สุดสัปดาห์นี้ที่บ้านเราจะมีการแข่งขัน World SBK สนามที่ 2 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล ที่บุรีรัมย์ ซึ่งถือเป็นการแข่งขันกีฬาระดับโลก 1 ใน 2 รายการที่จะแข่งขันในบ้านเราพร้อมๆกันกับกอล์ฟ ยูโรเปี้ยนทัวร์ที่กำลังดวลวงสวิงกันอยู่ที่สนามแบล็คเมาท์เท่น สำหรับการแข่งขัน WSBKนั้นเปิดฉากฤดูกาลใหม่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนที่สนาม Phillip Island ที่ประเทศออสเตเรีย ซึ่งทั้ง 2 รอบของการแข่งขันนั้นสนุก ตื่นเต้น มากๆ มีรถ 8 คันจาก 4 โรงงานมาขับเคี่ยวกันในกลุ่มนำ แต่ส่วนนึงต้องยกเครดิตให้กับสนามฟิลลิป ไอส์แลนด็ด้วยแหละ เพราะที่นี่ถือว่าเป็นสนามที่เหมาะสำหรับการแข่งขันรถมอเตอร์ไซด์เป็นอันดับต้นๆของโลก จริงๆถือว่าเป็นอันดับ 1 เลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ในส่วนของรายการ World Super Sport ก็น่าติดตามเช่นเดียวกัน
นักแข่งทั้ง 26 คนในปีนี้
ปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงกติกาที่ถือว่าเปลี่ยนธรรมเนียมของ SBK ไปเลยก็ว่าได้ โดยปกติแล้ว SBK จะมีการแข่งขัน 2 ครั้งในวันอาทิตย์ โดยคั่นกลางด้วยรุ่น WSS แต่ในปีนี้ ทางฝ่ายจัดการแข่งขันได้ตัดสินใจย้ายการแข่งขัน Race1 ไปอยู่ที่ช่วงบ่ายของวันเสาร์หลังจบ Super Pole แทน ซึ่งแรกๆก็ได้รับเสียงต่อต้านจากแฟนๆเยอะเหมือนกัน เพราะก่อนหน้านี้มีผู้ชมบางคนที่เดินทางเข้าสนามวันแค่วันอาทิตย์วันเดียวเพื่อดูการแข่งขัน อาจจะเนื่องจากลางานได้จำกัดหรือต้องการลดค่าใช้จ่ายอะไรก็ตามแต่ แต่หลังจากการเปิดฤดูกาลที่ออสเตเรีย ดูเหมือนว่าเสียงต่อต้านนั้นเริ่มจะลดลง นอกจากข้อดีสำหรับฝ่ายจัดการแข่งขันที่ต้องการจะเรียกยอดผู้ชมการถ่ายทอดสดในวันเสาร์ให้เพิ่มขึ้นแล้ว ข้อดีสำหรับนักแข่งคือมีเวลาในการวิเคราะห์แก้ไขปัญหาได้มากขึ้น กรณีที่รถล้มทีมช่างก็มีเวลาในการซ่อมรถเพิ่มขึ้น นักแข่งสามารถพักผ่อนได้มากขึ้นทำให้อาการเหนื่อยล้าลดลง รวมถึงการฉลองด้วยแชมเปญหลังการแข่งสามารถดื่มได้มากขึ้น อิอิ ใครที่จะติดตามชมการถ่ายทอดสดก็อย่าลืมโปรแกรมวันเสาร์นะ ^^
การแข่งขันที่บุรีรัมย์ปีที่แล้ว
