ดึกสงัด ฟ้าสีเทาและปุยเมฆหนา บดบังแสงสว่างของลูกกลมสีขาวนวลที่แขวนอยู่เหนือขอบโลกไปอย่างหมดสิ้น
พื้นดินมืดสนิท ดุจเดียวกับโลกของชายตาบอดที่นอนอยู่ริมฟุตบาท ที่ตอนนี้ไร้ผู้คนและยานพาหนะสัญจร
ไม่เพียงยามวิกาลเช่นนี้ แม้เป็นเวลากลางวัน ถนนสายนี้ก็รกร้างว่างเปล่า แทบจะไร้การเคลื่อนไหวเช่นกัน
ถนนท้ายซอย ชื่อเรียกที่ผู้คนละแวกนั้นใช้กล่าวขานย่านที่มืดมิดแห่งนี้ บ้านร้างสองหลังตั้งตระหง่านเป็นเงาทะมึนเพิ่มความน่าเกรงขาม
เสียงออดแอด ของบานพับหน้าต่างที่ผุกร่อนตามกาลเวลา ส่งเสียงครวญครางยามสายลมพัดผ่าน เปลี่ยนเป็นเสียงกรรโชกดังเมื่อสายลมเพิ่มความแรงขึ้นเรื่อยๆ
เมฆสีเทาถูกพาพัดออกไปจากดวงจันทร์กลมโต สีขาวนวลดวงนั้น แสงจันทร์สว่างที่ถูกบดบังเมื่อสักครู่ ได้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง สาดส่องกระทบร่างชายตาบอดที่ยังคงนอนนิ่งอยู่ตรงนั้น ราวกับไร้ความรู้สึก
ฝูงมดเคลื่อนพลเป็นสายยาวคดเคี้ยวไม่ขาดสาย ดุจเส้นด้ายเชื่อมต่อระหว่างชายตาบอดและบ้านร้าง
มดสีน้ำตาลแดงเหล่านั้นบุกรุกขึ้นไปบนร่างที่นอนสงบนิ่งไร้การตอบสนองต่อสิ่งเร้าใดๆ เคลื่อนไหวยุบยับ และเร่งรีบไปยังของเหลวสีแดงคล้ำที่ไหลออกมาจากริมฝีปาก อาหารอันโอชะรางวัลจากธรรมชาติที่ประทานมาให้ฝูงมด
ลมกระโชกแรงอีกครา พาปุยเมฆกลุ่มใหญ่กลับเข้ามาบดบังแสงจันทร์สีขาวนวล พื้นดินมืดมิดราวกับมีใครปิดสวิตช์ไฟ
แต่ความมืดมิด มิได้เป็นอุปสรรคต่อสิ่งมีชีวิตเล็กๆเหล่านั้น พวกมันยังคงเคลื่อนตัวไปและกลับระหว่างเส้นทางเดินคดเคี้ยว บ้านร้างและชายตาบอดผู้โชคร้าย
ชายผู้นี้เป็นใครกัน เหตุใดร่างของเขาจึงมาปรากฏอยู่ตรงนี้ นิ่งไม่ไหวติงราวกับไร้ลมหายใจ หรือเขาไร้ซึ่งลมหายใจแล้วจริงๆ
ถนนท้ายซอย ถนนที่ไม่มีใครกล้าย่างกรายเข้ามาหากไม่มีเหตุจำเป็น บ้านร้างสองหลังกับตำนานสยองขวัญ ที่ร่ำลือกันว่า...
