วันที่ 4 พ.ย. 59 นายปราโมทย์ วณิชชานนท์ อดีตนายกสมาคมโรงสีข้าวให้สัมภาษณ์พิเศษ “สปริงนิวส์” ถึงปัญหาราคาข้าวที่ตกต่ำในช่วงนี้ว่า หากถามว่าราคาวันนี้ผิดปกติหรือไม่ ตอบได้ว่า ผิดปกติเพราะมาจาก 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้มีบางฝ่ายให้ข่าวกับสื่อมวลชน โดยนำเสนอข่าวข้าวขาว (นาปรัง) ไม่มีคนซื้อเเละผลผลิตล้นตลาด อีกทั้งประเทศคู่เเข่งขายในราคา 320 – 340 เหรียญ/ตัน ขอชี้เเจงว่า ข้าวขาวนั้นอยู่ในตลาดคนละประเภทกับข้าวหอมมะลิ มันทำให้เกิดจิตวิทยาทางการตลาดว่า ราคาเเบบนี้ทำให้ไม่มีใครซื้อข้าวเเละเกิดภาวะข้าวล้นตลาด ทุกฝ่ายต้องการซื้อของถูก มีการรวมข้าวหอมมะลิเข้าไปกับข้าวขาว ทั้ง ๆ ที่ข้าวหอมมะลิ คือ สินค้าพรีเมียมของไทยที่ไม่มีคู่เเข่ง
“ข้าวขาวนั้นเดิมขาย 300 – 400 เหรียญ/ตัน เพื่อขายให้คนกินอิ่ม เเต่ข้าวหอมมะลินั้นขายให้คนกินอร่อยราคา 700 – 900 เหรียญ/ตัน เเละขายได้ 2 ล้านตัน/ปี ข้าวหอมมะลิ คือ สินค้าพรีเมียมของไทย ยืนยันว่า ตลาดมีความต้องการข้าวหอมมะลิตามปกติ เเต่วันนี้มีไอ้โม่งไปทุบราคาเเละไปบอกว่าข้าวหอมมะลิราคาตันละ 520 เหรียญ ในทางการเมืองนั้นหากถามว่า มีใครต้องการดิสเครดิตรัฐบาล หรือคนในวงการค้าข้าวที่โดนคดีทุจริตเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น 2 กลุ่ม คือ ตัวละครที่มีผลกระทบกับเกมนี้ หากเกิดการเปลี่ยนเเปลงรัฐบาลหรือดิสเครดิตรัฐบาลในเรื่องนี้ คดีต่าง ๆ อาจจะโดนเป่า ตรงนี้รัฐบาลต้องค้นตัวละครเหล่านี่ให้เจอว่าใครทุบราคา”
“รัฐบาลเเก้เกมเร็วในเกมรับ คือ ลดความกดดันทางกาารเมืองระดับหนึ่ง โดยช่วยชาวนาหยุดความเครียดตามโครงการล่าสุดของรัฐบาล ส่วนเกมรุกนั้นต้องรีบออกมา ไม่เช่นนั้นต้องจ่ายเงินเเบบไม่จบ”
“บทเรียนวันนี้เจ็บปวดเเต่น่าเป็นโอกาสทองที่รัฐบาลควรวางเเผนระยะยาว เช่น ควรออกนโยบายปฏิรูปการทำนาทั้งระบบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีโรดเเมปประเทศ 20 ปีไว้เเล้ว ก็ควรมีโรดเเมปการทำนาโดยเชิญชวนทุกฝ่ายมาช่วยกันวางเเผน ถือให้เป็นวาระเเห่งชาติเเละตอบโจทย์ให้โดนใจชาวนาเเละประชาชน เพราะการอุดหนุนช่วยชาวนาก็ใช้งบประมาณที่มาจากภาษีประชาชน เราต้องกำหนดมาตรการออกมา วันนี้ดีใจนะที่ชาวนาเดือดร้อน คนไทยก็ช่วยกัน เราต้องเปลี่ยนโจทย์เป็นคำตอบ เราต้องหนีจากการปลูกข้าวที่กินเพื่ออิ่ม ให้เป็นการปลูกข้าวที่กินเพื่ออร่อย ที่เรียกราคาได้ เราสั่งตลาดไม่ได้ เเต่เราวางเเผนเพื่อตอบโจทย์ตลาดได้ วันนี้ยังมีเวลา คนที่กำหนดราคาข้าว คือ คนไทยกันเอง รัฐบาลต้องหาเเละสอบสวนไอ้โม่งที่ปล่อยราคา 520 เหรียญ/ตันเเล้วทุบตลาด เชื่อว่าไม่กี่วันไอ้โม่งจะมอบตัว เพราะการส่งออกนั้นต้องขออนุญาตใบส่งออกว่า จะส่งออกในราคาเท่าใด เเละเกี่ยวพันกับการทุจริตข้าวเเละนักการเมืองในช่วงที่ผ่านมาหรือไม่ ผมคงไม่ต้องทำหน้าที่หาตัวไอ้โม่งเเทนรัฐบาล”
.
