[CR] CR : มินิรีวิว ร้านราเม็งในชินจูกุ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ไม่รู้จักชื่อร้าน แต่รู้สึกอร่อยถึงต้องทาน 2 รอบก่อนกลับ

-  สวัสดีครับ พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อนพ้อง มิตรรักแฟนเพลง เอ้ย สมาชิกชาวห้องก้นครัวทุกท่านครับ ใกล้ปีใหม่อีกไม่กี่วัน หลายท่านอาจจะวางแผนไปเที่ยวกันแล้ว หลายท่านก็ต้องทำงานต่อไป (โดยเฉพาะงานบริการ) หลายท่านก็อาจจะฉลองที่บ้าน, ฉลองตามร้านต่างๆ, กลับบ้าน, สวดมนต์ข้ามปีที่วัด ฯลฯ จะอะไรก็แล้วแต่ ก็ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับสิ่งที่ทำนะครับ (ส่วนตัวกระผมนั้น ต้องเข้าเวรที่ทำงานวันที่ 1 ม.ค.61 เศร้าแป๊ป เพราะฉะนั้นคนมีเวร ท่านจึงบอกไว้ว่า “เวร ย่อมระงับด้วยการจ้างเวร ถ้าไม่มีคนรับเวร คนมีเวรก็ต้องเข้าเวร” ส้าา ทู๊)

     -  แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่ได้เที่ยวเลยนะครับ เพราะเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา 18 – 24 ธ.ค.59 กระผมพร้อม ภรรยาและลูกสาว ได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยว ณ ประเทศญี่ปุ่น เป็นเวลา 7 วัน 6 คืน โดยทริปนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่มีผู้ใหญ่ใจดี คือ พี่เขย และพี่สาวของภรรยากระผม ที่ได้กรุณาพาภรรยา ลูกสาว และตัวกระผม ไปเที่ยวด้วยจึงขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ครับ

     -  อารัมภบทมา 2 ย่อหน้าแล้วขอเข้าเรื่องก็แล้วกันครับ ที่จริงทริปไปเที่ยวญี่ปุ่นนี้ เมื่อต้นปีพี่เขยภรรยาผมก็พาไปแล้วรอบนึง คือวันที่ 1 – 7 ม.ค.59 (เส้นทางนาโกย่า – โตเกียว) ถ่ายรูปไว้ว่าจะมารีวิวเป็นบันทึกการเดินทาง แต่ก็ผลัดไปเรื่อย ผลัดไปผลัดมาจนลืมไปแล้วว่าไปไหน กินอะไรไปบ้าง จนมาคราวนี้ก็เลยคิดว่าจะไม่ทำรีวิวดีกว่า แต่ก็ต้องมาเปลี่ยนใจเมื่อได้มีโอกาสไปทานร้านราเม็งอยู่ร้านนึงในโตเกียวครับ

     -  ครั้งนี้เป็นการเดินทาง 7 วัน 6 คืน เส้นทาง โอซาก้า – โตเกียว โดยพวกผมจะอยู่ในโตเกียว 3 วันสุดท้ายโดยก่อนหน้านั้นก็จะเป็นการตะเวนไปในต่างจังหวัดของที่นั่นซึ่งถ้ามีโอกาสและไม่ขี้เกียจก็อาจจะมารีวิวให้ดูกันนะครับ ซึ่งวันที่ผมเข้ามาในโตเกียวนั้นก็เป็นเวลาค่อนข้างเย็นค่ำพอสมควร กรุ๊ปของผมพักที่โรงแรม Shinjuku Prince Hotel ซึ่งก็เป็นที่เดียวกันกับตึกขายของร้อยเยนชื่อดังในย่านนี้แหล่ะครับ ส่วนตัวร้านราเม็งที่ว่านั้นก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล คืออยู่ตรงกันข้ามถนนซอยข้างโรงแรมนั่นเอง เรียกได้ว่าเดินข้ามถนนเลนสวนเล็กๆ ข้างโรงแรมก็เจอร้านเลย กระทู้นี้รูปอาจจะไม่มากเลยตั้งเป็นมินิรีวิวก็แล้วกัน

