แต่ละปี เวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วจนจะข้ามปีอีกแล้ว หมดไปอีกปีแล้วหรือนี่ เร็วจริง ๆ ช่วงใกล้สิ้นปีแบบนี้ หลาย ๆ คนคงคิดที่จะทำขนมไปฝากเพื่อน ญาติผู้ใหญ่ เพื่อแสดงความขอบคุณ ความรักและระลึกถึง หรือจะทำไว้กินเอง ก็ขอแนะนำชีสเค้กสูตรนี้ค่ะ ไม่หวานมากเกินไป ทำไม่ยาก ไม่มีเครื่องตีไข่ก็สามารถใช้มือได้ (แต่อาจจะเมื่อยนิดหน่อย)
สูตรนี้มีที่มาจากหนังสือ Cheesecake เขียนโดย โอโมะริ อิคุโกะ เป็นหนังสือแปลพิมพ์โดยสำนักพิมพ์อัมรินทร์ค่ะ เดี๋ยวนี้มีหนังสือสูตรขนมจากญี่ปุ่นที่แปลเป็นภาษาไทยออกมาเยอะ แต่ละเล่มน่าสนใจทั้งนั้น เราก็ไม่พลาดที่จะซื้อติดไม้ติดมือจากร้านหนังสือมาบ่อยๆ สำหรับคนชอบทำขนมแล้ว หนังสือสูตรขนมเป็นอะไรที่น่าสะสมมาก แนะนำให้มีติดตู้หนังสือเลยค่ะ (ไม่ได้มาขายหนังสือนะคะ แค่ชอบทำขนม ชอบหนังสือสูตรขนมสวยๆ ที่สูตรไม่เพี้ยน ทำได้จริง ก็เลยแนะนำ)
สูตรสำหรับ 1 พิมพ์ขนาด 15 ซม.
ส่วนผสมฐานเค้ก :-
บิสกิต 60 กรัม
เนยจืด 20 กรัม
ส่วนผสมชีสเค้ก :-
ครีมชีส 250 กรัม
เนยสด 20 กรัม
น้ำตาลทราย 50 กรัม
ไข่ไก่เบอร์ 2 2 ฟอง
ซาวร์ครีม 90 กรัม (ไม่มีใช้โยเกิร์ตแทนได้ค่ะ)
แป้งเค้ก 20 กรัม
คาราเมลซอส
ถ้าส่วนผสมพร้อมแล้ว ลงมือกันเลยค่ะ
- เริ่มจากเตรียมพิมพ์ขนาด 15 ซม. ใช้แบบที่ถอดก้นได้ ทาด้วยไขมันให้ทั่ว แล้วปูด้วยกระดาษไขที่ก้นพิมพ์และด้านข้าง
- จากนั้น นำบิสกิตมาบดให้ละเอียด และเอาเนยจืดที่เป็นส่วนผสมฐานเค้กมาละลาย แล้วผสมให้เข้ากัน ก่อนนำมากรุที่ก้นพิมพ์แล้วใช้ช้อนกดทั่ว ๆ ให้แน่น เอาเข้าตู้เย็น
- ตั้งเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ 170 C ไฟล่าง
- ตีครีมชีสและเนยสดให้เข้ากันดี (ครีมชีสและเนยสด ควรจะเอาออกมาพักที่อุณหภูมิห้องก่อนนะคะ) ค่อยๆ ใส่น้ำตาลทราย ตีจนน้ำตาลละลายเข้ากันดี
พอดีว่าเรามี Mascarpone Cheese เหลืออยู่ ชั่งได้ 180 กรัม ก็เลยเอามาใช้ซะเลย ส่วนผสมครีมชีสของเราเลยเป็น Mascarpone 180 กรัม + ครีมชีส 70 กรัม ค่ะ
- ตอกไข่ไก่ใส่ถ้วย ตักเฉพาะไข่แดงใส่ลงไปในส่วนผสมเนยทีละฟอง ตีให้เข้ากัน จากนั้นตักไข่ขาวใส่ลงในส่วนผสม 1 ช้อน ตีให้เข้ากัน ทำแบบนี้จนไข่ขาวหมด ผสมให้เข้ากันดี