ปีนี้เป็นการกลับมาสู้ศึก WSBK อีกครั้งของ Yamaha โดยการร่วมมือกับทีม Crescent ที่สละเรือจาก Suzuki ที่รวมมือกันยาวนาน รถ RSV4 RF ของ Aprilia ยังคงอยู่ใน SBK ต่อ หลังจากการตัดสินใจในนาทีสุดท้ายของทีม IodaRacing Team ที่ย้ายข้ามห้วยจาก MotoGP มาแข่งฝั่งนี้ แต่ว่าระดับการช่วยเหลือจากโรงงานนั้นน่าจะไม่มากเท่าไหร่ เพราะโรงงานกำลังวุ่นวายอยู่กับการพัฒนารถ RS-GP ลุยศึก MotoGP Nicky Heyden แชมป์โลก MotoGP ปี 2006 ย้ายมาทำงานให้ Honda ในฝั่ง SBK โดยตั้งเป้าในการลุ้นแชมป์โลกในฤดูกาล 2017 หลังจาก Honda เปิดตัวรถ CBR1000RR เวอร์ชั่นใหม่
เราลองมาดูข้อมูลของทีมแข่งหลักๆและภาพรวมของการแข่งขันในปีนี้ดู
Kawasaki Racing Team [Kawasaki ZX-10R]
ทีมแชมป์เก่าปีที่แล้ว ยังคงมาดีเหมือนเคย
ยังคงยึดหัวหาดเป็นทีมเต็งแชมป์และเปิดฤดูกาลได้อย่างสวยสดงดงามสำหรับทีมกรีน ทีมโรงงาน Kawasaki รถ ZX-10R เวอร์ชั่นใหม่นั้นดูสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นกว่าเดิม หลังจากทุ่มเทและเน้นกับ WSBK มาหลายปี ถึงตอนนี้คาวาซากิสามารถก้าวขึ้นมาเป็นเต้ยในฝั่งนี้อย่างเต็มตัว ทีมพัฒนารถที่บาเซโลน่าทำงานได้ดีและมีการพัฒนารถอย่างต่อเนื่อง รถ ZX-10R นั้นมีดีค่อนข้างจะครบครัน Top speed ก็มาดี การควบคุมรถก็ทำได้ง่าย นอกจากนั้นจุดเด่นที่สำคัญคือตัวรถสามารถปรับแต่งให้เข้ากับสภาพอากาศที่หลากหลายได้ง่ายไม่ว่าจะแข่งในสภาพอากาศหนาวเย็นหรือว่าร้อนชื้นเหมือนในแถบบ้านเรา แชมป์เก่าอย่าง Jonathan Rea นั้นยังคงเป็นเต๋งจ๋าที่จะคว้าแชมป์ไปครองในปีนี้ การคว้า 50 คะแนนเต็มจากสนามแรกได้ถือเป็นการเริ่มต้นฤดูกาลที่ยอดเยี่ยม แต่ปีนี้ Rea น่าจะโดนรุมกินโต๊ะทั้งจากเพื่อนรวมทีมอย่าง Tom Syke รวมถึงนักแข่งจากทีมอื่นๆ แต่ด้วยความนิ่ง ยังคงเชื่อว่าโอกาสที่ JR จะคว้าแชมป์โลกมานอนกอดอีกสมัยนั้นมีสูงมากๆ
มีครบทั้งเร็ว นิ่งและดุดัน
Tom Syke อดีตแชมป์โลกปี 2013 นั้นหมายมั่นปั้นมือว่าจะขอยึดบันลังค์กลับไปให้ได้ในปีนี้ แต่ดูเหมือนไซค์จะต้องแก้ไขปัญหาในการยืนระยะของตัวเองให้ได้ก่อน ในการ Qualify นั้นเค้าสามารถคว้าตำแหน่ง Super Pole ได้อย่างเป็นกอบเป็นกำแน่ๆ ในช่วงต้นเรซเค้าก็สามารถนำฝูงได้ไม่ยากแต่พอผ่านครึ่งทางของการแข่งขันไปแล้วเกมจะเริ่มเปลี่ยน การรักษายางของไซค์เหมือนจะยังทำได้ไม่ดีนักถ้าเทียบกับนักแข่งระดับทอปคนอื่นๆในปีสองปีนี้ ซึ่ง 2 เรซแรกของปีนี้ก็มาทรงนี้เป๊ะๆเลย ต้องรอดูว่าพี่ทอมดันดีของเราจะแก้ไขปัญหาตรงนี้ได้เร็วแค่ไหน
ทอม ทอม แวร์ ยู โก ลาส ไนท์ เอ้ย ไม่ใช่ ทอม ไซค์
Aruba.it Racing – Ducati [Ducati 1199 Panigale R]
คู่หู ดูคาติ
