[พิษสวาท] ทุกข์ใดเท่าไร้รัก แต่เมื่อใดมีรัก ที่นั่นก็มีทุกข์




- การเดินทาง -

ถ้าเปรียบชีวิตของนางรำหลวงโฉมงามที่สุดในกรุงศรีฯ ผู้มีนามว่าอุบล เป็นการเดินทาง
คงต้องเรียกว่าการเดินทางของเธอนั้นชะงักงันอยู่ ณ ห้วงเวลาหนึ่ง ที่ทำให้เธอมิอาจเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางได้
จากนางละครที่มีแต่เสียงร่ำลือถึงฝีมือและรูปโฉม ผู้มุทะลุ ดื้อดึงที่จะทำหน้าที่ของตนเองจวบจนเสร็จสิ้น มิพรั่นต่อภัยที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า

สู่บทบาทใหม่ของการเป็นเมีย ผู้สงวนงาม คำน้อยที่จะทำให้ผู้เป็นสามีขุ่นข้องไม่เคยหลุดออกจากปาก
สารพัดจะปรนนิบัติเอาใจผู้เป็นสามีให้เขาเป็นสุขทุกเวลา

เป็นแม่เรือน นายหญิงที่คุมบ่าวไพร่เอาไว้ใต้อาณัติ คอยปกครองผู้คนแม้ในยามหน้าศึก ยามที่สามีไม่รู้จะเป็นตายร้ายดีประการใด เธอกลับจัดการเรื่องทุกอย่างเอาไว้ได้เป็นอย่างดี

กระทั่งหน้าที่สุดท้าย ผู้เฝ้าทรัพย์แผ่นดิน แม้จะเป็นหน้าที่ที่เธอไม่เคยต้องการ แม้จะต้องก่อบาปเวรเท่าไหร่ มิไยจะหวนคิดถึงครั้งแรกที่สองมือบอบบางของนางละครผู้ที่มีใจเมตตาเป็นเนืองนิจลงมือฆ่าคน สองมือเธอจะสั่นขนาดไหน หัวใจจะหวาดกลัวสักเพียงใด ความรู้สึกผิดจะกัดกร่อนหัวใจมากเท่าไร

ไม่มีใครรู้...

หากเปรียบชีวิตของเธอคือการเดินทาง เส้นทางของเธอก็เริ่มขึ้นอย่างสว่างไสว สวยงามประดุจโรยด้วยกลีบกุหลาบ ย่างกรายลงไปแล้วจึงค่อยรู้ว่านอกจากกลีบกุหลาบแล้ว หนามของมันยังอยู่เบื้องล่าง คอยทิ่มตำเท้าให้เลือดไหลโซม

แล้วเธอก็ล้มลง นิ่งงันอยู่ท่ามกลางความมืดมิด พร้อมกับบ่วงแห่งความแค้นที่ถูกคนรักทรยศตอกตรึงเธอเอาไว้อย่างแน่นหนา...ยาวนานคล้ายชั่วกัลป์...

ทว่าความมืดนั้นจะเป็นอนันต์แน่หรือ?



- สิ่งที่ตามหา -

เมื่อเปรียบเทียบกับอัคนี การเดินทางของชายผู้นี้กลับไม่เคยสะดุดหยุดลงเลยแม้สักครั้ง

เขาเกิดขึ้นมาท่ามกลางความพรั่งพร้อมทั้งทางกายและจิตใจ มีครอบครัวอบอุ่น ดำรงตนอยู่ในศีลธรรมอันดี มีทรัพย์ศฤงคารมากล้น

แม้จะมีบางอย่างคอยสะกิดเตือนถึง 'บางสิ่ง' ที่ดูเหมือนเขาจะทำหาย โชคดีที่เขามีใจรักในด้านโบราณคดี โชคดีที่มีบิดามารดาคอยสนับสนุน โชคดีที่มีมิตรและคนรักคอยอยู่เคียงข้าง ดังนั้นอัคนีจึงสามารถตามหาสิ่งที่ขาดหายไปได้ โดยที่ไม่ต้องพะวักพะวงต่อสิ่งใด

