ดิฉันจะขอพยายามพูดเป็นกลางให้มากที่สุดนะคะ.
สมัยตอนเรียนที่ต่างประเทศได้มีโอกาสรู้จักเพื่อนคนไทยคนนึงแต่ไม่เคยได้ออกไปเที่ยวไหนกันหรือพูดคุยกัน เวลาเจอหน้สกันก็จะทักกันตามประสาคนไทยด้วยกันด้วยความที่เพื่อนคนนี้อยู่ที่นี้มาตั้งแต่เล็กๆการพูดและการเขียนภาษาไทยจึงไม่ใช่เรื่องถนัดซักเท่าไหร่นักแต่โชคดีที่เค้ายังสื่อสารภาษาไทยได้
เรื่องมีอยู่ว่าเพื่อนคนนี้จะมาเที่ยวเมืองไทยแม่ของฉันเลยอาสาบอกแม่ของเค้าว่าให้มาพักอยู่กับฉันก็ได้ ก่อนที่เพื่อนคนนี้จะมาหาฉันเค้าได้ไปอยู่กับพ่อของเค้าก่อนที่อีสานแล้วค่อยมาซึ้งฉันไม่ทราบเลยว่าเค้าจะมาอยู่กี่วันฉันเลยยกห้องนอนของแม่ให้เค้าอยู่ซึ้งแม่ของฉันตอนนี้อยู่ตปท เพื่อนคนนี้ไม่รู้จักเมืองไทยเลย ฉันไม่ได้ไปรับเพื่อนให้ดค้ามาเองที่บ้านพอมาถึงฉันก็บอกเค้าว่าจะพาไปตลาดนัดรถไฟน่าจะชอบน้ะ ซึ้งวันนั้นฉันรอเพื่อนคนนี้แต่งตัวประมาณชั่วโมงนึงจำได้ว่ารอจนดูซีรีย์เกาหลีจบ1ตอน ฉันก็ไม่อยากหงุดหงิดเค้าคงจัดของเลยไม่ได้พูดอะไรพอไปถึงตลาดนัดรถไฟตอนนั้นเป็นเวลาเกือบ3ทุ่ม เพื่อนก็บอกว่าไม่ใช่ห้องแอร์หรอเค้ากินข้าวไม่ค่อยลง ฉันเลยบอกเค้าไปว่าในห้างตอนนี้ปิดหมดแล้วไม่มีข้าวขายรอกมีแต่ด้านนอก สุดท้ายไปลงเอยที่ร้านปิ๊งย่างแถวนั่นเป็นบุฟเฟ่แบบมีแต่เนื้อ280กว่าบาท รวมผักด้วยจ่ายเพิ่มดิฉันก็เลยอ่านให้เพื่แนฟังว่ามีอะไรบ้างนางบอกเอาแบบถูกล่ะกันจากนั้นเด็กเสริฟ์มารับออเดย์ เด็กเสริฟ์ก็อธิบายอีกรอบ เค้าก็ยืนยันว่าจะเอา280ซึ้งมีแต่เนื้อ ที่นี้พอเนื้อมาเสริฟ์ เพื่อนคนนี้ก็ไม่โอเค บอกว่าร้านอาหารเกาหลีที่นุ้นมีกิมจิด้วยทำไมที่นี้ไม่มีฉันก็เลยบอกมันมีต้องจ่ายเพิ่ม เค้าก็บอกตอนอยู่กับพ่อเค้าพ่อเค้าพาไปกินฮอท พอทดีกว่านี้อีกมีผักด้วยฉันก็พยายามอธิบายว่าแต่ละที่ไม่เหมือนกันถ้าชอบจะพาไปกินร้านที่เคยไปอร่อยสีหน้าของเพื่อนเริ่มไม่พอใจ จากนั้นเด็กเสริฟ์มาเพื่อนก็ถามเด็กเสริฟ์ว่าทำไมไม่มีผักเด็เสริฟ์ก็อธิบายตามเมนุและราคาของร้านตอนนั้นคือฉันร้สึกแย่มากอยากจะพาเค้าไปในที่ที่เค้าประทับใจและชอบ พอถึงบ้านฉันก็นัดเค่พรุ่งนี้จะพาไปตลาดน้ำ พระบรมหาราชวัง และรุฟทอปบาร์ ออกจากบ้าน9โมงน้ะมันต้องไปแต่เช้า เค้าก็ตกปากรับคำบอกตัวเค้าเองจะตื่น 7โมงเช้าเพราะเค้าแต่งตัวนาน
