ผ่านไปเกือบๆ 1 เดือนนับตั้งแต่การแข่งขัน MotoGP เปิดฤดูกาลขึ้นเมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา การแข่งขันดำเนินผ่านไปแล้วทั้งหมด 3 สนามในตะวันออกกลางและทวีปอเมริกา ซึ่งแต่ละสนามก็มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย Marc Marquez โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ขึ้นมาเป็นผู้นำในตารางคะแนนสะสม ซึ่งจริงๆมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรกับผลงานของแชมป์โลกโมโตจีพี 2 สมัย แต่ถ้าเรามองดูปัญหาของรถ Honda ที่มีมาตลอดในช่วงพรีซีซั่น(ต่อเนื่องจากฤดูกาลที่แล้ว)แล้วล่ะก็ ต้องบอกว่าการที่ MM93 จบการแข่งขันบนโพเดี่ยมทุกสนามโดยเป็นชนะถึง 2 สนามนั้นเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายอยู่พอสมควร ขณะที่ความเคลื่อนไหวในตลาดนักบิดก็มีเรื่องราวให้ติดตามมากมาย เรามาลองย้อนไปไล่เรียงถึงเหตุการณ์เหล่านั้นกันดู
ก่อนเริ่มการแข่งขันในรายการ Commercial Bank Grand Prix of Qatar ที่สนาม Losail International Circuit ประเทศกาตาร์ ตลาดนักบิดปี 2017 เริ่มมีการเคลื่อนไหวอย่างเป็นทางการ โดยมี Valentino Rossi เป็นผู้ตัดริบบิ้นเปิดงาน โดยยอดนักบิดเบอร์ 46 ได้ตกลงเซ็นขยายสัญญากับ Yamaha ออกไปอีก 2 ปี นั่นหมายความว่า The doctor จะอยู่กับทีมไปจนถึงปี 2018 เป็นอย่างน้อย ซึ่งก็ไม่ใช่ข่าวที่น่าแปลกใจในเรื่องที่รอสซี่จะอยู่กับทีมต่อ เพราะเราได้เห็นถึงความสัมพันธ์ของ Rossi กับทาง Yamaha ที่ยิ่งดูแล้วมีแต่แนบแน่นขึ้นในระยะหลัง แต่ที่ค่อนข้างจะประหลาดใจกันนิดหน่อยก็ตรงที่การเซ็นสัญญานั้นเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้ เพราะส่วนใหญ่ต่างคาดกันว่ารอสซี่น่าจะตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของเค้าหลังจากฤดูกาลนี้ผ่านไปแล้วประมาณ 3-4 สนาม
The doctor ขยายสัญญากับ Yamaha ออกไปอีก 2 ปี
การเซ็นสัญญาของรอสซี่ครั้งนี้เป็นการส่งสัญญาไปยัง Lorenzo ว่าทาง Yamaha ยังคงหนุนหลัง Rossi อยู่นะ ถ้าเค้าต้องการที่อยู่กับทีม Yamaha ต่อ เพื่อนร่วมทีมและคู่แข่งคนสำคัญก็จะเป็นคู่อริคนเดิมของคนนี้นี่แหละ และถ้ามองในมุมแบบเสี้ยมๆหน่อย การชิงประกาศการต่อสัญญาตรงนี้ก็อาจจะเป็นการเล่มเกมส์กวนประสาทของรอสซี่ต่อลอเลนโซ่ก็เป็นได้ เนื่องจาก Lorenzo เคยออกมาบอกว่าถ้าเป็นไปได้เค้าต้องการที่จะเซ็นสัญญาใหม่ก่อนเปิดฤดูกาล แต่พอทุกอย่างยังไม่เป็นไปตามที่เจ้าอมยิ้มอยากได้ ทาง Rossi ก็เลยบิดคันเร่งออกตัวยกล้อออกมาปาดหน้าประกาศข่าวพร้อมกับเบิ้ลรถควันขาวให้ลอเลนโซ่ดมพอประมาณ