- ค่อย ๆ ใส่ซาวร์ครีมหรือโยเกิร์ตลงในส่วนผสมทีละน้อย แต่ละครั้ง ผสมให้เข้ากัน ทำจนหมด
- ร่อนแป้งลงในส่วนผสม แล้วคนให้เข้ากันดี
- เอาพิมพ์ที่กรุบิสกิตไว้อยู่ในตู้เย็นออกมาค่ะ เทส่วนผสมชีสเค้กลงไปครึ่งนึง แล้วเอาคาราเมลโรยบนเค้ก เสร็จแล้วเอาส่วนผสมชีสเค้กที่เหลือ เททับลงไป โรยคาราเมลลงบนเค้กอีกค่ะ เอาตามชอบเลย แล้วเอาไม้จิ้มฟันลากวนไปวนมาเป็นเลข 8
- ต้มน้ำร้อนสำหรับอบขนมไว้ค่ะ เวลาอบ ตามตำราเค้าให้ เอาถาดมาหนึ่งใบ แล้วใช้ถ้วย remekin หรือภาชนะที่ทนความร้อนใส่น้ำร้อนไว้ วางไว้สี่มุมของถาด ส่วนพิมพ์ชีสเค้กของเราวางไว้ตรงกลาง แล้วนำเข้าไปอบ จขกท.ก็เตรียมน้ำใส่กาไว้ตั้งแต่ตอนเตรียมพิมพ์ กะว่าจะต้มน้ำตอนที่จะอบขนม แต่พอถึงเวลาอบจริง ลืมซะงั้น -_-;; เอาพิมพ์ชีสเค้กเข้าไปอบอย่างเดียวเลย อบนานประมาณ 50 นาที หลังจากอบเสร็จ ปิดเตา แต่ยังทิ้งเค้กไว้อยู่ในเตานะคะ เอาไม้มาค้ำฝาเตาไว้ให้มันเปิดแง้มไว้ รอจนเย็น แล้วค่อยเอาขนมออกมา ทำแบบนี้เพื่อไม่ให้ชีสเค้กยุบตัวมากเกินไปค่ะ
เอาขนมออกจากเตา พอขนมเย็นแล้วเอาแช่ในตู้เย็นไว้ 1 คืน เพื่อให้ชีสเค้กอยู่ตัว และอร่อยขึ้น
แล้วก็ไปนอนรอสวยๆ ค่ะ จนถึงเช้าวันใหม่ เอาเค้กในตู้เย็นออกมาถอดพิมพ์ออก แล้วตัดแบ่งชิ้นเลย ได้เวลาชิมแล้ว
ขนาดของชีสเค้กนี้ไม่ใหญ่มาก ตัดเป็นชิ้นได้ชิ้นเล็ก สำหรับทาน 3-4 คนค่ะ หากล่องเค้กสวยๆ ใส่ เหมาะเป็นของขวัญกับเพื่อน ๆ ญาติพี่น้อง
เก็บในตู้เย็นไว้ได้ประมาณ 3 วัน ถ้าจะเก็บนาน ห่อกระดาษฟอล์ยแล้วแช่แข็ง พอจะทานก็เอามาทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องให้คลายเย็น
ลองทำกันดูนะคะ
ใกล้เทศกาลปีใหม่แล้ว มาอบชีสเค้ก Caramel Cheesecake เพื่อเป็นของขวัญกันเถอะ
สูตรนี้มีที่มาจากหนังสือ Cheesecake เขียนโดย โอโมะริ อิคุโกะ เป็นหนังสือแปลพิมพ์โดยสำนักพิมพ์อัมรินทร์ค่ะ เดี๋ยวนี้มีหนังสือสูตรขนมจากญี่ปุ่นที่แปลเป็นภาษาไทยออกมาเยอะ แต่ละเล่มน่าสนใจทั้งนั้น เราก็ไม่พลาดที่จะซื้อติดไม้ติดมือจากร้านหนังสือมาบ่อยๆ สำหรับคนชอบทำขนมแล้ว หนังสือสูตรขนมเป็นอะไรที่น่าสะสมมาก แนะนำให้มีติดตู้หนังสือเลยค่ะ (ไม่ได้มาขายหนังสือนะคะ แค่ชอบทำขนม ชอบหนังสือสูตรขนมสวยๆ ที่สูตรไม่เพี้ยน ทำได้จริง ก็เลยแนะนำ)
สูตรสำหรับ 1 พิมพ์ขนาด 15 ซม.