ทีมโรงงานดูคาติยังคงเป็นผู้ท้าชิงหมายเลข 1 เหมือนเดิม แต่ดูเหมือนว่า Chaz Davies ยอดนักบิดชาวออสซี่ เพื่อนของสโตนเนอร์ นั้นจะก้าวขึ้นมาเป็นหัวหอกในการสู้ศึกกับทีมคาวาซากิแทนที่ของจอมบ้าดีเดือดอย่าง Davide Giugliano ส่วนนึงน่าจะมาจากการที่ Giugliano นั้นได้รับอุบัติเหตุหนักๆบ่อยครั้งในช่วงหลังๆ น่าจะทำให้เจ้าตัวเริ่มปรับเปลี่ยนสไตล์และลดความมุทะลุลง ซึ่งก็ได้ผล เพราะ Giugliano สามารถเบียดเฮเด้นคว้า Podium แรกมาครองได้ในเรซที่ 2 ทางด้าน
Davide Giugliano
Chaz Davies นั้นมีความเร็วแน่นอน เค้าน่าจะเกาะติดรถของ Kawasaki ได้ตลอดทั้งเรซ เพียงแต่ถ้าหากต้องการลุ้นตำแหน่งแชมป์โลกไปยาวๆแล้วล่ะก็ การเปิดเกมการบุกใส่ Rea โดยการเสี่ยงแซงเหมือนในสนามแรกนั้นอาจจะต้องปรับใหม่ อย่างน้อยก็ต้องทำให้ละเอียดขึ้น เผื่อพื้นที่ผิดพลาดเพื่อไม่ให้เสียตำแหน่งไปด้วยถ้าหากแซงไม่สำเร็จ รถ 1199 Panigale R นั้นยังคงได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และตั้งแต่ในยุคที่ Luigi Dall'Igna ก้าวเข้ามาคุม Ducati Corse การทำงานร่วมกันระหว่างทีมใน MotoGP กับฝั่ง SBK นั้นมีมากขึ้น การแชร์ข้อมูลและถ่ายทอดเทคโนโลยีทำได้รวดเร็วขึ้น ตัวรถอาจจะยังไม่ครบเครื่องเท่ารถของ Kawa แต่ก็เชื่อว่าสมรรถนะไม่หนีห่างกันมากนัก บางสนามเจ้า Panigale น่าจะได้เปรียบซะด้วยซ้ำ ถือว่าเป็นคู่ต่อกรที่สมน้ำสมเนื้อกับเจ้า ZX-10R ที่สุดแล้วในตอนนี้
ตัวแสบของดูคาติปีนี้
นอกจากจะช่วยงานฝั่ง MotoGP แล้ว Casey Stoner ยังอาจจะมาช่วยทีม WSBK ของ Ducati ทดสอบรถอีกด้วย แต่น่าจะยังไม่ใช่ในช่วงต้นฤดูกาลนี้ ซึ่ง Chaz Davies บอกว่ายินดีที่จะให้บักหินมาช่วยทดสอบรถ แต่ถ้าจะมาแข่ง wildcard สนุกๆน่ะอย่าเลยไอเกลอ แค่นี้ก็จะตามคาวาไม่ทันแล้ว
Honda World Superbike Team [Honda CBR1000RR SP]
หนุ่มเมกากับหนุ่มฮอลแลนด์
Honda ยังคงใช้บริการของ Ten kate ในการทำทีมเหมือนเดิม ปีนี้ทีมเสียผู้สนับสนุนหลักอย่าง Pata ให้กับ Yamaha ไปแต่เรื่องเงินนั้นไม่ใช่ปัญหาของ Honda อยู่แล้ว ดูเหมือนว่าในปีนี้ทาง Honda America ได้เข้ามาเป็นเจ้าภาพกองผ้าป่าในการทำทีม การได้ตัว Nicky Heyden มาขี่ให้กับทีมนั้นถือว่าสร้างความคึกคักให้กับทาง Honda พอสมควรและน่าจะช่วยดึงเรตติ้งของ WSBK ในฝั่งอเมริกาได้พอสมควร เนื่องจากตัวรถไม่ได้ทำการอัพเกรดใหญ่มานาน ทีมเลยไม่กล้าที่จะตั้งเป้าไว้สูงนัก แต่ทีมก็พอจะมีข่าวดีบ้างเหมือนกัน ดูเหมือนทางทีมเพิ่งจะหาเจอ 10 แรงม้าในหลบอยู่รถคันเดิม เลยทำให้ในสนามแรกนั้น รถของ Honda สามารถขึ้นมาต่อกรกับกลุ่มหัวแถวได้เลย