46 vs 99
แน่นอนว่าหลังจากที่รอสซี่เปิดเผยเรื่องต่อสัญญาให้สื่อทราบ ทั้ง Rossi และ Lorenzo ต่างก็โดนสื่อถามเกี่ยวกับเรื่องนี้และทั้งคู่ก็ได้เปิดศึกสงครามน้ำลายรอบใหม่กันไปอีกรอบ โดยทาง JL99 ออกมาบอกว่าเพื่อนร่วมทีมของเค้าไม่มีตัวเลือกอื่นแล้วจึงต้องรีบเซ็นสัญญา ก่อนที่จะไม่มีใครเอา (เฮ้ย ขนาดนั้นเลย ห้า ห้า) ต่างจากหล่อเลือกได้อย่างตนที่สามารถเล่นตัวได้ (อันนี้ใส่ไข่เอาเอง 555) ซึ่งแน่นอนว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั่นแย่ลงไปเรื่อยๆ แต่ทั้งคู่ต่างก็ไม่ได้สนใจตรงนี้อยู่แล้วล่ะ Yamaha นั้นแสดงออกชัดเจนแล้วว่าทีมต้องการนักแข่งทั้งคู่อยู่กับทีมต่อไปและได้ยื่นสัญญาฉบับที่ดีที่สุดให้กับลอเลนโซ่ไปแล้ว ที่เหลือก็อยู่ที่การตัดสินใจของแชมป์โลกปี 2015 แล้วล่ะว่าจะเอายังไง เรียกได้ว่าศึกนอกสนามนั้นก็ซัดกันไม่แพ้การดวลบนแทรคเลยทีเดียว
หลังจากที่อยู่กับทีม Tech3 มายาวนาน ก็ถึงเวลาที่ Bradley Smith จะออกไปพบกับความท้าทายใหม่ๆ
นอกจาก Valentino Rossi แล้ว Bradley Smith ก็เป็นอีกคนที่ได้งานใหม่ไปเป็นที่เรียบร้อยหลังจากได้ตกลงเซ็นสัญญากับทีม KTM เป็นระยะเวลา 2 ปีเช่นเดียวกัน ซึ่งก็ถือว่าเป็นข่าวที่เซอร์ไพรส์พอสมควร ต้องถือว่าผลงานที่โดดเด่นของเจ้าตัวปีที่แล้วนั้นส่งผลให้เค้าได้รับโอกาสตรงนี้ โดยทางเจ้าเหม่งออกมาเปิดเผยว่า ระหว่างที่เค้าเดินทางมาร่วมกิจกรรมกับทางยามาฮ่าที่ประเทศไทยเราเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว มีสายไม่ได้รับโทรมาจากประเทศออสเตรียโทรเข้ามาและหลังจากที่ติดต่อกลับไปถึงได้รู้ว่าทาง KTM ติดต่อมา พอเดินทางกลับไปยุโรปก็ได้คุย Pit Beirer ถึงรายละเอียดเกี่ยวกับโปรเจค MotoGP รวมถึงได้เดินทางไปดูความคืบหน้าของโปรเจคนี้ที่ออสเตรียด้วย เมื่อทุกอย่างโอเคก็เลยตัดสินใจเซ็นสัญญากันในท้ายที่สุด นอกจากผลงานที่ยอดเยี่ยมในปีที่แล้ว Smith ถือเป็นนักแข่งสายเทคนิคคอลคนนึง มีความรู้ในด้านเทคนิคและสามารถสื่อสารกับทีมช่างได้ดีคนนึง ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาเค้าจะยังไม่มีประสบการณ์ในการพัฒนารถโดยตรงก็ตาม BS38 มีโอกาสได้ร่วมพัฒนารถ ขณะเดียวกันเองทาง KTM ก็ต้องการนักแข่งที่มีความรู้ในด้านเทคนิคมาช่วยในการพัฒนารถ RC16 ถือว่าเป็นการเซ็นสัญญาแบบ Win-Win ทั้งสองฝ่าย
JL99 - AD04 - MM93 - VR46
