#2017StartsNow
ตามธรรมเนียมปฏิบัติที่การทดสอบรถปีถัดไปจะเริ่มต้นขึ้นทันทีหลังจากจบการแข่งขันสนามสุดท้าย โดยเฉพาะปีนี้ที่สื่อมวลชนและแฟนๆโมโตจีพีนั้นได้ให้ความสนใจกับการทดสอบในครั้งนี้ค่อนข้างมาก เนื่องจากมีการย้ายทีมของบรรดานักบิดหัวแถวค่อนข้างเยอะ จากปกติที่การทดสอบจะเริ่มต้นในวันจันทร์ แต่ปีนี้จะต่างออกไปนิดหน่อยเนื่องจากการทดสอบนั้นมีขึ้นในวันอังคารและพุธ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากนักแข่งและทีมงานมีโอกาสได้พักอย่างน้อย 1 วัน หลังจากที่ทุกคนใช้พลังงานทั้งหมดไปกับการแข่งขันในวันอาทิตย์
303 Km/H
ไฮไลท์ที่บรรดาสื่อมวลชนสนใจหลักๆก็จะเป็นที่การาจน์ของ Ducati ที่มี Jorge Lorenzo ย้ายข้ามห้วยมาเป็นนักแข่งคนใหม่ รวมไปถึงที่แคมป์ของยามาฮ่า ที่ Maverick Vinales จะได้เจอกับเจ้า YZR-M1 เป็นครั้งแรก รองลงไปก็จะเป็น Andre Iannone บนรถ GSX-RR ของ Suzuki รวมไปถึงบรรดาไลน์อัพนักแข่งใหม่ของทีม Aprilia และ KTM
Ducati บ้านใหม่ของลอเลนโซ่
MVK
ภาพรวมของการทดสอบนั้นถือเป็นการทดสอบรถที่น่าตื่นเต้นและสนุกที่สุดเท่าที่ส่วนตัวได้มีโอกาสได้ติดมาเลยทีเดียว นักแข่งเกือบทั้งหมดปรับตัวกับรถและทีมใหม่ได้ดี รวมไปถึงพวกรุกกี้จากโมโตทูที่ปรับตัวได้เร็วกว่าที่คาด แต่ละโรงงานนั้นค่อนข้างจริงจังกับการทดสอบในครั้งนี้มาก เนื่องจากทุกคนรู้ว่าการแข่งขันในฤดูกาลหน้าจะเข้มข้นกว่าปีที่ผ่านมา แต่ละโรงงานจึงต้องการข้อมูลและความเห็นของนักแข่งให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนารถในช่วงฤดูหนาว
Aliex กับ Aprilia RS-GP
Pol กับ KTM RC16
และเนื่องจากมีการย้ายโรงงานกันเยอะ นั่นแปลว่าแต่ละคนต้องออกไปเจอกับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ซึ่งแต่ะลงโรงงานก็จะมีวัฒนธรรมองค์กรที่แตกต่างกันไป ปัจจัยเหล่านี้ล้วนแต่ต้องการเวลาในการเรียนรู้และปรับตัวทั้งนั้น นอกจากนักแข่งต้องพยายามทำความเข้าใจกับตัวรถแล้ว การปรับตัวเข้าหาทีมงานก็เป็นเรื่องที่จำเป็น โดยเฉพาะการสื่อสารการภายในทีม (ไม่ใช่เรื่องภาษาแต่เป็นรูปแบบและวิธีการสื่อสาร) เราลองไปไล่เรียงดูทีละโรงงานกันเลยดีกว่า
Ducati Desmosedici No.99
