หลังจากได้ยินข่าวของพี่โต อดีตนักร้องนำวง Silly Fools ที่หันมาทำธุรกิจขายเนื้อไทย Dry Aged มาซักระยะ ทำให้ตั้งใจว่าจะต้องมาลองชิมให้ได้ หลังจากรวบรวมสมาชิกคนรักเนื้อได้ครบ ก็บุกมาชิมที่สยามพารากอน โดยร้านจะอยู่ภายใน Gourmet Market โซน Butcher ที่ขายของสด เดินเข้ามาก็เจอเลยครับ
เราสามารถซื้อเนื้อกลับบ้านเลยก็ได้ครับ Tenderloin (สันใน) 1,860 บาท/kg.
Striploin (สันนอก) 1,215 บาท/kg.
Tomahawk (โทมาฮอว์ค) 1,200 บาท/kg.
Ribeye (ริบอาย) 1,275 บาท/kg.
Baby Lamb Eye of Shortloin (แกะ) 960 บาท/kg.
ถ้าอยากเอาไปให้ปรุงเพื่อจะกินที่นี่เลยก็ได้ ที่บริเวณเคาเตอร์ You Hunt We Cook ของ Gourmet Market ได้เลยครับ โดยคิดค่าย่างเนื้อชิ้นละ 100 บาท แต่ถ้าโทมาฮอว์คคิด 200 บาทเนื่องจากชิ้นใหญ่กว่ามาก ที่สำคัญสามารถเลือกระดับความสุกได้ด้วย ผมว่า medium rare เนี่ยแหละ อร่อยสุดแล้ว
ที่นั่งจะมีที่ให้นั่งทั้งที่เป็นบาร์หน้าเคาเตอร์และบริเวณที่จัดไว้เป็นโต๊ะ ที่นั่งมีไม่เยอะมากถ้ามาช่วงเย็นอาจจะต้องยืนรอหาที่นั่งกันซักหน่อย ส่วนเครื่องดื่มสามารถไปซื้อใน Gourmet Market แล้วนำมานั่งทานได้เลย
หลังจากที่ผมได้ทานครั้งแรกไปแล้วก็มีมาซ้ำรอบสองและสามเพราะติดใจในรสชาติและราคา จนได้เนื้อครบทุกส่วนของ Company B ที่มีวางขายในพารากอนเลยครับ รูปด้านล่างเป็นตัวอย่างของการมาเยือนครั้งแรกครับ เนื้อครบแต่ยังขาดแกะ
มาเริ่มที่เมนูที่ผมชอบที่สุดก่อนละกัน Striploin (252 กรัม/ 306.25 บาท + ค่าย่าง 100 บาท) เนื้อรสชาติเข้มข้นสุด นุ่มกำลังดีเลย ความนุ่มเป็นรองแค่ Tenderloin แต่ที่เด็ดคือได้ความหอมของส่วนที่ติดมันเพิ่มเข้ามา แค่ย่างกับเกลือและพริกไทยก็อร่อยแล้ว
ส่วนมันๆตรงนี้แหละหอมมากกกกกก
อันดับต่อมาเป็น Tenderloin (208 กรัม/ 387 บาท + ค่าย่าง 100 บาท) เนื้อส่วนนี้นุ่มที่สุดเลยครับ แต่รสชาติเนื้ออ่อนกว่า Striploin เหมาะสำหรับคนกลัวอ้วน หรือไม่ชอบส่วนที่ติดมัน แต่สำหรับผมขอมันๆดีกว่า
สำหรับผมย่างแบบ medium rare จะดีที่สุดครับ ได้รสชาติของเนื้อและหอมกำลังดี
Tomahawk (958 กรัม/ 1,149.50 บาท + ค่าย่าง 200 บาท) โทมาฮอว์คคือเนื้อริบอายส่วนที่ติดกระดูก ทำให้มีไขมันมากกว่าริบอาย จึงทำให้มีรสชาติที่เข็มข้นกว่าริบอายด้วย เนื้อส่วนนี้จะเหนียวกว่าส่วนอื่นๆ แต่ก็ไม่เหนียวเกินไปแค่พอให้ได้ออกแรงเคี้ยวหน่อย แต่ข้อดีคือพอเคี้ยวนานขึ้นก็ทำให้เราได้สัมผัสรสชาติเนื้อได้นานขึ้นนะ
เนื่องจากความหนาจึงต้องหั่นแบ่งเป็นสองชิ้นไม่งั้นกว่าจะสุกคงเป็นชั่วโมง