ในส่วนของผลการแข่งขัน ที่นี่เป็นสนามแรกของฤดูกาลก็จริง แต่การที่ Official test ครั้งที่ 3 ทำการทดสอบกันที่นี่ ทำให้ทีมมีข้อมูลกันแล้วระดับนึง ผลจากการทดสอบก็พอจะบอกเป็นนัยๆได้ว่าทิศทางการแข่งขันจะออกมาเป็นยังไงและ Yamaha ก็มาดีตามคาด Jorge Lorenzo นั้นเรียกได้ว่าโชว์ฟอร์มเทพขี่เมฆสีทองมาเลยก็ว่าได้ นักบิดเบอร์ 99 ขี่ได้อย่างแข็งแกร่งตั้งแต่ในรอบการฝึกซ้อมทุกรอบ คว้าตำแหน่ง Pole ไปครอง พร้อมกับขยับขึ้นไปนำกลุ่มผู้นำเกือบตลอดทั้งเรซก่อนที่จะเริ่มฉีกหนีออกไปได้นิดหน่อยในรอบท้ายๆ และชนะสนามนี้ไปในที่สุดพร้อมกับตำแหน่งทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุดพ่วงไปอีกตำแหน่ง ถือว่าเป็นการเปิดฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมของแชมป์โลกปีที่แล้ว ซึ่งเจ้าตัวนั้นออกมาโวลั่นว่า ของแท้ต้องแบบนี้ ผลงานในสนามนั้นบอกอะไรได้ดีกว่าคำพูด อิอิ เรียกได้ว่าพาดพิงไปทางคู่อริเพื่อนร่วมทีมแบบไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมกันเลยทีเดียว
จุ๊ๆๆๆ 555+
Ducati ก็ได้แสดงศักยภาพของรถ GP16 ออกมาให้ได้เห็นอย่างที่คาดการณ์กันไว้ (แต่ต้องยอมรับว่า Ducati ทำผลงานได้ค่อนข้างดีมาตลอดในการแข่งขันที่นี่) รถ Ducati ทั้ง 2 คันสามารถเกาะอยู่ในกลุ่มนำได้ตลอด และมีจังหวะที่ซัดกันเองด้วย ก่อนที่ Andrea Iannone จะพลาดล้มต้องออกจากแข่งขันไป หลังจากที่ JL99 เริ่มจะฉีกหนีออกไปได้ในรอบท้ายๆ ปล่อยให้ทาง Andrea Dovizioso ต้องมาขับเคี่ยวแย่งตำแหน่งที่ 2 กับ Marc Márquez และทำได้สำเร็จในที่สุด ที่น่าชื่นชมคือ MM93 สามารถพารถ RC213V ขึ้นโพเดี่ยมได้ ทั้งๆที่เค้าและทีมเจอปัญหาค่อนข้างเยอะในช่วงพรีซีซั่น ทางด้าน Rossi นั้นออกมายอมรับว่าในสนามนี้เค้ายังไม่เร็วพอที่จะขึ้นไปต่อสู้กับรถในกลุ่มนำได้ เค้าและทีมงานต้องทำงานหนักอีกพอสมควร ขณะที่ Dani Pedrosa เจอปัญหาในการเซ็ตอัพรถซึ่งยังทำได้ไม่ดีนัก เลยต้องขี่แยกออกไปอีกกลุ่มนึงกับ Maverick Viñales จาก Suzuki ก่อนที่จะจบกันแข่งขันอันดับ 5 และ Maverick Viñales นั้นจบการแข่งขันที่ 6 โดยนักแข่งทีมซูซูกิเบอร์ 25 ได้ออกมาเปิดเผยว่าค่อนข้างจะผิดหวังเล็กน้อยที่ไม่สามารถขึ้นไปขี่อยู่กับกลุ่มนำได้ ทั้งๆที่ Race Pace ที่ทำได้ในการซ้อมทำได้ดีกว่านี้ แต่ผลงานของนักบิดชาวสเปนผู้นี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่ารถ GSX-RR ของ Suzuki นั้นพัฒนาขึ้นมาอีกก้าวนึงแล้ว
แย่งอันดับ 5-6 กันเหงาๆอยู่ 2 คน