ชีวิตของชายหนุ่มสมบูรณ์ ยกเว้นหัวใจที่ว่างเปล่าราวกับห้องไร้เจ้าของ

อัคนีออกเดินทางตามเส้นทางชีวิตด้วยการตามหา แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าสิ่งที่ตามหาอยู่หนใด ไม่รู้ว่าจะได้พบพานสิ่งนั้นหรือไม่

แต่สิ่งหนึ่งที่เขารู้อยู่ลึกๆ ในใจตน คือสิ่งที่ขาดหายไปนั้น อาจเป็นบางอย่างที่เรียกว่า...ความรัก

อัคนีเดินทางไปตามทางแห่งชีวิตที่มั่นคง ด้วยฝีเท้าหนักแน่นไม่หวั่นไหว กระทั่งเขาได้ค้นพบกับผู้หญิงคนหนึ่ง

วินาทีก่อนนั้นสิ่งที่เขาตามหายังไร้รูปร่าง แต่หลังจากพริบตาที่เขาได้เห็นสโรชินี

สิ่งที่เขาตามหาก็มีหน้าตาเหมือนเธอ...


...................................................................

- จุดหมาย -

หากถามว่าจุดหมายในสิ่งที่เธอกระทำอยู่คืออะไร

สโรชินีหรืออุบลคงตอบได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า "อยากให้ชายผู้นั้นได้รับรู้ถึงความทุกข์ทรมานเหมือนเธอบ้าง"

วินาทีที่นางรำหลวงคนนั้นได้สบตากับขุนศึกชาญสนาม วินาทีที่เธอได้เอ่ยปากบอกเขาถึงปณิธานแรงกล้าที่มีต่อชาติบ้านเมือง เป็นวินาทีเดียวกับที่เธอมอบใจให้อีกฝ่ายไปหมดสิ้น

ความทุกข์ของเธอเริ่มจาก ณ ตรงนั้น

วันนั้นใจเธอเต็มเปี่ยมไปด้วยรัก มันยังคงเต็มอยู่ต่อเนื่องมาในระยะเวลาหลายปี ก่อนที่เธอจะเข้าใจว่ามันเหือดหายลงไปตามกาลเวลา 249 ปีที่ล่วงผ่าน

เธอคิดว่าความรักที่สามีเคยแสดงออกมาเล็กน้อยเหลือเกินนั้นไม่เคยมีอยู่จริง ดังนั้นเธอจึงทุกข์เพราะไร้รักจากเขา ทุกข์เพราะเธอเองก็คิดว่าตนเอง "ไม่ได้รัก" เขาแล้วเช่นกัน ทุกข์เพราะเมื่อปราศจากรักแล้ว ก็เหลือเพียงความชังเท่านั้นที่ให้ได้

มันไม่จริง

ทุกครั้งที่สโรชินีได้พบอัคนี สายฝนที่เคยเหือดหายจากท้องฟ้ามืดดำก็โปรยปรายลงมาอีกครั้ง แม้จะปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าว่าเธอหมดเยื่อใยต่อเขาแล้ว แต่สายฝนเย็นฉ่ำก็ทำให้หัวใจเธอค่อยชุ่มชื่นขึ้นทีละน้อย

หลายครั้งที่จุดหมายเหมือนเลือนหายไปกับเม็ดฝน แต่ทุกครั้งอีกเช่นกันที่เธอจะถูกกระชากกลับมายังความเป็นจริงอันร้ายกาจ ทำให้เธอไม่กล้าลืมจุดหมายของตัวเองไปได้อีก