Ribeye (282 กรัม/ 359.50 บาท + ค่าย่าง 100 บาท) ริบอายของที่นี่รสชาติจะอ่อนสุด ความนุ่มพอประมาณ มีความมันพอสมควร ชิ้นนี้ออกจะกลางๆไม่มีอะไรโดดเด่น ผมชอบสามชิ้นแรกมากกว่า
ที่นี่ย่างเนื้อดีกว่าร้านข้างนอกหลายๆร้านอีกนะครับ สั่ง medium rare ได้ medium rare จริงๆ รอยย่างก็สวยงาม ชอบๆ
Baby Lamb Eye of Shortloin (326 กรัม/ 313 บาท) แกะของที่นี่รสชาติดีทีเดียวครับ นุ่มพอประมาณ กลิ่นไม่แรงเกินไป แค่ย่างเกลือกับพริกไทยก็อร่อยได้เลย
ชุ่มฉ่ำดีจริงๆ
ครบ 5 ชนิดเนื้อของ Company B แล้ว แต่จะกินแต่เนื้อก็ยังไงอยู่ เดี๋ยวจะเลี่ยนกันไป ผมเลยขอรวมส่วนของ side dish ต่างๆที่มีไว้บริการในส่วนของ You Hunt We Cook ด้วยแล้วกันนะครับ เริ่มจาก Potato Gratin (60 บาท) มันอบนิ่มๆ รสชาติค่อนข้างจืดๆ
Mashed Potato (60 บาท) มันบดก็จืดๆเหมือนใช้มันบดสำเร็จรูปมาอุ่นเฉยๆ
Vegetables Ratatouille (60 บาท) สตูผักสามสี มีทั้งมะเขือเทศ พริกหวาน และหัวหอมใหญ่ รสเปรี้ยวๆ หวานๆ ทานคู่กับเมนูเนื้อเข้ากันดีครับ
Fettucini (60 บาท) เส้นเฟตตูชินิผัดกระเทียมกับน้ำมันมะกอก เส้นสุกกำลังดีเลยครับ รสชาติก็อร่อยดี ดีกว่าเมนูมันฝรั่ง 2 เมนูด้านบนแน่นอนครับ
นอกจากนี้ก็มีซอสสำหรับสเต็กให้เลือกสั่งเพิ่มอีกหลายแบบครับ ราคา 60-70 บาท ผมได้ลอง Red wine กับ Brown onion ไปยังไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่
เกลือกับพริกไทชัวร์กว่าครับ มีแค่ 2 ขวดนี้ก็พอ เพราะเนื้อก็มีรสชาติในตัวเองอยู่แล้ว
ก่อนหน้านี้แกะน้อยต้องลากผมออกมาชอปปิ้งที่พารากอน เดี๋ยวนี้ไม่ต้องแล้วครับ ผมนี่ชวนมาเองแทบทุกสัปดาห์ เชิญชอปปิ้งตามสบายผมขอนั่งรอที่ Gourmet Market นี่แหละ ฮ่าๆ เนื้อไทยรสชาติดี ราคาสบายกระเป๋าแบบนี้จะไม่มาบ่อยๆได้ไง
Gourmet Market, Siam Paragon Floor G
Open:
Company B: Mon-Sun 10:00 - 21:00
You Hunt We Cook: Mon-Sun 10:00 - 22:00
ติดตามเพิ่มเติมกันได้ที่
https://www.facebook.com/sheepsbutler
[CR] [Sheep's Butler] Dry Aged เนื้อไทย รสชาติถูกปาก ราคาถูกใจ ที่ Company B by พี่โต
หลังจากได้ยินข่าวของพี่โต อดีตนักร้องนำวง Silly Fools ที่หันมาทำธุรกิจขายเนื้อไทย Dry Aged มาซักระยะ ทำให้ตั้งใจว่าจะต้องมาลองชิมให้ได้ หลังจากรวบรวมสมาชิกคนรักเนื้อได้ครบ ก็บุกมาชิมที่สยามพารากอน โดยร้านจะอยู่ภายใน Gourmet Market โซน Butcher ที่ขายของสด เดินเข้ามาก็เจอเลยครับ
เราสามารถซื้อเนื้อกลับบ้านเลยก็ได้ครับ Tenderloin (สันใน) 1,860 บาท/kg.