Ducati นั้นเรียกได้ว่าจัดหนักจัดเต็มกันเลยทีเดียวสำหรับการทดสอบครั้งนี้ โดยนี่เหมือนเป็นครั้งแรกที่รถใหม่ของดูคาตินั้นพร้อมสำหรับการทดสอบที่บาเลนเซีย เนื่องจากเป้าหมายของ Ducati ที่คาดหวังไว้กับการมาถึงของลอเลนโซ่คือการลุ้นแชมป์โลก เราจะเห็นบรรดาวิศกรจากโบโลญญ่ามาอยู่ในพิทกันเยอะมาก รวมถึง Casey Stoner ที่มาเป็นที่ปรึกษาให้กับ JL99 ด้วย หลังจากมีช่วงกลางฤดูกาลที่ยากลำบาก ฟอร์มอันยอดเยี่ยมในสนามสุดท้ายของเจ้าอมยิ้มนั้นส่งผลดีมาถึงการทดสอบรถครั้งนี้ด้วย
2 แชมป์โลก รวมพลัง
ตลอดการทดสอบ สีหน้าและแววตาแล้ว ลอเลนโซ่นั้นดูค่อนข้างผ่อนคลาย ทั้งเวลาที่อยู่ในพิทหรือบนรถ Desmosedici โดยในวันแรกนั้น JL99 ทดสอบรถ GP16 เกือบจะทั้งวันก่อนที่จะพารถ GP17 ออกไปวิ่งนิดหน่อยในช่วงท้าย ขณะที่วันสองนั้นค่อยขยับมาเน้นที่รถใหม่ ขณะที่เพื่อนร่วมทีมอย่าง Dovisiozo นั้นเน้นทดสอบรถ GP17 ทั้ง 2 วัน
อมยิ้ม
ดูเหมือนว่า Lorenzo จะไม่มีปัญหาในการปรับตัวเข้ากับรถของดูคาติอย่างที่หลายคนกังวลกันไว้ เค้ายังสามารถทำความเร็วในโค้งได้ค่อนข้างดีเหมือนเคย เวลาเฉลี่ยที่ทำได้นั้นค่อนข้างจะใกล้เคียงกับที่ทำไว้โดยรถ YZR-M1 เลยทีเดียว จากการลงไปสัมผัสกับรถใหม่เพียงแค่ 2 วัน ทั้งนี้ก็ต้องบอกว่ารถ GP16 ของดูคาตินั้นถือเป็นรถที่ดีมากๆแล้ว เลยไม่ใช่เรื่องที่เกินความคาดหมายมากที่นักแข่งระดับทอปของโลกอย่างลอเลนโซ่จะปรับตัวเข้าหารถได้ไว
๋JL99
ซึ่งในประเด็นนี้นั้น Gigi Dall'Igna ก็ได้ออกมาบอกว่างานนี้เราเจอกันครึ่งทางนะอมยิ้ม Ducati เองก็จะพยายามปรับรถให้เหมาะกับลอเลนโซ่มากขึ้น แต่เจ้าอมยิ้มเองก็ต้องปรับตัวเข้าหารถด้วยเช่นกัน ตอนนี้จุดอ่อนที่ทั้ง 2 นักแข่งเห็นตรงกันก็คือการเลี้ยวในช่วงกลางโค้งที่ยังทำได้ไม่ดี แต่นี่ก็ถือเป็นจุดด้อยหลักของรถ Desmo มาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว ซึ่งลุงจี้ก็รับปากว่าอั๊วะจะกลับไปทำการบ้านมาให้เอง
ลุงจี้
อีกเรื่องนึงที่ถูกจับตามองก็คือดูคาติจะทำยังไงกับการหายไปของ Wing ซึ่งวิธีแรกที่ถูกนำมาใช้ก็คือเครื่องยนต์ใหม่ของดูคาตินั้นจะมีรอบเครื่องที่ราบรื่นขึ้น ซึ่งจะช่วยในเรื่องอัตราเร่งในช่วงเกียร์ต่ำให้ทำได้ดีรวมถึงอาการยกของล้อหน้า แต่การปรับตรงนี้ก็จะกระทบโดยตรงกับความเร็วทางตรงที่อาจจะต้องลดลงด้วยเช่นกัน ซึ่งก็อยู่ที่ทางดูคาติต้องชั่งน้ำหนักแล้วล่ะว่าจะปรับแค่ไหนถึงจะเหมาะสมที่สุด
เฮียจี้: ถ้าไม่อยากมาทดสอบบ่อย ก็มาแข่งเลยมั้ยบักหิน
สโตนเนอร์: %*&&%$#@@
ในส่วนของ Casey Stoner นั้น ทางลุงจี้บอกว่าในฤดูกาลนี้ บักหินจะทำงานใกล้ชิดกับทาง Ducati Corse หรือทีมทางด้าน Technical มากขึ้นกว่าปีที่แล้ว โดยจะอยู่ในตำแหน่งนักแข่งทดสอบและที่ปรึกษาด้านเทคนิค ซึ่งสโตนเนอร์จะเข้ามาช่วยทดสอบรถบ่อยครั้งขึ้นกว่าปี 2016 ด้วย