วันรุ่งขึ้น8โมงฉันก็ตื่นมารีบอาบน้ำ ปรากฎ8โมงครึ่งเพื่อนคนนี้โทรมาหาฉันและบอกฉันเค้าเพิ่งตื่นเมื่อคืนนอนดึก ฉันก็บอกไม่เป็นไรรีบๆลาะกัน ตัวฉันเองเลยไม่รีบแต่งหน้าไปเรื่อยๆจน9ครึ่ง ฉันลงไปนั่งรอข้างล่างคาดว่า10โมงเพื่อนคงเสร็จ ปรากฎ10 โมงเพื่อนเดินลงพร้อมกับสภาพยังไม่ได้แต่งตัวเดินมาขอยืมที่ถอนขนจักแร้และคอตตอลบัท โอ้แม่เจ้าคุณเธออะไรจะขนาดนั้นตอนนั้นฉันเริ่มมีน้ำโห ฉันถามเค้าว่าจะเสร็จยังเค้าก็ตอบอือ แล้วก็ขึ้นไปผ่านไปครึ่งชั่งโมงยังไม่เสร็จอีกตอนนั้นคืออารมณ์ฉันไม่อยากจะพาไปล่ะ อะไรกันจะให้คนอื่นพาเที่ยวทำไมปล่อยให้รอขนาดนี้ นางเสร็จตอน 10.45 จ้า ฉันก็รีบออกและบ่นว่าวันเสาร์รถติดกว่าจะถึง เค้าก็ไม่สะทกสะท้านค่านั่งนิ่งไม่ขอโทษซักคำ พอถึงตลาดน้ำนั่งกินข้าวฉันก็ดูนาฬิกาตอนนั้น2 โมงครึ่ง ฉันเลยบอกให้เค้ารีบๆกินเด็ววันพระแก้ปิดมันปิด3โมงกว่าเค้าก็บอกฉันว่างั้นเราค่อยไปวันอื่นล่ะกันฉันก็บอกไปเลยแต่ไม่ได้เข้าข้างใน เค้าก็ยืนยันคำเดิมว่าให้ไปวันอื่น แม่คุณอุสาบอกให้ไปแต่เช้าและไม่รีบเลย ฉันก็เลยบอกไปวันนี้ล่ะออกตอนนี้ก็ทันตลาดน้ำตลิ่งชันไปสนามหลวงแป๊บเดียวเอง จากบ้านฉันไปสนามหลวงไกลมากและเปลืองค่ารถมากด้วย และตลอดทางค่ารถคือฉันออกไม่มีแบบเฮ้ยแกเมื่อกี้ค่ารถเท่าไหร่ เฮ้ยแกเด๋วเราออกเอง กะจะให้ออกให้ทุกครั้ง หลังกลับจากสนามหลวงฉันพาเพื่อนไปรูฟท็อบที่นึงที่ฉันเคยทำงานที่นั้นพี่ที่รุ้จักเค้าก็จัดที่ให้อย่างดีนั่งด้านหน้าติดระเบียง ฉันก็สั่งค้อกเทลฉันพี่ที่รู้จักเค้าก็ใส่เหล้าเข้มข้นให้เป้นพิเศษ อีเพื่อนฉันนางก็กินค็อคเทลนางปรากฎนางก็บอกว่าจืดมากไม่มีรสชาตเหล้าเลยฉันก็ชิมก็จริงพอเห็นที่รุ้จักกันก็เลยไว้วานให้เค้าเติมเหล้าให้เพื่อนฉันหน่อย สักพักฝนก็มาพี่พนง.