เธอคิดว่าหากสามารถทำตามจุดมุ่งหมายของตนเองได้ สามารถพาเขามายืนอยู่ต่อหน้าห้องพิพากษา ทำให้เขาจดจำทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยติดค้างเธอ ให้เขายอมสยบต่อโทษทัณฑ์ที่ควรได้รับ เธอจะสาแก่ใจยิ่ง

แต่อุบล หรือสโรชินี กลับหลงลืมไปอย่างหนึ่ง ว่าความสาแก่ใจ มิใช่สิ่งเดียวกับความสุข

ตรงกันข้าม เมื่อเธอสามารถทำได้สมประสงค์ เมื่อจุดมุ่งหมายบรรลุผล เขาผู้นั้นยินดียอมรับกรรมร้ายกาจที่ทำไว้กับเธอ ไม่มีแม้แต่ขณะใจเดียวที่เธอจะมีสุขอย่างแท้จริง

กระทั่งเมื่อรู้ว่าเขาไม่เคยหมดรักจากเธอเลย ความทุกข์จากรักที่เพิ่งได้รับกลับโหมกระหน่ำใส่เธอเสียจนตั้งหลักไม่ทัน



- คำตอบ -

ทุกคำตอบของคำถามเปิดเผยต่อหน้าอัคนีในวินาทีที่เขาหยิบดาบเล่มนั้น

เขาได้พบพระอรรคจริงๆ เป็นครั้งแรกก็ตอนนั้น ได้รับรู้ทุกอย่าง ทุกความรู้สึก ก็ตอนนั้น

กระทั่งความรัก ที่เขารับรู้ว่าพระอรรครักภรรยาของตนเองมากมายขนาดไหน

อัคนีใช้เวลาอธิบายคำตอบที่ตนเองค้นพบต่อความค้างคาใจของอุบล ค่อยๆ คลี่คลายปมที่เขาเพิ่งค้นพบต่อสตรีที่เขาเคยหยุดการเดินทางแห่งชีวิตของเธอเอาไว้

ความทุกข์ที่อัดแน่นอยู่ในหัวใจเขาในตอนนั้น คือความทุกข์ที่พระอรรคได้กระทำต่ออุบล คือความขมขื่นของขุนศึกผู้หนึ่ง ผู้ซึ่งไม่เคยสามารถอธิบายการกระทำของตนเองต่อเมียรักได้ ทำได้เพียงปกป้อง ทะนุถนอมเธอในแบบของเขา แต่เพราะการที่คิดเองเออเองว่าสิ่งนี้ดีที่สุดสำหรับคนที่ตนเองรัก เพราะการที่ไมม่เคยเอ่ยปากถามอีกฝ่ายแม้แต่คำเดียวว่านี่คือสิ่งที่เธอต้องการจริงหรือไม่ ทำให้ความรักของเขาไม่เคยส่งไปถึงเธอ แต่กลับก่อให้เกิดความทุกข์ถมนับทวีต่อสตรีที่เขามอบดวงใจ

จวบจนถึงวินาทีที่เธอผู้นั้นเอ่ยปากเลือก วินาทีที่เธอตามหาแสงสว่างของตนเองจนเจอ และค้นพบว่าแสงสว่างนั้นก่อกำเนิดจากความดีงามของเธอเอง ไม่มีความข้องเกี่ยวใด ไม่ว่าจะเป็นพระอรรคหรืออัคนี

เมื่อเธอตัดสินใจก้าวเดินต่อไปตามเส้นทางของตน อาจจะเป็นวินาทีที่อัคนีรู้แน่แก่ใจว่า ความทุกข์ที่ล้นเอ่ออยู่ภายในนั้นมิใช่เพียงแต่ความทุกข์ของพระอรรค