Yamaha YZR-M1
ถัดไปที่แคมป์ของ Yamaha ก็ถือต้องว่าทางพี่แยมเข็นรถใหม่มาทันการทดสอบจนได้ จากข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี่ว่ารถใหม่อาจจะมาไม่ทัน ถือเป็นการเปิดตัวที่ยอมเยี่ยมของ Maverick Vinales กับ Yamaha ซึ่งก็น่าจะทำให้ผู้บริหารของทีมยิ้มกันแก้มปริ เนื่องจากเจ้าวินนั้นดูจะปรับตัวเข้ากับรถ YZR-M1 ได้อย่างไร้รอยต่อ ทอเต็มผืนเลยทีเดียว
ชุดสวย + ลายรถสวย + ฟอร์มสวย + แฟนสวย
Vinales นั้นแทบจะใช้รถปี 2016 ทดสอบตลอดทั้ง 2 วัน โดยเค้าสามารถทำเวลาได้เร็วที่สุดทั้ง 2 วันด้วย ในขณะเดียวกัน ถ้าขยับลงไปดูความเร็วต่อรอบแล้วก็ต้องถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมากๆ ถือได้ว่าอยู่ในระดับเดียวกันกับ Marc Marquez เลยทีเดียว โดยในวันแรกนั้นน้องวินเล่นกับรถ YZR-M1 ปี 2016 อย่างเดียวเลย ก่อนที่จะมีโอกาสได้สัมผัสกับรถใหม่บ้างในวันที่ 2
ระวังร้อน!
เป้าหมายหลักของ Vinales ในสองวันนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องการเรียนรู้และทำความคุ้นเคยกับตัวรถ ยังไม่ใช่การทดสอบชิ้นส่วนใหม่หรือการเซ็ตอัพรถ ซึ่งเจ้าตัวก็ทำได้ดีมากๆ แต่การที่ Vinales เปิดตัวกับยามาฮ่าได้สวยหรูขนาดนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจซักเท่าไหร่ เพราะกราฟการพัฒนาของ MV25 นั้นค่อนข้างชันมากๆในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเจ้าตัวก็ออกมาบอกว่าเค้านั้นเติบโตขึ้นมากในเส้นทางอาชีพนัดบิด ถือว่ายามาฮ่าได้นักแข่งคนนี้ไปร่วมทีมในช่วงเวลาที่เหมาะเจาะเสียจริง (เอ๊ะ ด่า Suzuki เหรอ 555)
เสียดาย...ห้าห้า
ทางด้าน Valentino Rossi นั้น เน้นไปที่การทดสอบรถใหม่ ซึ่ง Rossi ออกมาบอกว่าตัว Chassi ใหม่นั้นค่อนข้างโอเค แต่ยังไม่ค่อยประทับใจกับตัวเครื่องยนต์ที่ยังมีปัญหาในเรื่องอัตราเร่งอยู่ และถ้าเราลองมองย้อนไปดูเมื่อปีที่แล้ว ก็ดูเหมือนว่าพละกำลังของรถ Yamaha ที่เคยพอนั้นดูเหมือนกลายเป็นไม่พอซะแล้ว สาเหตุหลักก็เพราะโรงงานอื่นพัฒนาตรงจุดนี้ได้ดีขึ้น เลยทำให้ Yamaha ต้องขยับตัวในเรื่องนี้อีกรอบ โดยคุณหมอบอกว่าเค้าคาดหวังกับเครื่องยนต์ใหม่ของเจ้า YZR-M1 มากกว่านี้ ซึ่งนี่เป็นการบ้านข้อใหญ่ที่ทาง The Doctor นั้นส่งไปให้วิศวกรของยามาฮ่าที่ญี่ปุ่น
เฮียว่า มันบิดไม่ค่อยขึ้นเลยวุ้ย
I'm no 25
อีกซักมุม