ลีลาการยกล้อฉลองของ Michael van der Mark
Michael van der Mark ดาวรุ่งชาวเนเธอแลนด์นั้นเริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างแข็งแกร่ง สามารถขึ้นไปยืนบนโพเดี่ยมได้ทั้ง 2 เรซ VDM นั้นได้รับการจับตามองมาตั้งแต่ตอนที่แข่งใน WSS แล้วล่ะ ว่าอาจจะเป็นนักแข่งอนาคตไกลของ Honda แต่การที่แข่งใน WSBK ก็ทำให้ไม่ได้รับการจับตามองมาเท่านักแข่งใน GP ปีที่แล้วเป็นการเรียนรู้ในรุ่น WSBK ของเค้า ซึ่งก็ทำผลงานได้ค่อนข้างดี จบการแข่งขันในอันดับ 7 ของตารางคะแนนกับ 3 โพเดี่ยม ดูจากทรงแล้วดูเหมือนความมั่นใจของเค้าจะเพิ่มมากขึ้นมาก ถ้ารถของ Honda ดีขึ้นจริงๆ เราน่าจะเห็นรถเบอร์ 60 ขึ้นมาป่วนกลุ่มหน้าได้เกือบทุกสนาม
69 โบกมือทักทายแฟนๆ
ในส่วนของ Nicky Heyden นั้นกำลังอยู่ในช่วงของการปรับตัวให้เข้ากับรถ CBR1000RR แล้วก็ยาง Pirelli แต่ถือว่านิคกี้ทำผลงานได้ค่อนข้างดีเลย การที่เค้ากลับมาอยู่ในกลุ่มหน้าหลังจากตกไปเป็นลูกไล่ใน MotoGP มานานน่าจะทำให้ยอดนักบิดชาวอเมริกันผู้นี้มีไฟลุกขึ้นเยอะ หวังว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดีของเค้า ถ้าทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี ปีหน้าเราจะได้เห็น NH69 ลุ้นที่จะเป็นนักแข่งคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์โลกได้ทั้งใน MotoGP กับ WSBK
Pata Yamaha Official WSBK Team [Yamaha YZF-R1]
Sylvain Guintoli & Alex Lowes
ถือว่าตีฆ้องร้องป่าวเปิดตัวได้ค่อนข้างสวยงามทีเดียวสำหรับรถ YZF-R1 ของ Yamaha ที่ถึงแม้ว่ารถเพิ่งจะได้รับการพัฒนาไม่นานนักแต่ความเร็วก็ขึ้นมาใกล้เคียงกลุ่มหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากคุณลักษณะของรถที่สืบทอดมาจากรถ YZR-M1 ของ Yamaha ที่มีจุดเด่นในเรื่องการทำความเร็วในโค้ง ก็ไม่แปลกที่จะทำผลงานได้ดีที่ Philip Island เชื่อกันว่า Yamaha น่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยก็ 1 ฤดูกาลในการพัฒนารถให้ขึ้นไปเทียบชั้นกับ Kawasaki หรือ Ducati ได้ ดังนั้นในปีนี้เราอาจจะเห็นรถของ Yamaha นั้นหล่นลงไปอยู่กับกลุ่มกลางบ้างในบางสนามซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
Yamaha YZF-R1
