มาดูมากินอะไรดีๆ ที่ห้องอาหารฝรั่งเศสสวยหรู ชมวิวดีงามจากตึกสูงย่านสีลมกันบ้างค่ะ
มาที่ชั้น 37 ของโรงแรม Pullman Bangkok Hotel G ถนนสีลม ห้องอาหาร Scarlett Wine Bar & Restaurant



ก่อนเข้าห้องอาหารเค้ามีกติกาการแต่งกายเล็กน้อยค่ะ


เราแต่งตัวมาพร้อมเข้าได้ สบายๆ ดีใจมากที่วันนี้ได้กลับมา update ร้านนี้ เพราะเป็นห้องอาหารที่บรรยากาศดีสุดๆ  วิวสวยมาก มองเห็นถนนสีลมทั้ง 2 ฝั่ง มีที่นั่งแบบ outdoor ให้รับลมพร้อมกับชมวิวเพลินมากๆค่ะ ยิ่งท้องฟ้ามืดลงมองออกไปวิวแสงไฟก็ยิ่งสวยค่ะ  



ห้องอาหารตกแต่งด้วยโทนสีแดงและดำ อาหารเป็นสไตล์ฝรั่งเศส เดินเข้ามาก็มีทั้งตู้แช่ไวน์ , ตู้แช่เนื้อ และ ชีส เตาย่างเนื้ออลังการมาก ดูน่าสนใจไปทุกสิ่งอย่างเลยค่ะ






ตัวอย่างเมนูค่ะ



เรามาเริ่มกันที่เครื่องดื่มค็อกเทล 3 รายการค่ะ
The “G” Effect มีรสชาติของแตงกว่า แอลกอฮอล์แรงใช้ได้เลย
Parfum de Rose มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน แอลกอฮอล์ไม่แรงค่ะ หอมกลิ่นกุหลาบ แนะนำสำหรับสาวๆค่ะ


Le Desire มีส่วนผสมของน้ำส้มแต่งกลิ่นชินนามอน ก็ดื่มเพลินดีค่ะ


อาหารแนะนำกลุ่ม Appetizers
Scarlett Board (5 cheeses, 5 cold cuts and 1 Pate) เป็นจานชีสและโคลคัทสุดอลังการค่ะ เสิร์ฟมาในถาดไม้ยาว มากๆ  ประกอบด้วยชีส 5 อย่าง และโคลคัท 5 อย่างค่ะ


ชีสเค้าดีงามมาก จานนี้จานเดียวก็มีหลากหลายรสชาติเลยค่ะ หยิบโน่นผสมนี่ เพลินเลย


ต่อด้วย Alaskan King Crab Salad สลัดเนื้อปูอลาสก้า มีเนื้อปูหั่นเป็นก้อน และ แต่งมาในขาปูด้วยค่ะ ชอบๆ


Burgundy Snails (snails in garlic and parsley butter) หอยทากในซอสเนยกระเทียม รสชาติกลมกล่อมดีค่ะทานกับขนมปังทาซอสสไตล์เพรสโต้



มาแนะนำจานหลัก Main Course กันบ้าง
สำหรับคนไม่ชอบทานเนื้อ แนะนำ Snow Fish (A la plancha, crushed potato and saffron sauce)
ปลาหิมะย่างเสิร์ฟมาในซอสมันบด ครีมมี่นิดๆ ชอบมากเลยค่ะ


หรือจะเป็น Roasted baby chicken, provencal herbs and truffle mashed potato เป็นไก่ย่างหมักมารสชาติอ่อนๆ ทานกับซอสค่ะ


เมนูนี้ก็ดีค่ะ Slow cooked pork spare ribs เป็นซี่โครงหมูย่างเปื่อยมากๆ ทานง่าย นุ่มอร่อย รสชาติเข้าเนื้อกลมกล่อม ทานกับซอสบาร์บีคิว เป็นอีกเมนูที่ชอบค่ะ


ส่วนคนรักเนื้อแนะนำ 2 เมนูค่ะ 4-6 weeks dry aged Australian Wagyu (Striploin) 400 g. Served with Bearnaise, Black Pepper and Blue Cheese Sauce & potato wedges เป็นเนื้อวากิวออเตรเลียที่เลี้ยงด้วยธัญพืช 240 วัน เสิร์ฟมากับซอส 3 แบบค่ะ ชอบซอส black pepper สุดเลยค่ะ



อีกเมนูสำหรับคนรักเนื้อมาลองดูค่ะ La cote de boeuf 150-day grain fed (prime ribs with bone 1 KG.) เป็นเนื้อตัวเดียวกันเลยแต่ระยะเวลาเลี้ยง 150 วัน และไม่ได้ dry aged ค่ะ เสิร์ฟกับซอส 3 แบบเหมือนกันเลย

ทานแล้วก็ชอบทั้ง 2 เมนูนะคะ

อิ่มแล้วมาแนะนำของหวานกันค่ะ คำเตือน คือ เมนูของหวานเค้าแต่ละเมนูค่อนข้างใหญ่ สามารถทานได้ 2 คนเลยนะคะ เวลาสั่งอย่าผลีผลามเหมือนเรา แฮ่ๆ
Mille Feuille ‘Grands Augustins’ (Vanilla pastry cream in thousand layers) แป้งมิลเฟยบางกรอบกับชั้นครีมวนิลาหอม เนียนละมุน ชอบค่ะ


Chocolate Profiteroles (Vanilla ice-cream in puff pastry with warm chocolate sauce) อันนี้ก็ดีงาม ไอศกรีมวนิลาหวานสดชื่นเลยล่ะ


Grand Marnier Souffle ซูเฟล่ มีการโชว์เล็กน้อย ด้วยการมาจุดไฟค่ะ เสร็จแล้วทานอุ่นๆเลย มีรสขมแอลกอฮอล์นิดๆ


Black Forest Jar อันนี้ก็ดีงามนะคะ เค้กช็อคโกแลตรสเข้มดี มีชิ้นเนื้อเชอร์รี่หมักเหล้าด้านในด้วย


Mousse au Chocolat อันนี้ก็คือช็อคโกแลตมูสนั่นเอง ถ้วยใหญ่มากในเมนูเขียนว่าแชร์ 2 คน แต่ดูแล้วทานด้วยกันได้ 3-4 คนเลยค่ะ เวลาทานพนักงานจะไปคลุกให้ทุกอย่างรวมกันแล้วทานค่ะ


ก็ถือเป็นห้องอาหารที่มีเมนูสไตล์กริลล์ และอาหารฝรั่งเศสดีงาม บรรยากาศสวย ชมวิวเพลินสุดยอดไปเลยค่ะ กลับมา update แล้วก็ต้องบอกว่ายังประทับใจกับห้องอาหารนี้เหมือนเคยค่ะ