Striploin (สันนอก) 1,215 บาท/kg.
Tomahawk (โทมาฮอว์ค) 1,200 บาท/kg.
Ribeye (ริบอาย) 1,275 บาท/kg.
Baby Lamb Eye of Shortloin (แกะ) 960 บาท/kg.
ถ้าอยากเอาไปให้ปรุงเพื่อจะกินที่นี่เลยก็ได้ ที่บริเวณเคาเตอร์ You Hunt We Cook ของ Gourmet Market ได้เลยครับ โดยคิดค่าย่างเนื้อชิ้นละ 100 บาท แต่ถ้าโทมาฮอว์คคิด 200 บาทเนื่องจากชิ้นใหญ่กว่ามาก ที่สำคัญสามารถเลือกระดับความสุกได้ด้วย ผมว่า medium rare เนี่ยแหละ อร่อยสุดแล้ว
ที่นั่งจะมีที่ให้นั่งทั้งที่เป็นบาร์หน้าเคาเตอร์และบริเวณที่จัดไว้เป็นโต๊ะ ที่นั่งมีไม่เยอะมากถ้ามาช่วงเย็นอาจจะต้องยืนรอหาที่นั่งกันซักหน่อย ส่วนเครื่องดื่มสามารถไปซื้อใน Gourmet Market แล้วนำมานั่งทานได้เลย
หลังจากที่ผมได้ทานครั้งแรกไปแล้วก็มีมาซ้ำรอบสองและสามเพราะติดใจในรสชาติและราคา จนได้เนื้อครบทุกส่วนของ Company B ที่มีวางขายในพารากอนเลยครับ รูปด้านล่างเป็นตัวอย่างของการมาเยือนครั้งแรกครับ เนื้อครบแต่ยังขาดแกะ
มาเริ่มที่เมนูที่ผมชอบที่สุดก่อนละกัน Striploin (252 กรัม/ 306.25 บาท + ค่าย่าง 100 บาท) เนื้อรสชาติเข้มข้นสุด นุ่มกำลังดีเลย ความนุ่มเป็นรองแค่ Tenderloin แต่ที่เด็ดคือได้ความหอมของส่วนที่ติดมันเพิ่มเข้ามา แค่ย่างกับเกลือและพริกไทยก็อร่อยแล้ว
ส่วนมันๆตรงนี้แหละหอมมากกกกกก
อันดับต่อมาเป็น Tenderloin (208 กรัม/ 387 บาท + ค่าย่าง 100 บาท) เนื้อส่วนนี้นุ่มที่สุดเลยครับ แต่รสชาติเนื้ออ่อนกว่า Striploin เหมาะสำหรับคนกลัวอ้วน หรือไม่ชอบส่วนที่ติดมัน แต่สำหรับผมขอมันๆดีกว่า
สำหรับผมย่างแบบ medium rare จะดีที่สุดครับ ได้รสชาติของเนื้อและหอมกำลังดี
Tomahawk (958 กรัม/ 1,149.50 บาท + ค่าย่าง 200 บาท) โทมาฮอว์คคือเนื้อริบอายส่วนที่ติดกระดูก ทำให้มีไขมันมากกว่าริบอาย จึงทำให้มีรสชาติที่เข็มข้นกว่าริบอายด้วย เนื้อส่วนนี้จะเหนียวกว่าส่วนอื่นๆ แต่ก็ไม่เหนียวเกินไปแค่พอให้ได้ออกแรงเคี้ยวหน่อย แต่ข้อดีคือพอเคี้ยวนานขึ้นก็ทำให้เราได้สัมผัสรสชาติเนื้อได้นานขึ้นนะ