ดูเหมือน Sylvain Guintoli แชมป์โลกปี 2014 จะปรับตัวให้เข้ากับรถ R1 ได้เร็วกว่า Alex Lowes เพื่อนร่วมทีม ทั้งคู่ยังต้องเรียนรู้ในตัวรถต่อไป รวมถึงทีมงานของ Yamaha ก็ต้องเร่งพัฒนารถเพื่อเป้าหมายที่จะเป็นแชมป์โลกภายใน 3 ปี ตามที่ตั้งเป้าไว้ สำหรับ Podium นั้นน่าจะมีแน่ๆ แต่จะสามารถก้าวขึ้นไปชนะสนามได้เลยรึเปล่า ยังคงเป็นคำถามที่แฟนๆของ Yamaha ต้องคอยลุ้นคอยเชียร์กันต่อไป
[WSBK] 2016 Season Preview – 1000cc | 7 โรงงาน | 14 สนาม | กับปีที่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของ WSBK ยุคใหม่
นักแข่งทั้ง 26 คนในปีนี้
ปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงกติกาที่ถือว่าเปลี่ยนธรรมเนียมของ SBK ไปเลยก็ว่าได้ โดยปกติแล้ว SBK จะมีการแข่งขัน 2 ครั้งในวันอาทิตย์ โดยคั่นกลางด้วยรุ่น WSS แต่ในปีนี้ ทางฝ่ายจัดการแข่งขันได้ตัดสินใจย้ายการแข่งขัน Race1 ไปอยู่ที่ช่วงบ่ายของวันเสาร์หลังจบ Super Pole แทน ซึ่งแรกๆก็ได้รับเสียงต่อต้านจากแฟนๆเยอะเหมือนกัน เพราะก่อนหน้านี้มีผู้ชมบางคนที่เดินทางเข้าสนามวันแค่วันอาทิตย์วันเดียวเพื่อดูการแข่งขัน อาจจะเนื่องจากลางานได้จำกัดหรือต้องการลดค่าใช้จ่ายอะไรก็ตามแต่ แต่หลังจากการเปิดฤดูกาลที่ออสเตเรีย ดูเหมือนว่าเสียงต่อต้านนั้นเริ่มจะลดลง นอกจากข้อดีสำหรับฝ่ายจัดการแข่งขันที่ต้องการจะเรียกยอดผู้ชมการถ่ายทอดสดในวันเสาร์ให้เพิ่มขึ้นแล้ว ข้อดีสำหรับนักแข่งคือมีเวลาในการวิเคราะห์แก้ไขปัญหาได้มากขึ้น กรณีที่รถล้มทีมช่างก็มีเวลาในการซ่อมรถเพิ่มขึ้น นักแข่งสามารถพักผ่อนได้มากขึ้นทำให้อาการเหนื่อยล้าลดลง รวมถึงการฉลองด้วยแชมเปญหลังการแข่งสามารถดื่มได้มากขึ้น อิอิ ใครที่จะติดตามชมการถ่ายทอดสดก็อย่าลืมโปรแกรมวันเสาร์นะ ^^
การแข่งขันที่บุรีรัมย์ปีที่แล้ว
ปีนี้เป็นการกลับมาสู้ศึก WSBK อีกครั้งของ Yamaha โดยการร่วมมือกับทีม Crescent ที่สละเรือจาก Suzuki ที่รวมมือกันยาวนาน รถ RSV4 RF ของ Aprilia ยังคงอยู่ใน SBK ต่อ หลังจากการตัดสินใจในนาทีสุดท้ายของทีม IodaRacing Team ที่ย้ายข้ามห้วยจาก MotoGP มาแข่งฝั่งนี้ แต่ว่าระดับการช่วยเหลือจากโรงงานนั้นน่าจะไม่มากเท่าไหร่ เพราะโรงงานกำลังวุ่นวายอยู่กับการพัฒนารถ RS-GP ลุยศึก MotoGP Nicky Heyden แชมป์โลก MotoGP ปี 2006 ย้ายมาทำงานให้ Honda ในฝั่ง SBK โดยตั้งเป้าในการลุ้นแชมป์โลกในฤดูกาล 2017 หลังจาก Honda เปิดตัวรถ CBR1000RR เวอร์ชั่นใหม่