     -  ร้านนี้ผมไม่รู้จักชื่อร้านนะครับเพราะไม่มีความรู้เป็นภาษาญี่ปุ่น เข้าไปทานครั้งแรกโดยบังเอิญเนื่องจากพวกผมกว่าจะเดินทางมาถึง ก็เริ่มจะค่ำแล้ว (ที่นี่ 5 โมงเย็นฟ้าก็มืดหมดแล้วครับ เวลาจะเร็วกว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมง) ด้วยความที่ว่าทุกคนในทริป 16 ชีวิต นั่งรถมานานมากเลยหิวกันทุกคนเมื่อถึงโรงแรมเช็คอินเข้าโรงแรมเสร็จจึงเริ่มหาร้านอาหารทาน มองฝั่งตรงกันข้ามด้านข้างของโรงแรมเห็นเป็นร้านอาหารหลายๆ ร้านเรียงรายอยู่เลยเดินพากันเดินข้ามถนนไป แต่ด้วยความที่ทั้งกรุ๊ปมี 16 คน ตอนแรกเดินเข้าไปในร้านราเม็งร้านหนึ่งแต่แน่นมาก และโต๊ะมีไม่พอเลยต้องแบ่งเป็น 2 กลุ่ม จนทำให้ผมเห็นร้านนี้ ตัวร้านจะต้องเดินลงไปใต้ดิน ซึ่งสาเหตุที่สนใจเพราะว่ามันดูน่าลึกลับดีครับ


     -  รีวิวครั้งนี้เป็นการทานครั้งที่ 2 ในวันที่ผมต้องเดินทางกลับ กทม. ครับ ซึ่งครั้งแรกที่มาทานนั้นเป็นคืนแรกที่เข้ามาพักที่โตเกียวอย่างที่ได้กล่าวมาในย่อหน้าที่แล้ว ตอนแรกไม่คิดจะรีวิวอะไร แต่ครั้งที่มาครั้งที่ 2 นั้นถ่ายรูปไปก็ทำให้คิดว่าทำไมเราต้องมาทานเป็นครั้งที่ 2 เลยอยากที่จะรีวิวเพื่อเป็นการแบ่งปันประสบการณ์ดีกว่าครับ รูปต่อไปเมื่อเข้าไปที่ร้านแล้วก็จะต้องเดินลงบันไดไป แต่รูปนี้ถ่ายตอนเดินขึ้นนะครับ เพราะไม่ได้ตั้งใจจะรีวิวตั้งแต่ต้นเลยไม่ได้ถ่ายตั้งแต่แรก


     -  ระหว่างทางมีป้ายน่ารักๆ แต่ไม่รู้ว่าเขียนอะไร เซียนภาษาที่อ่านออกมาเล่าให้ฟังบ้างนะครับ


     -  บรรยากาศที่ร้านไม่กล้าถ่ายมาเพราะเกรงว่าจะเป็นการรบกวนลูกค้าท่านอื่นๆ ด้วย แต่ร้านนี้ก็ไม่ได้กว้างอะไรมากครับ มีโต๊ะรวมใหญ่ๆ ขนาดประมาณ 5 – 6  ที่, มีโต๊ะที่บาร์ประมาณ 4 – 5 ที่ และมีโต๊ะสำหรับครอบครัวประมาณ 2 – 3 โต๊ะ บรรยากาศไม่ได้ถ่ายเลยถ่ายเมนูและเครื่องปรุงมาให้ดูครับ


     -  การสั่งอาหารร้านนี้เป็นการสั่งจากเครื่องหยอดเหรียญนะครับ อยากทานอะไรหยอดเหรียญลงไปแล้วจิ้ม ก็จะมีบัตรเล็กๆ เหมือนตั๋วหนัง แล้วก็เอามายื่นให้พนักงานหรือเจ้าของร้าน (ไปครั้งแรกลุงเจ้าของร้านเป็นคนต้อนรับ หน้าตาดูเอาจริงเอาจังแต่ก็ใจดีมาก ส่วนครั้งที่ 2 นั้นเห็นแต่น้องผู้หญิงให้เดาคงเป็นลูกสาวมั้งครับ น่ารักมาก เสียดายที่ผมเกิดเร็วไป อิอิอิ) ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูอีกแล้วลูกค้าค่อนข้างเยอะครับ


