คิดถึงจัง.... ไม่ได้แวะมานานเลย
บทที่ 1
อวลไอน้ำลอยขึ้นมาจากลังถึง ที่ใช้สำหรับนึ่งอาหารให้สุกเร็วขึ้นมานั้น หน้าเตายังมีหญิงสาวร่างเล็ก บอบบาง ผูกผมม้ารวบไว้ด้านหลังยกหลังมือขึ้นมาปาดเหงื่อเม็ดเล็กๆ จากใบหน้าให้พ้นไปจากหางคิ้ว ก่อนที่มันจะไหลเข้าตา เปิดฝาขึ้นมา เบี่ยงหน้าหลบไอน้ำสีขาวที่พุ่งขึ้นมาพร้อมกับความร้อน
หล่อนรอจนไอจางไปได้ครู่หนึ่งก่อนจะชะโงกหน้าลงไปมองขนมชั้นสีเขียวอ่อน หอมกลิ่นใบเตยรวยริน ตุลยาหยิบไม้จิ้มฟันอันเล็กขึ้นมาจิ้มลงไปเบาๆ บนเนื้อหยุ่นเหนียวของตัวขนม ครั้นยกขึ้นมาไม่มีเนื้อแป้งติดตามเป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนความ
ขนมชั้นสีสวยใส่แม่พิมพ์ลายกุหลาบกำลังเป็นที่นิยม หล่อนต้องรอจนมันเย็นกว่านี้อีกนิด จึงค่อยแกะออกมาจากพิมพ์ ไม่ให้เนื้อขนมติดเละเทะจนไม่เห็นเป็นรูปร่างที่บรรจงทำ
“ตาล... อยู่ในครัวหรือเปล่า?” เสียงห้วน...สั้น...ไร้หางเสียงนั้น ทำให้ตุลยาวางมือลงจากของร้อนที่อยู่บนเตา ปิดแก๊สจนนิ่งสนิท ก่อนจะตะโกนตอบออกไป
“อยู่ในครัวค่ะแม่”
“ทำอะไรอยู่?” ท่าทางคนเป็นแม่ไม่ค่อยสบอารมณ์นัก หญิงสาวถอนหายใจ เก็บถุงมือหนาแขวนไว้ข้างผนังดังเก่าหลังย้ายลังถึงมาวางบนโต๊ะตัวใกล้ เยี่ยมหน้าออกไปในห้องนั่งเล่น
“ทำขนมชั้นส่งลูกค้า ตอนเย็นเขาจะมารับค่ะแม่ เพิ่งเสร็จเมื่อสักครู่ แม่มีอะไรหรือเปล่า?”
“แม่มีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย” ตันหยงบอกลูกสาว เปิดขวดเบียร์จากในตู้เย็นแล้วยกขึ้นจิบ มิไยว่าคนมองจะมีสีหน้ากระอักกระอ่วนใจ....
หล่อนควรจะคุ้นชิน... หาก ทุกครั้งที่มารดาดื่มเหล้าเหมือนนางเมรีให้เห็น ตุลยาก็ลอบถอนหายใจกับตัวเองด้วยความรู้สึกอึดอัดลึกอยู่ในใจ
“เรื่องอะไรคะ?”
“เรื่องหนี้ของแม่”
“หนี้?” คิ้วเรียวนิ่วขมวดเข้าหากันเบาๆ ... ขณะก้าวเข้ามาในห้องจนเต็มตัว เพิ่งสังเกตว่า สีหน้ามารดาดูอิดระโหย ดวงตาแห้งผากไม่ค่อยสดชื่นเหมือนอย่างทุกวัน
“หนี้ที่ชั้นไปยืมมาส่งพี่ของแกทั้งสองคนเรียนที่กรุงเทพนั่นแหละ แกคิดว่าฉันจะเสกเงินมาจากไหนล่ะ พี่ของแกเรียนเอกชนค่าเทอมไม่ใช่น้อยๆ แกเคยรู้อะไรบ้าง?”