เราลองมาดูข้อมูลของทีมแข่งหลักๆและภาพรวมของการแข่งขันในปีนี้ดู
Kawasaki Racing Team [Kawasaki ZX-10R]
ทีมแชมป์เก่าปีที่แล้ว ยังคงมาดีเหมือนเคย
ยังคงยึดหัวหาดเป็นทีมเต็งแชมป์และเปิดฤดูกาลได้อย่างสวยสดงดงามสำหรับทีมกรีน ทีมโรงงาน Kawasaki รถ ZX-10R เวอร์ชั่นใหม่นั้นดูสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นกว่าเดิม หลังจากทุ่มเทและเน้นกับ WSBK มาหลายปี ถึงตอนนี้คาวาซากิสามารถก้าวขึ้นมาเป็นเต้ยในฝั่งนี้อย่างเต็มตัว ทีมพัฒนารถที่บาเซโลน่าทำงานได้ดีและมีการพัฒนารถอย่างต่อเนื่อง รถ ZX-10R นั้นมีดีค่อนข้างจะครบครัน Top speed ก็มาดี การควบคุมรถก็ทำได้ง่าย นอกจากนั้นจุดเด่นที่สำคัญคือตัวรถสามารถปรับแต่งให้เข้ากับสภาพอากาศที่หลากหลายได้ง่ายไม่ว่าจะแข่งในสภาพอากาศหนาวเย็นหรือว่าร้อนชื้นเหมือนในแถบบ้านเรา แชมป์เก่าอย่าง Jonathan Rea นั้นยังคงเป็นเต๋งจ๋าที่จะคว้าแชมป์ไปครองในปีนี้ การคว้า 50 คะแนนเต็มจากสนามแรกได้ถือเป็นการเริ่มต้นฤดูกาลที่ยอดเยี่ยม แต่ปีนี้ Rea น่าจะโดนรุมกินโต๊ะทั้งจากเพื่อนรวมทีมอย่าง Tom Syke รวมถึงนักแข่งจากทีมอื่นๆ แต่ด้วยความนิ่ง ยังคงเชื่อว่าโอกาสที่ JR จะคว้าแชมป์โลกมานอนกอดอีกสมัยนั้นมีสูงมากๆ
มีครบทั้งเร็ว นิ่งและดุดัน
Tom Syke อดีตแชมป์โลกปี 2013 นั้นหมายมั่นปั้นมือว่าจะขอยึดบันลังค์กลับไปให้ได้ในปีนี้ แต่ดูเหมือนไซค์จะต้องแก้ไขปัญหาในการยืนระยะของตัวเองให้ได้ก่อน ในการ Qualify นั้นเค้าสามารถคว้าตำแหน่ง Super Pole ได้อย่างเป็นกอบเป็นกำแน่ๆ ในช่วงต้นเรซเค้าก็สามารถนำฝูงได้ไม่ยากแต่พอผ่านครึ่งทางของการแข่งขันไปแล้วเกมจะเริ่มเปลี่ยน การรักษายางของไซค์เหมือนจะยังทำได้ไม่ดีนักถ้าเทียบกับนักแข่งระดับทอปคนอื่นๆในปีสองปีนี้ ซึ่ง 2 เรซแรกของปีนี้ก็มาทรงนี้เป๊ะๆเลย ต้องรอดูว่าพี่ทอมดันดีของเราจะแก้ไขปัญหาตรงนี้ได้เร็วแค่ไหน
ทอม ทอม แวร์ ยู โก ลาส ไนท์ เอ้ย ไม่ใช่ ทอม ไซค์
Aruba.it Racing – Ducati [Ducati 1199 Panigale R]
คู่หู ดูคาติ
ทีมโรงงานดูคาติยังคงเป็นผู้ท้าชิงหมายเลข 1 เหมือนเดิม แต่ดูเหมือนว่า Chaz Davies ยอดนักบิดชาวออสซี่ เพื่อนของสโตนเนอร์ นั้นจะก้าวขึ้นมาเป็นหัวหอกในการสู้ศึกกับทีมคาวาซากิแทนที่ของจอมบ้าดีเดือดอย่าง Davide Giugliano ส่วนนึงน่าจะมาจากการที่ Giugliano นั้นได้รับอุบัติเหตุหนักๆบ่อยครั้งในช่วงหลังๆ น่าจะทำให้เจ้าตัวเริ่มปรับเปลี่ยนสไตล์และลดความมุทะลุลง ซึ่งก็ได้ผล เพราะ Giugliano สามารถเบียดเฮเด้นคว้า Podium แรกมาครองได้ในเรซที่ 2 ทางด้าน