ก้เริ่มให้ลงแต่เพื่อนนางไม่อยากลงนางบอกเดี๋ยวฝนก็หยุดนางก็เริ่มไม่พอใจ พี่พนง.ก้บอกตกหนักค่ะมาขนาดนี้ถ้าไม่ย้ายตอนนี้พอตกหนักพี่เอาไม่อยุ่ฉันก็เลยต้องบอกให้เพื่อนคนนี้ลงไปนั่งในห้องแอร์ สักพักเค้าก้พูดว่ายังไม่มีใครมาเติมเหล้าให้เลยฉันเลยต้องวานพี่เค้าอีกรอบให่เติมเหล้าให้เพื่อนนู่หน่อยค่ะ ยังไม่พอค่ะฝนหยุดแล้วนางก็ดูไม่แฮปปี้ฉันก็เออะไหนๆก็มาละเด๋วลองขอพี่เค้าไปนั่งข้างนอกพี่เค้าก็ยุ่งกันมากวันนั้นเค้าก็ว่าฉันมาคำนึงจุกอกเลยค่ะว่าแกเป็นลูกค้าที่เยอะน้ะ ปล.คือฉันรุ้จักทุกคนในนั่นหมด ฉันก็กลับไปนั่งที่โต๊ะและบ่นกับเพื่อนว่าเราโดนด่ามาว่าเยอะนางก็ไม่พูดอะไร พอได้ไปนั่งข้างนอกนางก็เริ่มเซิทหา sigthseeing in bangkok and top ten rooftop bar นางก็บ่นว่าที่ที่ฉันพาไปไม่เห็นติดอันดับเลยนางอยากไปที่นี้ที่นั่นฉันคิดในใจพามาที่นี้ค๊อคเทลแก้วล่ะ300 กว่าบาทยังบ่นว่าแพงเลยแล้วที่อื่นจะไม่แพงกว่านี้หรอ ตอนเรียกเก็บตังค์พี่เค่ก้ไม่เก็บค่าอาหารเก้บแต่ค่าค้อคเทลพ อฉันจะให้ทิปพี่เค้ายังไม่เอาเลยฉันเลยขอบคุณพี่เค้าแต่นางหรอนิ่งจ้าฉันก็บอกนางว่าพี่เค้าไม่เก็บค่าอาหารเราน้ะนางก็ไม่พูดอะไรฉันเลยบอกให้ขอบคุณพี่เค้าด้วยนางก้ไม่ วันรุ่งขึ้นจ้านางตื่นบ่าย 3 พร้อมกับเดินลงมาบ่นว่าเมื่อคืนนี้นอนตี4แหนะและถามฉันกลับว่าฉันตื่นกี่โมงฉันบอกตื่นบ่ายโมงนางก้บอกสายเหมือนกันนิ ฉันบอกนางว่าซื้อก๋วยเตี๋ยวมาฝาก นางก็ไปกินไม่พูดขอบคุณไม่ถามซักคำเท่าไหร่ฉันเพลียกับนางเลยบอกนางว่าถ้าอยากไปข้าวสารออกจากบ้านทุ่มนึงน้ะทุกอยากต้องเสร็จ ผ่านไปซักพักนางก้ล้มตัวนอนจ้า กินเสร็จก้ไม่ล้างจานด้วย ผ่านไปจนเวลา 5โมง นางยังไม่ตื่น 6 โมงสตีลนอนฉันถามว่ายังจะไปไหมนางก็บอกไปตอนนั้น5 โมงฉันก้ย้ำนางว่า5โมงกว่าแล้ว นางก็ยังนอนจ้า ตอนนั้น6ครึ่งฉันเริ่มทนไม่ไหว นิหล่อนคิดว่าทุกคนต้อมีเวลาว่างให้หล่อนหรอย่ะ ฉันเลยขึ้นห้องโทรไปบ่นกับเพื่อน