     -  และนี่คือสาเหตุที่ทำให้ผมต้องมาร้านนี้ซ้ำก่อนกลับ และอยากที่จะทำรีวิวให้ท่านได้ดู ไม่รู้จักชื่อเอาเป็นว่า ผมขอตั้งชื่อว่า “ราเม็งหมูสามชั้นกรอบซุปมิโสะ ” ก็แล้วกัน เมนูนี้เกิดจากการที่อาจจะสั่งผิดเพราะตอนแรกอยากจะได้เมนูอีกอันที่จะดูเผ็ดกว่า แต่เกิดความไม่มั่นใจเลยถามเจ้าของร้าน เจ้าของร้านก็ชี้มาให้ดูจึงหยอดสั่งไป ซึ่งการสั่งผิดครั้งนั้นก็ทำให้ผมต้องมาซ้ำนี่แหล่ะครับ (ดันอร่อย)


     -  อันนี้เป็นของภรรยาผมครับน่าจะเป็น “ราเม็งหมูชาชู ในน้ำซุปมิโสะ” พร้อมไข่ต้มแบบมะตูม 1 ใบหมูชาชูอยู่โชว์บนหน้าชามมีแค่ 3 แผ่นใหญ่ แต่พอตักลงไปในชามมันมีซ่อนอยู่อีกนับรวมกันได้แล้วประมาณ  8 – 9 แผ่นครับ ซึ่งผมลองชิมดูแล้ว น้ำซุปเข้มข้น กลมกล่อมแต่จะดูใสๆ กว่าของผมครับ ไม่เค็มมาก


     -  อันนี้เป็นของลูกสาวครับ น่าจะเรียกว่า “ข้าวราดหน้าหมูสับผัดซอสมิโสะ” ครับมา 2 ครั้งสั่งให้ลูกสาวทานทั้งสองครั้ง ที่เห็นนั้นเป็นชามเล็กนะครับ ข้าวประมาณ 1 ถ้วยถ้าเป็นผู้หญิงน่าจะได้ 1 อิ่มซึ่งราคาถูกมากๆ (280 เยน) ส่วนรสชาตินั้นเหมาะสำหรับเด็กๆ ครับ ออกเค็มๆ หวานๆ รอบที่ 2 ลูกสาวทานคนเดียวเกือบหมดชาม (เหลือประมาณ 1 คำให้ผมได้ชิม 555) ปล. เอาผักต้นหอมโรยหน้ามาให้พ่อมันทานตามระเบียบ


     -  รูปนี้พิเศษหน่อยครับ เพราะไปครั้งแรกไม่มีมาให้ จึงคิดได้ว่าน่าจะเป็นโปรโมชั่นพิเศษของทางร้าน แต่จะเสิรฟ์ให้เฉพาะตอนกลางวันมั้งครับ เพราะทานครั้งแรกตอนกลางคืนไม่มี “ข้าวปั้นโรยเกลือ” สั่งได้ไม่อั้นนะครับเห็นข้างๆ โต๊ะเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ สั่งมา 3 รอบได้ แม่คุณสงสัยเป็นน้องสาวแกลโซเนะ แน่นอน อ้อลืมไปว่าร้านนี้มีน้ำเปล่าใส่น้ำแข็งเป็นเหยือกตั้งไว้ให้เลยนะครับ หมดก็เติมได้เรื่อยๆ


     -  มาดูที่ชามผมต่อครับ  ที่เห็นภาพนี้ไม่ใช่ภาพชามนะครับ แต่เป็นภาพช้อนที่ตักน้ำซุปมาให้แล้วซูมใกล้ๆ น้ำซุปราเมงของผมนั้นมันออกแนวข้นๆ ข้นมากๆ แต่ไม่เหนียวแบบราดหน้านะครับ สัมผัสออกมันๆ รสชาติออกเค็มๆแต่ไม่ถึงกับทานไม่ได้ จะว่ายังไงดี เค็มนัวๆ เหมือนจะเลี่ยนแต่ซดได้ไม่หยุด บรรยายไม่ถูกว่าจะเทียบกับก๋วยเตี๋ยวแบบไหนดีเพราะน้ำซุปข้นมากกกกกกกกกกกกก มากจนอดกลับไปซ้ำไม่ได้ครับ 55555


     -  ดูความมันที่เคลือบเส้น เส้นที่นี่ไม่ใช่เส้นเล็กแต่น่าจะเป็นขนาดกลาง ลวกมาไม่ได้สุกจนเละและไม่กรอบจนรู้สึกดิบ ลวกมาได้กำลังดีและที่แน่ๆ ว่าถ้าเป็นผู้หญิงทานน้อยชามนี้น่าจะมีเหลือ หรือน่าจะแบ่งได้ 2 คน (ไม่แนะนำนะครับตามมรรยาทของการทานร้านอาหารที่นี่)


     -  หมูสามชั้นทอดครับ ดูตอนแรกนึกว่าจะกรอบมากแต่พอทานแล้วก็ไม่ได้กรอบขนาดนั้นเพราะว่าบางชิ้นมันโดนแช่น้ำซุปมา แต่ก็ถือว่ายังมีความรู้สึกกรอบอยู่ตอนเคี้ยว เนื้อนุ่มเด้งนิดๆ สู้ฟันดีครับ โดยถ้าแช่น้ำซุปนานๆ จนเข้าเนื้อก็อาจจะได้รสชาติของน้ำซุปมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือให้มามากพอสมควร กะดูจากสายตาน่าจะประมาณ 300 – 500 กรัมได้


     -  ข้าวปั้นที่แถมให้ตอนแรกลองกัดเปล่าๆ ดู เขาโรยเหลือมาให้เล็กน้อยพอเค็มๆ ผมก็เลยลองเอามาทานกับน้ำซุปในตอนหลังกับหมูที่เหลือ ผลปรากฏว่า “ฟิน” ครับ อร่อยมาก อร่อยแบบลืมตาย แต่อย่าเพิ่งตาย เพราะถ้ามีโอกาสไปจะต้องไปซ้ำให้ได้ซึ่งก็ไม่ทราบว่าจะมีโอกาสไหมถ้าไม่มีสปอนเซอร์พาไปคงต้องอีกนานจนเกือบเกษียณ 555
ปล. สังเกตความข้น ความมัน ของน้ำซุปในชาม มันจริง เหมือนจะเลี่ยน แต่หยุดซดไม่ได้ มันคืออะไรตอบ?


     -  ก็หมดแล้วครับกับมินิรีวิวร้านราเม็งใต้ดิน ที่อร่อยจนผมต้องไปซ้ำและทำรีวิวเพื่อแชร์ให้เป็นข้อมูลแก่ทุกท่าน ที่จริงตอนไปวันแรกก็สั่งเกี๊ยวซ่ามาด้วย 1 จานแต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูเพราะว่ามันก็อร่อยแต่ธรรมดาๆ ไม่โดดเด่นอะไรตามสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ร้านนี้ก็เป็น 1 ในหลายร้านที่ผมได้มีโอกาสได้ทานที่ญี่ปุ่นในทริปนี้ ร้านอื่นๆ ที่ได้ไปก็เช่น ร้านราเม็ง แถวโรงแรมนิกโก้ โอซาก้า, ร้าน Plabo ที่กำลังดัง ในกทม.ที่ชิ้นใหญ่เกือบพัน แต่ที่นั่นชิ้นใหญ่คิดเป็นเงินไทยชิ้นละ 300 กว่าบาท, ร้านอาหารใน Out let ที่โกเทมบะ และร้านปิ้งย่างในตำนาน Rokasen ฯลฯ เอาไว้ถ้ารวบรวมรูปภาพแล้วอาจจะทำเป็นมินิรีวิวให้ท่านๆ ได้ดูอีกก็แล้วกันนะครับ สำหรับวันนี้คงต้องบอกว่า สวัสดีปีใหม่ขอให้มีความสุข โชคดีมีเงินใช้ทุกท่านครับ

ปล. 1. ถ้ามีคำผิดตรวจพบจะดำเนินการแก้ไขให้ไปเรื่อยๆ นะครับ ส่วนคำบางคำอาจจะเป็นภาษาพูดก็เพื่อให้ดูเป็นการพูดคุยกันมากกว่านะครับ
      2. ร้านนี้ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนนะครับ แต่น้ำซุปที่ข้นๆ นี่รู้สึกว่าจะเป็นเฉพาะบางเมนูเท่านั้น เพราะของภรรยาผมก็ไม่ได้มันขนาดนี้ครับ
ชื่อสินค้า:   ราเมง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่