Davide Giugliano
Chaz Davies นั้นมีความเร็วแน่นอน เค้าน่าจะเกาะติดรถของ Kawasaki ได้ตลอดทั้งเรซ เพียงแต่ถ้าหากต้องการลุ้นตำแหน่งแชมป์โลกไปยาวๆแล้วล่ะก็ การเปิดเกมการบุกใส่ Rea โดยการเสี่ยงแซงเหมือนในสนามแรกนั้นอาจจะต้องปรับใหม่ อย่างน้อยก็ต้องทำให้ละเอียดขึ้น เผื่อพื้นที่ผิดพลาดเพื่อไม่ให้เสียตำแหน่งไปด้วยถ้าหากแซงไม่สำเร็จ รถ 1199 Panigale R นั้นยังคงได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และตั้งแต่ในยุคที่ Luigi Dall'Igna ก้าวเข้ามาคุม Ducati Corse การทำงานร่วมกันระหว่างทีมใน MotoGP กับฝั่ง SBK นั้นมีมากขึ้น การแชร์ข้อมูลและถ่ายทอดเทคโนโลยีทำได้รวดเร็วขึ้น ตัวรถอาจจะยังไม่ครบเครื่องเท่ารถของ Kawa แต่ก็เชื่อว่าสมรรถนะไม่หนีห่างกันมากนัก บางสนามเจ้า Panigale น่าจะได้เปรียบซะด้วยซ้ำ ถือว่าเป็นคู่ต่อกรที่สมน้ำสมเนื้อกับเจ้า ZX-10R ที่สุดแล้วในตอนนี้
ตัวแสบของดูคาติปีนี้
นอกจากจะช่วยงานฝั่ง MotoGP แล้ว Casey Stoner ยังอาจจะมาช่วยทีม WSBK ของ Ducati ทดสอบรถอีกด้วย แต่น่าจะยังไม่ใช่ในช่วงต้นฤดูกาลนี้ ซึ่ง Chaz Davies บอกว่ายินดีที่จะให้บักหินมาช่วยทดสอบรถ แต่ถ้าจะมาแข่ง wildcard สนุกๆน่ะอย่าเลยไอเกลอ แค่นี้ก็จะตามคาวาไม่ทันแล้ว
Honda World Superbike Team [Honda CBR1000RR SP]
หนุ่มเมกากับหนุ่มฮอลแลนด์
Honda ยังคงใช้บริการของ Ten kate ในการทำทีมเหมือนเดิม ปีนี้ทีมเสียผู้สนับสนุนหลักอย่าง Pata ให้กับ Yamaha ไปแต่เรื่องเงินนั้นไม่ใช่ปัญหาของ Honda อยู่แล้ว ดูเหมือนว่าในปีนี้ทาง Honda America ได้เข้ามาเป็นเจ้าภาพกองผ้าป่าในการทำทีม การได้ตัว Nicky Heyden มาขี่ให้กับทีมนั้นถือว่าสร้างความคึกคักให้กับทาง Honda พอสมควรและน่าจะช่วยดึงเรตติ้งของ WSBK ในฝั่งอเมริกาได้พอสมควร เนื่องจากตัวรถไม่ได้ทำการอัพเกรดใหญ่มานาน ทีมเลยไม่กล้าที่จะตั้งเป้าไว้สูงนัก แต่ทีมก็พอจะมีข่าวดีบ้างเหมือนกัน ดูเหมือนทางทีมเพิ่งจะหาเจอ 10 แรงม้าในหลบอยู่รถคันเดิม เลยทำให้ในสนามแรกนั้น รถของ Honda สามารถขึ้นมาต่อกรกับกลุ่มหัวแถวได้เลย
ลีลาการยกล้อฉลองของ Michael van der Mark