เพื่อนฉันบอกให้ไล่ออกจากบ้านเลยสันดานแย่มาก แล้วบอกเค้าว่าไม่ต้องไปแล้ว พอฉันลงไปข้างล่างเห็นว่าตื่นแล้วฉันเลยบอกไม่ไปแล้วน้ะทุ่มกว่าแล้วและพรุ่งนี้เราก้ไม่ว่างแล้วด้วยจะไปทำธุระ มีย้อนถามด้วยน้ะธุระอะไร นางก็บอกเราก้ไม่ค่อยอยากไปเพลีย เหมือนปจดจะมา คุณพระเฮ้อเอาเลยเธอ จากนั้นฉันก็ไม่คุยกับเค้าน้ะ ฉันสั่งอาหารเข้ามากินที่นี้ก็ต่างคนต่างกินไม่หมดก็วางไว้โต๊ะทีวี พอฉันจะขึ้นนอนฉันก็เคลียกินไก่ให้หมดฉันก็เอาไปเก็บทิ้งเหลือของนางไว้ นางก็บอกให้ฉันช่วยกินฉันก้เลยเหวี่ยงนางถ้าไม่กินก้เก็บ นางเลยกินของนางและเก็บไปล้างจาน จากนั้นนางถามฉันว่าจะซื้อตั๋วเครื่องบินกลับไปหาพ่อวันมะรืน ฉันก็โอเค
*****ก่อนจะไปตลาดน้ำนางเห็นฉันสะพายกระเป๋าใบใหญ่นางเลยฝากครีมกันแดด เสื้อและชุดชั้นในไว้เปลี่ยนสำหรับไปรูฟทอบ นี่ไม่เท่าไรห่ระหว่างวันฉันเปิดกระเป๋าอยู่นิดนึงนางเอาไม้เซลฟี่ใส่เข้ามาในกระเป๋าฉันตอนนั้นคือฉันแอบบเหวี่ยงเค้าเพราะกระเป๋าเริ่มหนักจากขนมที่ซื้อของอีกเยอะแยะ ฉันเลยตอกนางกลับว่าให้ใส่กระเป๋าตัวเองบ้างเหอะเราหนักจะตายอยู่แล้ว คือแอบบคิดว่าตัวเองเห็นแก่ตัวไหมกับอีแค่ฝากของแต่คือตอนนั้นทั้งร้านคนก็เยอะแล้วไหนกระเป๋าที่หยักมากๆจนไหล่แดง พออกจากวัดพระแก้วฉันก็พาออกเลย********
คือเท่าที่พิมมาในฐานะที่ฉันอยากจะทำให้เพื่อนคนนึงที่เค้าแทบจะไม่รู้จักเมืองไทยบ้านเกิดของเค้าได้มารู้จักเมืองไทยที่ควรจะเป็นในหลายๆมุมมองแต่อะไรหลายๆอย่างจากความคิดของดิฉันมันทำให้ฉันมองเพื่อนคนนี้ในภาพลบ จากเหตุการ์ณที่เจอดิฉันไม่ทราบว่าในมุมมองของคนอื่นจะคิดยังไง ฉันไม่ทราบว่าในมุมมองของเพื่อนคนนั้นเป็นอย่างไรถึงทำอะไรที่ไม่แคร์ความรู้สึกของคนอื่นหรือเกรงใจกัน ในคามคิดของฉันคนเราต้องพยายามปรับตัวให้เข้าหาสภาพแวดล้อมใช่หรือไม่ จริงๆแล้วฉันไม่ได้อยากเอามาพิมหรือเอามาพูดฉันไม่อยากจะคิดเล็กคิดน้อยด้วยซ้ำ อะไรที่ออกให้ได้ฉันก็ออกให้ นิดหน่อยๆ แต่พอเจออะไรแบบนี้ ถอนหายใจคะ