Lorenzo บอกว่าการเลือกยางหลังเป็นยางซอร์ฟ ขณะที่คู่แข่งในกลุ่มหน้านั้นส่วนใหญ่เลือกยางมีเดียมคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เค้าชนะที่นี่ ซึ่งตามปกติแล้วเนื้อยางที่หยาบกว่าจะทำงานได้ดีกว่าในรอบหลังๆ แต่ในรอบวอร์มอัพเค้ารู้สึกไม่ค่อยโอเคกับยางมีเดียม ในขณะเดียวกันก็เห็น Marquez ที่ใช้ยางซอร์ฟนั้นทำเวลาได้ดีขึ้นเรื่อยๆ (เอ๊ะ พวกเอ็งเป็นเพื่อนร่วมทีมกันเหรอเนี่ย เอิ๊กๆ) เจ้าตัวเลยตัดสินใจเสี่ยงเลือกใช้ยางซอร์ฟในการแข่งและส่งผลต่อชัยชนะในที่สุด สำหรับประเด็นนอกสนาม ในเมื่อทั้ง Lorenzo และ Marquez ขึ้น Podium พร้อมกัน ผลที่ตามมาคือมีเสียงโห่เกิดขึ้นในพิธีมอบถ้วยรางวัล ซึ่งคงเดากันไม่ยากว่าเสียงโห่มาจากแฟนๆของ Rossi นั่นเอง และในสนามนี้ Andre Iannone ได้ทำลายสถิติความเร็วสูงสุดของตัวเองที่ทำไว้ที่มูเจลโล่ลงโดยทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 351.2km/h
Andre Iannone เริ่มกลับมามีข้อผิดพลาดมากขึ้นเรื่อยๆ
ที่กาตาร์มีมหกรรมจั๊มสตาร์ทหมู่เกิดขึ้นในรุ่น Moto2 ซึ่งดูไปก็ขำไป นักแข่งตัวทอปของรุ่นไม่ว่าจะเป็น Johann Zarco, Sam Lowes, Álex Rins, Takaaki Nakagami, Simone Corsi หรือ Franco Morbidelli ต่างพากันขยับรถก่อนที่สัญญาณไฟแดงจะดับกันทั้งหมด ตอนแรกเหมือนมีกระแสข่าวออกมาว่ามีไฟบางดวงที่ทำงานผิดพลาดทำให้เกิดเหตุการณ์ตรงนี้ขึ้น แต่ทางผู้ควบคุมการแข่งขันว่าออกมายืนยันแล้วว่าไม่พบปัญหานั้นและไฟแดงทั้ง 5 ดวงดับลงในวินาทีที่ 3 ซึ่งเป็นไปตามกฎที่ไฟแดงจะดับลงระหว่าง 2-5 วินาทีตามปกติ นักแข่ง 6 คนแรกที่ระบบตรวจจับได้โดนลงโทษ Ride through แต่มันมีประเด็นที่ว่านักแข่งอย่าง Simone Corsi กับ Franco Morbidelli ที่รถมีการขยับอย่างชัดเจน จริงๆขยับเยอะด้วยกลับไม่โดนลงโทษ
การออกสตาร์ทอันยุ่งเหยิงของรุ่น Moto2
โดยหลังจากตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดแล้ว Mike Web ออกมาเปิดเผยว่ากล้องและเซ็นเซอร์ที่ใช้ตรวจกับจั๊มสตาร์ทนั้นมีปัญหารวมระบบที่นำภาพมาฉายซ้ำ ซึ่งกว่าที่ระบบจะกลับมาทำงานปกติและตรวจเจอว่าทั้ง Simone Corsi และ Franco Morbidelli ก็ออกสตาร์ทก่อนสัญญาไฟแดงดับด้วยเช่นกันก็เหลือเวลาการแข่งขันอีกไม่กี่รอบแล้ว ทำให้ทั้งคู่โดนลงโทษเพิ่มเวลา 20 วินาทีหลังจากแข่งจบแทนที่จะเป็น Ride trough เหมือนกับนักแข่งคนอื่น ซึ่งไม่เป็นธรรมต่อนักแข่งคนอื่นๆที่ต้องเสียเวลาในการวิ่งผ่านพิทเลนและต้องไล่แซงรถคันอื่นๆเพื่อไต่อันดับกลับมา ทางผู้ควบคุมการแข่งขันเองก็รับรู้ถึงปัญหานี้แต่ทว่าทุกอย่างก็ต้องทำไปตามกฎ ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ทาง FIM ต้องกลับไปทบทวนในเรื่องของกฏเกี่ยวกับเรื่องนี้ใหม่อีกครั้ง ในขณะเดียวกันก็ต้องแสดงความยินดีกับเจ้าฟิล์มของเราด้วย ที่สามารถจบการแข่งขันในอันดับที่ 13 คว้า 3 คะแนนแรกมาครองได้สำเร็จ ถือว่าเป็นการเปิดตัวการคัมแบ็คครั้งนี้ได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว
เจ้าฟิล์มประเดิมคว้า 3 แต้มแรกของฤดูกาลได้ที่การ์ต้า
[MotoGP] การกลับมาของรถเบอร์ 93 และการเดินทางของรถเบอร์ 99
ก่อนเริ่มการแข่งขันในรายการ Commercial Bank Grand Prix of Qatar ที่สนาม Losail International Circuit ประเทศกาตาร์ ตลาดนักบิดปี 2017 เริ่มมีการเคลื่อนไหวอย่างเป็นทางการ โดยมี Valentino Rossi เป็นผู้ตัดริบบิ้นเปิดงาน โดยยอดนักบิดเบอร์ 46 ได้ตกลงเซ็นขยายสัญญากับ Yamaha ออกไปอีก 2 ปี นั่นหมายความว่า The doctor จะอยู่กับทีมไปจนถึงปี 2018 เป็นอย่างน้อย ซึ่งก็ไม่ใช่ข่าวที่น่าแปลกใจในเรื่องที่รอสซี่จะอยู่กับทีมต่อ เพราะเราได้เห็นถึงความสัมพันธ์ของ Rossi กับทาง Yamaha ที่ยิ่งดูแล้วมีแต่แนบแน่นขึ้นในระยะหลัง แต่ที่ค่อนข้างจะประหลาดใจกันนิดหน่อยก็ตรงที่การเซ็นสัญญานั้นเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้ เพราะส่วนใหญ่ต่างคาดกันว่ารอสซี่น่าจะตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของเค้าหลังจากฤดูกาลนี้ผ่านไปแล้วประมาณ 3-4 สนาม
The doctor ขยายสัญญากับ Yamaha ออกไปอีก 2 ปี
การเซ็นสัญญาของรอสซี่ครั้งนี้เป็นการส่งสัญญาไปยัง Lorenzo ว่าทาง Yamaha ยังคงหนุนหลัง Rossi อยู่นะ ถ้าเค้าต้องการที่อยู่กับทีม Yamaha ต่อ เพื่อนร่วมทีมและคู่แข่งคนสำคัญก็จะเป็นคู่อริคนเดิมของคนนี้นี่แหละ และถ้ามองในมุมแบบเสี้ยมๆหน่อย การชิงประกาศการต่อสัญญาตรงนี้ก็อาจจะเป็นการเล่มเกมส์กวนประสาทของรอสซี่ต่อลอเลนโซ่ก็เป็นได้ เนื่องจาก Lorenzo เคยออกมาบอกว่าถ้าเป็นไปได้เค้าต้องการที่จะเซ็นสัญญาใหม่ก่อนเปิดฤดูกาล แต่พอทุกอย่างยังไม่เป็นไปตามที่เจ้าอมยิ้มอยากได้ ทาง Rossi ก็เลยบิดคันเร่งออกตัวยกล้อออกมาปาดหน้าประกาศข่าวพร้อมกับเบิ้ลรถควันขาวให้ลอเลนโซ่ดมพอประมาณ
46 vs 99