(มีต่อ)
ดั่งใจรักลวง 1
บทที่ 1
อวลไอน้ำลอยขึ้นมาจากลังถึง ที่ใช้สำหรับนึ่งอาหารให้สุกเร็วขึ้นมานั้น หน้าเตายังมีหญิงสาวร่างเล็ก บอบบาง ผูกผมม้ารวบไว้ด้านหลังยกหลังมือขึ้นมาปาดเหงื่อเม็ดเล็กๆ จากใบหน้าให้พ้นไปจากหางคิ้ว ก่อนที่มันจะไหลเข้าตา เปิดฝาขึ้นมา เบี่ยงหน้าหลบไอน้ำสีขาวที่พุ่งขึ้นมาพร้อมกับความร้อน
หล่อนรอจนไอจางไปได้ครู่หนึ่งก่อนจะชะโงกหน้าลงไปมองขนมชั้นสีเขียวอ่อน หอมกลิ่นใบเตยรวยริน ตุลยาหยิบไม้จิ้มฟันอันเล็กขึ้นมาจิ้มลงไปเบาๆ บนเนื้อหยุ่นเหนียวของตัวขนม ครั้นยกขึ้นมาไม่มีเนื้อแป้งติดตามเป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนความ
ขนมชั้นสีสวยใส่แม่พิมพ์ลายกุหลาบกำลังเป็นที่นิยม หล่อนต้องรอจนมันเย็นกว่านี้อีกนิด จึงค่อยแกะออกมาจากพิมพ์ ไม่ให้เนื้อขนมติดเละเทะจนไม่เห็นเป็นรูปร่างที่บรรจงทำ
“ตาล... อยู่ในครัวหรือเปล่า?” เสียงห้วน...สั้น...ไร้หางเสียงนั้น ทำให้ตุลยาวางมือลงจากของร้อนที่อยู่บนเตา ปิดแก๊สจนนิ่งสนิท ก่อนจะตะโกนตอบออกไป
“อยู่ในครัวค่ะแม่”
“ทำอะไรอยู่?” ท่าทางคนเป็นแม่ไม่ค่อยสบอารมณ์นัก หญิงสาวถอนหายใจ เก็บถุงมือหนาแขวนไว้ข้างผนังดังเก่าหลังย้ายลังถึงมาวางบนโต๊ะตัวใกล้ เยี่ยมหน้าออกไปในห้องนั่งเล่น
“ทำขนมชั้นส่งลูกค้า ตอนเย็นเขาจะมารับค่ะแม่ เพิ่งเสร็จเมื่อสักครู่ แม่มีอะไรหรือเปล่า?”
“แม่มีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย” ตันหยงบอกลูกสาว เปิดขวดเบียร์จากในตู้เย็นแล้วยกขึ้นจิบ มิไยว่าคนมองจะมีสีหน้ากระอักกระอ่วนใจ....
หล่อนควรจะคุ้นชิน... หาก ทุกครั้งที่มารดาดื่มเหล้าเหมือนนางเมรีให้เห็น ตุลยาก็ลอบถอนหายใจกับตัวเองด้วยความรู้สึกอึดอัดลึกอยู่ในใจ
“เรื่องอะไรคะ?”
“เรื่องหนี้ของแม่”
“หนี้?” คิ้วเรียวนิ่วขมวดเข้าหากันเบาๆ ... ขณะก้าวเข้ามาในห้องจนเต็มตัว เพิ่งสังเกตว่า สีหน้ามารดาดูอิดระโหย ดวงตาแห้งผากไม่ค่อยสดชื่นเหมือนอย่างทุกวัน
“หนี้ที่ชั้นไปยืมมาส่งพี่ของแกทั้งสองคนเรียนที่กรุงเทพนั่นแหละ แกคิดว่าฉันจะเสกเงินมาจากไหนล่ะ พี่ของแกเรียนเอกชนค่าเทอมไม่ใช่น้อยๆ แกเคยรู้อะไรบ้าง?”
(มีต่อ)