...แม้ไม่ได้แลกเปลี่ยน คคห.กับเพื่อนสมาชิกอย่างเป็นทางการ
แต่หลังจากภารกิจหน้าที่การงาน เริ่มเข้ารูปเข้ารอย ก็มีโอกาสแวะเวียนเข้ามาอ่านกระทู้
แสดง คคห. บ้างเป็นครั้งเป็นคราว บรรยากาศราชดำเนิน ยังคงเหมือนเดิม
ยังไม่เปิดตาเปิดใจ รับฟังความคิดต่างซึ่งกันและกันเช่นเดิม
ก็ไม่ว่ากันครับ....คนเราเวลาที่ทะเลาะกันหรือไม่เข้าใจกัน
เราอาจชอบสร้างกำแพงที่ปิดกั้นความเห็นต่าง คลุ้มคลั่ง จนน่ากลัว...
ซึ่งผู้คนส่วนหนึ่งก็สงสัยในพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในห้องเล็กๆ ราชดำเนิน พันทิปแห่งนี้
ซึ่งถ้าจะให้ห่านฯ อรรถาธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ยากยิ่ง
...อย่างนี้ ดีกว่าครับ ห่านฯ จะยกเป็นนิทาน มาเป็นอุปมาอุปไมย จะได้เข้าใจในปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น
กาละครั้งหนึ่ง...ไม่นานเท่าไหร่ ณ อาณาจักรกลางทะเลทราย แต่มีนาให้ดำ
ที่ผู้คนในเมืองต้องอาศัยน้ำในบ่อกลางเมืองแห่งเดียว ไว้ดื่มกินร่วมกันอย่างสันติ มีมิตรไมตรีต่อกัน
จนมาถึงช่วงเวลาหนึ่ง ที่คนในเมืองแห่งนี้
...ส่วนหนึ่งเห็นพ้องต้องกันว่า
เราต้องคิดใหม่ ทำใหม่ เพื่อใครคนหนึ่ง
และมองเห็นช่องทางที่จะครอบงำผู้คนในเมืองแห่งนี้ ด้วยยุทธศาสตร์ป่าล้อมเมืองอันแยบยน
ณ ค่ำคืนวันหนึ่ง
...หลังมิตติ้งสนุกสนาน สำราญใจ
ผงวิเศษ ของฝากจากงานมิตติ้ง...ถูกโปรยลงไปในบ่อน้ำกลางเมืองที่ผู้คนในเมืองดืมกิน
ซึ่งผงวิเศษดังกล่าว เมื่อดืมกินไปแล้ว ทำให้มีความสุขสนุกสนาน
จึงทำให้ผู้คนในเมืองส่วนหนึ่ง รวมกลุ่ม รวมแก๊ง จัดมิตติ้ง ตักน้ำในบ่อกลางเมืองไปดื่มกิน
ด้วยความสุข สนุกสนาน เบิกบานสำราญใจ และชักชวนคนอืนๆมาร่วมดื่มกินน้ำในบ่อดังกล่าวฅ
บางคน...ถึงขั้นตอนเฝ้าบ่อน้ำทั้งวันทั้งคืนแบบจ๊กจกเฝ้าแมลง
บ่อกลางเมืองแห่งนี้...จึงเป็นที่สิงสถิตของฝูงชนที่มาร่วมดื่มนน้ำจากบ่อ
....ร้องรำ ทำเพลงกันอย่างสนุกสนาน
บางคนถึงขั้นบ้าคลั่งจนลืมความเป็นคนไทย...!!!
แต่...ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่ง
ผู้เงียบขรึม แต่...ไม่ถึงกับเย็นชา มีความรู้สึก มีสำนึกในจิตใจ
ชอบดนตรีและเกลียดความอยุติธรรม...ก๊าบบๆๆ
เฝ้าสังเกตุอาการอันแปลกประหลาด...ในความสุขสนุกสนานของผู้คนที่ดื่มน้ำจากบ่อกลางเมือง
จึงเพียรพยายาม...บอกเล่าความผิดปกติที่เกิดขึ้นให้ผู้คนในสังคมได้รับรู้
แต่...เปล่าเลย...!!!
ไม่ได้รับความสนใจจากผู้คนในเมืองแห่งนี้ แถมยังถูกกล่าวหาว่า "บ้า " กล่าวหาว่า "ป่วย"
รวมทั้งฝูงชนผู้กำลังฟินกับน้ำดืมในบ่อกลางเมืองอย่างบ้าคลั้ง พยายามชักชวนให้ชายหนุ่มคนดังกล่าว
มาร่วมดื่มน้ำจากบ่อกลางเมืองด้วย แต่...ชายหนุ่มคนดังกล่าวปฏิเสธอย่างนิ่มนวล และอ่อนหวาน " ไม่ดื่มครับ "
ฝูงชนที่ไม่พอใจ...ต่างตะโกนกล่าวหาว่าร้ายชายคนหนุ่มรูปงามดังกล่าวต่างๆนาๆ
และพากันร้องรำทำเพลง อย่างสนุกสนาน สำราญใจ ตามน้ำกันไป...!!!