เพื่อนมาอยู่ที่บ้าน
สมัยตอนเรียนที่ต่างประเทศได้มีโอกาสรู้จักเพื่อนคนไทยคนนึงแต่ไม่เคยได้ออกไปเที่ยวไหนกันหรือพูดคุยกัน เวลาเจอหน้สกันก็จะทักกันตามประสาคนไทยด้วยกันด้วยความที่เพื่อนคนนี้อยู่ที่นี้มาตั้งแต่เล็กๆการพูดและการเขียนภาษาไทยจึงไม่ใช่เรื่องถนัดซักเท่าไหร่นักแต่โชคดีที่เค้ายังสื่อสารภาษาไทยได้
เรื่องมีอยู่ว่าเพื่อนคนนี้จะมาเที่ยวเมืองไทยแม่ของฉันเลยอาสาบอกแม่ของเค้าว่าให้มาพักอยู่กับฉันก็ได้ ก่อนที่เพื่อนคนนี้จะมาหาฉันเค้าได้ไปอยู่กับพ่อของเค้าก่อนที่อีสานแล้วค่อยมาซึ้งฉันไม่ทราบเลยว่าเค้าจะมาอยู่กี่วันฉันเลยยกห้องนอนของแม่ให้เค้าอยู่ซึ้งแม่ของฉันตอนนี้อยู่ตปท เพื่อนคนนี้ไม่รู้จักเมืองไทยเลย ฉันไม่ได้ไปรับเพื่อนให้ดค้ามาเองที่บ้านพอมาถึงฉันก็บอกเค้าว่าจะพาไปตลาดนัดรถไฟน่าจะชอบน้ะ ซึ้งวันนั้นฉันรอเพื่อนคนนี้แต่งตัวประมาณชั่วโมงนึงจำได้ว่ารอจนดูซีรีย์เกาหลีจบ1ตอน ฉันก็ไม่อยากหงุดหงิดเค้าคงจัดของเลยไม่ได้พูดอะไรพอไปถึงตลาดนัดรถไฟตอนนั้นเป็นเวลาเกือบ3ทุ่ม เพื่อนก็บอกว่าไม่ใช่ห้องแอร์หรอเค้ากินข้าวไม่ค่อยลง ฉันเลยบอกเค้าไปว่าในห้างตอนนี้ปิดหมดแล้วไม่มีข้าวขายรอกมีแต่ด้านนอก สุดท้ายไปลงเอยที่ร้านปิ๊งย่างแถวนั่นเป็นบุฟเฟ่แบบมีแต่เนื้อ280กว่าบาท รวมผักด้วยจ่ายเพิ่มดิฉันก็เลยอ่านให้เพื่แนฟังว่ามีอะไรบ้างนางบอกเอาแบบถูกล่ะกันจากนั้นเด็กเสริฟ์มารับออเดย์ เด็กเสริฟ์ก็อธิบายอีกรอบ เค้าก็ยืนยันว่าจะเอา280ซึ้งมีแต่เนื้อ ที่นี้พอเนื้อมาเสริฟ์ เพื่อนคนนี้ก็ไม่โอเค บอกว่าร้านอาหารเกาหลีที่นุ้นมีกิมจิด้วยทำไมที่นี้ไม่มีฉันก็เลยบอกมันมีต้องจ่ายเพิ่ม เค้าก็บอกตอนอยู่กับพ่อเค้าพ่อเค้าพาไปกินฮอท พอทดีกว่านี้อีกมีผักด้วยฉันก็พยายามอธิบายว่าแต่ละที่ไม่เหมือนกันถ้าชอบจะพาไปกินร้านที่เคยไปอร่อยสีหน้าของเพื่อนเริ่มไม่พอใจ จากนั้นเด็กเสริฟ์มาเพื่อนก็ถามเด็กเสริฟ์ว่าทำไมไม่มีผักเด็เสริฟ์ก็อธิบายตามเมนุและราคาของร้านตอนนั้นคือฉันร้สึกแย่มากอยากจะพาเค้าไปในที่ที่เค้าประทับใจและชอบ พอถึงบ้านฉันก็นัดเค่พรุ่งนี้จะพาไปตลาดน้ำ พระบรมหาราชวัง และรุฟทอปบาร์ ออกจากบ้าน9โมงน้ะมันต้องไปแต่เช้า เค้าก็ตกปากรับคำบอกตัวเค้าเองจะตื่น 7โมงเช้าเพราะเค้าแต่งตัวนาน
