ                    1    ช้อนโต๊ะ (น้อยหรือมากกว่านี้ก็ได้ ขึ้นกับชนิดกะปิ)
- ถั่วเน่าแผ่น        1-2    แผ่น (แล้วแต่ชอบเลย ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
- เกลือ            0.5    ช้อนชา
- กุ้งแห้ง        1-2    ขีด (ก่อนจะตำกุ้งแห้ง ให้นำกุ้งแห้งใส่น้ำปริ่มกุ้งแล้วนำไปนึ่งเพื่อให้กุ้งนิ่มก่อนครับ)
- พริกแห้ง        6    เม็ด (หากชอบเผ็ด ใส่เพิ่มขึ้นก็ได้ครับ)
- พริกอ่องสำเร็จรูป Lobo จำนวน 1 ซอง
- พริกอ่องแม่น้อย ถุงเล็ก 80 กรัม 1 ซอง

รูปหมู่รวมน้ำพริกครับ


โปรดระวัง สัดส่วนของเครื่องปรุงที่ใช้ อาจไม่เท่ากัน เนื่องจาก กะปิของแต่ละยี่ห้อ ทำเค็มมาไม่เท่ากัน มีครั้งหนึ่งไปเอาสูตรมาจากเวบและใส่ตามนั้น ปรากฏว่าเค็มโคตรๆ นอกนั้นในสูตรนี้ยังเลือกใช้กุ้งแห้งเป็นส่วนผสมลับซึ่งกุ้งแห้งจะมีรสเค็มอยู่แล้ว ดังนั้นจึงต้องระวังในการใส่นิดหนึ่ง หากหัดทำครั้งแรกยังไม่รู้ใจกันดี อาจไม่ต้องตำเกลือใส่ลงไปก็ได้ครับ ค่อยผสมเอาทีหลัง
หมายเหตุ บางคนอาจสงสัยว่าในเมื่อตำน้ำพริกเองแล้วทำไมยังต้องใส่แบบสำเร็จรูปลงไปด้วย เนื่องจากเคยลองตำพริกเองแล้วค่อยๆ ปรุง ค่อยๆ ตะล่อมรสชาติให้ได้อย่างต้องการ ทำยากมากเลย และพอทำมายังไม่ค่อยถูกปากคนกินเท่าไหร่ แต่พอนำพริกอ่องสำเร็จรูปที่มีขายมาผสมรวมกันเข้าไปด้วยแล้ว พบว่าทำให้รสชาติกลมกล่อมขึ้น ปรุงรสให้เข้าอย่างที่ต้องการง่ายขึ้นครับ แต่หากทำโดยใช้พริกสำเร็จรูปอย่างเดียวก็จะขาดส่วนผสมลับคือกุ้งแห้งจำนวนมากนั่นเอง รสที่ได้อาจไม่อร่อยเท่าที่ควร

2. วิธีการทำ
2.1 นำพริกแห้งไปแช่น้ำให้นิ่ม (ประมาณ 10-15 นาที หรือหากกำลังรีบก็ไม่ต้องแช่ก็ได้ครับ แต่ต้องออกแรงเยอะหน่อย) จากนั้นหั่นเป็นท่อนๆ แล้วนำไปโขลกในครก ตามด้วยกระเทียม กุ้งแห้ง หอมแดง ถั่วเน่า กะปิ เกลือ โขลกเข้าด้วยกันแล้วชิมรสดูว่าเค็มมากเกินไปมั๊ย

2.2 หลังจากโขลกเข้ากันดี ก็นำมารวมกับน้ำพริกสำเร็จอีก 2 ชนิดที่เหลือ

2.3 ตั้งกระทะไฟแรง ใส่มันหมูซีพีลงไปเพื่อเตรียมเจียวพริกอ่อง (ให้ใส่เยอะกว่าในรูปนะครับ

2.4 หลังจากมันหมูละลายดีแล้ว ก็เทพริกอ่องทั้ง 3 ลงไปในกระทะ ผัดให้กลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปรอบๆ ขั้นตอนนี้ลดเป็นไฟกลางหรือต่ำได้ (เพราะกลัวว่าพริกอ่องจะไหม้ก่อน)


2.5 หลังจากผัดพริกจนหอมและดูละลายชุ่มฉ่ำดีแล้วก็นำหมู 1 กิโลมาใส่

2.6 ผัดหรือรวนหมูให้ผสมคลุกเคล้ากับพริกอ่องให้ทั่ว

2.7 แหวกหลุมตรงกลางและใส่มะเขือเทศที่ผ่าครึ่งไว้แล้วลงไป

2.8 ผัดๆ รวนๆ ไปสักพักให้มะเขือเทศเละ สังเกตได้จากน้ำมะเขือเทศจะออกมาเยอะมาก


2.9 ตักหมูมาชิม ซึ่งโดยทั่วไปรสจะอ่อนๆ ไม่เค็ม ไม่หวาน
2.10 ใส่น้ำตาลปิ๊บลงไปเพิ่มความหวาน และใส่เกลือและน้ำปลาเพิ่มความเค็ม (หากใครไม่เคยชิมมาก่อน ให้ปรุงรสโดยยึดหลัก เค็มนำ หวานตามแล้วกันครับ

2.11 หากผัดๆ ไปน้ำเริ่มแห้ง อาจใส่น้ำเปล่าไปด้วยก็ได้ นอกจากนี้หากใครเผลอปรุงเค็มเกินไปให้เติมน้ำเยอะๆ เพื่อเจือจางรสเค็มได้ แต่อย่าใส่มากจนกลายเป็นน้ำเงี้ยวนะครับ
2.12 เมื่อผัดเสร็จให้โรยหน้าด้วยผักชีต้นหอมหั่นฝอย


3. เคล็ดลับ
3.1 กุ้งแห้งที่ใส่จะเพิ่มรสชาติแฝงให้พริกอ่องอร่อยไม่เหมือนพริกอ่องทั่วไป
3.2 การใช้พริกอ่องหลายชนิดมาผสมกันจะทำให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมขึ้น (ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่านะครับ แต่ลองแล้วรู้สึกอย่างนี้จริงๆ)
3.3 หากอยากปรับเป็นซอสสปาเก็ตตี้ก็ให้เพิ่มมะเขือส้มเข้าไปมากหน่อยและเติมน้ำมากกว่าเดิมนิดและเคี่ยวให้ผสมกันดี จะได้รีซอสโต้อร่อยๆ มา
3.4 หากอยากกินเป็นน้ำเงี้ยวให้ใส่น้ำซุปและดอกงิ้วลงไปเพิ่มครับ (ขาดเลือดไปนิด ช่างมัน แค่นี้ก็อร่อยแล้ว)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่