ส่วนผสมฐานเค้ก :-
บิสกิต 60 กรัม
เนยจืด 20 กรัม
ส่วนผสมชีสเค้ก :-
ครีมชีส 250 กรัม
เนยสด 20 กรัม
น้ำตาลทราย 50 กรัม
ไข่ไก่เบอร์ 2 2 ฟอง
ซาวร์ครีม 90 กรัม (ไม่มีใช้โยเกิร์ตแทนได้ค่ะ)
แป้งเค้ก 20 กรัม
คาราเมลซอส
ถ้าส่วนผสมพร้อมแล้ว ลงมือกันเลยค่ะ
- เริ่มจากเตรียมพิมพ์ขนาด 15 ซม. ใช้แบบที่ถอดก้นได้ ทาด้วยไขมันให้ทั่ว แล้วปูด้วยกระดาษไขที่ก้นพิมพ์และด้านข้าง
- จากนั้น นำบิสกิตมาบดให้ละเอียด และเอาเนยจืดที่เป็นส่วนผสมฐานเค้กมาละลาย แล้วผสมให้เข้ากัน ก่อนนำมากรุที่ก้นพิมพ์แล้วใช้ช้อนกดทั่ว ๆ ให้แน่น เอาเข้าตู้เย็น
- ตั้งเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ 170 C ไฟล่าง
- ตีครีมชีสและเนยสดให้เข้ากันดี (ครีมชีสและเนยสด ควรจะเอาออกมาพักที่อุณหภูมิห้องก่อนนะคะ) ค่อยๆ ใส่น้ำตาลทราย ตีจนน้ำตาลละลายเข้ากันดี
พอดีว่าเรามี Mascarpone Cheese เหลืออยู่ ชั่งได้ 180 กรัม ก็เลยเอามาใช้ซะเลย ส่วนผสมครีมชีสของเราเลยเป็น Mascarpone 180 กรัม + ครีมชีส 70 กรัม ค่ะ
- ตอกไข่ไก่ใส่ถ้วย ตักเฉพาะไข่แดงใส่ลงไปในส่วนผสมเนยทีละฟอง ตีให้เข้ากัน จากนั้นตักไข่ขาวใส่ลงในส่วนผสม 1 ช้อน ตีให้เข้ากัน ทำแบบนี้จนไข่ขาวหมด ผสมให้เข้ากันดี
- ค่อย ๆ ใส่ซาวร์ครีมหรือโยเกิร์ตลงในส่วนผสมทีละน้อย แต่ละครั้ง ผสมให้เข้ากัน ทำจนหมด
- ร่อนแป้งลงในส่วนผสม แล้วคนให้เข้ากันดี
- เอาพิมพ์ที่กรุบิสกิตไว้อยู่ในตู้เย็นออกมาค่ะ เทส่วนผสมชีสเค้กลงไปครึ่งนึง แล้วเอาคาราเมลโรยบนเค้ก เสร็จแล้วเอาส่วนผสมชีสเค้กที่เหลือ เททับลงไป โรยคาราเมลลงบนเค้กอีกค่ะ เอาตามชอบเลย แล้วเอาไม้จิ้มฟันลากวนไปวนมาเป็นเลข 8
- ต้มน้ำร้อนสำหรับอบขนมไว้ค่ะ เวลาอบ ตามตำราเค้าให้ เอาถาดมาหนึ่งใบ แล้วใช้ถ้วย remekin หรือภาชนะที่ทนความร้อนใส่น้ำร้อนไว้ วางไว้สี่มุมของถาด ส่วนพิมพ์ชีสเค้กของเราวางไว้ตรงกลาง แล้วนำเข้าไปอบ จขกท.ก็เตรียมน้ำใส่กาไว้ตั้งแต่ตอนเตรียมพิมพ์ กะว่าจะต้มน้ำตอนที่จะอบขนม แต่พอถึงเวลาอบจริง ลืมซะงั้น -_-;; เอาพิมพ์ชีสเค้กเข้าไปอบอย่างเดียวเลย อบนานประมาณ 50 นาที หลังจากอบเสร็จ ปิดเตา แต่ยังทิ้งเค้กไว้อยู่ในเตานะคะ เอาไม้มาค้ำฝาเตาไว้ให้มันเปิดแง้มไว้ รอจนเย็น แล้วค่อยเอาขนมออกมา ทำแบบนี้เพื่อไม่ให้ชีสเค้กยุบตัวมากเกินไปค่ะ
เอาขนมออกจากเตา พอขนมเย็นแล้วเอาแช่ในตู้เย็นไว้ 1 คืน เพื่อให้ชีสเค้กอยู่ตัว และอร่อยขึ้น
แล้วก็ไปนอนรอสวยๆ ค่ะ จนถึงเช้าวันใหม่ เอาเค้กในตู้เย็นออกมาถอดพิมพ์ออก แล้วตัดแบ่งชิ้นเลย ได้เวลาชิมแล้ว
ขนาดของชีสเค้กนี้ไม่ใหญ่มาก ตัดเป็นชิ้นได้ชิ้นเล็ก สำหรับทาน 3-4 คนค่ะ หากล่องเค้กสวยๆ ใส่ เหมาะเป็นของขวัญกับเพื่อน ๆ ญาติพี่น้อง
เก็บในตู้เย็นไว้ได้ประมาณ 3 วัน ถ้าจะเก็บนาน ห่อกระดาษฟอล์ยแล้วแช่แข็ง พอจะทานก็เอามาทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องให้คลายเย็น
ลองทำกันดูนะคะ