แน่นอนว่าหลังจากที่รอสซี่เปิดเผยเรื่องต่อสัญญาให้สื่อทราบ ทั้ง Rossi และ Lorenzo ต่างก็โดนสื่อถามเกี่ยวกับเรื่องนี้และทั้งคู่ก็ได้เปิดศึกสงครามน้ำลายรอบใหม่กันไปอีกรอบ โดยทาง JL99 ออกมาบอกว่าเพื่อนร่วมทีมของเค้าไม่มีตัวเลือกอื่นแล้วจึงต้องรีบเซ็นสัญญา ก่อนที่จะไม่มีใครเอา (เฮ้ย ขนาดนั้นเลย ห้า ห้า) ต่างจากหล่อเลือกได้อย่างตนที่สามารถเล่นตัวได้ (อันนี้ใส่ไข่เอาเอง 555) ซึ่งแน่นอนว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั่นแย่ลงไปเรื่อยๆ แต่ทั้งคู่ต่างก็ไม่ได้สนใจตรงนี้อยู่แล้วล่ะ Yamaha นั้นแสดงออกชัดเจนแล้วว่าทีมต้องการนักแข่งทั้งคู่อยู่กับทีมต่อไปและได้ยื่นสัญญาฉบับที่ดีที่สุดให้กับลอเลนโซ่ไปแล้ว ที่เหลือก็อยู่ที่การตัดสินใจของแชมป์โลกปี 2015 แล้วล่ะว่าจะเอายังไง เรียกได้ว่าศึกนอกสนามนั้นก็ซัดกันไม่แพ้การดวลบนแทรคเลยทีเดียว
หลังจากที่อยู่กับทีม Tech3 มายาวนาน ก็ถึงเวลาที่ Bradley Smith จะออกไปพบกับความท้าทายใหม่ๆ
นอกจาก Valentino Rossi แล้ว Bradley Smith ก็เป็นอีกคนที่ได้งานใหม่ไปเป็นที่เรียบร้อยหลังจากได้ตกลงเซ็นสัญญากับทีม KTM เป็นระยะเวลา 2 ปีเช่นเดียวกัน ซึ่งก็ถือว่าเป็นข่าวที่เซอร์ไพรส์พอสมควร ต้องถือว่าผลงานที่โดดเด่นของเจ้าตัวปีที่แล้วนั้นส่งผลให้เค้าได้รับโอกาสตรงนี้ โดยทางเจ้าเหม่งออกมาเปิดเผยว่า ระหว่างที่เค้าเดินทางมาร่วมกิจกรรมกับทางยามาฮ่าที่ประเทศไทยเราเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว มีสายไม่ได้รับโทรมาจากประเทศออสเตรียโทรเข้ามาและหลังจากที่ติดต่อกลับไปถึงได้รู้ว่าทาง KTM ติดต่อมา พอเดินทางกลับไปยุโรปก็ได้คุย Pit Beirer ถึงรายละเอียดเกี่ยวกับโปรเจค MotoGP รวมถึงได้เดินทางไปดูความคืบหน้าของโปรเจคนี้ที่ออสเตรียด้วย เมื่อทุกอย่างโอเคก็เลยตัดสินใจเซ็นสัญญากันในท้ายที่สุด นอกจากผลงานที่ยอดเยี่ยมในปีที่แล้ว Smith ถือเป็นนักแข่งสายเทคนิคคอลคนนึง มีความรู้ในด้านเทคนิคและสามารถสื่อสารกับทีมช่างได้ดีคนนึง ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาเค้าจะยังไม่มีประสบการณ์ในการพัฒนารถโดยตรงก็ตาม BS38 มีโอกาสได้ร่วมพัฒนารถ ขณะเดียวกันเองทาง KTM ก็ต้องการนักแข่งที่มีความรู้ในด้านเทคนิคมาช่วยในการพัฒนารถ RC16 ถือว่าเป็นการเซ็นสัญญาแบบ Win-Win ทั้งสองฝ่าย
JL99 - AD04 - MM93 - VR46
ในส่วนของผลการแข่งขัน ที่นี่เป็นสนามแรกของฤดูกาลก็จริง แต่การที่ Official test ครั้งที่ 3 ทำการทดสอบกันที่นี่ ทำให้ทีมมีข้อมูลกันแล้วระดับนึง ผลจากการทดสอบก็พอจะบอกเป็นนัยๆได้ว่าทิศทางการแข่งขันจะออกมาเป็นยังไงและ Yamaha ก็มาดีตามคาด Jorge Lorenzo นั้นเรียกได้ว่าโชว์ฟอร์มเทพขี่เมฆสีทองมาเลยก็ว่าได้ นักบิดเบอร์ 99 ขี่ได้อย่างแข็งแกร่งตั้งแต่ในรอบการฝึกซ้อมทุกรอบ คว้าตำแหน่ง Pole ไปครอง