การแข่งขันสนามที่ 10 ของฤดูกาลที่สปีลเบิร์ก ประเทศออสเตรียเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมานั้น ดูคาติสามารถหยุดสถิติ ไม่ชนะสนามในการแข่งขันโมโตจีพีมายาวนานถึงเกือบๆ 6 ปีลงได้ นับตั้งแต่ที่ Casey Stoner คว้าชัยชนะครั้งสุดท้ายที่ฟิลลิบส์ ไอส์แลนด์ปี 2010 หลังจากอังเดร เอียนโนเน่ นักบิดเบอร์ 29 สามารถคว้าชัยชนะเหนือเพื่อนร่วมได้สำเร็จ ซึ่งนี่ถือเป็นการชนะในรุ่นพรีเมียร์ครั้งแรกของไอ้บ้าโจอีกด้วย และนี่ยังเป็นชัยชนะแบบ 1-2 ของดูคาติ ที่ทำได้ครั้งล่าสุดก็ต้องนู่น ย้อนกลับไปเมื่อปี 2007 ที่ออสเตเรีย ซึ่งครั้งนั้นก็เป็นบักหิน และท่านคาปิรอสซี่ที่บิดเข้ามาเป็นอันดับ 1-2



การคว้าชัยชนะของดูคาติครั้งนี้ก็ต้องถือว่าเป็นไปตามคาด เพราะสนามนี้มีทางตรงยาวๆและโค้งความเร็วต่ำอีกหลายจุดที่ต้องใช้พละกำลังของเครื่องยนต์ทั้งในช่วงทางตรงและตอนเร่งเครื่อง ซึ่งเครื่องยนต์ของเจ้า Desmosedici นั้นมีจุดเด่นใน 2 เรื่องนี้เหนือกว่าชาวบ้านชาวช่องเค้าอยู่แล้ว การที่นักแข่งของทีมปลดล็อคกำแพงตรงนี้ลงได้ ทำให้บรรยากาศในทีมนั้นกลับมาชื่นมื่นอีกรอบและดูเหมือนว่าอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ดูคาติกลับมามั่นใจและสามารถก้าวขึ้นไปต่อกรกับ 2 โรงงานใหญ่ได้อย่างเต็มที่อีกครั้ง



ถึงแม้ว่าจะได้รับการคาดหมายว่าจะชนะที่นี่ แต่ชัยชนะที่คว้ามาได้ในวันอาทิตย์ ก็ต้องถือว่าทั้ง AI29 และ AD04 นั้นทำผลงานในวันแข่งได้อย่างสุดยอด เนื่องจากรถ YZR-M1 ของทีมโรงงาน Yamaha นั้นก็มาดีเกิดคาดในวันอาทิตย์ หลังจากที่การทดสอบที่นี่เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนนั้นยังดูเป็นรองค่อนข้างเยอะ แต่ในการแข่งขันนั้น ทั้งฮอร์เฮ ลอเลนโซ่และวาเลนติโน่ รอสซี่นั้นพยายามสร้างความกดดันให้กับนักแข่งของดูคาติเกือบตลอดทั้งการแข่งขัน ซึ่งถ้าภูมิคุ้มกันไม่แกร่งพอ อาจจะกดดันและขี่ผิดพลาดจนล้มหรือหลุดโค้งเสียตำแหน่งไปแล้ว โดยเฉพาะ Iannone ที่ขี่ตามแผน ไม่มุทะลุและรักษายางไว้ จนสามารถฉีกหนีรถของ Yamaha ออกไปได้ในรอบท้ายๆ



การเลือกยางถือเป็นกุญแจสำคัญที่นำชัยชนะมาให้กับเจ้าโจในครั้งนี้ เนื่องจากเจ้าตัวตัดสินใจเปลี่ยนจากยาง Hard เป็น Medium ในช่วงก่อนออกสตาร์ท อาจจะเป็นเพราะอุณหภูมิพื้นผิวแทรคที่สปีลเบิร์กส์สัปดาห์นี้นั้นต่ำกว่าที่ปกติ ทำให้ยางที่นุ่มกว่าก็สามารถยืนระยะได้ตลอดการแข่งขัน แม้กระทั่งในช่วงท้ายนั้น กริปของยางก็ยังอยู่ สามารถรักษาความเร็วจนทำให้โดวิที่ใช้ยาง Hard ไม่สามารถทำความเร็วเข้าใกล้เพื่อหาจังหวะแซงเค้าได้



นอกเหนือจากการขับเคี่ยวของรถสีแดงในคู่หน้าแล้ว การช่วงชิงอันดับที่ 3 บนโพเดี่ยมของ 2 นักแข่งทีมโรงงานยามาฮ่า ก็ดำเนินไปตลอดการแข่งขันและสุดท้ายเป็นเจ้าอมยิ้มที่ทำได้ดีกว่า สามารถรักษาตำแหน่งที่ 3 ได้อย่างเหนียวแน่นและป้องกันไม่ให้คู่แข่งคนสำคัญในการลุ้นแชมป์โลกเก็บคะแนนลี้จี้เข้ามาได้ ผลงานของ JL99 ในวันนี้ช่วยเรียกความมั่นใจของเค้าให้กลับมาได้ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว หลังจากตกอยู่ภายใต้เมฆฝนมาเกือบๆ 1 เดือน



แต่ทว่าการที่ดูคาติยึด 2 แป้นสูงสุดบนโพเดี่ยมในการแข่งขันวันนี้นั้น ค่อนข้างเป็นใจให้กับ Marc Marquez  ที่ถึงแม้ว่ารถ Honda RC213V ในสนามนี้นั้นสู้กับดูคาติและยามาฮ่าไม่ได้ แต่มาเกซก็ยังสามารถประครองตัว จบการการแข่งขันในอันดับ 5 ทำให้ระยะห่างของคะแนนของตัวเค้ากับ 2 นักแข่ง Yamaha นั้นลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วน VR46 นั่นค่อนข้างจะผิดหวังที่เค้าไม่สามารถเอาชนะเพื่อนร่วมทีมได้ ดูเหมือนว่าการที่ Ducati แข็งแกร่งขึ้น จะส่งผลต่อการลุ้นแชมป์โลกในฝั่งของทีม Yamaha มากกว่า Honda และทั้งลอเลนโซ่และรอสซี่น่าจะต้องเจอกับสถานการณ์แบบนี้ในอีกหลายสนามเลยทีเดียว



ที่สนามนี้ รถ GSX-RR ของ Maverick Vinales สามารถเกาะกับกลุ่มผู้นำได้ราวๆครึ่งทางของการแข่งขัน ในสนามที่ก็ต้องบอกว่าไม่ค่อยเป็นมิตรกับรถของ Suzuki แต่ผลงานในวันนี้ก็แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของทีม Suzuki ที่ค่อยๆดีขึ้นทีละเล็กละน้อย อนึ่ง ในช่วงเวลาประมาณทุ่มนึงตามเวลาท้องถิ่นหลังจบการแข่งขัน พระพิรุณได้เทกระหน่ำลงมาที่ออสเตรีย ซึ่งถือเป็นโชคดีของทั้ง Ducati และ Yamaha ที่ฝนนั้นมาช้ากว่าที่คาดไว้ ไม่อย่างนั้นผลการแข่งขันอาจจะไม่ออกมาในรูปแบบนี้