ที่มา
http://www.springnews.co.th/economics/326500
ฟังชัดๆ ใครคือไอ้โม่ง? กดราคาข้าว (สัมภาษณ์พิเศษ "ปราโมทย์ วณิชชานนท์" อดีตนายกสมาคมโรงสีข้าว)
วันที่ 4 พ.ย. 59 นายปราโมทย์ วณิชชานนท์ อดีตนายกสมาคมโรงสีข้าวให้สัมภาษณ์พิเศษ “สปริงนิวส์” ถึงปัญหาราคาข้าวที่ตกต่ำในช่วงนี้ว่า หากถามว่าราคาวันนี้ผิดปกติหรือไม่ ตอบได้ว่า ผิดปกติเพราะมาจาก 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้มีบางฝ่ายให้ข่าวกับสื่อมวลชน โดยนำเสนอข่าวข้าวขาว (นาปรัง) ไม่มีคนซื้อเเละผลผลิตล้นตลาด อีกทั้งประเทศคู่เเข่งขายในราคา 320 – 340 เหรียญ/ตัน ขอชี้เเจงว่า ข้าวขาวนั้นอยู่ในตลาดคนละประเภทกับข้าวหอมมะลิ มันทำให้เกิดจิตวิทยาทางการตลาดว่า ราคาเเบบนี้ทำให้ไม่มีใครซื้อข้าวเเละเกิดภาวะข้าวล้นตลาด ทุกฝ่ายต้องการซื้อของถูก มีการรวมข้าวหอมมะลิเข้าไปกับข้าวขาว ทั้ง ๆ ที่ข้าวหอมมะลิ คือ สินค้าพรีเมียมของไทยที่ไม่มีคู่เเข่ง
“ข้าวขาวนั้นเดิมขาย 300 – 400 เหรียญ/ตัน เพื่อขายให้คนกินอิ่ม เเต่ข้าวหอมมะลินั้นขายให้คนกินอร่อยราคา 700 – 900 เหรียญ/ตัน เเละขายได้ 2 ล้านตัน/ปี ข้าวหอมมะลิ คือ สินค้าพรีเมียมของไทย ยืนยันว่า ตลาดมีความต้องการข้าวหอมมะลิตามปกติ เเต่วันนี้มีไอ้โม่งไปทุบราคาเเละไปบอกว่าข้าวหอมมะลิราคาตันละ 520 เหรียญ ในทางการเมืองนั้นหากถามว่า มีใครต้องการดิสเครดิตรัฐบาล หรือคนในวงการค้าข้าวที่โดนคดีทุจริตเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น 2 กลุ่ม คือ ตัวละครที่มีผลกระทบกับเกมนี้ หากเกิดการเปลี่ยนเเปลงรัฐบาลหรือดิสเครดิตรัฐบาลในเรื่องนี้ คดีต่าง ๆ อาจจะโดนเป่า ตรงนี้รัฐบาลต้องค้นตัวละครเหล่านี่ให้เจอว่าใครทุบราคา”
“รัฐบาลเเก้เกมเร็วในเกมรับ คือ ลดความกดดันทางกาารเมืองระดับหนึ่ง โดยช่วยชาวนาหยุดความเครียดตามโครงการล่าสุดของรัฐบาล ส่วนเกมรุกนั้นต้องรีบออกมา ไม่เช่นนั้นต้องจ่ายเงินเเบบไม่จบ”
“บทเรียนวันนี้เจ็บปวดเเต่น่าเป็นโอกาสทองที่รัฐบาลควรวางเเผนระยะยาว เช่น ควรออกนโยบายปฏิรูปการทำนาทั้งระบบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีโรดเเมปประเทศ 20 ปีไว้เเล้ว ก็ควรมีโรดเเมปการทำนาโดยเชิญชวนทุกฝ่ายมาช่วยกันวางเเผน ถือให้เป็นวาระเเห่งชาติเเละตอบโจทย์ให้โดนใจชาวนาเเละประชาชน เพราะการอุดหนุนช่วยชาวนาก็ใช้งบประมาณที่มาจากภาษีประชาชน เราต้องกำหนดมาตรการออกมา วันนี้ดีใจนะที่ชาวนาเดือดร้อน คนไทยก็ช่วยกัน เราต้องเปลี่ยนโจทย์เป็นคำตอบ เราต้องหนีจากการปลูกข้าวที่กินเพื่ออิ่ม ให้เป็นการปลูกข้าวที่กินเพื่ออร่อย ที่เรียกราคาได้ เราสั่งตลาดไม่ได้ เเต่เราวางเเผนเพื่อตอบโจทย์ตลาดได้ วันนี้ยังมีเวลา คนที่กำหนดราคาข้าว คือ คนไทยกันเอง รัฐบาลต้องหาเเละสอบสวนไอ้โม่งที่ปล่อยราคา 520 เหรียญ/ตันเเล้วทุบตลาด เชื่อว่าไม่กี่วันไอ้โม่งจะมอบตัว เพราะการส่งออกนั้นต้องขออนุญาตใบส่งออกว่า จะส่งออกในราคาเท่าใด เเละเกี่ยวพันกับการทุจริตข้าวเเละนักการเมืองในช่วงที่ผ่านมาหรือไม่ ผมคงไม่ต้องทำหน้าที่หาตัวไอ้โม่งเเทนรัฐบาล”
.
ที่มา http://www.springnews.co.th/economics/326500