[MotoGP] ภาพรวมการทดสอบรถปี 2017 ครั้งแรกที่บาเลนเซีย #2017StartsNow
#2017StartsNow
ตามธรรมเนียมปฏิบัติที่การทดสอบรถปีถัดไปจะเริ่มต้นขึ้นทันทีหลังจากจบการแข่งขันสนามสุดท้าย โดยเฉพาะปีนี้ที่สื่อมวลชนและแฟนๆโมโตจีพีนั้นได้ให้ความสนใจกับการทดสอบในครั้งนี้ค่อนข้างมาก เนื่องจากมีการย้ายทีมของบรรดานักบิดหัวแถวค่อนข้างเยอะ จากปกติที่การทดสอบจะเริ่มต้นในวันจันทร์ แต่ปีนี้จะต่างออกไปนิดหน่อยเนื่องจากการทดสอบนั้นมีขึ้นในวันอังคารและพุธ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากนักแข่งและทีมงานมีโอกาสได้พักอย่างน้อย 1 วัน หลังจากที่ทุกคนใช้พลังงานทั้งหมดไปกับการแข่งขันในวันอาทิตย์
303 Km/H
ไฮไลท์ที่บรรดาสื่อมวลชนสนใจหลักๆก็จะเป็นที่การาจน์ของ Ducati ที่มี Jorge Lorenzo ย้ายข้ามห้วยมาเป็นนักแข่งคนใหม่ รวมไปถึงที่แคมป์ของยามาฮ่า ที่ Maverick Vinales จะได้เจอกับเจ้า YZR-M1 เป็นครั้งแรก รองลงไปก็จะเป็น Andre Iannone บนรถ GSX-RR ของ Suzuki รวมไปถึงบรรดาไลน์อัพนักแข่งใหม่ของทีม Aprilia และ KTM
Ducati บ้านใหม่ของลอเลนโซ่
MVK
ภาพรวมของการทดสอบนั้นถือเป็นการทดสอบรถที่น่าตื่นเต้นและสนุกที่สุดเท่าที่ส่วนตัวได้มีโอกาสได้ติดมาเลยทีเดียว นักแข่งเกือบทั้งหมดปรับตัวกับรถและทีมใหม่ได้ดี รวมไปถึงพวกรุกกี้จากโมโตทูที่ปรับตัวได้เร็วกว่าที่คาด แต่ละโรงงานนั้นค่อนข้างจริงจังกับการทดสอบในครั้งนี้มาก เนื่องจากทุกคนรู้ว่าการแข่งขันในฤดูกาลหน้าจะเข้มข้นกว่าปีที่ผ่านมา แต่ละโรงงานจึงต้องการข้อมูลและความเห็นของนักแข่งให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนารถในช่วงฤดูหนาว
Aliex กับ Aprilia RS-GP
Pol กับ KTM RC16
และเนื่องจากมีการย้ายโรงงานกันเยอะ นั่นแปลว่าแต่ละคนต้องออกไปเจอกับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ซึ่งแต่ะลงโรงงานก็จะมีวัฒนธรรมองค์กรที่แตกต่างกันไป ปัจจัยเหล่านี้ล้วนแต่ต้องการเวลาในการเรียนรู้และปรับตัวทั้งนั้น นอกจากนักแข่งต้องพยายามทำความเข้าใจกับตัวรถแล้ว การปรับตัวเข้าหาทีมงานก็เป็นเรื่องที่จำเป็น โดยเฉพาะการสื่อสารการภายในทีม (ไม่ใช่เรื่องภาษาแต่เป็นรูปแบบและวิธีการสื่อสาร) เราลองไปไล่เรียงดูทีละโรงงานกันเลยดีกว่า
Ducati Desmosedici No.99