ในวันที่พระจันทร์เต็มดวง แสงจันทร์ส่องสว่าง จะมีเสียงร้องคร่ำครวญดังแว่วออกมาจากบ้าน ที่คาดเดากันว่ามีห้องใต้ดิน
เป็นเรื่องจริงหรือไม่? ไม่มีผู้ใดหาญกล้าพิสูจน์
สายลมพัดพาเมฆออกไป แสงจันทร์สาดส่องเต็มที่อีกครั้ง วิสัยทัศน์ที่ดีกลับมาอีกครา
ไกลออกไป จุดสว่าง 1 หรือ 2 ดวง ไม่อาจบอกได้แน่ชัด ค่อยๆเคลื่อนเข้ามาใกล้ๆ อย่างเชื่องช้า เนิบนาบบังเกิดเสียงเบาๆ ของอะไรหนักๆ บดขยี้ก้อนกรวดเล็กๆ บนพื้นถนน แสดงให้รู้ว่ามีการเคลื่อนที่เข้ามาใกล้
ใกล้ขึ้น...ใกล้ขึ้น...
คืบคลานเข้ามาใกล้ร่างเหยียดยาวของชายตาบอด จนบัดนี้ มองเห็นแสงสว่างเป็น 2 ดวงแยกกันชัดเจน
"หยุด!หยุด!"
เสียงตะโกนดังขึ้น
"เจอคุณตาแล้ว มานอนอยู่ตรงนี้อีกตามเคย ดูสิมดขึ้นปากแล้วยังไม่ตื่นอีก"
เสียงชายหนุ่มที่เพิ่งก้าวลงจากรถร้องบอกด้วยความโล่งใจ เข้าไปประคองร่างไร้สติริมฟุตบาทขึ้นมา รีบเอามือปัดฝูงมดออกจากร่างนั้น
ชายอีกคนเปิดประตูรถด้านคนขับ สาวเท้าเข้าไปคว้าขวดแก้วที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ขึ้นมา ยกขึ้นส่องกับแสงจันทร์ กลิ่นฉุนโชยแตะจมูก
"เหล้าขาวผสมน้ำแดง สูตรเดิมของคุณตา"
ชายหนุ่มทั้งสองส่ายหัว ช่วยกันประคองร่างอุ่นๆแต่ไร้สติของคุณตาขึ้นไปที่ท้ายรถกระบะ
เสียงงึมงำ อ้อแอ้ ฟังไม่ได้ศัพท์ ดังออกมาจากร่างนั้น แต่พอจะจับใจความได้ว่า
"เช้าแล้วหรือ? ไม้เท้าอยู่ไหน?..."
เรื่องสั้นวันละเรื่อง : แสงจันทร์
พื้นดินมืดสนิท ดุจเดียวกับโลกของชายตาบอดที่นอนอยู่ริมฟุตบาท ที่ตอนนี้ไร้ผู้คนและยานพาหนะสัญจร
ไม่เพียงยามวิกาลเช่นนี้ แม้เป็นเวลากลางวัน ถนนสายนี้ก็รกร้างว่างเปล่า แทบจะไร้การเคลื่อนไหวเช่นกัน
ถนนท้ายซอย ชื่อเรียกที่ผู้คนละแวกนั้นใช้กล่าวขานย่านที่มืดมิดแห่งนี้ บ้านร้างสองหลังตั้งตระหง่านเป็นเงาทะมึนเพิ่มความน่าเกรงขาม
เสียงออดแอด ของบานพับหน้าต่างที่ผุกร่อนตามกาลเวลา ส่งเสียงครวญครางยามสายลมพัดผ่าน เปลี่ยนเป็นเสียงกรรโชกดังเมื่อสายลมเพิ่มความแรงขึ้นเรื่อยๆ
เมฆสีเทาถูกพาพัดออกไปจากดวงจันทร์กลมโต สีขาวนวลดวงนั้น แสงจันทร์สว่างที่ถูกบดบังเมื่อสักครู่ ได้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง สาดส่องกระทบร่างชายตาบอดที่ยังคงนอนนิ่งอยู่ตรงนั้น ราวกับไร้ความรู้สึก