วันรุ่งขึ้น8โมงฉันก็ตื่นมารีบอาบน้ำ ปรากฎ8โมงครึ่งเพื่อนคนนี้โทรมาหาฉันและบอกฉันเค้าเพิ่งตื่นเมื่อคืนนอนดึก ฉันก็บอกไม่เป็นไรรีบๆลาะกัน ตัวฉันเองเลยไม่รีบแต่งหน้าไปเรื่อยๆจน9ครึ่ง ฉันลงไปนั่งรอข้างล่างคาดว่า10โมงเพื่อนคงเสร็จ ปรากฎ10 โมงเพื่อนเดินลงพร้อมกับสภาพยังไม่ได้แต่งตัวเดินมาขอยืมที่ถอนขนจักแร้และคอตตอลบัท โอ้แม่เจ้าคุณเธออะไรจะขนาดนั้นตอนนั้นฉันเริ่มมีน้ำโห ฉันถามเค้าว่าจะเสร็จยังเค้าก็ตอบอือ แล้วก็ขึ้นไปผ่านไปครึ่งชั่งโมงยังไม่เสร็จอีกตอนนั้นคืออารมณ์ฉันไม่อยากจะพาไปล่ะ อะไรกันจะให้คนอื่นพาเที่ยวทำไมปล่อยให้รอขนาดนี้ นางเสร็จตอน 10.45 จ้า ฉันก็รีบออกและบ่นว่าวันเสาร์รถติดกว่าจะถึง เค้าก็ไม่สะทกสะท้านค่านั่งนิ่งไม่ขอโทษซักคำ พอถึงตลาดน้ำนั่งกินข้าวฉันก็ดูนาฬิกาตอนนั้น2 โมงครึ่ง ฉันเลยบอกให้เค้ารีบๆกินเด็ววันพระแก้ปิดมันปิด3โมงกว่าเค้าก็บอกฉันว่างั้นเราค่อยไปวันอื่นล่ะกันฉันก็บอกไปเลยแต่ไม่ได้เข้าข้างใน เค้าก็ยืนยันคำเดิมว่าให้ไปวันอื่น แม่คุณอุสาบอกให้ไปแต่เช้าและไม่รีบเลย ฉันก็เลยบอกไปวันนี้ล่ะออกตอนนี้ก็ทันตลาดน้ำตลิ่งชันไปสนามหลวงแป๊บเดียวเอง จากบ้านฉันไปสนามหลวงไกลมากและเปลืองค่ารถมากด้วย และตลอดทางค่ารถคือฉันออกไม่มีแบบเฮ้ยแกเมื่อกี้ค่ารถเท่าไหร่ เฮ้ยแกเด๋วเราออกเอง กะจะให้ออกให้ทุกครั้ง หลังกลับจากสนามหลวงฉันพาเพื่อนไปรูฟท็อบที่นึงที่ฉันเคยทำงานที่นั้นพี่ที่รุ้จักเค้าก็จัดที่ให้อย่างดีนั่งด้านหน้าติดระเบียง ฉันก็สั่งค้อกเทลฉันพี่ที่รู้จักเค้าก็ใส่เหล้าเข้มข้นให้เป้นพิเศษ อีเพื่อนฉันนางก็กินค็อคเทลนางปรากฎนางก็บอกว่าจืดมากไม่มีรสชาตเหล้าเลยฉันก็ชิมก็จริงพอเห็นที่รุ้จักกันก็เลยไว้วานให้เค้าเติมเหล้าให้เพื่อนฉันหน่อย สักพักฝนก็มาพี่พนง.