Michael van der Mark ดาวรุ่งชาวเนเธอแลนด์นั้นเริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างแข็งแกร่ง สามารถขึ้นไปยืนบนโพเดี่ยมได้ทั้ง 2 เรซ VDM นั้นได้รับการจับตามองมาตั้งแต่ตอนที่แข่งใน WSS แล้วล่ะ ว่าอาจจะเป็นนักแข่งอนาคตไกลของ Honda แต่การที่แข่งใน WSBK ก็ทำให้ไม่ได้รับการจับตามองมาเท่านักแข่งใน GP ปีที่แล้วเป็นการเรียนรู้ในรุ่น WSBK ของเค้า ซึ่งก็ทำผลงานได้ค่อนข้างดี จบการแข่งขันในอันดับ 7 ของตารางคะแนนกับ 3 โพเดี่ยม ดูจากทรงแล้วดูเหมือนความมั่นใจของเค้าจะเพิ่มมากขึ้นมาก ถ้ารถของ Honda ดีขึ้นจริงๆ เราน่าจะเห็นรถเบอร์ 60 ขึ้นมาป่วนกลุ่มหน้าได้เกือบทุกสนาม
69 โบกมือทักทายแฟนๆ
ในส่วนของ Nicky Heyden นั้นกำลังอยู่ในช่วงของการปรับตัวให้เข้ากับรถ CBR1000RR แล้วก็ยาง Pirelli แต่ถือว่านิคกี้ทำผลงานได้ค่อนข้างดีเลย การที่เค้ากลับมาอยู่ในกลุ่มหน้าหลังจากตกไปเป็นลูกไล่ใน MotoGP มานานน่าจะทำให้ยอดนักบิดชาวอเมริกันผู้นี้มีไฟลุกขึ้นเยอะ หวังว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดีของเค้า ถ้าทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี ปีหน้าเราจะได้เห็น NH69 ลุ้นที่จะเป็นนักแข่งคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์โลกได้ทั้งใน MotoGP กับ WSBK
Pata Yamaha Official WSBK Team [Yamaha YZF-R1]
Sylvain Guintoli & Alex Lowes
ถือว่าตีฆ้องร้องป่าวเปิดตัวได้ค่อนข้างสวยงามทีเดียวสำหรับรถ YZF-R1 ของ Yamaha ที่ถึงแม้ว่ารถเพิ่งจะได้รับการพัฒนาไม่นานนักแต่ความเร็วก็ขึ้นมาใกล้เคียงกลุ่มหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากคุณลักษณะของรถที่สืบทอดมาจากรถ YZR-M1 ของ Yamaha ที่มีจุดเด่นในเรื่องการทำความเร็วในโค้ง ก็ไม่แปลกที่จะทำผลงานได้ดีที่ Philip Island เชื่อกันว่า Yamaha น่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยก็ 1 ฤดูกาลในการพัฒนารถให้ขึ้นไปเทียบชั้นกับ Kawasaki หรือ Ducati ได้ ดังนั้นในปีนี้เราอาจจะเห็นรถของ Yamaha นั้นหล่นลงไปอยู่กับกลุ่มกลางบ้างในบางสนามซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
Yamaha YZF-R1
ดูเหมือน Sylvain Guintoli แชมป์โลกปี 2014 จะปรับตัวให้เข้ากับรถ R1 ได้เร็วกว่า Alex Lowes เพื่อนร่วมทีม ทั้งคู่ยังต้องเรียนรู้ในตัวรถต่อไป รวมถึงทีมงานของ Yamaha ก็ต้องเร่งพัฒนารถเพื่อเป้าหมายที่จะเป็นแชมป์โลกภายใน 3 ปี ตามที่ตั้งเป้าไว้ สำหรับ Podium นั้นน่าจะมีแน่ๆ แต่จะสามารถก้าวขึ้นไปชนะสนามได้เลยรึเปล่า ยังคงเป็นคำถามที่แฟนๆของ Yamaha ต้องคอยลุ้นคอยเชียร์กันต่อไป