พร้อมกับขยับขึ้นไปนำกลุ่มผู้นำเกือบตลอดทั้งเรซก่อนที่จะเริ่มฉีกหนีออกไปได้นิดหน่อยในรอบท้ายๆ และชนะสนามนี้ไปในที่สุดพร้อมกับตำแหน่งทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุดพ่วงไปอีกตำแหน่ง ถือว่าเป็นการเปิดฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมของแชมป์โลกปีที่แล้ว ซึ่งเจ้าตัวนั้นออกมาโวลั่นว่า ของแท้ต้องแบบนี้ ผลงานในสนามนั้นบอกอะไรได้ดีกว่าคำพูด อิอิ เรียกได้ว่าพาดพิงไปทางคู่อริเพื่อนร่วมทีมแบบไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมกันเลยทีเดียว
จุ๊ๆๆๆ 555+
Ducati ก็ได้แสดงศักยภาพของรถ GP16 ออกมาให้ได้เห็นอย่างที่คาดการณ์กันไว้ (แต่ต้องยอมรับว่า Ducati ทำผลงานได้ค่อนข้างดีมาตลอดในการแข่งขันที่นี่) รถ Ducati ทั้ง 2 คันสามารถเกาะอยู่ในกลุ่มนำได้ตลอด และมีจังหวะที่ซัดกันเองด้วย ก่อนที่ Andrea Iannone จะพลาดล้มต้องออกจากแข่งขันไป หลังจากที่ JL99 เริ่มจะฉีกหนีออกไปได้ในรอบท้ายๆ ปล่อยให้ทาง Andrea Dovizioso ต้องมาขับเคี่ยวแย่งตำแหน่งที่ 2 กับ Marc Márquez และทำได้สำเร็จในที่สุด ที่น่าชื่นชมคือ MM93 สามารถพารถ RC213V ขึ้นโพเดี่ยมได้ ทั้งๆที่เค้าและทีมเจอปัญหาค่อนข้างเยอะในช่วงพรีซีซั่น ทางด้าน Rossi นั้นออกมายอมรับว่าในสนามนี้เค้ายังไม่เร็วพอที่จะขึ้นไปต่อสู้กับรถในกลุ่มนำได้ เค้าและทีมงานต้องทำงานหนักอีกพอสมควร ขณะที่ Dani Pedrosa เจอปัญหาในการเซ็ตอัพรถซึ่งยังทำได้ไม่ดีนัก เลยต้องขี่แยกออกไปอีกกลุ่มนึงกับ Maverick Viñales จาก Suzuki ก่อนที่จะจบกันแข่งขันอันดับ 5 และ Maverick Viñales นั้นจบการแข่งขันที่ 6 โดยนักแข่งทีมซูซูกิเบอร์ 25 ได้ออกมาเปิดเผยว่าค่อนข้างจะผิดหวังเล็กน้อยที่ไม่สามารถขึ้นไปขี่อยู่กับกลุ่มนำได้ ทั้งๆที่ Race Pace ที่ทำได้ในการซ้อมทำได้ดีกว่านี้ แต่ผลงานของนักบิดชาวสเปนผู้นี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่ารถ GSX-RR ของ Suzuki นั้นพัฒนาขึ้นมาอีกก้าวนึงแล้ว
แย่งอันดับ 5-6 กันเหงาๆอยู่ 2 คน
Lorenzo บอกว่าการเลือกยางหลังเป็นยางซอร์ฟ ขณะที่คู่แข่งในกลุ่มหน้านั้นส่วนใหญ่เลือกยางมีเดียมคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เค้าชนะที่นี่ ซึ่งตามปกติแล้วเนื้อยางที่หยาบกว่าจะทำงานได้ดีกว่าในรอบหลังๆ แต่ในรอบวอร์มอัพเค้ารู้สึกไม่ค่อยโอเคกับยางมีเดียม ในขณะเดียวกันก็เห็น Marquez ที่ใช้ยางซอร์ฟนั้นทำเวลาได้ดีขึ้นเรื่อยๆ (เอ๊ะ พวกเอ็งเป็นเพื่อนร่วมทีมกันเหรอเนี่ย เอิ๊กๆ) เจ้าตัวเลยตัดสินใจเสี่ยงเลือกใช้ยางซอร์ฟในการแข่งและส่งผลต่อชัยชนะในที่สุด