ก้เริ่มให้ลงแต่เพื่อนนางไม่อยากลงนางบอกเดี๋ยวฝนก็หยุดนางก็เริ่มไม่พอใจ พี่พนง.ก้บอกตกหนักค่ะมาขนาดนี้ถ้าไม่ย้ายตอนนี้พอตกหนักพี่เอาไม่อยุ่ฉันก็เลยต้องบอกให้เพื่อนคนนี้ลงไปนั่งในห้องแอร์ สักพักเค้าก้พูดว่ายังไม่มีใครมาเติมเหล้าให้เลยฉันเลยต้องวานพี่เค้าอีกรอบให่เติมเหล้าให้เพื่อนนู่หน่อยค่ะ ยังไม่พอค่ะฝนหยุดแล้วนางก็ดูไม่แฮปปี้ฉันก็เออะไหนๆก็มาละเด๋วลองขอพี่เค้าไปนั่งข้างนอกพี่เค้าก็ยุ่งกันมากวันนั้นเค้าก็ว่าฉันมาคำนึงจุกอกเลยค่ะว่าแกเป็นลูกค้าที่เยอะน้ะ ปล.คือฉันรุ้จักทุกคนในนั่นหมด ฉันก็กลับไปนั่งที่โต๊ะและบ่นกับเพื่อนว่าเราโดนด่ามาว่าเยอะนางก็ไม่พูดอะไร พอได้ไปนั่งข้างนอกนางก็เริ่มเซิทหา sigthseeing in bangkok and top ten rooftop bar นางก็บ่นว่าที่ที่ฉันพาไปไม่เห็นติดอันดับเลยนางอยากไปที่นี้ที่นั่นฉันคิดในใจพามาที่นี้ค๊อคเทลแก้วล่ะ300 กว่าบาทยังบ่นว่าแพงเลยแล้วที่อื่นจะไม่แพงกว่านี้หรอ ตอนเรียกเก็บตังค์พี่เค่ก้ไม่เก็บค่าอาหารเก้บแต่ค่าค้อคเทลพ อฉันจะให้ทิปพี่เค้ายังไม่เอาเลยฉันเลยขอบคุณพี่เค้าแต่นางหรอนิ่งจ้าฉันก็บอกนางว่าพี่เค้าไม่เก็บค่าอาหารเราน้ะนางก็ไม่พูดอะไรฉันเลยบอกให้ขอบคุณพี่เค้าด้วยนางก้ไม่ วันรุ่งขึ้นจ้านางตื่นบ่าย 3 พร้อมกับเดินลงมาบ่นว่าเมื่อคืนนี้นอนตี4แหนะและถามฉันกลับว่าฉันตื่นกี่โมงฉันบอกตื่นบ่ายโมงนางก้บอกสายเหมือนกันนิ ฉันบอกนางว่าซื้อก๋วยเตี๋ยวมาฝาก นางก็ไปกินไม่พูดขอบคุณไม่ถามซักคำเท่าไหร่ฉันเพลียกับนางเลยบอกนางว่าถ้าอยากไปข้าวสารออกจากบ้านทุ่มนึงน้ะทุกอยากต้องเสร็จ ผ่านไปซักพักนางก้ล้มตัวนอนจ้า กินเสร็จก้ไม่ล้างจานด้วย ผ่านไปจนเวลา 5โมง นางยังไม่ตื่น 6 โมงสตีลนอนฉันถามว่ายังจะไปไหมนางก็บอกไปตอนนั้น5 โมงฉันก้ย้ำนางว่า5โมงกว่าแล้ว นางก็ยังนอนจ้า ตอนนั้น6ครึ่งฉันเริ่มทนไม่ไหว นิหล่อนคิดว่าทุกคนต้อมีเวลาว่างให้หล่อนหรอย่ะ ฉันเลยขึ้นห้องโทรไปบ่นกับเพื่อน