Ducati นั้นเรียกได้ว่าจัดหนักจัดเต็มกันเลยทีเดียวสำหรับการทดสอบครั้งนี้ โดยนี่เหมือนเป็นครั้งแรกที่รถใหม่ของดูคาตินั้นพร้อมสำหรับการทดสอบที่บาเลนเซีย เนื่องจากเป้าหมายของ Ducati ที่คาดหวังไว้กับการมาถึงของลอเลนโซ่คือการลุ้นแชมป์โลก เราจะเห็นบรรดาวิศกรจากโบโลญญ่ามาอยู่ในพิทกันเยอะมาก รวมถึง Casey Stoner ที่มาเป็นที่ปรึกษาให้กับ JL99 ด้วย หลังจากมีช่วงกลางฤดูกาลที่ยากลำบาก ฟอร์มอันยอดเยี่ยมในสนามสุดท้ายของเจ้าอมยิ้มนั้นส่งผลดีมาถึงการทดสอบรถครั้งนี้ด้วย
2 แชมป์โลก รวมพลัง
ตลอดการทดสอบ สีหน้าและแววตาแล้ว ลอเลนโซ่นั้นดูค่อนข้างผ่อนคลาย ทั้งเวลาที่อยู่ในพิทหรือบนรถ Desmosedici โดยในวันแรกนั้น JL99 ทดสอบรถ GP16 เกือบจะทั้งวันก่อนที่จะพารถ GP17 ออกไปวิ่งนิดหน่อยในช่วงท้าย ขณะที่วันสองนั้นค่อยขยับมาเน้นที่รถใหม่ ขณะที่เพื่อนร่วมทีมอย่าง Dovisiozo นั้นเน้นทดสอบรถ GP17 ทั้ง 2 วัน
อมยิ้ม
ดูเหมือนว่า Lorenzo จะไม่มีปัญหาในการปรับตัวเข้ากับรถของดูคาติอย่างที่หลายคนกังวลกันไว้ เค้ายังสามารถทำความเร็วในโค้งได้ค่อนข้างดีเหมือนเคย เวลาเฉลี่ยที่ทำได้นั้นค่อนข้างจะใกล้เคียงกับที่ทำไว้โดยรถ YZR-M1 เลยทีเดียว จากการลงไปสัมผัสกับรถใหม่เพียงแค่ 2 วัน ทั้งนี้ก็ต้องบอกว่ารถ GP16 ของดูคาตินั้นถือเป็นรถที่ดีมากๆแล้ว เลยไม่ใช่เรื่องที่เกินความคาดหมายมากที่นักแข่งระดับทอปของโลกอย่างลอเลนโซ่จะปรับตัวเข้าหารถได้ไว
๋JL99
ซึ่งในประเด็นนี้นั้น Gigi Dall'Igna ก็ได้ออกมาบอกว่างานนี้เราเจอกันครึ่งทางนะอมยิ้ม Ducati เองก็จะพยายามปรับรถให้เหมาะกับลอเลนโซ่มากขึ้น แต่เจ้าอมยิ้มเองก็ต้องปรับตัวเข้าหารถด้วยเช่นกัน ตอนนี้จุดอ่อนที่ทั้ง 2 นักแข่งเห็นตรงกันก็คือการเลี้ยวในช่วงกลางโค้งที่ยังทำได้ไม่ดี แต่นี่ก็ถือเป็นจุดด้อยหลักของรถ Desmo มาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว ซึ่งลุงจี้ก็รับปากว่าอั๊วะจะกลับไปทำการบ้านมาให้เอง
ลุงจี้
อีกเรื่องนึงที่ถูกจับตามองก็คือดูคาติจะทำยังไงกับการหายไปของ Wing ซึ่งวิธีแรกที่ถูกนำมาใช้ก็คือเครื่องยนต์ใหม่ของดูคาตินั้นจะมีรอบเครื่องที่ราบรื่นขึ้น ซึ่งจะช่วยในเรื่องอัตราเร่งในช่วงเกียร์ต่ำให้ทำได้ดีรวมถึงอาการยกของล้อหน้า แต่การปรับตรงนี้ก็จะกระทบโดยตรงกับความเร็วทางตรงที่อาจจะต้องลดลงด้วยเช่นกัน ซึ่งก็อยู่ที่ทางดูคาติต้องชั่งน้ำหนักแล้วล่ะว่าจะปรับแค่ไหนถึงจะเหมาะสมที่สุด
เฮียจี้: ถ้าไม่อยากมาทดสอบบ่อย ก็มาแข่งเลยมั้ยบักหิน
สโตนเนอร์: %*&&%$#@@
ในส่วนของ Casey Stoner นั้น ทางลุงจี้บอกว่าในฤดูกาลนี้ บักหินจะทำงานใกล้ชิดกับทาง Ducati Corse หรือทีมทางด้าน Technical มากขึ้นกว่าปีที่แล้ว โดยจะอยู่ในตำแหน่งนักแข่งทดสอบและที่ปรึกษาด้านเทคนิค ซึ่งสโตนเนอร์จะเข้ามาช่วยทดสอบรถบ่อยครั้งขึ้นกว่าปี 2016 ด้วย