เนื่องจากความหนาจึงต้องหั่นแบ่งเป็นสองชิ้นไม่งั้นกว่าจะสุกคงเป็นชั่วโมง
Ribeye (282 กรัม/ 359.50 บาท + ค่าย่าง 100 บาท) ริบอายของที่นี่รสชาติจะอ่อนสุด ความนุ่มพอประมาณ มีความมันพอสมควร ชิ้นนี้ออกจะกลางๆไม่มีอะไรโดดเด่น ผมชอบสามชิ้นแรกมากกว่า
ที่นี่ย่างเนื้อดีกว่าร้านข้างนอกหลายๆร้านอีกนะครับ สั่ง medium rare ได้ medium rare จริงๆ รอยย่างก็สวยงาม ชอบๆ
Baby Lamb Eye of Shortloin (326 กรัม/ 313 บาท) แกะของที่นี่รสชาติดีทีเดียวครับ นุ่มพอประมาณ กลิ่นไม่แรงเกินไป แค่ย่างเกลือกับพริกไทยก็อร่อยได้เลย
ชุ่มฉ่ำดีจริงๆ
ครบ 5 ชนิดเนื้อของ Company B แล้ว แต่จะกินแต่เนื้อก็ยังไงอยู่ เดี๋ยวจะเลี่ยนกันไป ผมเลยขอรวมส่วนของ side dish ต่างๆที่มีไว้บริการในส่วนของ You Hunt We Cook ด้วยแล้วกันนะครับ เริ่มจาก Potato Gratin (60 บาท) มันอบนิ่มๆ รสชาติค่อนข้างจืดๆ
Mashed Potato (60 บาท) มันบดก็จืดๆเหมือนใช้มันบดสำเร็จรูปมาอุ่นเฉยๆ
Vegetables Ratatouille (60 บาท) สตูผักสามสี มีทั้งมะเขือเทศ พริกหวาน และหัวหอมใหญ่ รสเปรี้ยวๆ หวานๆ ทานคู่กับเมนูเนื้อเข้ากันดีครับ
Fettucini (60 บาท) เส้นเฟตตูชินิผัดกระเทียมกับน้ำมันมะกอก เส้นสุกกำลังดีเลยครับ รสชาติก็อร่อยดี ดีกว่าเมนูมันฝรั่ง 2 เมนูด้านบนแน่นอนครับ
นอกจากนี้ก็มีซอสสำหรับสเต็กให้เลือกสั่งเพิ่มอีกหลายแบบครับ ราคา 60-70 บาท ผมได้ลอง Red wine กับ Brown onion ไปยังไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่
เกลือกับพริกไทชัวร์กว่าครับ มีแค่ 2 ขวดนี้ก็พอ เพราะเนื้อก็มีรสชาติในตัวเองอยู่แล้ว
ก่อนหน้านี้แกะน้อยต้องลากผมออกมาชอปปิ้งที่พารากอน เดี๋ยวนี้ไม่ต้องแล้วครับ ผมนี่ชวนมาเองแทบทุกสัปดาห์ เชิญชอปปิ้งตามสบายผมขอนั่งรอที่ Gourmet Market นี่แหละ ฮ่าๆ เนื้อไทยรสชาติดี ราคาสบายกระเป๋าแบบนี้จะไม่มาบ่อยๆได้ไง
Gourmet Market, Siam Paragon Floor G
Open:
Company B: Mon-Sun 10:00 - 21:00
You Hunt We Cook: Mon-Sun 10:00 - 22:00
ติดตามเพิ่มเติมกันได้ที่ https://www.facebook.com/sheepsbutler