เพื่อนฉันบอกให้ไล่ออกจากบ้านเลยสันดานแย่มาก แล้วบอกเค้าว่าไม่ต้องไปแล้ว พอฉันลงไปข้างล่างเห็นว่าตื่นแล้วฉันเลยบอกไม่ไปแล้วน้ะทุ่มกว่าแล้วและพรุ่งนี้เราก้ไม่ว่างแล้วด้วยจะไปทำธุระ มีย้อนถามด้วยน้ะธุระอะไร นางก็บอกเราก้ไม่ค่อยอยากไปเพลีย เหมือนปจดจะมา คุณพระเฮ้อเอาเลยเธอ จากนั้นฉันก็ไม่คุยกับเค้าน้ะ ฉันสั่งอาหารเข้ามากินที่นี้ก็ต่างคนต่างกินไม่หมดก็วางไว้โต๊ะทีวี พอฉันจะขึ้นนอนฉันก็เคลียกินไก่ให้หมดฉันก็เอาไปเก็บทิ้งเหลือของนางไว้ นางก็บอกให้ฉันช่วยกินฉันก้เลยเหวี่ยงนางถ้าไม่กินก้เก็บ นางเลยกินของนางและเก็บไปล้างจาน จากนั้นนางถามฉันว่าจะซื้อตั๋วเครื่องบินกลับไปหาพ่อวันมะรืน ฉันก็โอเค
*****ก่อนจะไปตลาดน้ำนางเห็นฉันสะพายกระเป๋าใบใหญ่นางเลยฝากครีมกันแดด เสื้อและชุดชั้นในไว้เปลี่ยนสำหรับไปรูฟทอบ นี่ไม่เท่าไรห่ระหว่างวันฉันเปิดกระเป๋าอยู่นิดนึงนางเอาไม้เซลฟี่ใส่เข้ามาในกระเป๋าฉันตอนนั้นคือฉันแอบบเหวี่ยงเค้าเพราะกระเป๋าเริ่มหนักจากขนมที่ซื้อของอีกเยอะแยะ ฉันเลยตอกนางกลับว่าให้ใส่กระเป๋าตัวเองบ้างเหอะเราหนักจะตายอยู่แล้ว คือแอบบคิดว่าตัวเองเห็นแก่ตัวไหมกับอีแค่ฝากของแต่คือตอนนั้นทั้งร้านคนก็เยอะแล้วไหนกระเป๋าที่หยักมากๆจนไหล่แดง พออกจากวัดพระแก้วฉันก็พาออกเลย********
คือเท่าที่พิมมาในฐานะที่ฉันอยากจะทำให้เพื่อนคนนึงที่เค้าแทบจะไม่รู้จักเมืองไทยบ้านเกิดของเค้าได้มารู้จักเมืองไทยที่ควรจะเป็นในหลายๆมุมมองแต่อะไรหลายๆอย่างจากความคิดของดิฉันมันทำให้ฉันมองเพื่อนคนนี้ในภาพลบ จากเหตุการ์ณที่เจอดิฉันไม่ทราบว่าในมุมมองของคนอื่นจะคิดยังไง ฉันไม่ทราบว่าในมุมมองของเพื่อนคนนั้นเป็นอย่างไรถึงทำอะไรที่ไม่แคร์ความรู้สึกของคนอื่นหรือเกรงใจกัน ในคามคิดของฉันคนเราต้องพยายามปรับตัวให้เข้าหาสภาพแวดล้อมใช่หรือไม่ จริงๆแล้วฉันไม่ได้อยากเอามาพิมหรือเอามาพูดฉันไม่อยากจะคิดเล็กคิดน้อยด้วยซ้ำ อะไรที่ออกให้ได้ฉันก็ออกให้ นิดหน่อยๆ แต่พอเจออะไรแบบนี้ ถอนหายใจคะ