Yamaha YZR-M1
ถัดไปที่แคมป์ของ Yamaha ก็ถือต้องว่าทางพี่แยมเข็นรถใหม่มาทันการทดสอบจนได้ จากข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี่ว่ารถใหม่อาจจะมาไม่ทัน ถือเป็นการเปิดตัวที่ยอมเยี่ยมของ Maverick Vinales กับ Yamaha ซึ่งก็น่าจะทำให้ผู้บริหารของทีมยิ้มกันแก้มปริ เนื่องจากเจ้าวินนั้นดูจะปรับตัวเข้ากับรถ YZR-M1 ได้อย่างไร้รอยต่อ ทอเต็มผืนเลยทีเดียว
ชุดสวย + ลายรถสวย + ฟอร์มสวย + แฟนสวย
Vinales นั้นแทบจะใช้รถปี 2016 ทดสอบตลอดทั้ง 2 วัน โดยเค้าสามารถทำเวลาได้เร็วที่สุดทั้ง 2 วันด้วย ในขณะเดียวกัน ถ้าขยับลงไปดูความเร็วต่อรอบแล้วก็ต้องถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมากๆ ถือได้ว่าอยู่ในระดับเดียวกันกับ Marc Marquez เลยทีเดียว โดยในวันแรกนั้นน้องวินเล่นกับรถ YZR-M1 ปี 2016 อย่างเดียวเลย ก่อนที่จะมีโอกาสได้สัมผัสกับรถใหม่บ้างในวันที่ 2
ระวังร้อน!
เป้าหมายหลักของ Vinales ในสองวันนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องการเรียนรู้และทำความคุ้นเคยกับตัวรถ ยังไม่ใช่การทดสอบชิ้นส่วนใหม่หรือการเซ็ตอัพรถ ซึ่งเจ้าตัวก็ทำได้ดีมากๆ แต่การที่ Vinales เปิดตัวกับยามาฮ่าได้สวยหรูขนาดนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจซักเท่าไหร่ เพราะกราฟการพัฒนาของ MV25 นั้นค่อนข้างชันมากๆในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเจ้าตัวก็ออกมาบอกว่าเค้านั้นเติบโตขึ้นมากในเส้นทางอาชีพนัดบิด ถือว่ายามาฮ่าได้นักแข่งคนนี้ไปร่วมทีมในช่วงเวลาที่เหมาะเจาะเสียจริง (เอ๊ะ ด่า Suzuki เหรอ 555)
เสียดาย...ห้าห้า
ทางด้าน Valentino Rossi นั้น เน้นไปที่การทดสอบรถใหม่ ซึ่ง Rossi ออกมาบอกว่าตัว Chassi ใหม่นั้นค่อนข้างโอเค แต่ยังไม่ค่อยประทับใจกับตัวเครื่องยนต์ที่ยังมีปัญหาในเรื่องอัตราเร่งอยู่ และถ้าเราลองมองย้อนไปดูเมื่อปีที่แล้ว ก็ดูเหมือนว่าพละกำลังของรถ Yamaha ที่เคยพอนั้นดูเหมือนกลายเป็นไม่พอซะแล้ว สาเหตุหลักก็เพราะโรงงานอื่นพัฒนาตรงจุดนี้ได้ดีขึ้น เลยทำให้ Yamaha ต้องขยับตัวในเรื่องนี้อีกรอบ โดยคุณหมอบอกว่าเค้าคาดหวังกับเครื่องยนต์ใหม่ของเจ้า YZR-M1 มากกว่านี้ ซึ่งนี่เป็นการบ้านข้อใหญ่ที่ทาง The Doctor นั้นส่งไปให้วิศวกรของยามาฮ่าที่ญี่ปุ่น
เฮียว่า มันบิดไม่ค่อยขึ้นเลยวุ้ย
I'm no 25
อีกซักมุม