นิทานเรื่องนี้...สอนให้รู้ว่า
หากไม่ย่อมขุดรากถอนโคน....อคติ โมหะและมิจฉาทิฐิในตัวตน
นับเป็นความผิดขั้นสุดยอดของเข้าถึงความจริงแท้และแน่นอน "
-'๏'- ...มิตติ้ง...ตัวตน ก๊วนแก๊ง…เห็นแย้งและเห็นต่าง...ตามน้ำ...เสรีชน... -'๏'-
...แม้ไม่ได้แลกเปลี่ยน คคห.กับเพื่อนสมาชิกอย่างเป็นทางการ
แต่หลังจากภารกิจหน้าที่การงาน เริ่มเข้ารูปเข้ารอย ก็มีโอกาสแวะเวียนเข้ามาอ่านกระทู้
แสดง คคห. บ้างเป็นครั้งเป็นคราว บรรยากาศราชดำเนิน ยังคงเหมือนเดิม
ยังไม่เปิดตาเปิดใจ รับฟังความคิดต่างซึ่งกันและกันเช่นเดิม
ก็ไม่ว่ากันครับ....คนเราเวลาที่ทะเลาะกันหรือไม่เข้าใจกัน
เราอาจชอบสร้างกำแพงที่ปิดกั้นความเห็นต่าง คลุ้มคลั่ง จนน่ากลัว...
ซึ่งผู้คนส่วนหนึ่งก็สงสัยในพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในห้องเล็กๆ ราชดำเนิน พันทิปแห่งนี้
ซึ่งถ้าจะให้ห่านฯ อรรถาธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ยากยิ่ง
...อย่างนี้ ดีกว่าครับ ห่านฯ จะยกเป็นนิทาน มาเป็นอุปมาอุปไมย จะได้เข้าใจในปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น
กาละครั้งหนึ่ง...ไม่นานเท่าไหร่ ณ อาณาจักรกลางทะเลทราย แต่มีนาให้ดำ
ที่ผู้คนในเมืองต้องอาศัยน้ำในบ่อกลางเมืองแห่งเดียว ไว้ดื่มกินร่วมกันอย่างสันติ มีมิตรไมตรีต่อกัน
จนมาถึงช่วงเวลาหนึ่ง ที่คนในเมืองแห่งนี้
...ส่วนหนึ่งเห็นพ้องต้องกันว่า เราต้องคิดใหม่ ทำใหม่ เพื่อใครคนหนึ่ง
และมองเห็นช่องทางที่จะครอบงำผู้คนในเมืองแห่งนี้ ด้วยยุทธศาสตร์ป่าล้อมเมืองอันแยบยน
ณ ค่ำคืนวันหนึ่ง
...หลังมิตติ้งสนุกสนาน สำราญใจ
ผงวิเศษ ของฝากจากงานมิตติ้ง...ถูกโปรยลงไปในบ่อน้ำกลางเมืองที่ผู้คนในเมืองดืมกิน
ซึ่งผงวิเศษดังกล่าว เมื่อดืมกินไปแล้ว ทำให้มีความสุขสนุกสนาน
จึงทำให้ผู้คนในเมืองส่วนหนึ่ง รวมกลุ่ม รวมแก๊ง จัดมิตติ้ง ตักน้ำในบ่อกลางเมืองไปดื่มกิน
ด้วยความสุข สนุกสนาน เบิกบานสำราญใจ และชักชวนคนอืนๆมาร่วมดื่มกินน้ำในบ่อดังกล่าวฅ
บางคน...ถึงขั้นตอนเฝ้าบ่อน้ำทั้งวันทั้งคืนแบบจ๊กจกเฝ้าแมลง
บ่อกลางเมืองแห่งนี้...จึงเป็นที่สิงสถิตของฝูงชนที่มาร่วมดื่มนน้ำจากบ่อ
....ร้องรำ ทำเพลงกันอย่างสนุกสนาน บางคนถึงขั้นบ้าคลั่งจนลืมความเป็นคนไทย...!!!
แต่...ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่ง
ผู้เงียบขรึม แต่...ไม่ถึงกับเย็นชา มีความรู้สึก มีสำนึกในจิตใจ
ชอบดนตรีและเกลียดความอยุติธรรม...ก๊าบบๆๆ
เฝ้าสังเกตุอาการอันแปลกประหลาด...ในความสุขสนุกสนานของผู้คนที่ดื่มน้ำจากบ่อกลางเมือง
จึงเพียรพยายาม...บอกเล่าความผิดปกติที่เกิดขึ้นให้ผู้คนในสังคมได้รับรู้
แต่...เปล่าเลย...!!!
ไม่ได้รับความสนใจจากผู้คนในเมืองแห่งนี้ แถมยังถูกกล่าวหาว่า "บ้า " กล่าวหาว่า "ป่วย"
รวมทั้งฝูงชนผู้กำลังฟินกับน้ำดืมในบ่อกลางเมืองอย่างบ้าคลั้ง พยายามชักชวนให้ชายหนุ่มคนดังกล่าว
มาร่วมดื่มน้ำจากบ่อกลางเมืองด้วย แต่...ชายหนุ่มคนดังกล่าวปฏิเสธอย่างนิ่มนวล และอ่อนหวาน " ไม่ดื่มครับ "
ฝูงชนที่ไม่พอใจ...ต่างตะโกนกล่าวหาว่าร้ายชายคนหนุ่มรูปงามดังกล่าวต่างๆนาๆ
และพากันร้องรำทำเพลง อย่างสนุกสนาน สำราญใจ ตามน้ำกันไป...!!!
นิทานเรื่องนี้...สอนให้รู้ว่า
หากไม่ย่อมขุดรากถอนโคน....อคติ โมหะและมิจฉาทิฐิในตัวตน
นับเป็นความผิดขั้นสุดยอดของเข้าถึงความจริงแท้และแน่นอน "