สำหรับประเด็นนอกสนาม ในเมื่อทั้ง Lorenzo และ Marquez ขึ้น Podium พร้อมกัน ผลที่ตามมาคือมีเสียงโห่เกิดขึ้นในพิธีมอบถ้วยรางวัล ซึ่งคงเดากันไม่ยากว่าเสียงโห่มาจากแฟนๆของ Rossi นั่นเอง และในสนามนี้ Andre Iannone ได้ทำลายสถิติความเร็วสูงสุดของตัวเองที่ทำไว้ที่มูเจลโล่ลงโดยทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 351.2km/h
Andre Iannone เริ่มกลับมามีข้อผิดพลาดมากขึ้นเรื่อยๆ
ที่กาตาร์มีมหกรรมจั๊มสตาร์ทหมู่เกิดขึ้นในรุ่น Moto2 ซึ่งดูไปก็ขำไป นักแข่งตัวทอปของรุ่นไม่ว่าจะเป็น Johann Zarco, Sam Lowes, Álex Rins, Takaaki Nakagami, Simone Corsi หรือ Franco Morbidelli ต่างพากันขยับรถก่อนที่สัญญาณไฟแดงจะดับกันทั้งหมด ตอนแรกเหมือนมีกระแสข่าวออกมาว่ามีไฟบางดวงที่ทำงานผิดพลาดทำให้เกิดเหตุการณ์ตรงนี้ขึ้น แต่ทางผู้ควบคุมการแข่งขันว่าออกมายืนยันแล้วว่าไม่พบปัญหานั้นและไฟแดงทั้ง 5 ดวงดับลงในวินาทีที่ 3 ซึ่งเป็นไปตามกฎที่ไฟแดงจะดับลงระหว่าง 2-5 วินาทีตามปกติ นักแข่ง 6 คนแรกที่ระบบตรวจจับได้โดนลงโทษ Ride through แต่มันมีประเด็นที่ว่านักแข่งอย่าง Simone Corsi กับ Franco Morbidelli ที่รถมีการขยับอย่างชัดเจน จริงๆขยับเยอะด้วยกลับไม่โดนลงโทษ
การออกสตาร์ทอันยุ่งเหยิงของรุ่น Moto2
โดยหลังจากตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดแล้ว Mike Web ออกมาเปิดเผยว่ากล้องและเซ็นเซอร์ที่ใช้ตรวจกับจั๊มสตาร์ทนั้นมีปัญหารวมระบบที่นำภาพมาฉายซ้ำ ซึ่งกว่าที่ระบบจะกลับมาทำงานปกติและตรวจเจอว่าทั้ง Simone Corsi และ Franco Morbidelli ก็ออกสตาร์ทก่อนสัญญาไฟแดงดับด้วยเช่นกันก็เหลือเวลาการแข่งขันอีกไม่กี่รอบแล้ว ทำให้ทั้งคู่โดนลงโทษเพิ่มเวลา 20 วินาทีหลังจากแข่งจบแทนที่จะเป็น Ride trough เหมือนกับนักแข่งคนอื่น ซึ่งไม่เป็นธรรมต่อนักแข่งคนอื่นๆที่ต้องเสียเวลาในการวิ่งผ่านพิทเลนและต้องไล่แซงรถคันอื่นๆเพื่อไต่อันดับกลับมา ทางผู้ควบคุมการแข่งขันเองก็รับรู้ถึงปัญหานี้แต่ทว่าทุกอย่างก็ต้องทำไปตามกฎ ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ทาง FIM ต้องกลับไปทบทวนในเรื่องของกฏเกี่ยวกับเรื่องนี้ใหม่อีกครั้ง ในขณะเดียวกันก็ต้องแสดงความยินดีกับเจ้าฟิล์มของเราด้วย ที่สามารถจบการแข่งขันในอันดับที่ 13 คว้า 3 คะแนนแรกมาครองได้สำเร็จ ถือว่าเป็นการเปิดตัวการคัมแบ็คครั้งนี้ได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว
เจ้าฟิล์มประเดิมคว้า 3 แต้มแรกของฤดูกาลได้ที่การ์ต้า