พระอรรคจบสิ้นไปแล้ว มีเพียงความทุกข์ที่ต้องพลัดพรากจากของรักของอัคนีที่ยังคงอยู่

เส้นทางของพระอรรคจบสิ้นลงแล้ว เส้นทางของอัคนีกลับสะดุดหยุดลงเป็นครั้งแรก

ความรักที่เขาตามหานั้นพบแล้ว และความรักนั้นก็ได้หลุดลอยหายไปแล้ว

สิ่งที่เขาจะทำได้คือ การผูกเธอไว้ด้วยถ้อยคำสุดท้ายของตัวเธอเอง ให้เธอคอยเฝ้ามองดูเขา คอยรัก และคอยทุกข์ไปพร้อมกับเขา

หรือจะให้เธอล่วงหน้าไปสู่แสงสว่างอันสงบสุข รอให้เขาตามไปหาเธออีกครั้ง

หรือปล่อยวางความรักนั้นเสีย ปลดปล่อยทุกข์ในใจตน ดังเช่นที่เธอผู้นั้นได้กระทำ

เมื่อไม่ยึดมั่น สักวัน...พวกเขาอาจจะได้พบกันอีกครั้ง

เมื่อนั้นพวกเขาทั้งคู่ คงได้อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจในความทุกข์และสุข อันเกิดและดับไปเป็นธรรมดา


........................................................

เป็นความเพ้อของเราเองค่ะ 55555

จริงๆ ก็ไม่รู้หรอกว่าละครจบแล้ว อยากจะเขียนอะไรให้พิษสวาท เป็นอะไรที่เราไม่เคยคิดมาก่อน แต่รู้สึกว่าเออ อยากเขียน ก็จับคอม จรดปลายนิ้วลงบนคีย์บอร์ด แล้วพิมพ์เลย

ใจจริงอยากวิเคราะห์เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในห้องพิพากษา เคยกระทั่งแปะมือไว้กับคุณคนหนึ่งว่าเราจะมาเป็นทนายโจทก์กันเถอะ เพราะสงสารอุบลเหลือเกิน แต่ละครก็จบลงอย่างอิ่มเอมใจ ทุกตัวละครก้าวเดินต่อไป พบทางที่ปล่อยวางไม่ยึดมั่น ตัวเราที่ดูอยู่ก็ค้นพบว่า ไม่ว่าจะเป็นความสงสาร เห็นใจ โกรธเคือง (ยังมีอยู่นะ กับพระอรรคแอนด์เดอะแก้งเนี่ย) แต่เมื่อมันจบ เราก็ต้องปล่อยให้มันจบ เพราะจุดจบของเรื่องนี้งดงามที่สุดแล้ว

ถึงยังไง สิ่งที่ต้องขอบคุณก็คงต้องขอบคุณอยู่ดี ขอบคุณผู้จัดทำทุกคน ขอบคุณทีมนักแสดง ทีมงาน ขอบคุณทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับละครเรื่องนี้ เราสนุกมาก บันเทิงมาก และถือว่าได้มิตรทางตัวอักษรเพราะเรื่องนี้หลายคน รวมถึงเราได้ความรู้เรื่องการผูกเรื่อง การวางเรื่อง อะไรที่สามารถนำไปปรับใช้กับงานของตัวเองได้ ต้องขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ

ขอบคุณกระทู้รายงานสด แม้เราจะไม่ได้เข้าบ่อย (ได้ข่าวว่าเข้า 2 วันสุดท้าย) แต่ก็สนุกสนานมาก ขอบคุณคนที่ตั้งกระทู้เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทุกคน เราชอบคนดูละครเรื่องนี้อีกอย่างตรงที่พวกคุณยอมรับความเห็นที่แตกต่าง พูดคุยกันด้วยเหตุผล และเต็มไปด้วยอารมณ์ขันนี่แหละค่ะ

จากนี้ไปคงไม่ได้ดูละครไทยอีกนาน ส่วนตัวเราไม่ใช่สายละครไทย และไม่ใช่สายละครรักอยู่แล้ว แต่ยังไงก็จะจดจำสิ่งดีๆ ระหว่างการดูละครเรื่องนี้เอาไว้นะคะ ^_^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่