ฝูงมดเคลื่อนพลเป็นสายยาวคดเคี้ยวไม่ขาดสาย ดุจเส้นด้ายเชื่อมต่อระหว่างชายตาบอดและบ้านร้าง
มดสีน้ำตาลแดงเหล่านั้นบุกรุกขึ้นไปบนร่างที่นอนสงบนิ่งไร้การตอบสนองต่อสิ่งเร้าใดๆ เคลื่อนไหวยุบยับ และเร่งรีบไปยังของเหลวสีแดงคล้ำที่ไหลออกมาจากริมฝีปาก อาหารอันโอชะรางวัลจากธรรมชาติที่ประทานมาให้ฝูงมด
ลมกระโชกแรงอีกครา พาปุยเมฆกลุ่มใหญ่กลับเข้ามาบดบังแสงจันทร์สีขาวนวล พื้นดินมืดมิดราวกับมีใครปิดสวิตช์ไฟ
แต่ความมืดมิด มิได้เป็นอุปสรรคต่อสิ่งมีชีวิตเล็กๆเหล่านั้น พวกมันยังคงเคลื่อนตัวไปและกลับระหว่างเส้นทางเดินคดเคี้ยว บ้านร้างและชายตาบอดผู้โชคร้าย
ชายผู้นี้เป็นใครกัน เหตุใดร่างของเขาจึงมาปรากฏอยู่ตรงนี้ นิ่งไม่ไหวติงราวกับไร้ลมหายใจ หรือเขาไร้ซึ่งลมหายใจแล้วจริงๆ
ถนนท้ายซอย ถนนที่ไม่มีใครกล้าย่างกรายเข้ามาหากไม่มีเหตุจำเป็น บ้านร้างสองหลังกับตำนานสยองขวัญ ที่ร่ำลือกันว่า...
ในวันที่พระจันทร์เต็มดวง แสงจันทร์ส่องสว่าง จะมีเสียงร้องคร่ำครวญดังแว่วออกมาจากบ้าน ที่คาดเดากันว่ามีห้องใต้ดิน
เป็นเรื่องจริงหรือไม่? ไม่มีผู้ใดหาญกล้าพิสูจน์
สายลมพัดพาเมฆออกไป แสงจันทร์สาดส่องเต็มที่อีกครั้ง วิสัยทัศน์ที่ดีกลับมาอีกครา
ไกลออกไป จุดสว่าง 1 หรือ 2 ดวง ไม่อาจบอกได้แน่ชัด ค่อยๆเคลื่อนเข้ามาใกล้ๆ อย่างเชื่องช้า เนิบนาบบังเกิดเสียงเบาๆ ของอะไรหนักๆ บดขยี้ก้อนกรวดเล็กๆ บนพื้นถนน แสดงให้รู้ว่ามีการเคลื่อนที่เข้ามาใกล้
ใกล้ขึ้น...ใกล้ขึ้น...
คืบคลานเข้ามาใกล้ร่างเหยียดยาวของชายตาบอด จนบัดนี้ มองเห็นแสงสว่างเป็น 2 ดวงแยกกันชัดเจน
"หยุด!หยุด!"
เสียงตะโกนดังขึ้น
"เจอคุณตาแล้ว มานอนอยู่ตรงนี้อีกตามเคย ดูสิมดขึ้นปากแล้วยังไม่ตื่นอีก"
เสียงชายหนุ่มที่เพิ่งก้าวลงจากรถร้องบอกด้วยความโล่งใจ เข้าไปประคองร่างไร้สติริมฟุตบาทขึ้นมา รีบเอามือปัดฝูงมดออกจากร่างนั้น
ชายอีกคนเปิดประตูรถด้านคนขับ สาวเท้าเข้าไปคว้าขวดแก้วที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ขึ้นมา ยกขึ้นส่องกับแสงจันทร์ กลิ่นฉุนโชยแตะจมูก
"เหล้าขาวผสมน้ำแดง สูตรเดิมของคุณตา"
ชายหนุ่มทั้งสองส่ายหัว ช่วยกันประคองร่างอุ่นๆแต่ไร้สติของคุณตาขึ้นไปที่ท้ายรถกระบะ
เสียงงึมงำ อ้อแอ้ ฟังไม่ได้ศัพท์ ดังออกมาจากร่างนั้น แต่พอจะจับใจความได้ว่า
"เช้าแล้วหรือ? ไม้เท้าอยู่ไหน?..."